ผมอยากเป็นแบบไหนมากกว่ากันงั้นเหรอ
มันก็ต้องเป็นเจ้าบ่าวสิ
บอกแล้วไงว่าไม่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว
ไม่เป็นเว้ย!
แค่จินตนาการถึงภาพตัวเองกำลังยืนข้างๆ ควินซ์ มองดูควินซ์ยิ้มให้กับเจ้าสาว สวมแหวนให้เจ้าสาว และจูบเจ้าสาวก็โมโหจนแทบควันออกหูแล้ว
มือที่คีบบุหรี่อยู่ก็ขยี้มันทิ้งลงบนที่เขี่ยบุหรี่ก่อนจะหยิบมวนที่สองขึ้นมาสูบ...
(หึหึ คงได้คำตอบแล้วสินะ) เสียงปลายสายดังลอดมา
ผมขมวดคิ้ว "ยังไม่วางอีกเหรอ"
(อะไรเนี่ย ใช้เสร็จก็ไล่เลยนะ) นับสองว่าอย่างงอนๆ (ทำไม? จะรีบไปจีบพี่ควินซ์เหรอ)
"บ้าแล้ว ไม่ใช่นะ" ผมเลิ่กลั่กรีบปฏิเสธ "ไม่คุยด้วยแล้ว!"
(ฮ่าๆ เขินสินะ เขินนนน) เสียงหัวเราะร่าเริงของนับสองยิ่งทำให้ผมหน้าบึ้ง
"ไอ้เด็กบ้า" ผมกัดฟันกรอดแล้วรีบวางสายหนีเลย
เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วหันมาตั้งใจสูบบุหรี่ มวนแรกอาจจะสูบด้วยความตึงเครียดและหงุดหงิดแต่รอบนี้ผมรู้สึกว่าทั้งเนื้อตัวและสมองเบาสบาย ปลอดโป่งจนบอกไม่ถูก
คล้ายอะไรบางอย่างที่กดทับอยู่ในใจมานานได้รับการปลดปล่อย...
"...ชอบควินซ์งั้นเหรอ"
ผมพึมพำกับตัวเองแล้วก็หลุดหัวเราะออกมา
ไม่ใช่การหัวเราะเย้ยหยันแต่เป็นการหัวเราะให้กับความโง่เง่าของตัวเอง วินาทีที่พูดคำว่าชอบออกมาแม้มันจะเป็นแค่คำถามพึมพำลอยๆ แต่กลับทำให้หัวใจที่สงบนิ่งเต้นโครมขึ้นมา
ผมยกยิ้มแล้วพ่นควันสีขาวขึ้นไปบนท้องฟ้าสีดำสนิทอย่างอารมณ์ดี
"เพื่อนเจ้าบ่าวกับเจ้าบ่าว" เหยียดยิ้มแล้วขยี้บุหรี่ทิ้ง "มันก็ต้องเป็นเจ้าบ่าวอยู่แล้วสิ"
หมุนตัวเดินไปยังห้องน้ำก่อนเพื่อเช็กดูว่ามีกลิ่นบุหรี่ติดตัวมั้ย ก็ควินซ์ไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ นอกจากพกบุหรี่ติดตัวแล้วยังต้องมีหมากฝรั่งดับกลิ่นอีก
ไปที่อ่างล้างหน้าแล้วใช้น้ำบ้วนปากกับเอามาพรมตามปกเสื้อกับแขนเสื้อนิดหน่อย จากนั้นก็ก้าวเดินกลับไปที่โต๊ะ ตอนที่เดินมาถึงโต๊ะก็ไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นแล้ว
"คนไปไหน?" ผมถามพลางทิ้งตัวลงนั่ง
"กลับไปแล้ว" ควินซ์ตอบแล้วช้อนตามองผมแล้วก็ย่นจมูกใส่ "เหม็นบุหรี่ชะมัด"
"ไม่มีกลิ่นเถอะ" ผมโวยกลับ "นั่งไกลขนาดนั้นไม่ได้กินหรอก อย่ามา"
ควินซ์หัวเราะแล้วโคลงศีรษะไปมา "อืม ล้อเล่น" แกล้งผมได้นิดหน่อยแล้วก็นั่งวาดรูปต่อ
ผมเลียริมฝีปากเล็กน้อยแล้วหาเรื่องคุย "คราวนี้วาดรูปอะไร"
"วาดรูปเก่าที่ค้างไว้" เสียงทุ้มใสว่าก่อนจะหมุนหน้าจอไอแพดมาให้ผมดู "ยังเหลืออีกเยอะเลย"
รูปที่ควินซ์กำลังวาดอยู่เป็นแมวขนสีดำสนิทดูเย่อหยิ่ง แต่วาดได้เพียงครึ่งตัวเองยังไม่มีขาแมว ผมหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม
"วาดรูปมันสนุกเหรอ" เห็นว่างทีไรก็หยิบขึ้นมาวาดตลอด
"เป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่ง" พลิกหน้าจอกลับไปเพื่อวาดต่อ "ดูอารมณ์ดีขึ้น"
อาการของผมมันออกขนาดนั้นเลยเหรอ
ไม่ใช่สิ ควินซ์ใส่ใจผมต่างหาก
ใช่ๆ มันต้องเป็นแบบนั้นแหละ
หรือบางทีที่ควินซ์ใส่ใจผมขนาดนี้จะเป็นเพราะควินซ์ก็ชอบผมเหมือนกัน?
"เฮ้ นับหนึ่ง เฮ้!" เสียงเรียกดังขึ้น
ผมหลุดจากความคิดแล้วมองควินซ์อย่างงงๆ "อะไรนะ เมื่อกี้พูดว่าอะไร"
"ยังไม่ได้พูดอะไร เห็นจู่ๆ นายก็นิ่งไป" วางไอแพดลงบนโต๊ะแล้วพิจารณาผมตั้งแต่หัวจรดเท้า "เป็นอะไร ถ้าเหนื่อยก็กลับไปนอน"
"เอ่อ คงเหนื่อยๆ มั้ง" เออออห่อหมกตามไปแล้วหยิบของกินเล่นมาชิม "พรุ่งนี้มีงานอะไร"
เปลี่ยนเรื่องออกไปไกลๆ ตัวดีกว่า
"พรุ่งนี้มีประชุมแปดโมงครึ่ง" ควินซ์ดูเวลาเล็กน้อยแล้วสั่งผม "กลับให้ไวหน่อยก็ดี จะได้มีเวลานอนพักเยอะๆ"
เขากำลังห่วงผมสินะ!
"กินแก้วนี้หมดก็กลับแล้ว" ยกยิ้มกริ่มแล้วพยักหน้าหงึกหงักรับอย่างว่าง่ายจนเลขาคนสนิทขมวดคิ้วแปลกใจ เพราะปกติผมจะขอต่อถึงเที่ยงคืนตีหนึ่งตีสอง "เดี๋ยวนอนที่คอนโดแล้วกัน"
"ก็ดีนะ" ควินซ์หยุดวาดรูปแล้วหันมาหยิบขนมกิน "จะได้ไม่มาประชุมสายแล้วก็ไม่ต้องรีบออกจากบ้านด้วย"
บ้านหลังใหญ่ของผมค่อนข้างไกลจากตัวบริษัทเลย ยิ่งถ้าออกมาช้าก็เจอรถติดอีก เพราะงั้นนอนที่คอนโดแล้วกัน ผมเหล่มองควินซ์แล้วถามอย่างตื่นเต้น
"งั้นคืนนี้มึงมานอนกับกูนะ ควินซ์"