"..ดวงใจแม่ สะอาดแท้ กว่าทุกสิ่ง
ดวงใจแม่ สะอาดยิ่ง กว่าสิ่งไหน
ดวงใจแม่ สะอาดเกิน กว่าสิ่งใด
ดวงใจแม่ มีไว้ เพื่อลูกเอย.."
(อ้างอิงจาก : บทกลอนวันแม่ โดย เด็กชายสราวุฒิ จั่นผ่อง
นักเรียนโรงเรียนบ้านบางพล้อยางหลวง อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร)
"..ในวันนั้นที่ลูกมีความทุกข์
แม่ช่วยปลุกแรงใจให้เข้มแข็ง
ทำให้ลูกก้าวไปไม่อ่อนแรง
รักแสนแพงล้ำค่าแม่รักเรา
..ในวันนี้ที่ลูกมีความสุข
แม่หมดทุกข์ปลื้มใจให้สุขสันต์
ทำเพื่อลูกปลูกรักตลอดชีวัน
รักแม่นั้นพันผูกลูกรักแม่ "
( อ้างอิงจาก : บทกลอนวันแม่ โดย Virus )
ในขณะที่ฉันกับแม่ทั้งสองคนกำลังเดินก้าวเข้าไปยังภายในตัวอาคารอันสวยงามแห่งนั้น
เสียงโทรศัพท์มือถือของคุณแม่ก็ดังขึ้น!!! ท่านจึงกดรับสายเรียกเข้าและสนทนาไปด้วย
ในขณะที่ฉันจูงมือซ้ายของท่านให้เดินตรงไปยังที่นั่ง ซึ่งอยู่บริเวณโถงกลางห้องอันมี
ลักษณะเหมือนล๊อบบี้ของโรงแรม
ฉันเดาเอาเองว่าปลายสายต้องเป็นบุคคลสำคัญที่สุดคนนั้น!! คนที่มารดาของฉัน
เล่าให้ฟังว่า : เขาตกหลุมรักฉันมานานแสนนาน และในวันนี้เขาต้องการสู่ขอฉัน
กับแม่เพื่อใช้ชีวิตเป็นสามีของฉันตลอดไป ด้วยเงินจำนวนหลายล้านบาทที่ซึ่ง
เขาเต็มใจจะมอบให้แม่ยายของเขา(แม่ของฉัน) นำไปถวายหลวงพ่อฯ เพื่อชำระ
หนี้สงฆ์ของวัดที่ซึ่งติดค้างค่าก่อสร้างวัดและถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดที่หมู่บ้านเดิม
ของแม่ให้จบลงอย่างเรียบร้อย
ฉันพาคุณแม่ไปนั่งลงที่ชุดโต๊ะรับแขกทรงไทยที่ทำจากไม้ล้วนๆ ภายในของอาคาร
แห่งนี้ถูกตกแต่งด้วยต้นไม้ในร่มที่ต้องการแสงแดดน้อย จึงทำให้ดูสงบเงียบ,ร่มรื่น,
สวยงาม,เย็นสบายทั้งตาและใจ
" เสี่ยจะให้น้องเดินเข้าไปหาเลย ใช่ไม๊คะ? อ๋อ! ได้สิคะ แม่อนุญาตค่ะ
ไม่เป็นไรค่ะ แม่เชื่อถือและไว้ใจเสี่ยค่ะ เดี๋ยวขอบอกนิมนิมตอนนี้เลยนะคะ "
คุณแม่สวาทกดวางสายด้วยใบหน้าที่ดูผ่อนคลายมากขึ้น ฉันผู้ซึ่งจ้องมองแม่อยู่
ตลอดเวลารับรู้ได้ถึงความสบายใจของสุภาพสตรีที่ฉันเคารพเทิอดทูนบูชาอย่าง
สุดหัวใจ แม่หันมาหาฉันพร้อมกับยื่นมือทั้งสองข้างของท่านมากุมมือทั้งสองข้าง
ของฉันเอาไว้ ท่านมองสบตาของฉันด้วยความรักเต็มหัวใจเช่นกัน
" ลูกหล่าของแม่ แม่ขอบใจเจ้าหลาย ๆ เด้อที่ซ่อยแม่แก้ปัญหาในมื้อนี้ ไป๊หล่า!
เสี่ยเพิ่นให้ลูกย่างไปหาเพิ่นในห้องตามหมายเลขนี้ เพิ่นรอถ่าเจ้าอยู่ในห้องนั้นแล้ว
หลังจากนั้นเพิ่นจั่งสิพาเจ้าออกมากราบแม่พร้อมกัน ลูกพร้อมแล้วไป๊นิมนิม? "
( แปลจากภาษาอีสาน :" ลูกรักของแม่ แม่ขอบใจเจ้ามาก ๆ นะ ที่ช่วยแม่แก้ปัญหา
ในวันนี้ ไปได้แล้วลูก! เสี่ยท่านให้ลูกเดินไปหาท่านในห้องตามหมายเลขนี้ ท่านรอ
คอยเจ้าอยู่ในห้องนั้นแล้ว หลังจากนั้นท่านจึงจะพาเจ้าออกมากราบแม่พร้อมกัน
ลูกพร้อมแล้วหรือยังนิมนิม? " )
ฉันมองสบตากับคุณแม่ด้วยแววตาแห่งความเด็ดเดี่ยวและมั่นใจ สิ่งที่ฉันต้องการ
มากที่สุดในวันนี้ ก็คือ ขอให้ฉันได้ทำหน้าที่ของลูกที่ดีที่สุดต่อบุพพการีของฉัน
" จ้าแม่จ๋า นางพร้อมจ้า นางไปก่อนเด้อจ้า บ่ อยากให้เพิ่นถ่าเฮาโดน
อยากให้เรื่องต่างๆ แก้ไขไปได้ไวๆ นางอยากเห็นแม่ซำบายใจจ้า "
( แปลจากภาษาอีสาน: " จ้าแม่จ๋า นางพร้อมจ้า นางไปก่อนนะจ๊ะ ไม่อยากให้
ท่านรอเรานาน อยากให้เรื่องต่างๆ แก้ไขไปได้ไวๆ นางอยากเห็นแม่สบายใจจ้า ")
ฉันลุกขึ้นยืนแล้วหันตัวเพื่อเดินออกจากโต๊ะรับแขก ก่อนที่จะออกเดินไป
ตามทางเดินจากห้องโถงล๊อบบี้ของรีสอร์ทวนเลี้ยวออกไปสู่ทางเดินเชื่อมกัน
ระหว่างอาคาร ซึ่งเป็นก้อนหินขัดธรรมชาติแผ่นใหญ่หนาวางเรียงกันไปอย่าง
งดงามมีแผ่นหญ้าสีเขียวปลูกประดับเอาไว้ดูรื่นรมย์ตา และยังมีต้นไม้ขนาดพุ่ม
กำลังสวย บางต้นออกดอกสีสวยงาม ปลูกเรียงรายกันไปเป็นระยะ ๆ
ฉันเดินตรงไปยังห้องหมายเลขสามตัวที่คุณแม่ได้บอกว่า *เสี่ย*คนนั้นกำลังรอ
คอยฉันอยู่ภายในนั้น และแล้วฉันก็เดินมาจนถึงด้านหน้าของอาคารชั้นเดียว
ที่ปลูกสร้างด้วยไม้คุณภาพดีทั้งหลัง มันถูกแบ่งออกเป็นห้องพักแต่ละห้องซึ่ง
ยกพื้นสูงจากดินประมาณ 3-4 ขั้นบันได ฉันเงยหน้าขึ้นมองหาหมายเลขห้องที่
ฉันต้องจะต้องเคาะประตู
" นั่นไง เจอแล้ว!! ห้องที่สามนั่นไง "
ฉันพึมพำคนเดียวอย่างโล่งใจและรีบเดินไปหยุดยืนอยู่ ตรงหน้าประตูไม้สักแกะสลัก
เป็นลวดลายไทยวิจิตรบรรจงยิ่งนัก คุณแม่บอกว่าฉันจะต้องเคาะประตูให้ดัง ช้าๆ ชัดๆ
จำนวน 5 ครั้งแล้วเสี่ยจะเปิดประตูต้อนรับฉันด้วยตัวเอง
ฉันยกมือกำหมัด แล้วเคาะลงไปบนบานประตูขนาดใหญ่นั้น อย่าง ชัด ๆ ช้า ๆ
" ก๊อก!... ก๊อก!... ก๊อก!..... ก๊อก!..... ก๊อก!..."
มีเสียงลูกบิดด้านในของบานประตู ดัง กริ๊ก!! จากนั้นบานประตูไม้ขนาดใหญ่และหนา
สีน้ำตาลทองมันมะเมื่อม ก็ถูกเปิดดึงเข้าไปจากด้านในห้อง..... ฉันสบตากับดวงตา
คมเข้มดำขลับ!! แต่ในแววตาคู่นั้นแฝงไว้ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นยินดีเป็นประกายหวาน
ระยิบระยับ.... .....
ฉันรีบยกมือขึ้นพนมไหว้สวัสดี บุรุษรูปงามคนนั้นอย่างงดงามตามมารยาทอันควร
ทว่า!! ยังมิทันที่ฉันจะเอ่ยปากทักทายออกเสียงใดๆ ร่างของฉันก็ถูกแขนแข็งแรงของเขา
โอบกอดแล้วดึงตัวของฉันเข้าไปในห้อง ก่อนที่เขาจะปิดประตูและล๊อคกลอนประตู!!!!
บุรุษหนุ่มคนนั้น อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวสะอาดตาและสวมกางเกงขายาวสีน้ำตาลเข้ม
เขากอดฉันเอาไว้ทั้งร่างด้วยแขนแข็งแรงทั้งคู่ของเขา เขาลูบเรือนผมของฉันอย่างนุ่มนวล
ฉันรู้สึกตกใจ! ตื่นเต้นมาก!!! เขินอาย!! และจับต้นชนปลายไม่ถูก!!!!! เพราะทุกอย่างเกิดขึ้น
อย่างรวดเร็วมากเหลือเกิน ตัวของฉันเริ่มสั่น.... เพราะอารมณ์แปรปรวนรุนแรงภายใน
" ขอบคุณมากนะครับนิมนิม ขอบคุณมากที่สุด ขอบคุณเหลือเกินที่ยอมมาหาผม ไม่ต้องตกใจไม่ต้องกลัวผมนะครับ ผมรักคุณจำเอาไว้แค่ว่า ผมรักและรอคอยคุณมานานแสนนาน
เหลือเกินจนผมเองก็ไม่อาจแน่ใจได้อีกต่อไปแล้วเช่นกันว่า.. มันจะมีวันนี้สำหรับผมจริงๆ "
น้ำเสียงสั่นเครือแต่นุ่มนวลมีเสน่ห์ยิ่งนัก กระซิบอยู่ข้างแก้มของฉันซึ่งมีเส้นผมบังเอาไว้
ฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานแห่งความปิติยินดีปนตื่นเต้นอย่างมากมายของเขา กระแสแห่ง
พลังความอบอุ่นจากกายของเขา เริ่มแผ่กระจายเข้าหาร่างกายของฉัน.....
ฉันผู้ซึ่งเคยผ่านการแต่งงานและใช้ชีวิตคู่กับอดีตสามี(คุณพ่อของลูกๆทั้งสามคน)มานานถึงสิบปี ก่อนที่ฉันจะขอหย่าเพื่อรักษาจิตวิญญาณที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้เพื่อให้ยังสามารถ
มีลมหายใจสู้ต่อไปให้จงได้ เพื่อเลี้ยงดูลูกชายตัวน้อยๆ ผู้งดงามราวเทพบุตรทั้งสามจุติลงมาเกิดในร่างกายของฉัน ฉันกำลังสัมผัสได้ว่าเขามีความปรารถนาในตัวของฉันมากเหลือเกิน!!
" คุณเต็มใจใช่ไม๊ครับนิมนิม? "
บุรุษหนุ่มรูปร่างสมส่วน ผู้มีใบหน้าที่ดูหล่อเหลาสะอาดตา ใช้มืออันแข็งแรงนุ่มหนาของเขาจับประคองไหล่ทั้งสองข้างของฉันแล้วผลักออกจากกายของเขาเบาๆ เพื่อจ้องมองสบตากับฉัน ดวงตาอันคมกริบของเขามองสำรวจอารมณ์ความรู้สึกลึกๆ ในใจของฉัน อย่างถ้วนถี่...
" ค่ะ.... เอ่อ!...เสี่ย...."
ฉันพยักหน้า และมองสบตาของเขาด้วยความรู้สึกที่พร้อมยอมทุกอย่างเพื่อช่วยมารดาของฉันให้จงได้!! ในขณะเดียวกันนั้นฉันมองสำรวจหน้าตารูปร่างของบุรุษคนสำคัญมากที่สุดคนนี้
อย่างเงียบๆ และพิจารณาเห็นได้ว่า เขาน่าจะมีอายุอ่อนกว่าฉันประมาณ 2-8 ปีอย่างแน่นอน!
เขายิ้ม.. เป็นรอยยิ้มที่น่าดูมากเพราะริมฝีปากของเขาได้รูปเรียวหยักสวย ฉันรู้สึก
เขินอายทันทีเมื่อใจแอบเผลอคิดไปอย่างอัตโนมัติว่า.. เขาจะต้องจุมพิตฉัน!?!?
แน่นอน ด้วยริมฝีปากอันงดงามดูนุ่มน่าสัมผัส คู่นี้
" ถ้างั้น.... เราอย่าเสียเวลาอีกต่อไปเลยนะครับสุดที่รักของผม..."
เขาจูงมือของฉัน ให้เดินตามเขาไปจนถึงเตียงนอนไม้สักทองขนาดใหญ๋โอ่อ่า
เขาประคองให้ฉันนั่งลงบนที่นอนอันหนานุ่ม ซึ่งดูน่าเกลือกกลิ้งอย่างสบาย
อารมณ์ในเวลาปกติ....
แล้วเขาก็นั่งลงแนบชิด ข้างๆ กายที่สั่นเทาของฉัน ใบหน้าของเขาค่อยๆ เลื่อน
เข้ามาหาใบหน้าของฉัน ฉันจึงรีบหลับตา!! ได้ยินเสียงชีพจรหัวใจของตัวเอง
กำลังกระหน่ำเต้นระรัว!!!!!!!! ตึ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ !!!!! รุนแรงปานประหนึ่งว่า
มันกำลังจะกระโดดออกมาเต้นอยู่ภายนอกอกของฉัน ได้จริงๆ
ฉันรับรู้ทุกๆ สิ่ง ที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างความรักอันลึกซึ้งของผู้เป็นเพศชาย กับเพศ
หญิงผู้ซึ่งยังไม่สามารถตอบตัวเองได้ว่า : ฉันรู้สึกอย่างไรกันแน่ต่อบุรุษผู้อ่อนโยน,สุภาพ
,รูปงามและมีความนุ่มนวล,อบอุ่น,แข็งแรงและมีวัยอ่อนกว่าฉัน คนนี้.....? แต่ในขณะที่
ร่างกายทุกส่วนของฉันถูกสัมผัสแตะต้องจากร่างกายของเขานั้น ฉันจำได้ว่า : ฉันรู้สึก
ถึงความอบอุ่นและความสุขที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ๆ จากทุกๆ การกระทำที่เขามีต่อฉันจากใจ
ที่แท้จริง..... ฉันจดจำกลิ่นกายของเขา เสียงนุ่มทุ้มและสุภาพมีเสน่ห์ของเขา การสัม
ผัสอันอ่อนโยนทะนุถนอมและนุ่มนวล จนกระทั่งทำให้ฉันรู้สึกถึงพลังแห่งชีวิตที่เกิด
จากการหลอมรวมร่างกายและจิตใจให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ด้วยความรักความ
จริงใจและเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนาจากส่วนลึกที่สุดของหัวใจของคนทั้งคู่
ที่ต่างสอดประสานกันอย่างลงตัว จนถึงวิมานฉิมพลีที่พลังแห่งหยินและหยางของ
มนุษย์เพศคู่จะสามารถแลกเปลี่ยนถ่ายเทให้ซึ่งกันและกันได้อย่างมากมาย.....
จนสุดจะพรรณนา!!!!!!!!!!!
----------------------------------------
ข้อมูลเพิ่มเติม เรื่อง "ความรักกับสารเคมีในสมอง"
นอกจากองค์ประกอบของความรัก อารมณ์ความรู้สึกแล้ว ความรักยังเกิดจากสารเคมีในสมอง โดยสามารถแบ่งออกได้ 3 ประการดังนี้
** ความใคร่ คนเรามักถูกสัญชาตญาณ หรือแรงขับภายในดึงดูดซึ่งกันและกันเสมอ โดยมีฮอร์โมนทางเพศเป็นตัวขับเคลื่อน ในผู้ชายจะมีฮอร์โมนเพศชาย คือ เทสโทสเตอโรนที่มาจากการผลิตของอัณฑะ และในผู้หญิงจะมีฮอร์โมนเพศหญิง คือ เอสโตรเจนที่มาจากการผลิตของรังไข่ ซึ่งทั้งสองมีศูนย์กลางการควบคุมอยู่ในสมองส่วนไฮโปทาลามัส
** ความหลงใหล หรือการตกหลุมรัก อาการตกหลุมรักมักทำให้คน ๆ หนึ่งตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัก และอาจทำอะไรโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งการทำงานของสมองจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มสารเคมีที่ชื่อว่า "โมโนเอมีน" ได้แก่
- โดปามีน (Dopamine) เป็นสารแห่งความสุขที่จะหลั่งออกมาหลังรู้สึกพึงพอใจ
- อีพิเนฟริน (Epinehrine) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ อะดรีนาลีน จะกระตุ้นให้เราเกิดความรู้สึกตื่นเต้น เขินอายเวลาเจอคนที่ชอบ
- เซโรโทนิน (Serotonin) จะส่งผลต่อการแสดงออก เมื่อสมองหลั่งสารชนิดนี้ออกมาเราจะเกิดพฤติกรรมบางอย่างโดยที่ไม่รู้ตัว เช่น การเผลอยิ้ม เป็นต้น
** ความผูกพัน เป็นความสัมพันธ์ในระยะยาว โดยถูกกระตุ้นจากฮอร์โมน 2 ชนิดคือ
1. ออกซิโตซิน (Oxytocin) เป็นฮอร์โมนด้านความสัมพันธ์ หากคู่รัก หรือคนในครอบครัวมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันบ่อย ๆ จะทำให้สมองหลั่งสารชนิดนี้ออกมามาก
2.วาโสเปรสซิน (Vasopressin) เป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทต่อคู่รัก ทำให้เกิดความรู้สึกอยากใช้ชีวิตร่วมกัน
( อ้างอิงจาก : Theory of love จิตวิทยาของความรัก / 12 กุมภาพันธ์ 2564
/ โรงพยาบาลเพชรเวช )