ตอนที่ 1270 ปรากฏตัว!
ระหว่างสวรรค์และปฐพี เสียงคำรามยังคงดังต่อไป
สายลมไม่หยุดพักชั่วครู่
ต่อให้ถูกปกคลุมด้วยหมอกสีดำ แต่ผลที่ตามมาจากการต่อสู้ยังคงกระจายไปทุกทิศทาง ทำให้ผู้คนเลือดสูบฉีด
กู่ฉิงซานมองซานไห่ชีเสียแล้วถามว่า “เจ้านี่เป็นวันสิ้นโลกแบบไหน”
ซานไห่ชีเสียตอบว่า “จากฉากการต่อสู้ที่เจ้าบรรยาย มันน่าจะเป็นระดับไม่มีชีวิต แต่เมื่อตัดสินจากการที่เจ้านี่เป็นเพียงภาพมายา พลังและความเสียหายจึงลดลงไปมาก ดังนั้นข้าตัดสินว่ามันอยู่ระดับที่สอง ระดับไร้หนทาง”
“ระดับไร้หนทาง…” กู่ฉิงซานพึมพำ
ไร้หนทาง
มนุษย์สิ้นหวังจนไม่สามารถทำอะไรได้
สิ่งเดียวที่สามารถทำได้คือหาทางมีชีวิต
ซานไห่ชีเสียชำเลืองมองเขาแล้วกล่าวว่า “โชคยังดี ราชาเทพสัตว์อสูรถูกเจ้าขังไว้ในหมอกสีดำ มันมีคนมากกว่าพวกข้าถ้ำหมื่นอสูร คงมีกำลังพอที่จะขัดขืนอย่างสุดความสามารถ ท้ายที่สุด มันน่าจะสามารถถ่วงเวลาให้พวกเราได้มาก”
“ทว่า ข้าไม่รู้ว่าพวกมันทรงพลังมากกว่าจะเป็นระดับไร้หนทางหรือเปล่า”
กู่ฉิงซานเพิ่งกล่าวประโยคนี้ออกไป แต่ทันใดนั้น เขาหุบปากลง
เขาเห็นแสงสีแดงเข้มค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในหมอกสีดำนอกเมือง
สีแดงเข้ม สีส้ม สีแดงอ่อน สีเหลืองเข้มและสีเหลืองสดใสยิ่งมายิ่งเจิดจ้า ในที่สุดพวกมันก็เคลื่อนผ่านหมอกสีดำ
เสียงคำรามคมปราบดังมาจากส่วนลึกของหมอกสีดำ
“ปล่อยให้ทุกสิ่งพินาศในเปลวเพลิง!”
ในสายลมและหิมะ บอลไฟนับไม่ถ้วนทะลวงหมอกสีดำขณะพุ่งออกจากทุกทิศทาง
เปลวไฟกระหน่ำทั่วท้องนภา
ดวงตาของกู่ฉิงซานหรี่ลง
จากบอลไฟที่กำลังพุ่งลงมาเหล่านี้ เขาสัมผัสได้ถึงบุคคลจำนวนนับไม่ถ้วนที่เต็มไปด้วยจิตชั่วร้าย
ราชาเทพสัตว์อสูรอาจจะกำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกเพื่อปกป้องตัวเอง แต่พวกเขาจะไม่มีวันกลับมาเพื่อปกป้องเมือง
กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพเพื่อตรวจสอบเมืองอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ระฆังแจ้งเตือนครั้งแรกจะดังอย่างต่อเนื่อง แต่ราตรีมืดมิดแล้ว ทั่วเมืองไม่มีเวลาสร้างการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ
ตูม!
บอลไฟตกลงบนถนนตรงหน้าปราสาทขณะกระแทกจนเกิดเป็นหลุมลึก
ไม่ช้า สัตว์ประหลาดสีแดงปีนขึ้นมา
มันประกอบไปด้วยกระดูกเอนเอียงที่เต็มไปด้วยรอยด่าง เต็มไปด้วยเปลวเพลิง ทุกย่างก้าวที่มันเดินจะเกิดรอยเท้าโลหะหลอมละลายบนพื้น
สัตว์ประหลาดตัวนั้นค่อย ๆ กระจายไปทั่วเมือง
ซานไห่ชีเสียยืนอยู่ตรงหน้าต่างขณะมองรอบข้างแล้วกล่าวว่า
“เป็นปัญหาแล้วสิ การโจมตีด้วยค่ายกลไฟ เมืองนี้อาจจะกลายเป็นทะเลเพลิงก่อนจะมีเวลาตอบสนองเสียอีก”
“นั่นสิ อาชีพในโลกนี้ล้วนเป็นอัศวินและนักเวทพื้นเมือง ถ้าเจ้าอยากจัดระเบียบการป้องกันให้มีประสิทธิภาพโดยไว ข้าเกรงว่าจะต้องใช้เวลาสักพัก”
ขณะกู่ฉิงซานกล่าว เขาถอดหมัดเหล็กกล้าในมือออก เผยให้เห็นหมัดหนังสัตว์ที่อยู่ข้างใน
“หืม นี่มันหนังแห่งเพลิงไม่ใช่หรือ ของที่หวังชุ่นให้น่ะ” ซานไห่ชีเสียถาม
“อืม เขามอบมันให้ข้า แต่รูปการณ์ตอนนี้ไม่เหมาะที่จะใช้หมัดนี้” กู่ฉิงซานตอบ
เขาถอดถุงมือหนังสัตว์ขณะเก็บมันอย่างระวังแล้วสวมถุงมือเหล็กกล้าอีกครั้ง
เมื่อเห็นเช่นนี้ ซานไห่ชีเสียหยิบระฆังสีม่วงขึ้นมาแล้วกล่าวว่า “ข้าจะสู้กับเจ้า”
“ฉากเล็ก ๆ แค่นี้ ไม่ต้องถึงมือเจ้าหรอก”
“เจ้าวางแผนจะจัดการสัตว์ประหลาดเหล่านี้เพียงลำพังหรือ”
กู่ฉิงซานขยับไปมาแล้วตอบว่า “นานมากแล้วที่ข้าไม่ได้ยืดเส้นยืดสาย ข้าจำได้ว่ามีหมัดธาตุเยือกแข็งอยู่ในสำนักสินะ”
“จ้าวเฉียงเอาให้เจ้าดูงั้นหรือ ถุงแม้หมัดธาตุจะหายาก แต่วิชาหมัดธาตุเยือกแข็งเป็นเพียงระดับพื้นฐานเท่านั้น พลังไม่ได้ดีมากนัก” ซานไห่ชีเสียกล่าว
“ข้าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้”
กู่ฉิงซานบินออกไปที่หน้าต่างก่อนตรงเข้าหาสัตว์ประหลาด
สัตว์ประหลาดสังเกตเห็นทันที มันเงยหน้าขึ้นมองกู่ฉิงซานก่อนพ่นกลุ่มเปลวเพลิงออกมา
กู่ฉิงซานโบกมือก่อนชกหมัดออกไป
หมอกสีขาวเย็นเยือกทักทายเปลวเพลิง มันเข้าห่อหุ้มทันทีก่อนผลักให้สัตว์ประหลาดถอยไป
เพียงพริบตา สัตว์ประหลาดรวมตัวเป็นชั้นน้ำค้างแข็งก่อนจะยืนนิ่งจนไม่สามารถขยับได้
กู่ฉิงซานเคลื่อนลงมาอย่างแผ่วเบา เขางอนิ้วแล้วดีดไปบนสัตว์ประหลาด
เขาเห็นรอยร้าวบนสัตว์ประหลาดก่อนกระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว
คลิ้ก
คลิ้ก ๆ
เพล้งงง
ทั่วร่างของสัตว์ประหลาดแตกสลายลงกับพื้น มีเพียงกลุ่มหมอกสีขาวที่ยังลอยอยู่กับที่ขระแผ่อากาศเย็นเยือกน่าขนลุกออกมา
ซานไห่ชีเสียเคลื่อนลงมายืนอยู่ข้างกู่ฉิงซาน
“ไม่ ข้ารู้วิชานี้ แต่ทำไมมันถึงมีพลังขนาดนั้น… มันไม่มีเหตุผลเลย” ซานไห่ชีเสียพึมพำขณะมองร่างของสัตว์ประหลาด
กู่ฉิงซานอธิบายว่า “ใครบางคนเคยสอนข้าเกี่ยวกับคัมภีร์วิชายุทธ์น่ะ ว่ากันว่าตราบที่ท่องคาถาหรือทำสมาธิในใจก็จะสามารถได้รับบางสิ่งในวิชายุทธ์ ตอนแรกข้าก็ไม่เชื่อหรอก แต่ตอนนี้ดูท่า…”
“นี่!”
ทันใดนั้น มีเสียงตะโกนมาจากชั้นบน
ทั้งสองเงยหน้ามอง
พวกเขาเห็นปลาเค็มกู่ฉิงซานตื่นขึ้นมา
เขาถือแปรงสีฟันด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างถือแก้วน้ำเอาไว้ ผ้าเช็ดตัวพาดอยู่บนบ่า ศีรษะของเขายื่นออกมาจากหน้าต่าง
เขาชี้ไปที่เปลวไฟทั่วท้องนภาแล้วกล่าวว่า “สัตว์ประหลาดเยอะขนาดนี้ ฆ่าตัวเดียวไม่มีประโยชน์หรอก เจ้ามีทางอื่นหรือเปล่า”
กู่ฉิงซานตอบว่า “มี…”
ซานไห่ชีเสียกล่าวว่า “เจ้าจะไม่ลงมาสู้ด้วยกันหรือ”
ปลาเค็มกู่ฉิงซานเผยสีหน้าจนใจแล้วตอบว่า “ข้าเพิ่งตื่นขึ้นมา ยังไม่ได้แปรงฟัน หลังจากนี้ข้าต้องอ่านหนังสือการ์ตูนอีก นี่คือกฎของบัญญัติข้า หากไม่สามารถทำตามได้ ข้าก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นปลาเค็มที่คอยทำหน้าที่เป็นพระผู้ช่วย”
“เช่นนั้นปกติเจ้าสู้ยังไงล่ะ” กู่ฉิงซานถามด้วยความสับสน
ปลาเค็มกู่ฉิงซานตอบว่า “ไม่รบกวน”
กู่ฉิงซานนิ่ง
ซานไห่ชีเสียนิ่ง
“ช่างเถอะ เจ้ายังต้องพักอยู่ ไว้ค่อยลงมือตอนที่สำคัญก็แล้วกัน” กู่ฉิงซานกล่าวขณะเอามือกุมศีรษะ “ตอนนี้ข้าขอจัดการตรงนี้ก่อนแล้วกัน”
หมอกสีดำไม่มีสิ้นสุดปกคลุมตัวเขา ดวงตาพลันกลายเป็นลูกตาแนวตั้งหนึ่งคู่
รูปทรงของมังกรสีดำค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นมา
พายุหมุนค่อย ๆ แรงขึ้น
มังกรสีดำข้ามพุ่งออกไปก่อนทะยานขึ้นสู่ท้องนภา มันบินไปทั่วเมือง
ด้วยการกลืนกินพลังของสามมังกรเข้าไป พลังของกู่ฉิงซานก็เหนือกว่าเหล่าวีรบุรุษส่วนใหญ่!
หากเจอกับวันสิ้นโลกหรือสัตว์ประหลาดเก่าแก่ที่อยู่รอดในสุสานมานานนับไม่ถ้วน คนธรรมดาล้วนไม่ใช่คู่มือของเขา
ยิ่งกว่านั้น เขาสามารถกลายเป็นมังกรได้เช่นกัน
โฮก!!!
มังกรสีดำส่งเสียงคำรามยาว กรงเล็บของมันค่อย ๆ ถูกปกคลุมด้วยอากาศเย็นเยือก
อากาศเย็นเยือกนี้ขยับตาการร่ายรำของมังกรสีดำขระกระจายไปทั่วท้องนภาแล้วกลายเป็นชั้นคริสตัลน้ำแข็งสีครามที่ปกคลุมทั่วทั้งเมือง
ตูม ๆๆๆๆ !
กลุ่มเปลวเพลิงที่พุ่งออกจากหมอกสีดำเพื่อมากระแทกใส่คริสตัลน้ำแข็งสีครามราวฝนอุกกาบาตก่อนถูกแช่แข็งจนสิ้น จากนั้นมันตกจากที่สูง กระแทกลงกับพื้นแล้วแตกสลายเป็นเศษซากโครงกระดูกนับไม่ถ้วน
ไม่มีบอลไฟลูกไหนสามารถทะลวงเขตอาคมเยือกแข็งจนเข้ามาในเมืองได้!
มังกรสีดำที่กู่ฉิงซานเปลี่ยนร่างบินอยู่บนท้องนภาตามใจอยาก กระจายความเยือกแข็งไปทุกหนแห่งเพื่อเสริมพลังเขตอาคมอย่างต่อเนื่อง
ผลที่ได้ สัตว์ประหลาดจำนวนน้อยผู้เข้าในเมืองก่อนหน้านี้ไม่ได้รับการสนับสนุน พวกมันถูกสังหารอย่างรวดเร็วโดยยอดฝีมือจำนวนมาก
“มังกร!”
“เผ่ามังกรในตำนาน!”
“มีมังกรมาช่วยพวกเราต่อสู้กับสัตว์ประหลาด!”
ยอดฝีมือทั้งหมดส่งเสียงยินดี
ซานไห่ชีเสียยืนอยู่บนถนนด้วยอาการสั่นสะท้าน
“กลายเป็นมังกรที่ทรงพลังขนาดนั้น ไม่สงสัยเลยว่าในยุคโบราณ สามเทพถึงไม่ใช่คู่มือของเขา” นางพึมพำ
ปลาเค็มกู่ฉิงซานยืนอยู่หน้าขอบหน้าต่างขณะถือหนังสือการ์ตูนเอาไว้ในมือ
เขามองหนังสือการ์ตูน มองมังกรบนท้องนภาแล้วกล่าวกับตัวเองว่า
“หืม… แสดงว่าข้าสามารถกลายเป็นมังกรได้สินะ จุ๊ ๆๆ มังกรที่แท้จริงน่าจะทรงพลังยิ่งกว่าในหนังสือการ์ตูนสินะ…”
“ดีมาก ถ้างั้นข้าสามารถเป็นปลาเค็มต่อได้อย่างไร้กังวลสินะ…”
บนขอบหน้าต่างข้างเขา มีกระป๋องเบียร์เย็นสองกระป๋องกับถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปวางอยู่
ในความรู้สึกของเขา นี่คือการต่อสู้อีกแบบ
ชีวิตปลาเค็มต้องแข็งแกร่งขึ้น!
ไม่ช้า บอลไฟไม่ปรากฏในหมอกสีดำอีก
ดูท่าอีกฝ่ายจะรู้เช่นกันว่าความพยายามทำลายเมืองนั้นล้มเหลวแล้ว
ทันใดนั้น เสียงดุร้ายดังมาจากส่วนลึกของหมอกสีดำ
“มังกรเอ๋ย! ข้าขอแนะนำว่าเจ้าอย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง ไม่อย่างนั้นเจ้าจะพินาศไปพร้อมกับโลกใบนี้ด้วย”
หัวใจของกู่ฉิงซานขยับหลังจากได้ยินเสียงนี้
นี่คือคนที่เคยใช้พลังเหตุและผลมาก่อน…
น่าแปลก ทำไมมันทำงานให้กับวันสิ้นโลกล่ะ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ กู่ฉิงซานเปิดปากแล้วถามว่า “เจ้าเป็นใคร เอาแต่มุดหัวมุดหางอยู่นั่นแหละ ชื่อแซ่ก็ไม่บอกกล่าว อย่าคิดว่าจะสมควรมาคุยกับข้า!”
เกิดความเงียบสักพักในหมอกสีดำ
ในที่สุดเสียงดังขึ้นอีกครั้ง “ข้าคือผู้ปกครองโลกแห่งความว่างเปล่าหลายร้อยล้านใบเพื่อตัดสินโชคของทุกชีวิต! เผ่าพันธุ์มังกรเอ๋ย เจ้ามีโอกาสถอยเป็นครั้งสุดท้าย ไม่อย่างนั้น ข้าจะให้เจ้าแบกรับชะตากรรมน่าเวทนาชั่วนิรันดร์!”
หัวใจของกู่ฉิงซานดิ่งวูบ
เขายังคงพึมพำว่าจะหาสัตว์ประหลาดตัวนี้เจอได้อย่างไร
กลายเป็นว่ามันคอยตัดสินโชคของทุกชีวิต!
สัตว์ประหลาดแห่งความว่างเปล่านี้เป็นเป้าหมายตายตัวของมนุษย์ แต่ทำไมถึงปรากฏตัวในภาพมายาวันสิ้นโลกกันล่ะ
วันสิ้นโลกของฉากนี้เห็นได้ชัดว่าคือวันสิ้นโลกของยุคสุดท้ายชัด ๆ !
กู่ฉิงซานกำลังครุ่นคิด สายตาของเขาเห็นแถวหิ่งห้อยขนาดเล็กผุดขึ้นมาบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“โปรดทราบ!”
“ท่านต้องฆ่าสัตว์ประหลาดแห่งความว่างเปล่าห้าประเภทเพื่อคลายฉายาพิเศษของ ‘เทพสงคราม’ นี้: เทพสงครามแห่งความว่างเปล่า”
“ประเภทแรกของสัตว์ประหลาดแห่งความว่างเปล่า: ผู้พิพากษาชะตากรรมทุกชีวิต ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว”
“ด้วยพลังของท่านหรือพลังของผู้อื่น แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการผู้พิพากษาชะตากรรมทุกชีวิต”
“เมื่อนานมาแล้ว ตอนที่สุสานปรากฏขึ้น สัตว์ประหลาดตัวนี้ถูกเล่นงานอย่างหนักขณะพยายามสำรวจสุสานจนหลงเหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย”
“สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ ตอนนี้ ท่านอยู่ในที่ที่มันพ่ายแพ้และท่านเพิ่งจะได้พบกับมัน”
“นี่คือโอกาสเดียวของท่านที่จะได้รับฉายาของ “เทพสงครามแห่งความว่างเปล่า!”
……………………………………………….