ตอนที่ 1261 มีชีวิต!
“ดาบ...”
กู่ฉิงซานกลืนคำนี้ลงไป ดวงตาของเขามืดมน
เด็กยักคิ้วด้วยความสงสัย “เจ้าเป็นอะไรไปน่ะ มีอะไรผิดปกติกับข้อมูลนี้งั้นหรือ ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าเจ้าแตกต่างจากเดิมไปมากนะ”
กู่ฉิงซานกลับมาเป็นปกติก่อนตอบว่า “ไม่มีอะไร หลักๆ ก็เพราะข้าคิดไม่ถึงจะมีดาบที่เป็นของหวนคืนชาติภพหกวิถีอยู่ที่นี่ด้วย เจ้าพูดต่อได้เลย”
เมื่อเห็นสีหน้าของเขากลับมาเป็นปกติ เด็กกล่าวต่อว่า
“ดาบเล่มนั้นคือเทวภัณฑ์ที่สนับสนุนการทำงานปกติของทั้งสุสาน หากไม่มีมัน วันสิ้นโลกในสุสานจะกรูกันออกมา แน่นอนว่าไม่มีใครเคยเห็นดาบเล่มนั้นมาก่อน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ข่าวลือ”
หลังจกาเด็กพูดจบ เขาเชยคางไปทางกู่ฉิงซาน
ทีนี้ตาเจ้าแล้ว
แต่กู่ฉิงซานไม่มีความลับจะบอก
ยามที่เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดเก่าแก่ เขาไม่กล้าที่จะส่งมอบข้อมูลผิดๆ ไปให้
เพราะอีกฝ่ายแข็งแกร่งและอยู่ในระดับโหดหิน หากผิดพลาดเพียงน้อยนิดก็สามารถถูกอีกฝ่ายสังเกตเห็นได้โดยง่าย
ดูท่าจะยังต้องบอกความลับที่แท้จริงอีกอย่าง…
แต่ทั่วถ้ำหมื่นอสูรอยู่ภายใต้การควบคุมและจับตาของอีกฝ่าย ความลับมากมายถูกสำรวจจนหมดสิ้นแล้ว
กู่ฉิงซานเป็นเพียงผู้มาใหม่ เมื่อพูดถึงเรื่องถ้ำหมื่นอสูรและสุสานขนาดใหญ่ เขาไม่สามารถเทียบอีกฝ่ายได้เลย
ถ้าอย่างนั้น เขาควรพูดอะไรล่ะ
กู่ฉิงซานครุ่นคิดอยู่นานแล้วกล่าวว่า “ข้าจะพูดถึงคนคนหนึ่ง คนคนนี้เข้าสุสานไปแล้ว เจ้าต้องระวังตอนที่ได้พบกับเขา”
“ใครล่ะ” เด็กถาม
“กู่ฉิงซาน” กู่ฉิงซานตอบ
เด็กกล่าวด้วยความคาดไม่ถึงว่า “นี่เป็นความลับเช่นกันหรือ ข้าได้ข่าวคราวมาบ้าง ข้ารู้เช่นกันว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์คนนี้ได้รับดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพ แต่ตราบที่ไม่โดนดาบสองเล่มนี้เล่นงานก็ไม่มีปัญหาอะไร การฆ่าเขาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวนับว่าปลอดภัยนัก”
“สิ่งที่ข้าจะพูดไม่ใช่ดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพ แต่เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก”
น้ำเสียงของกู่ฉิงซานลึกลับ
“ยังมีความลับอื่นอยู่กับตัวเขางั้นหรือ” เด็กสงสัย
“ใช่ เขาถึงกับมาจากรุ่นหลังน่ะ” กู่ฉิงซานตอบ
เด็กผงะด้วยความสับสนและไม่ตอบสนองสักพัก
เขาเงียบอยู่นานก่อนกล่าวว่า “ถึงแม้ดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพจะเป็นสิ่งประดิษฐ์วิญญาณสูงสุดของหุบเหวนิรันดร์ แต่พวกมันไม่มีเวลาเดินทางผ่านเวลา…”
“กู่ฉิงซานสามารถจัดการวิญญาณกรีดร้อง มังกรมารและยักษ์อมตะได้ ตอนดาบสองเล่มนี้เพิ่งถูกสร้างขึ้นมา เขาก็เอาพวกมันไปแล้ว เขาจะต้องมีความลับแน่ๆ ”
“นอกจากนี้ เขาสามารถเดินทางผ่านมิติและเวลาเพื่อกลับมาช่วงเวลานี้จากอนาคตได้ ดูท่าเขาจะเป็นตัวตนที่ผิดปกติมาก”
“ไม่ใช่” กู่ฉิงซานกล่าว
“ไม่ใช่เพราะตัวตนหรือ” เด็กสงสัย
กู่ฉิงซานพยักหน้าแล้วตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “เขามีสามเหรียญนั้นอยู่ในมือ”
เด็กสั่นสะท้านทั่วร่างด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อแล้วกล่าวว่า “สรุปแล้วเขาเป็นนักสำรวจความลับอันไร้ที่สิ้นสุด ผู้ทำลายประวัติศาสตร์ กุญแจแห่งอดีต เศษเสี้ยวของเส้นทางและยังมีสิ่งนั้นอยู่กับตัวด้วยสินะ”
โดยไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เด็กพึมพำกับตัวเองว่า “แต่มีของเลียนแบบสิ่งนั้นมากมาย ข้าเดาว่าที่เขามีนั้นน่าจะเป็นของปลอม กฎเกณฑ์แห่งโชคชะตา มิติและเวลาในโลกจะไม่ยอมให้สิ่งนี้คงอยู่ในมือมนุษย์ได้โดยง่ายด้วยการลบล้างพวกมัน”
สีหน้าของเขาค่อยๆ ผ่อนคลายขึ้นมา
ครั้งนี้ กู่ฉิงซานประหลาดใจ
สัตว์ประหลาดในสุสานที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคล้ายกับรู้ความลับเกี่ยวกับสามเหรียญ
เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครบางคนจากทั่วทั้งอาณาจักรไร้พรมแดนรู้ความลับของสมบัติระดับเดียวกับสามเหรียญได้
ตอนนี้เขาพบหนึ่งคนแล้ว กู่ฉิงซานจะยอมปล่อยมันไปได้อย่างไร
“ไม่ จากข้อมูลที่ข้าได้รับมา เหรียญในมือของกู่ฉิงซานไม่ใช่ของปลอม แต่เป็นของจริง” กู่ฉิงซานกล่าว
เด็กส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “เป็นไปไม่ได้ สิ่งนั้นเป็นที่โปรดปรานของสามกฎเกณฑ์แห่งประตูโลก มีเพียงเศษเสี้ยวเส้นทางเท่านั้นที่ปรากฏในโลก ผู้ที่ครอบครองมันจะต้องเจอกับบททดสอบมากมาย แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่มีใครรอดจากบททดสอบได้สักคน”
เด็กกล่าวด้วยน้ำเสียงมากประสบการณ์
“หมายความว่าในตอนนั้น เขาไม่สามารถสัมผัสเหรียญเพียงลำพังได้”
เขาพยักหน้าให้กู่ฉิงซานแล้วส่งสัญญาณ “ความลับนี้มีค่ามาก ข้าสามารถรู้สึกได้ว่าตั้งแต่ต้นจนจบ เจ้ากำลังพูดความจริง”
“ในเมื่อเจ้าเปิดอกเช่นนี้ เช่นนั้นข้าก็ขอบอกความลับสำคัญอีกอย่างให้รู้ก็แล้วกัน”
“ความลับอะไร” กู่ฉิงซานถาม
เด็กยื่นมือไปคว้าในความว่างเปล่าก่อนหยิบเกล็ดสีม่วงเข้มออกมา
เขาโยนเกล็ดออกไปอย่างไม่ใส่ใจและไม่พูดอะไร
เกล็ดนี้ลอยอยู่ในอากาศก่อนค่อยๆ ขยับไปทางกู่ฉิงซาน
ล่อซื้อหรือ
หัวใจของกู่ฉิงซานค่อยๆ พองโตขึ้น
เขาเอื้อมมือไปที่เกล็ดก่อนวางไว้ในฝ่ามือสักพัก
เพียงพริบตา แถวหิ่งห้อยปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงครามอย่างรวดเร็ว
“เกล็ดเงือกแห่งแม่น้ำภัยพิบัติ”
“นี่คือสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกนอกประตูโลก เมื่อมันตาย เกล็ดจะลอกออกมา”
“เกล็ดของสัตว์ประหลาดตัวนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายวันสิ้นโลก ถ้าใครบางคนจับเกล็ดของสัตว์ประหลาดนี้ พวกเขาจะไม่ถูกตรวจจับโดยวันสิ้นโลกเป็นเวลาหนึ่งวัน”
“เป็นของมีค่า”
กู่ฉิงซานชำเลืองมองแล้วถามว่า “เกล็ดนี้คล้ายกับสามารถหลบเลี่ยงวันสิ้นโลกได้ เจ้าไปได้มาจากไหน”
ขณะถาม เขาส่งเกล็ดกลับไป
เด็กเปิดปากขณะพยายามเอาเกล็ดกลับมา แต่ก็ถูกประโยคต่อมาของกู่ฉิงซานขัดไว้
“ในเมื่อเจ้ากับข้าอยากร่วมมือกันจริงๆ การมอบเกล็ดนั่นเพื่อให้ข้าสามารถกลับไปที่สุสานกับเจ้าได้ก็ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือ” กู่ฉิงซานหัวเราะออกมา
เด็กหักห้ามตัวเองเอาไว้ไม่ให้เปิดปากหลายครั้ง
อย่ามาล้อเล่นน่า ถ้ามีบางอย่างเข้าปากนักบุญไปแล้ว การจะให้ยอมคายออกมานั้นนับว่าเป็นความฝันที่โง่เขลานัก
เด็กกล่าวด้วยสีหน้าหมองหม่นว่า “นี่เป็นของดีที่ข้าพบในก้นแม่น้ำสุสาน ตราบใดที่มีเกล็ดนี้ เจ้าสามารถหลบเลี่ยงการไล่ล่าวันสิ้นโลกเพื่อทำให้พวกเราเข้าไปในสุสานได้อย่างปลอดภัย”
“เป็นของดีจริงๆ ” กู่ฉิงซานพยักหน้า
ทั้งสองมองหน้ากัน
เด็กดูไม่ค่อยเต็มใจ
กู่ฉิงซานแสดงความพอใจที่ได้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบนี้
ที่จริง ในใจของเขาระแวดระวังมากยิ่งขึ้น
อีกฝ่ายมีเรื่องสำคัญมากที่ไม่ยอมพูดถึง
สิ่งนี้ถึงกับเป็นของสิ้นเปลืองที่สามารถใช้ได้เพียงหนึ่งวันเท่านั้น
ชิ
ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงไม่มีปัญหา ไม่มีการโต้เถียงเรื่องการเอาเกล็ดกลับคืนมา มันคือหลุมพรางที่เตรียมเอาไว้โดยเฉพาะ
ถ้าหลังจากผ่านไปหนึ่งวันแล้วยังใช้สิ่งนี้อีก เช่นนั้นวันสิ้นโลกก็จะรับรู้ได้
แต่ว่า…
ถึงเจ้าจะคิดคำนวณมาดี แต่ข้าไม่ใช่นักบุญสงครามหรอกนะ
ความคิดของกู่ฉิงซานเปลี่ยนไปก่อนยืนขึ้นแล้วกล่าวว่า “ข้าไม่มีอะไรจะบอกเจ้าแล้ว ตอนนี้ซากศพวิญญาณชั่วร้ายเกิดการเปลี่ยนแปลงผิดปกติ ข้าคิดว่าพวกเราจะมาเสียเวลาอีกไม่ได้ พวกเราต้องรีบไปตรวจสอบสถานการณ์เดี๋ยวนี้เลย”
เด็กตกตะลึง จากนั้นยืนขึ้นแล้วกล่าวว่า “ก็ได้ ถ้างั้นพวกเราร่วมมือกันชั่วคราว”
“ดี”
“พวกเราจะไปกันเมื่อไหร่”
“ตอนนี้เลย”
…
สิบห้านาทีต่อมา
เส้นทางใต้ดินที่นำไปสู่สุสาน
พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกปกคลุมด้วยลาวาหลอมละลาย มีเพียงหินบางก้อนที่ตั้งตระหง่านอยู่บนลาวาเพื่อให้ผู้คนเหยียบย่ำ
หลายสิบร่างทะยานไปมาขณะยืนอยู่บนหินคนละก้อน
กู่ฉิงซานและเด็กยืนอยู่ตรงกลางราวกับดาราประดับจันทรา
กู่ฉิงซานมองลาวาหลอมละลายเบื้องล่างแล้วถามว่า “ซากศพวิญญาณชั่วร้ายอยู่ที่ไหน”
“อย่างที่ข้าบอกไป มันมีเส้นทางตายตัว ตอนนี้มันลอยเข้าไปในสุสานแล้ว ข้าเกรงว่าต้องใช้สักพักถึงจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง” เด็กหนุ่มตอบ
กู่ฉิงซานกำลังจะพูด แต่ความว่างเปล่าตรงหน้าขยับ ไพ่หยกพลันถูกวางตรงหน้าเขา
กู่ฉิงซานรับมันมาทันที
ไพ่หยกของเก้าคำสาปใต้พิภพ!
คาดไม่ถึง ในบริเวณสุสาน ไพ่หยกใบนี้จะสามารถสัมผัสเขาได้!
“นี่คืออะไร” เด็กถาม
“ข้อความจากลูกน้องข้าน่ะ” กู่ฉิงซานตอบเสียงอ่อนขณะใช้จิตเทพกวาดผ่านไพ่หยก
จากนั้นเสียงของเขาดังขึ้น
“พวกเราพบสิ่งที่แปลกประหลาด”
อีกเสียงดังขึ้น “ใช่ ตอนนี้พวกเราสองคนอยู่ใกล้สุสานอสุรา เพราะมีวันสิ้นโลกมากเกินไป ดังนั้นพวกเราจึงร่วมมือกันใช้วิชาปกปิดที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อซ่อนอยู่ในสถานที่ไม่สะดุดตาแถวแม่น้ำสุสาน จากนั้นพวกเราก็เห็นมัน”
คนที่อยู่ข้างหน้าเขาขัดขึ้นว่า “พวกเราพบซากศพวิญญาณชั่วร้ายดังที่เจ้ากล่าวไว้ มันร่อนเร่อยู่ในน้ำ คอยฉีกซากศพสัตว์ประหลาดแห่งความว่างเปล่าเป็นเวลาช้านาน ใช้เวลาสักพักก่อนจะแกล้งทำเป็นตายแล้วลอยไปนอกแม่น้ำสุสาน”
“ได้ยินชัดเจนหรือเปล่า มันมีชีวิต ย้ำอีกครั้ง มันมีชีวิต!”
กู่ฉิงซานเพียงรู้สึกว่าเส้นขนของเขาตั้งชูชัน
มีชีวิตหรือ
ถ้างั้นมันจะแสร้งเป็นซากศพไปเพื่ออะไร
ตอนนี้เด็กกล่าวว่า “ดูนั่น ซากศพวิญญาณชั่วร้ายมาแล้ว”
กู่ฉิงซานรีบเงยหน้ามอง
ซากศพสีดำกำลังลอยมาตามลาวาหลอมละลาย
มันเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
………………………………..