webnovel

1254 แบบนี้หรือ

ตอนที่ 1254 แบบนี้หรือ

เบื้องหน้าสายตาของกู่ฉิงซาน แถวตัวเลขยังคงกะพริบไปมา

นั่นคือค่าพลังวิญญาณที่ยังเหลืออยู่ของเขา มันกำลังลดลงในอัตราหลายสิบแต้มต่อวินาที

เมื่อใดก็ตามที่หลี่ชุนเตาและหวังชุ่นขัดขืนด้วยพละกำลังทั้งหมด การกะพริบของตัวเลขจะเพิ่มขึ้นมหาศาล

“กลายเป็นว่าคำสาปของมังกรฟ้าใช้พลังวิญญาณ”

กู่ฉิงซานกล่าวอย่างระแวดระวัง

พลังจุดกำเนิดวิญญาณ พลังจุดกำเนิดโลก นี่คือสองพลังที่มีระดับสูงสุด

คำสาปมังกรฟ้าใช้ “ตอบรับคำเรียกขาน” เป็นรากฐานเหตุผล ใช้พลังวิญญาณระดับสูงสุดเพื่อทำให้วิชาต้านทานฝั่งเหตุผลนี้สมบูรณ์ มันช่างน่าสนใจจริงๆ

ตอนแรก ตอนผู้รอคอยสร้างสร้างบัญญัติขึ้นมา บรรพบุรุษของหมื่นมังกรจะต้องรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นคืออะไรในรุ่นหลัง หลังจากนั้นแม่นางฟู่สื่อย้อนกลับไปอดีตด้วยทุกอย่างที่มี

ผลที่ได้ มันใช้วิชาลับเพื่อสังเกตการณ์การต่อสู้ของกู่ฉิงซาน ท้ายที่สุดก็ให้คำสาปดั้งเดิมของมังกรฟ้าที่อยู่ก้นกล่องกับกู่ฉิงซานเพื่อช่วยเขากับฟู่สื่อ

ความคิดของกู่ฉิงซานวูบไหว ดวงตาขยับออกจากหน้าต่างระบบเทพสงครามขณะมองสองคนที่อยู่ข้างหน้า

ไม่ต้องใช้พลังวิญญาณอีกแล้ว

มันยืนยันได้แล้วว่าพวกเขาสองคนคือเทพที่ไม่ถูกแทนที่

ด้วยสถานะของพวกเขาในสำนักซานไห่ ไม่มีใครในหมู่พวกเขาล้ำเส้นเกินไป…

ดูท่าทั่วทั้งถ้ำหมื่นอสูร มีเพียงกลุ่มพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่ถูกแทนที่

ความคิดในใจของเขาได้รับการยืนยัน เมื่อเห็นค่าพลังวิญญาณกำลังลดลง กู่ฉิงซานกล่าวว่า “พวกเจ้าสองคน ข้ามาที่นี่เพื่อบอกพวกเจ้าว่าข้ากำลังจะไปโลกวิญญาณชั่วร้าย”

“ลาก่อน”

เขายกเท้าเพื่อจะจากไป ทันใดนั้นกลับหยุดนิ่ง

ไม่ใช่

ระดับพลังจิตของสองคนนี้นับว่าสูงส่งมาก

ถ้าพวกเขาใช้พลังจิตในช่วงนี้ได้สำเร็จ พวกเขากด็ต้องถูกแทนที่ด้วยสัตว์ประหลาดในสุสานไปแล้วหรือเปล่า

กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปเพื่อคว้าเข้าไปในความว่างเปล่า

เขาถือดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพไว้ในมือ

หลังจากหลับใหลมาสิบวัน ดาบศักดิ์สิทธิ์กลับมามีสติ

กู่ฉิงซานมองทั้งสองด้วยสีหน้าเขินอาย

“โทษทีๆ ที่จริงข้าไม่อยากทำแบบนี้เลย”

ก่อนจะสิ้นคำพูด ดาบสองเล่มก็เริ่มทำงาน!

ท่าแรกประเดิมด้วยดาบราชาเทพอสุรา

เคลื่อนตะวันบดบังจันทรา

เปลวเพลิงและพลังเยือกแข็งระเบิดเข้าหาทั้งสอง

พวกเขาไม่สามารถหลบได้ ทำได้เพียงยืนอยู่กับที่เพื่อรับสกิลเทพ “แยกไฟ” กับ “ประกายเยือกแข็ง” อย่างยากลำบาก

กู่ฉิงซานและหวังชุ่นต่อสู้กัน ตอนนี้เขากำลังคิดถึงความทนทานของทั้งสอง ทันใดนั้น เขาคลายคำสาปมังกรฟ้าออกเพื่อใช้งานสกิลเทพสุดท้าย

วิชาดาบ บดบังตะวันจันทรา!

หลังจากผ่านการทดสอบมานับไม่ถ้วน วิชาดาบของเขาไปถึงจุดสูงสุดของระดับหนึ่งดาบแล้ว เขาอาจจะทะลวงผ่านไปได้ทุกเมื่อ

ดังนั้น บดบังตะวันจันทรานี้จึงสร้างมุมมองที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

พวกเขาเห็นเปลวเพลิงและพลังเยือกแข็งพลันห้อมล้อมทั้งสองเอาไว้ พวกมันกลายเป็นตะวันร้อนแรงและจันทราเจิดจ้าและเย็นเยือกดุจน้ำแข็ง

ดูท่าพลังบางอย่างที่ยากจะอธิบายพุ่งออกมาจากกู่ฉิงซานก่อนเข้าหาตะวันจันทรา

ทันใดนั้น

ตะวันจันทราหายไป ท้องนภาและปฐพีมืดมิด

ตูม!!!

ทั้งสองถูกกระแทกจนกระเด็นออกไป

“วิชาดาบอะไรกันเนี่ย! ทำไมถึงทรงพลังขนาดนี้!” หวังชุ่นถามด้วยความไม่เต็มใจขณะกระอักโลหิตออกมา

มือของเขาสั่นสะท้านจนไม่อาจถือดาบเอาไว้ได้

กู่ฉิงซานชำเลืองมองเขา จากนั้นมองหลี่ชุนเตา จากนั้นจึงยืนยันได้ว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บปานกลางเท่านั้น

ต่อไป พวกเขาจะต้องรักษาบาดแผล ทำให้ไม่สามารถใช้พลังจิตได้ในเวลาสั้นๆ

“นี่คือดาบอสุรา ที่จริง ข้ายังไม่ได้ปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของวิชาดาบนี้ออกมาหรอกนะ”

กู่ฉิงซานถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “วันสิ้นโลกมีมากมายมหาศาล สุสานช่างน่าขนลุก พวกเจ้าต้องคิดถึงสิ่งอื่นๆ บ้างนะ”

“เจ้าพูดเรื่องอะไรน่ะ” หลี่ชุนเตาถามพลางขมวดคิ้ว

พละกำลังของเขาแข็งแกร่งกว่าหวังชุ่น ทำให้สามารถสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายยังมีของอีก

กู่ฉิงซานไม่ใช่นักฆ่า เขาไม่แม้แต่จะมีความตั้งใจในการสังหาร

คนคนนี้อยากจะทำอะไรกันแน่

ดวงตาของกู่ฉิงซานทอประกายเมื่อได้ยินคำถามของเขา

คาดไม่ถึง ผู้ชายบุ่มบามคนนี้จะมีจิตใจละเอียดอ่อนจนสามารถตรวจพบความหมายที่อยู่ในคำพูดของเขาได้

แต่เขาไม่สามารถบอกว่าจะทำอะไรได้

“รักษาตัวให้ดี ยังไงก็ตาม ข้าไม่ใช่ศัตรูของพวกเจ้า พวกเจ้าอาจจะเข้าใจในภายหลัง”

กู่ฉิงซานกล่าว

ไม่ใช่ศัตรูของพวกเขาหรือ

ใช่แล้ว เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่อีกฝ่ายสังหารพวกเขาได้

ถ้างั้นมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ

หลี่ชุนเตาสับสน

เขาขยับริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “กู่ฉิงซาน วันสิ้นโลกจะมาเยือนถ้ำทะเลตะวันตก”

“วันสิ้นโลกหรือ” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยความแปลกใจ

“ใช่ วันสิ้นโลกที่ไม่สามารถถูกทำลายได้ ทุกๆ สิบสองวัน มันจะปรากฏตัวในถ้ำทะเลตะวันตก”

“พวกข้าอาจจะสามารถขัดขืนได้เมื่อหวังชุ่นกับข้าอยู่ในสภาพปกติ แต่ตอนนี้พวกข้าไม่สามารถลงมือได้แล้ว”

หลี่ชุนเตามองกู่ฉิงซานแต่ไม่ได้กล่าวอะไร

ท่าทีของเจ้าที่มีต่อสำนักคืออะไร

ถ้าเจ้าไม่ใช่ศัตรูจริงๆ และมีความลับที่ไม่สามารถพูดได้ เช่นนั้น เจ้าสามารถช่วยสู้กับวันสิ้นโลกได้หรือเปล่า

กู่ฉิงซานเข้าใจความหมายจากแววตาของอีกฝ่าย

“น่าเสียดาย… ข้ากำลังจะออกจากถ้ำทะเลตะวันตกแล้ว พวกเจ้าจัดการเรื่องพวกนั้นด้วยตัวเองแล้วกัน”

หลังจากกู่ฉิงซานพูดจบ เขาเริ่มก้าวพริบตาก่อนหายไปจากตรงหน้าทั้งสองคน

“สารเลว!”

หลี่ชุนเตาตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดขณะฟาดใส่ท้องนภาเพื่อระบายโทสะ

การเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลกับบาดแผลทันที ทำให้เขาลงไปกองกับพื้น ไม่สามารถขยับได้เป็นเวลานาน

ก๊อกๆๆ !

ปัง!

หลังจากเคาะประตู ประตูถูกผลักออกทันที

หลี่ซานหลางลุกขึ้นจากเตียงแล้วถามด้วยเสียงง่วงงุนว่า “หลี่ชิวอวี่ ทำไมท่านถึงพังเข้ามาล่ะ”

ใบหน้าของหลี่ชิวอวี่ซีดเผือด นางพุ่งมาที่เตียงของเขาก่อนคว้ามือไว้ จากนั้นถามว่า “เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า”

หลี่ซานหลางถามด้วยความไม่เข้าใจว่า “ข้าจะเป็นอะไรได้ยังไง”

หลี่ชิวอวี่มองเขาตั่งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเห็นว่าปลอดภัย นางยิ้มออกมาด้วยความไม่เต็มใจ “หลาวันมานี้ไม่สงบสุขเลย เจ้าจะนอนเพียงลำพังไม่ได้ ข้าจะดูแลเจ้าให้”

ตอนนี้หน้าต่างถูกเปิดออกจากด้านนอก

ผู้เชี่ยวชาญกระดูกสองคนพุ่งเข้ามาแล้วกล่าวกับหลี่ชิวอวี่ว่า “ท่านหญิงดึงกระดูก การป้องกันทั้งหมดถูกตระเตรียมไว้แล้ว”

“อืม ระวังด้วย” หลี่ชิวอวี่กล่าว

ทั้งสองคนรับคำสั่ง

กู่ฉิงซานกวาดจิตเทพออกไปจนเห็นว่าข้างนอกถูกห้อมล้อมโดยกองทหารยาม ข้างในมีสามชั้น ข้างนอกมีสามชั้น

เขาทำเป็นไม่รู้อย่างเป็นธรรมชาติก่อนถามด้วยความสงสัยว่า “พี่ชิวอวี่ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ”

หลี่ชิวอวี่ยังไม่ทันหาเหตุผลมาตอบได้ อีกคนก็พุ่งเข้ามาจากหน้าต่าง

จ้าวเฉียง

“พวกเขาปลอดภัย แค่แผลเป็นน่ะ น่าเสียดายที่พวกเขาต้องไปอยู่แนวหน้า ทำให้ไม่สามารถพักฟื้นได้สักพัก ส่งผลให้ต้องใช้เวลารักษานานขึ้น” จ้าวเฉียงเริ่มกล่าวขึ้น

น้ำตาของหลี่ชิวอวี่พรั่งพรูออกมาทันที

นางเช็ดน้ำตาอย่างไม่ใส่ใจก่อนกล่าวอย่างสงบว่า “ข้าไม่อยากตาย ตอนนี้จ้าวสำนักไม่อยู่ พี่ใหญ่กับนักดาบนิรันดร์ยังมาบาดเจ็บอีก ถ้างั้น ข้าก็ต้องปกป้องซานหลาง”

“ท่านคนเดียวไม่พอหรอก” จ้าวเฉียงกล่าว

นางเดินไปหาหลี่ชิวซานก่อนแตะใบหน้าที่ยังไม่โตเต็มวัยแล้วกล่าวว่า “ข้าจะอยู่ด้วย”

ครั้งนี้ หลี่ชิวอวี่ไม่ปฏิเสธ เพียงแค่กล่าวว่า “เอาเถอะ เจ้ามีความรู้เรื่องวิชากระดูกเหนือกว่าข้า แต่เจ้าไม่สามารถต่อสู้ได้ หากมีการต่อสู้ในครั้งต่อไป เจ้าช่วยข้าในการใช้งานวิชาที”

“อืม ข้าถนัดเรื่องนี้อยู่แล้ว” จ้าวเฉียงตอบ

หลี่ชิวซานมองจ้าวเฉียงและหลี่ชิวอวี่อีกครั้งจนอดที่จะถามไม่ได้ว่า “กู่ฉิงซานมาที่นี่อีกแล้วหรือ”

สองสาวพยักหน้า

เรื่องแบบนี้ ถ้าหลี่ชิวซานไม่ถูกขังในห้อง เขาย่อมไม่สามารถซ่อนตัวจากอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน

การเคลื่อนไหวเมื่อครู่ดังสนั่นเกินไป ทั้งสำนักจึงทราบเรื่องกันหมด

แต่หลี่ชิวซานกระโดดออกจากเตียงแล้วเดินออกมาพร้อมตะโกนว่า

“ข้าต้อสาปแน่ๆ ! ปล่อยข้าไป หากยังอยู่ที่นี่ กู่ฉิงซานต้องทำร้ายพวกท่านแน่ๆ !”

สองสาวรีบคว้าตัวเขาเอาไว้

“ชิวซาน กู่ฉิงซานจะพาเจ้าไปสุสานนะ! นั่นคือสถานที่แห่งความตาย วันสิ้นโลกมันคือสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถขัดขืนได้!” จ้าวเฉียงกล่าว

หลี่ชิวอวี่กล่าวว่า “เจ้าห้ามออกไปไหน ขอแค่ข้า หลี่ชิวอวี่ ยังมีลมหายใจ จะไม่มีใครหน้าไหนมารังแกเจ้าได้!”

กู่ฉิงซานหันมองกลับไปยังผู้หญิงคนที่สอง

ใบหน้าของพวกนางเต็มไปด้วยความวิตก หวาดกลัวและหวาดหวั่น แต่ก็แน่วแน่เช่นกัน

จ้าวเฉียงกล่าวช้าๆ ว่า “วันสิ้นโลกกำลังจะมาเยือน เจ้าไม่สามารถวิ่งไปทั่วได้จริงๆ ”

“วันสิ้นโลกหรือ” หลี่ชิวซานถาม

หลี่ชิวอวี่ตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “ใช่ นั่นคือวันสิ้นโลกที่มีเพียงพี่ใหญ่กับนักดาบนิรันดร์เท่านั้นที่สามารถขัดขืนได้ นอกจากพวกเขา ใครก็ตามที่ออกไปในคราวนี้จะมีแต่พบกับความตาย! ดังนั้นเจ้าต้องอยู่ห้องกับข้า”

กู่ฉิงซานถูกลากกลับไปนั่งบนเตียง

ความจริง โลกคือการคัดสรรของธรรมชาติ ในยุคแห่งวันสิ้นโลก มันคือความอยู่รอดของผู้ที่เหมาะสมที่สุด

สัตว์ประหลาดที่หลบหนีจากสุสานจะต้องรอดจากวันสิ้นโลกจนมีชีวิตอยู่ได้

เผ่าพันธุ์มนุษย์เหล่านี้ในถ้ำหมื่นอสูรพยายามเอาตัวรอดเช่นกัน

เสือกินแกะ ปลวกแทะต้นไม้

ทั้งหมดก็เพื่อความอยู่รอด

ใครล่ะที่ผิด

กู่ฉิงซานจมสู่ห้วงความคิด

นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะ ไม่ควรทำอะไรที่เกินตัว

ถ้าเป็นไปได้ก็ควรซ่อนอยู่หลังฉากแล้วลงมือเมื่อทุกคนไม่ให้ความสนใจ

ถ้าเช่นนั้น สิ่งที่ต้องเสียก็น้อยมาก แต่ประสิทธิผลกลับสูงยิ่ง

เพราะถ้าตัดสินใจจะปกปิดแล้ว ด้วยการพึ่งประสบการณ์หลายปี รวมถึงพลังเหนือธรรมชาติของจี้น้ำเต้าหยกและขุนเขาเซียวหมี: จักรพรรดิส้ม ความลึกลับของทุกชีวิต ย่อมสามารถทำให้ทุกคนไม่สามารถตามหาตัวเจอได้

ศัตรูจะไม่มีทางรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

แต่ตอนนี้มันต่างออกไปเล็กน้อย...

เขาก้มศีรษะขระกำหมัดเบาๆ

หนึ่งอึดใจ

สองอึดใจ

สามอึดใจ

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยพลันผุดขึ้นมา

“ท่านได้รับความรู้: วิชาหมัดลึกลับหกวิถี”

“ท่านเต็มใจจ่ายพลังวิญญาณสิบล้านแต้มเพื่อทำความเข้าใจวิชาหมัดลึกลับหกวิถี: ไม่สมบูรณ์ หรือไม่”

“เต็มใจจ่าย” กู่ฉิงซานกล่าว

“กำลังทำความเข้าใจวิชาหมัด โปรดรอสักครู่”

สองสาวมองหลี่ซานหลางขณะนั่งลงบนเตียง ทั้งสองไม่พูดอะไรด้วยความกังวลเล็กน้อย

หลี่ชิวอวี่แตะศีรษะของเขาแล้วกล่าวว่า “อย่ากลัวไปเลย จ้าวสำนักอาจจะกลับมาในไม่ช้า”

จ้าวเฉียงกล่าวเช่นกันว่า “ซานหลาง พักผ่อนเยอะๆ เจ้าอยู่กับพี่ใหญ่และข้าแล้ว ไม่มีอะไรต้องกลัว”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นก่อนยิ้มให้สองสาว

เขากล่าวช้าๆ ว่า “พี่จ้าว ข้าเห็นว่าชิ้นส่วนกระดูกของท่านเขียนไว้ว่าเมื่อคนที่ใช้พลังจิตอยู่ในสภาพตื่นขึ้น มันจะมีสัญญาณพิเศษเกิดขึ้นใช่หรือเปล่า”

จ้าวเฉียงพยักหน้าแล้วตอบว่า “เจ้ารู้แจ้งช้าเกินไปหน่อย ที่จริง นี่คือสิ่งที่ใครๆ ก็รู้ พวกคนแข็งแกร่งเหล่านั้นมีกลิ่นอายพิเศษที่เป็นกลิ่นอายดั้งเดิมของหกวิถี ไม่มีทางปลอมแปลมได้อย่างแน่นอน”

ทันใดนั้น

นางขยับสายตารอบห้องช้าๆ พร้อมกับหลี่ชิวอวี่

ลม

พวกนางไม่รู้เลยว่าลมมาจากไหน แถมยังพัดพาได้ตามต้องการอีก

แสงเลือนรางแผ่ออกมาจากเด็กหนุ่ม ทั่วห้องสว่างไสวท่ามกลางสายลม

“แบบนี้หรือ”

เด็กหนุ่มถาม

………………………………………