ตอนที่ 1209 เวลาอันว่างเปล่าที่ปราศจากจุดเริ่มต้น
มันแตกต่างจากโลกผืนป่ากว้างใหญ่ที่กู่ฉิงซานอยู่
ในโลกความฝันอีกแห่ง
ทั่วทั้งโลกคือเมืองขนาดใหญ่ที่ปราศจากมิตรสหาย
เย่เฟยหลีเคลื่อนลงมาจากท้องนภาก่อนลงสู่ตรอกที่แคบและมืด
ใบหน้ามนุษย์ขนาดใหญ่ที่เกิดจากหัวจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าขณะมองมาทางเขา
“เอาสิ คนของความโกลาหล ผู้ทำลายล้างโลก มนุษย์ที่แสนธรรมดาและเล็กจ้อย ขอข้าดูหน่อยว่าเจ้าสามารถทำอะไรได้บ้าง”
หลังจากพูดจบ ใบหน้ามนุษย์ขนาดใหญ่หายไป
นาฬิกาสีขาวดำปรากฏขึ้นจากอากาศบางขณะลอยอยู่หน้าเย่เฟยหลี
ในความว่างเปล่า แถวตัวอักษรสีเทาขนาดเล็กปรากฏขึ้น
“การทดสอบความฝันนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ”
“ท่านได้รับสิ่งประดิษฐ์วิญญาณระดับความฝัน: นาฬิกาบาป เวลาอันว่างเปล่าที่ปราศจากจุดเริ่มต้น”
“ท่านสามารถทำอะไรก็ได้ในเมืองนี้”
“นาฬิกาบาปจะค่อยๆ ให้คะแนนตามผลงานของท่าน”
“คะแนนต่ำสุดคือ 0:00 คะแนนสูงสุดคือ 12:00”
“ท่านต้องหาทางเพิ่มคะแนนจาก 0:00 ไป 12:00 ภายในสิบสองชั่วโมง”
“มีเพียงวิธีนี้ ท่านจึงจะสามารถได้รับสิ่งประดิษฐ์วิญญาณระดับความฝันนี้และสุดยอดเมล็ดพันธุ์แห่งพลังโกลาหลที่มอบให้โดยผู้รอคอย”
“จะว่าไป พละกำลังของท่านถูกคลายแล้ว”
“ขีดจำกัดสูงสุดของพละกำลังส่วนตัวในโลกใบนี้เป็นสามเท่าของพละกำลังต่อสู้ส่วนตัวของท่าน”
“จงแสดงอย่างสุดกำลัง”
ข้อความทั้งหมดแสดงขึ้นก่อนหายไปในไม่ช้า
เย่เฟยหลียื่นมือออกไปสวมนาฬิกาที่ข้อมือข้างซ้าย
“ออกจะยากไปหน่อยที่ใช้ระบบคะแนนโดยไม่ให้คำใบ้ใดๆ แล้วพวกเราจะเพิ่มคะแนนได้ยังไงล่ะ”
เย่เฟยหลีกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว
นอกตรอก มีเสียงระเบิดดังอย่างต่อเนื่อ
เสียงไซเรนตำรวจแหบพร่า
เสียงปืน
เสียงกรีดร้อง
เสียงไล่ล่า
อีกทั้ง
เสียงอยู่ใกล้มาก
“รีบส่งเงินมาซะ!”
เย่เฟยหลีหันศีรษะไปมอง
ชายร่างใหญ่สองคนถือมีดเอาไว้ขณะผลักชายร่างผอมไปที่มุมมุมหนึ่ง
“ส่งเงินทั้งหมดที่เจ้ามีมา ไม่อย่างนั้นได้ลงหลุมแน่”
“ให้มันไวๆ !”
ทั้งสองกดเสียงลง
ชายร่างผอมคุกเข่าลงกับพื้นก่อนขอร้องว่า “พี่ชายทั้งสอง ค่อยๆ พูดค่อยๆ จา”
“หยุดพูดจาเหลวไหลได้แล้ว!” ชายร่างใหญ่ตะโกนขณะโบกมีดไปมา
เขาชูมีดขึ้นก่อนแทงตรงไปที่ชายร่างผอม
ตัง!
แสงสีแดงวูบไหว
มีดในมือของชายร่างใหญ่พลันกระเด็น
การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้พวกเขาทั้งสองอดที่จะมองไปทางที่แอสงสีแดงพุ่งมาไม่ได้
ชายหนุ่มหล่อเหลายืนอยู่อีกฝั่งของถนน เขายกข้อมือขึ้นเพื่อดูเวลาบนนาฬิกา
“พวกมีพลังพิเศษหรือ ไปให้พ้น ตอนข้าใช้ความสามารถได้ เจ้ายังกินนมอยู่เลย” ชายร่างใหญ่อีกคนคำราม
เขาชักมีดสั้นออกมาจากเอว
บนมีดสั้น เปลวเพลิงค่อยๆ หมุนวนไปมา
มีดเพลิง!
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังของมีดเพลิง ในที่สุดเย่เฟยหลีก่อนเงยหน้าขึ้นมองพวกเขาสองคน
“ความสามารถพิเศษหรือ แม้แต่พวกกระจอกก็มีเหมือนกันหรือนี่”
เขาดูประหลาดใจเล็กน้อย
ตอนนี้ ชายร่างผอมที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นพลันกลายเป็นแอ่งน้ำโคลนก่อนไหลซึมเข้าไปในพื้นแล้วหายไปต่อหน้าทั้งสามคน
เย่เฟยหลีพึมพำว่า “ทุกคนมีพลังพิเศษงั้นหรือ”
เขายื่นนิ้วออกไป
นิ้วกลายเป็นลำแสงสีแดงก่อนถูกยิงออกไป
ชายร่างใหญ่คนนี้เพิ่งชูมีดขึ้นมา แต่ทั่วร่างของเขาถูกสับเป็นชิ้นๆ เพราะลำแสง
สหายของเขาถูกลำแสงเล่นงานจนเสียศีรษะในพริบตา
“โทษที พวกเจ้ายังกินนมอยู่ตอนที่ข้าใช้ความสามารถได้”
เย่เฟยหลีกล่าวขอโทษ
เขายังคงมองนาฬิกา
เข็มชั่วโมงและนาทีไม่ขยับ เข็มวินาทีเริ่มขยับไปข้างหน้าหนึ่งขั้น
แถวตัวอักษรสีเทาขนาดเล็กปรากฏขึ้น
“ตามการกระทำของท่าน ท่านได้เข้าสู่นาทีแรก”
“ท่านเริ่มต้นได้ดี”
“ประกอบกับคุณสมบัติส่วนตัวของท่าน นาฬิกาบาปจึงมอบพลังพิเศษแรกให้”
“หน้ากากตัวตลก”
“กฎเกณฑ์แห่งเหตุและผล: เมื่อท่านสวมหน้ากากนี้ สามารถให้ทุกคนปฏิบัติต่อท่านแบบเดียวกันได้”
“ระยะเวลา: หนึ่งนาที”
“ความสามารถนี้สามารถใช้ได้หนึ่งครั้งต่อวันเป็นเวลาสิบนาที”
“ในกระบวนการใช้ความสามารถนี้ ท่านต้องฆ่าอย่างน้อยหนึ่งตัวตนที่ปฏิบัติต่อท่านแบบเดียวกันเพื่อทำให้กฎเกณฑ์แห่งเหตุและผลพึงพอใจ”
“หากท่านใช้ความสามารถแล้วไม่ได้ฆ่าคน ‘แบบเดียวกัน’ กับที่ท่านหลอกล่อมา หน้ากากตัวตลกจะพรากชีวิตของท่านไปสิบปี”
“เมื่อท่านโจมตีคน ‘แบบเดียวกัน’ ผลของหน้ากากจะหายไป”
“หมายเหตุ: รูปทรงของหน้ากากสามารถเปลี่ยนได้ตามที่ต้องการ”
เย่เฟยหลีอ่านจบอย่างรวดเร็วก่อนพึมพำกับตัวเองว่า “เกินกว่าที่จินตนาการนิดหน่อยแหะ… เหมือนเข้าสู่เนื้อเรื่องลับของเกมเลย…”
ถ้าทุกนาทีบนหน้าปัดนี้คือพลังพิเศษของระดับเหตุและผล เช่นนั้นนาฬิกานี้ที่ชื่อว่า ‘นาฬิกาบาป’ จะต้องมีพลังเหตุและผลทั้งสิ้นเจ็ดร้อยยี่สิบแบบ!
นี่มันเหลือเชื่อนัก!
ทว่า สิ่งเหล่านี้ต้องการหลักฐานเพิ่มเติม
ตอนนี้ เสียงอึกทึกภายนอกยิ่งมายิ่งดัง การต่อสู้ดุเดือดคล้ายกับกระจายไปทุกทิศทาง
เย่เฟยหลีเดินไปที่ทางเข้าตรอกก่อนมองออกไป
เขาเห็นหลายสิบคนในชุดเครื่องแบบตำรวจกำลังรีบหลบหนี
ด้านหลังพวกเขา รถตำรวจเจ็ดถึงแปดคันถูกทำลายยับเยิน
ซากศพถูกโยนออกมาจากธนาคาร
“หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ!”
ตำรวจนายหนึ่งอุทาน
ซากศพเต็มไปด้วยรู ไม่รู้ว่าถูกยิงไปกี่นัด มันทำให้ถึงแก่ความตายจนไม่รู้จะตายได้อย่างไรแล้ว
เสียงหนึ่งมาจากอธนาคาร “ถ้ากล้าโจมตีอีก พวกข้าจะฆ่าคนที่เหลือ!”
“อยู่ให้ห่างจากข้า!”
“พวกขยะ เงินทั้งหมดเป็นของพวกข้า!”
มีเสียงหัวเราะบ้าคลั่งมาจากธนาคาร
ตำรวจก้มศีรษะก่อนหายไปอย่างรวดเร็ว
“วิ่ง นี่คือการต่อสู้ส่วนตัวของพวกเบื้องบนเหล่านั้น พวกเราไม่สามารถควบคุมได้”
“ใช่ๆๆ พวกเราแค่รักษากฎระเบียบ แต่กับคนร่างใหญ่เหล่านั้น…”
ตำรวจสองนายผ่านตรอกขณะสนทนาเสียงต่ำ
เย่เฟยหลีพิงกับกำแพงขณะฟังเงียบๆ
สถานการณ์คล้ายกับซับซ้อนพอสมควร…
เขาก้มมองนาฬิกาที่มีชื่อว่า “นาฬิกาบาป”
เข็มชั่วโมงบนนาฬิกาไม่ขยับ เข็มวินาทีวนครบหนึ่งรอบก่อนจะหยุดลงอีกครั้ง
เข็มนาทีขยับไปข้างหน้าหนึ่งครั้ง
หนึ่งนาทีแรก
ต้องใช้เวลาอีกเจ็ดร้อยสิบเก้านาทีถึงจะได้สิ่งประดิษฐ์วิญญาณระดับความฝันนี้
…
“คนที่อยู่ข้างในจงฟัง พวกเจ้าถูกล้อมแล้ว การวางอาวุธลงแล้วยอมมอบตัวเป็นทางออกเดียวของพวกเจ้า”
พวกอันธพาลมองออกมานอกธนาคาร
ในจัตุรัสธนาคารที่ยุ่งเหยิง รถตำรวจคันหนึ่งพลิกคว่ำลงกับพื้น
ข้างรถตำรวจที่ยังอยู่ในสภาพดีมีชายคนหนึ่งยืนอยู่เพียงลำพัง
เขาคือคนเป็นเพียงคนเดียวในจัตุรัส
เขาถือลำโพงในมือแล้วพูดเสียงดังว่า “ย้ำอีกครั้ง คนที่อยู่ข้างในจงฟัง พวกเจ้าถูกล้อมแล้ว การวางอาวุธลงแล้วยอมมอบตัวเป็นทางออกเดียวของพวกเจ้า”
ถูกล้อมหรือ
เจ้าตัวคนเดียวแท้ๆ กล้ามาพูดว่าล้อมพวกข้าได้อย่างไร
พวกอันธพาลอดที่จะมองชายคนนั้นไม่ได้
ชายคนนั้นรูปร่างสมส่วนและสวมหน้ากากไว้บนใบหน้า
ดวงตากลวง ใบหน้าหมองหม่น จมูกคล้ายกับจะงอยแหลมยาว ปากเป็นรอยยิ้มแข็งทื่อ
นี่คือหน้ากากตัวตลกที่มีจมูกคล้ายกับจะงอยแหลมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม จะดูเหมือนคนมีความสุขก็ไม่ใช่ จะดูเหมือนคนไม่มีความสุขก็ไม่เชิง เป็นสีหน้าที่ยากจะอธิบาย
พวกอันธพาลทั้งหมดนิ่งไปชั่วขณะ
“พวกเดียวกัน อย่าลงมือ!”
“พวกเดียวกัน”
“พวกเดียวกัน!”
“ฮ่าๆ เขานี่อารมณ์ขันจริงๆ ถึงขั้นแสร้งมาเป็นตำรวจด้วย!”
พวกเขารีบส่งสัญญาณให้กัน
ตัวตลกโยนลำโพงอย่างไม่ใส่ใจไปข้างหลังก่อนกระโดดไปตามทางจนมาถึงธนาคาร
“จะมาล่าตำรวจพวกนั้นหรือ”
พวกอันธพาลจ้องตัวตลกก่อนเผยรอยยิ้มแล้วกล่าวเช่นนั้นออกมา
“อา ใช่ คนพวกนั้นรู้ว่ามีคนใหญ่โตหนุนหลังพวกเราแท้ๆ แต่ยังกล้ามายั่วโมโหอีก มันช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ ” ตัวตลกถอนหายใจ
“ฮ่าๆๆๆ !” พวกอันธพาลพากันหัวเราะ
กระจกกันกระสุนของเคาน์เตอร์ธนาคารถูกรื้อจนหมด ทั่วล็อบบี้กลายเป็นลานโล่ง
ซากศพของหน่วยปฏิบัติการพิเศษย้อมพื้นไม้ให้กลายเป็นสีแดง
ตัวประกันจำนวนมากถูกสังหาร มีเพียงผู้หญิงไม่กี่คนที่ยังเหลืออยู่ พวกนางซ่อนอยู่ที่มุมห้องพลางร้องสะอื้น
ตัวตลกยังคงมองรอบข้างขณะจดจำตำแหน่งของพวกอันธพาลทั้งหมดเงียบๆ
“แล้วเจ้าได้ฆ่าคนพวกนั้นไปบ้างหรือเปล่า” ใครบางคนถามเสียงดัง
ตัวตลกสะอื้น
“อา โทษที ข้าไม่ได้ฆ่าพวกมัน แต่ข้าสามารถจัดให้ได้อีกรอบ”
เขาตอบอย่างเศร้าโศกขณะเอื้อมมือไปคว้าตะขอยาวจากความว่างเปล่า
ตะขอลืมเลือนวิญญาณ!
แสงสีแดงโลหิตเลือนรางสาดส่องไปมา พวกมันวูบไหวก่อนหายไปในโถงธนาคารราวกับขลาดกลัว
พวกอันธพาลทั้งหมดนอนขดอยู่บนพื้น
ตัวตลกเหาะกลับที่เดิมก่อนเคลื่อนลงมา
เขามองวิญญาณที่หวาดกลัวบนตะขอลืมเลือนวิญญาณด้วยความพึงพอใจ
ตัวตลกกล่าวด้วยความยินดีอย่างบ้าคลั่งว่า “เช่นนั้น ข้าจะส่งพวกเจ้าไปเกิดใหม่ เมื่อเติบใหญ่อีกครั้ง พวกเจ้าถึงค่อยมาหาข้า”
“ข้าสัญญา ข้าจะทำให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป”
ตัวตลกกำลังจะปล่อยพลังของตะขอลืมเลือนวิญญาณเพื่อสลายวิญญาณเหล่านี้ให้สิ้น แต่เขากลับได้สติเพราะเสียงเสียงหนึ่ง
“โปรดเมตตาด้วย!”
เสียงผู้ชายดังขึ้นอย่างแผ่วเบา
ภาพมายาพุ่งออกจากร่างของผู้นำพวกอันธพาล
ภาพมายากลายเป็นเค้าโครงชัดเจน
เป็นชายวัยกลางคนสวมชุดดูดี
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามาจากไหน แต่ข้าอยากให้เจ้ารู้ว่าพวกเขาคือคนของข้า” ชายวัยกลางคนกล่าว
“เจ้าเป็นใคร” ตัวตลกถามด้วยความสงสัย
ชายวัยกลางดูประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขากลับมาสงบอย่างรวดเร็ว
“ขนาดเจ้ายังไม่รู้… ดูท่านี่จะเป็นอุบัติเหตุล่ะนะ”
“เอาเถอะ ข้าจะบอกให้รู้ละกัน ข้าคือหัวหน้าผู้พิพากษาของเมืองบาปแห่งนี้”
ตอนนี้ตัวตลกสงสัยยิ่งกว่าเดิม
เขาโบกตะขอยาวขณะชี้ไปที่ซากศพของพวกอันธพาลแล้วถามว่า “ท่านหัวหน้าผู้พิพากษา การบังคับใช้กฎหมายของท่านช่างดั้งเดิมเสียจริง”
ชายวัยกลางคนกล่าวว่า “เมืองนี้เต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนเน่าเฟะและการก่ออาชญากรรมชั่วช้า บางครั้งเรื่องพวกนี้จะได้รับการอภัยโทษจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมือง ข้าผู้เป็นตัวแทนอำนาจอันชอบธรรมของกฎหมายจะไม่ยอมให้พวกนี้มากดขี่ผู้อื่นเด็ดขาด”
ตัวตลกถามว่า “เพราะงั้นก็เลยทำแบบนี้สินะ”
ชายวัยกลางคนยิ้มแล้วตอบว่า “ใช่ พวกเขาถึงกับทำแบบนี้เพื่อความยุติธรรม ดังนั้นโปรดยกโทษให้พวกเขาด้วย มาลงที่ข้าคนเดียวพอ”
ตัวตลกมองซากศพของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จากนั้นชี้ไปที่ซากศพของตัวประกันด้วยตะขอยาวแล้วถามด้วยน้ำเสียงสับสนว่า “ท่านเรียกการทำแบบนี้ว่าความยุติธรรมหรือ”
ชายวัยกลางคนตอบว่า “เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า บางคนจึงต้องเสียสละ”
ตัวตลกยกตะขอลืมเลือนวิญญาณขึ้นช้าๆ
ตูม!
ตะขอยาวสั่นไหว
แสงหมองหม่นทะลวงผ่านโลกก่อนแสดงแม่น้ำกว้างใหญ่ไร้พรมแดน
วิญญาณพวกอันธพาลหลายสิบคนถูกแม่น้ำกว้างใหญ่ดูดเข้าไป จากนั้นพวกเขาตกลงไปในแม่น้ำก่อนถูกพัดพาไปที่นรก
แสงสว่างรวมตัว
ภาพทั้งหมดหายไป
“ดีมาก เจ้ากำลังขัดขืนข้าเพื่อสู้กับความยุติธรรมเพียงหนึ่งเดียวในเมืองนี้” ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยสีหน้าหมองหม่น
ตัวตลกเดินไปหาชายวัยกลางคนขณะเกี่ยวตะขอยาวบนซากศพของผู้นำพวกอันธพาล เขามองดูด้วยความทะนุถนอมก่อนถอยกลับไปข้างหลังช้าๆ
“ขอโทษด้วย ท่านผู้พิพากษา ต่อให้ท่านจะทำเพื่อความยุติธรรม แต่ข้าก็คงไว้หน้าไม่ได้”
ตัวตลกกล่าวขอโทษ “เพราะข้าคือตัวแทนความชั่วร้าย การฆ่าคนทำให้ข้ามีความสุข”
ทันทีที่สิ้นเสียง นาฬิกาในมือขยับเล็กน้อย เข็มวินาทีและเข็มนาทีเริ่มขยับอย่างรวดเร็ว
…………………………….