ตอนที่ 1101 ทำให้นางหัวเราะ!
“อากาศดีงั้นหรือ”
ยักษ์เงยหน้ามองท้องนภาด้วยความประหลาดใจ
เหนือทะเลหมู่เมฆ มีเพียงความว่างเปล่า
สีขาวบริสุทธิ์ว่างเปล่ายิ่ง มองไม่เห็นสุดจุดสิ้นสุด
“อากาศแบบนี้ ถ้าเจ้าชินเมื่อไหร่เดี๋ยวก็เบื่อเอง” ยักษ์เบนสายตามาจ้องกู่ฉิงซานแล้วกล่าวว่า “ช่างเถอะ เวลาคือเงิน ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วว่าจะตัดสินใจยังไง”
กู่ฉิงซานมองหนังสือมอบอำนาจในมือ สีหน้าอมทุกข์
“ทำไมล่ะ เกิดขี้ขลาดขึ้นมาหรือ” ยักษ์ตาเดียวถาม
“ไม่ใช่แบบนั้น” กู่ฉิงซานถอนหายใจ “ข้าไม่มีปัญหาเรื่องการต่อสู้ แต่งานนี้ดูเหมือนจะคงอยู่มาหลายปี ไม่มีใครสามารถทำได้ ข้าไม่มีประสบการณ์และไม่มีความเข้าใจเรื่องนี้ ดังนั้นข้าจึงมีความมั่นใจไม่มากว่าจะสามารถทำได้”
“ไม่นานนะ งานนี้เพิ่งออกมาราวหนึ่งร้อยเก้าสิบล้านปีก่อนเอง”
ขณะพูด ยักษ์ตาเดียวชูสองนิ้ว ถือหอกหลากสีสันเอาไว้ตรงหว่างนิ้วเพื่อนำมาแสดงตรงหน้ากู่ฉิงซาน
ยักษ์กล่าวว่า “อาวุธอยู่ที่นี่แล้ว เจ้าสามารถตัดสินใจได้ว่าจะรับงานนี้หรือเปล่า”
กู่ฉิงซานมองหอกหลากสีสัน
“ชะ… ช่วย… ข้า…”
เสียงดังมาจากความว่างเปล่า
…นี่คือหอกหลากสีสัน
กู่ฉิงซานส่ายหน้า
มันคือกุญแจที่จะจัดการวิญญาณกรีดร้อง เขาจะยอมแพ้ได้อย่างไร
“เอาเถอะ ข้าจะยอมรับงานแล้วลองดู แต่ข้าไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำได้หรือเปล่า” กู่ฉิงซานกล่าว
ยักษ์ไม่ขยับ แต่ปากกาปรากฏตรงหน้ากู่ฉิงซาน
“ลงนาม” ยักษ์กล่าว
กู่ฉิงซานลงนามในหนังสือมอบอำนาจ
ยักษ์หรี่ตาขณะมองกู่ฉิงซานลงนามจนเสร็จ จากนั้นมันกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “หนึ่งร้อยเก้าสิบล้านปีก่อน นางฟ้าที่แข็งแกร่งที่สุดในสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้เป็นที่รักของบิดาบนสวรรค์ จ้าวแห่งความเงียบสงัด นางฟ้าขับขานนามว่าชวงผู้เคยไปโลกธุลีเพียงลำพัง”
“นางแตกต่างจากข้า… ข้าซ่อนอยู่ในหมู่เมฆเพื่อหลีกเลี่ยงวันสิ้นโลก แต่นางตัดสินใจที่จะตามหาพละกำลังใหม่เพื่อต่อสู้กับวันสิ้นโลก”
“สถานที่เช่นชั้นเมฆ หากไม่แข็งแกร่งพอก็จะผ่านไม่ได้ แต่นางผ่านชั้นเมฆจนไปถึงโลกธุลีได้สำเร็จจนน่าอัศจรรย์”
“จากนั้น…”
“นางก็โดนสาป”
“ใช่ นางได้รับพละกำลังไร้ใครเทียบมา แต่เมื่อกลับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ทั่วร่างของนางกลายเป็นหินต้องสาป มีเพียงศีรษะที่ยังสมบูรณ์”
“เมื่อเห็นว่านางกำลังจะตาย บิดาบนสวรรค์ไม่อาจช่วยอะไรได้ ดังนั้นเขาจึงสร้างช่วงเวลาที่นางยังมีชีวิตอยู่จากแม่น้ำแห่งกาลเวลาเพื่อทำการตั้งถิ่นรกรากขึ้นมาใหม่”
“เกาะแห่งเวลาหรือ” กู่ฉิงซานขัด
ยักษ์ชำเลืองมองเขาด้วยความคาดไม่ถึงแล้วตอบว่า “ใช่ นับตั้งแต่นั้นมา นางฟ้าขับขานจะคงอยู่ในช่วงเวลานั้นเสมอ หากมีใครที่สามารถคลายคำสาปนางได้ เกาะแห่งเวลาจะหายไป”
กู่ฉิงซานมองหนังสือมอบอำนาจแล้วถามว่า “ภารกิจของข้าคือ… ทำให้นางฟ้าขับขานหัวเราะหรือ”
“ใช่ ถึงแม้ทุกคนจะไม่สามารถรักษาคำสาปของโลกธุลีได้ แต่บิดาบนสวรรค์ก็ไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้ธิดาตัวเองเผชิญกับเรื่องแบบนี้ เขาใช้ความพยายามมากมายเพื่อขอให้ใครสักคนมาทำนายว่าจะสามารถคลายคำสาปได้หรือเปล่า”
“ผลจากคำทำนายคือทำให้นางหัวเราะจากใจจริง… ขอแค่นางหัวเราะจากใจจริง คำสาปจะคลายทันที”
ยักษ์ลดเสียงลงแล้วกล่าวว่า “ทุกคนเดาว่านี่หมายความได้อย่างหนึ่ง ในภาษามนุษย์อย่างพวกเจ้า มันหมายถึงการจีบนาง”
กู่ฉิงซานทำสมาธิแล้วกล่าวว่า “ข้าเคยได้ยินเรื่องเจ้าหญิงนิทรามาก่อน”
ยักษ์จิ้มอกของเขาทันทีแล้วเตือนว่า “เจ้าทำได้แค่ทำให้นางยินดีเท่านั้น อย่าคิดเรื่องอื่นเด็ดขาด… ถ้าเจ้ากล้าจูบนางก่อนที่คำสาปจะคลาย ข้าสัญญาเลยว่าเจ้าจะไม่สามารถแบกรับสิ่งที่ตามมาได้จนอาจต้องทำสงครามกับบิดาบนสวรรค์”
“ข้าไม่ใช่คนแบบนั้น แค่บอกว่ามันเหมือนนิดหน่อย” กู่ฉิงซานปกป้องตัวเอง
“ยักษ์กล่าวว่า “จำให้ดี เพียงแค่ทำภารกิจยากลำบากนี้ให้สำเร็จก็จะสามารถได้เงินจำนวนมากจากบิดาบนสวรรค์ แถมยังได้แท่งหลากสีสันนั่นด้วย”
“ดังนั้นไปเสีย ไปช่วงเวลาหนึ่งร้อยเก้าสิบล้านปีก่อนแล้วจบเรื่องนี้ให้ได้!”
ยักษ์ท่องคาถ
หนังสือมอบอำนาจในมือของกู่ฉิงซานพลันมีไฟลุก
เปลวเพลิงปกคลุมเขาก่อนหายไปจากจุดเดิมทันที
ยักษ์เงียบสักพัก จากนั้นพลันกระซิบว่า “ดูท่าจะเป็นพลังฝั่งแปลกประหลาด… พลังของโลกธุลีสู่พลังของโลกธุลีของอีกฝั่ง…”
“ข้าหวังว่าจะไม่ได้ทำผิดไป…”
เมื่อยักษ์กล่าวเช่นนี้ มันเพียงรู้สึกว่าเส้นขนบนแผ่นหลังตั้งชูชันจนร่างอดที่จะสั่นสะท้านไม่ได้
…
อีกด้าน
หนึ่งร้อยเก้าสิบล้านปีก่อน
กู่ฉิงซานพบว่าตัวเองยืนอยู่หน้าสะพานแขวน
สะพานถูกล็อคด้วยประตูเหล็ก ทำให้ผ่านไม่ได้
ที่อีกด้านของสะพาน มหาวิหารโอ่อ่าลอยอยู่กลางอากาศ
ใครบางคนยืนอยู่นอกประตูเหล็กอยู่ก่อนแล้ว
ตอนกู่ฉิงซานปรากฏตัวครั้งแรก คนเหล่านี้มองกู่ฉิงซาน แต่ไม่ช้าก็เมินเขาอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะได้ยินว่าพวกเขาพูดอะไร มีเสียงมาจากท้องนภา
“คนกลุ่มนี้มากพอแล้ว ปิดเกาะ”
“ขอรับ”
กู่ฉิงซานเงยหน้ามอง
เขาเห็นผู้ชายในชุดคลุมสีขาวกำลังยืนอยู่ในอากาศโดยใบหน้าซ่อนอยู่ในฮู้ด
ลำแสงหลายร้อยล้านสายก่อตัวเป็นสองปีกที่ด้านหลัง เผยความโอ่อ่าไร้ที่สิ้นสุดออกมา
ผู้ชายหยิบกองจดหมายแต่งตั้งขึ้นมาก่อนเริ่มกล่าวจากอันบนสุดว่า “คนแรก จ้าวขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ บุตรชาย เซิน”
ในฝูงชน ชายที่ชื่อว่าเซินยืนขึ้น
…นี่คือชายหล่อเหลาผู้มีขนนกลึกล้ำ
“ท่านพ่อ อย่าห่วงไปเลย ข้ามีสมบัติที่สามารถช่วยชวงได้” ผู้ชายกล่าว
“ข้าหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น หากเป็นความจริง ข้าจะตบรางวัลให้ตระกูลเจ้าอย่างงาม ไปเสีย” ผู้ชายบนท้องนภากล่าว
ประตูเหล็กตรงหน้าสะพานแขวนเปิดออก
เขาเห็นสะพานแขวนโดดเดี่ยวในอากาศนำไปสู่โบสถ์อันโอ่อ่า ข้างใต้สะพานคือหุบเหวที่มองไม่เห็น
ประตูโบสถ์เปิดออกอย่างช้าๆ
ทุกคนมองประตู เห็นรูปปั้นหินติดอยู่ในโถงโบสถ์พร้อมกับเปลวเพลิงเจิดจ้านับไม่ถ้วน
…แต่มันไม่ใช่รูปปั้นหินบริสุทธิ์ เพราะส่วนหัวยังเป็นมนุษย์อยู่
เขาสามารถมองเห็นผู้หญิงได้อย่างเลือนราง
“รอก่อนนะ ข้ามาช่วยแล้ว”
ขณะผู้ชายกล่าว เขาสาวเท้าไปบนสะพาน
เขาเดินบนสะพานไปได้เจ็ดแปดก้าว ทันใดนั้น ชุดเกราะทั้งหมดของเขาหายไป
จากนั้นมีเลือดเนื้อ
ท้ายที่สุด เหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้นที่ยังคงเดินต่อไป
ทุกคนอดที่จะอุทานออกมาไม่ได้
โครงกระดูกหันศีรษะมาชำเลืองมองทุกคน
“พวกเจ้าช่วยเงียบหน่อยจะได้หรือเปล่า ข้ากำลังจะไปรักษาพี่ชวงที่ทุกข์ใจ ต่อให้ไม่พูดผลลัพธ์ออกมา พวกเจ้าก็คงทราบผลลัพธ์อยู่แล้ว”
คำพูดหัวกะโหลกถูกต้อง
สายลมพัดผ่าน
กลายเป็นว่าหัวกะโหลกหันกลับและเตรียมจะไปต่อ
สายลมพัดผ่านร่างกาย กระดูกทั้งหมดพลันแตกสลายก่อนร่วงลงพื้น
ทุกคนรอสักพัก
พวกเขาเห็นว่าเศษโครงกระดูกไม่ขยับไปไหน
กลายเป็นว่าเขาตายแล้ว
เสียงของบิดาบนสวรรค์ดังขึ้นในท้องนภา “ความยาวของสะพานอยู่ในระยะที่คำสาปบนร่างของนางฟ้าขับขานสามารถส่งผลได้”
“พวกเจ้าต้องหาทางผ่านสะพานจนถึงนางก่อนจึงสามารถสนทนากับนางเพื่อพยายามทำให้หัวเราะได้”
หลังจากพูดจบ บิดาบนสวรรค์หยิบหนังสือมอบอำนาจแผ่นที่สองขึ้นมาอ่าน “เผ่าวิญญาณบิน ราชาเผ่า เถิงเย่”
เขาเห็นชายร่างกำยำออกมา
เขาเย้ยหยันว่า “ไม่มีสมองเอาเสียเลย พึ่งแต่สมบัติมันจะไปมีประโยชน์อะไร”
หลังจากพูดจบ ร่างของเขาวูบไหวก่อนข้ามสะพานยาวไปในพริบตา
ทันทีที่ลงถึงพื้น ทุกคนเห็นทั่วร่างของเขากลายเป็นกระดูกสีขาว จากนั้นกระจายเป็นเถ้าลอยไปทั่ว
ในความว่างเปล่า ประโยคต่อมาของเขาเพิ่งดังออกมา
“เห็นไหม ข้ามาถึงแล้วใช่ไหมล่ะ”
เกิดความเงียบสงัด
ใครบางคนกัดฟันก่อนหายไปจากที่ที่เคยอยู่
บิดาบนสวรรค์ไม่ขยับขณะกล่าวอย่างเฉยชาว่า “หากเดินเร็วเกินไป พลังคำสาปจะซ้อนทับอย่างรวดเร็วจนระเบิดแรงมากขึ้น”
เขาหยิบหนังสือมอบอำนาจออกมาอีกครั้งแล้วอ่าน “หกอสุรา หูตู่หลัว”
คนที่สามออกม
เขาเห็นว่าอสุรานามว่าหูตู่หลัวตนนี้มีอาวุธอยู่ตรงแผ่นหลังมากมาย
ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาสาวเท้าไปบนสะพานแขวน
“ลุย!”
เสียงตะโกนสนั่นหวั่นไหวดังขึ้น
อสุราชักอาวุธออกมาแล้วเริ่มใช้มันทั้งหมด
พละกำลังและทักษะของเขาไปถึงจุดสูงสุด นำพลังแก่กล้านับไม่ถ้วนมาเกาะติดกับร่างไปตลอดทาง
พลังเหล่านี้เต็มไปด้วยความผันผวนชีวิต บางครั้งพวกมันคล้ายกับเสียงสาปส่ง บางครั้งคล้ายกับเสียงชรา
ภายใต้การสนับสนุนของพลังเหล่านี้ อสุราเดินข้ามสะพานแขวน
เขาทำสำเร็จ!
ทุกคนเผยสีหน้าคาดไม่ถึงออกมา
เขาเห็นว่าอสุราเดินเข้าไปในโบสถ์จนมาอยู่ตรงหน้านางฟ้าขับขาน
ขณะแสดงท่วงท่าต่างๆ มากมายอย่างสุดความสามารถ เขากล่าวว่า “นางฟ้าขับขาน โปรดหัวเราะด้วย”
นางฟ้าขับขานมองเขาแล้วถามอย่างเย็นชาว่า “ทำไมข้าควรหัวเราะล่ะ”
เสียงของนางเย็นชา แต่ยังคงไพเราะราวกับความฝันที่ยากจะลืมเลือน
อสุราเหาะมาอยู่กลางโบสถ์ ออกท่วงท่ามากมายแล้วตอบว่า “เจ้าสามารถคลายคำสาปได้ด้วยการหัวเราะ!”
นางฟ้าขับขานกล่าวอย่างผิดหวังว่า “เจ้าไม่ได้เข้าใจสถานการณ์เลยสินะ ข้าไม่สามารถหัวเราะเองได้”
อสุราหลั่งเหงื่อไม่หยุดขณะปล่อยท่าเด็ดไปมา พลังเหล่านี้หายไปจากโบสถ์อย่างเงียบงัน
เขางัดวิชาปัดเป่าหลายอย่างออกมาใช้กับนางฟ้าขับขาน
นี่คือวิชาปัดเป่าแข็งแกร่งที่สุดที่เขารู้จัก
แต่มันเปล่าประโยชน์ทั้งสิ้น
อสุราอดที่จะตะโกนออกมาไม่ได้ว่า “วิธีสุดท้าย ข้าจะเล่าเรื่องตลกให้ฟัง!”
นางฟ้าขับขานกล่าวว่า “เล่ามา”
อสุรากล่าวว่า “วันหนึ่ง หลังจากข้าฝึกฝนเสร็จก็ได้กลับบ้าน ข้าเล่าเรื่องตลกให้ภรรยาฟังบนเตียง ภรรยาไม่หัวเราะ แต่กลับมองข้าด้วยความวิตก เดาซิว่าเพราะอะไร”
นางฟ้าขับขานตอบอย่างเย็นชาว่า “มีผู้ชายอยู่ใต้เตียงแล้วหลุดหัวเราะเสียงดังออกมา”
อสุราตกตะลึงก่อนถามด้วยความไม่เต็มใจว่า “เจ้ารู้ได้ยังไงน่ะ”
นางฟ้าขับขานสะอื้น “ข้าเคยได้ฟังเรื่องตลกขบขันมาจากหลายร้อยล้านโลก แต่ไม่ว่ามันจะตลกขบขันแค่ไหน ข้าก็ทำได้เพียงเก็บพวกมันไว้ในใจ ไม่สามารถหัวเราะออกมาได้ เจ้าเข้าใจความเจ็บปวดนี้หรือเปล่า”
อสุราสั่นสะท้านไปทั่วร่างราวกับถูกเล่นงานเข้าอย่างจัง
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง ข้าถึงขนาดจดจำเรื่องตลกได้สามร้อยเรื่องเชียวนะ บัดซบ!”
ทุกคนเงียบ
เกิดความเงียบสงัด
กู่ฉิงซานเห็นร่างของบิดาบนสวรรค์ที่อยู่กลางอากาศสั่นสะท้านเช่นกัน
นางฟ้าขับขานคือนางฟ้าทรงพลังผู้รับหน้าที่ดูแลพลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย คอยขับร้องเพลงสรรเสริญให้บิดาและจัดการทุกสิ่งด้วยคำพูดกับวิชา ช่างบริสุทธิ์และงดงามนัก
ผลที่ได้ ตอนนี้นางคือจ้าวแห่งเรื่องตลกเพราะการคลายคำสาป
ส่วนเรนี่โดล หลังจากได้สมบัติจากโลกธุลีแล้ว ถึงแม้นางจะทรงพลังยิ่ง แต่ก็ยังสังหารเทพทั้งหมดทันที
…โลกธุลีน่าสะพรึงขนาดนั้นเลยหรือ
กู่ฉิงซานจมสู่ห้วงความคิด
ในโบสถ์ อสุรายังพยายามอย่างไม่ลดละ แต่ทันใดนั้น เขาพบข้อบกพร่องจากการเคลื่อนไหว
วินาทีต่อมา เมื่อเขาเคลื่อนไหวแต่กลับไม่มีพลังออกมาคุ้มกันจากความว่างเปล่า
“แย่แล้ว!”
อสุราตะโกน
เขาพลันกลายเป็นกระดูกสีขาว จากนั้นกระจายเป็นกลุ่มควันก่อนหายไปสิ้น
ความผิดพลาดย่อมหมายถึงความตาย
บิดาบนสวรรค์ถอนหายใจ เขาส่ายหน้าก่อนหยิบหนังสือมอบอำนาจแผ่นใหม่ออกมา
“ต่อไป… หืม”
บิดาบนสวรรค์ดูประหลาดใจแล้วกล่าวว่า
“…จากหมู่เมฆ ทหารรับจ้างของยักษ์แห่งการเริ่มต้น กู่ฉิงซาน”
………………………………….