webnovel

1084 อาวุธสงครามของตระกูลดารา

ตอนที่ 1084 อาวุธสงครามของตระกูลดารา

“อย่าขยับ”

กู่ฉิงซานกอดซูเสวี่ยเอ้อร์ขณะกลับจากสุดขอบรางมายังใจกลางเส้นทาง

เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนวางซูเสวี่ยเอ้อร์

…เหนือรางรถไฟคือความมืดไร้ก้น มองไม่เห็นระยะทาง ไม่อาจล่วงรู้ถึงความลึกได้

ส่วนบนสุดของรางรถไฟ เส้นทางลับที่เปิดออกยังคงขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง

เส้นทางลับด้านบนกำลังออกจากที่ที่รางรถไฟอยู่

กู่ฉิงซานประหลาดใจเล็กน้อย

คาดไม่ถึง มันคือเส้นทางลับที่มีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถมาถึงที่นี่ได้ในตอนแรก

แต่ข่าวที่ดียิ่งกว่าคือหลังออกจากเส้นทางลับแล้ว กรงเล็บกระดูกยักษ์และเจ้าของกรงเล็บนั่นได้ออกห่างจากที่นี่เช่นกัน

มีความโกลาหลจากกลุ่มคนข้างบน ดูท่าพวกเขาจะรีบพยายามลงมา

อาศัยจังหวะนี้ กู่ฉิงซานถามซูเสวี่ยเอ้อร์ว่า

“แผนที่ดาราทำงานงั้นหรือ มันแสดงให้เห็นอะไร”

“มันแสดงชื่อของรถไฟขบวนนี้ มันมีชื่อว่านักสำรวจ มีข้อความอธิบายยาวเหยียดอยู่ด้านข้าง อืม มันบอกว่า… ‘รถไฟเข้าสู่สภาพหลับใหล สวิตช์ที่เปิดใช้งานทางกายภาพถูกซ่อนไว้ข้างหน้าต่างบานที่สิบเอ็ดของขบวนรถที่สาม มันเป็นปุ่มสี่เหลี่ยม”

กู่ฉิงซานมองรถไฟเหล็กกล้าที่อยู่ไม่ไกลนักแล้วพึมพำว่า “ดูท่านี่จะเป็นสิ่งที่จักรวรรดิดาราเหลือเอาไว้ให้”

รถไฟทั้งขบวนถูกแบ่งออกเป็นสี่ตู้ แต่ละตู้มีขนาดราวยี่สิบเมตร มันจอดอยู่บนรางเงียบๆ

ตอนนี้ หลานซิ่วพาคนลงไป

“กลายเป็นว่ามันเป็นของฝั่งเทคโนโลยี” หลานซิ่วพลันกล่าวขึ้น

กู่เหยียนลงไปเช่นกัน

“ไหนเจ้าบอกว่าเป็นแมลงไม่ใช่หรือ” เขาจ้องผู้ติดตาม

ผู้ติดตามตอบอย่างไม่พอใจว่า “นายท่าน ก็มันเหมือนแมลงจริงๆ นี่”

ทุกคนมองชายคนนี้ด้วยความไม่พอใจ

แมลงยาวหนึ่งร้อยเมตร… เมื่อครู่มันทำให้พวกเขากลัวจริงๆ

กู่เหยียนกล่าวขอโทษ “ขอโทษด้วย โลกของพวกข้าอยู่ฝั่งเวทมนตร์ เด็กคนนี้ร่ำเรียนมาน้อย จึงไม่รู้เรื่องฝั่งเทคโนโลยี”

“ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหนก็ช่าง พวกเราลองไปดูกันก่อนดีกว่า” ฉ่าเฉียงกล่าว

มันส่งสัญญาณ

สุนัขแดนชำระสองตัวที่ปกคลุมด้วยเปลวเพลิงอ่อนๆ พุ่งออกไป ไม่ช้าก็มาถึงด้านหน้ารถไฟ

พวกมันจ้องรถไฟเหล็กกล้าอย่างระแวดระวังก่อนยิ้มกว้าง

ทุกคนรอดู

ทันใดนั้น สุนัขแดนชำระสองตัวเห่

“โฮ่งๆ!”

“โฮ่งๆ โฮ่งๆ!”

รถไฟไม่ขยับ

ฉ่าเฉียงลูบคางแล้วกระซิบว่า “น่าแปลก ตัวก็ออกจะใหญ่เท่าตัวที่มีกรงเล็บจากด้านบนแท้ๆ แต่กลับดูถูกสุนัขอย่างนั้นหรือ”

กู่ฉิงซานพูดไม่ออก

กู่เหยียนพูดไม่ออก

หลานซิ่วพูดไม่ออก

ซูเสวี่ยเอ้อร์อธิบายเสียงต่ำว่า “…นี่คือพาหนะขนส่ง ถ้าปิดเครื่องก็ไม่มีการตอบสนองหรอกนะ”

“ฮ่าๆ ช่างเป็นสิ่งที่โง่เขลาอะไรอย่างนี้!” ฉ่าเฉียงหัวเราะ

ทุกคนไม่อาจสรรหาคำมาอธิบายได้อีกแล้ว

หลานซิ่วไอเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ไปกันเถอะ ไปตรวจสอบด้วยกัน”

“ได้”

ทุกคนเห็นด้วย

กลุ่มคนมาที่รถไฟเหล็กกล้าเพื่อดูอย่างละเอียด

อาจจะเพราะมันอยู่ที่นี่นานเกินไป รถไฟทั้งขบวนจึงถูกปกคลุมด้วยฝุ่นหนา ทำให้มันปลิวว่อนไปทั่วเมื่อถูกสัมผัสเพียงเล็กน้อย

หลานซิ่วป้องจมูกและปาก คิ้วขวดแล้วกล่าวว่า “ชะล้าง!”

“ขอรับ นายท่าน”

อารักขาของเขาลงมือทันที

“สายลมเดือดพล่าน” และคาถาน้ำกวาดล้างพื้นผิวของรถไฟทั้งหน้าหลัง เผยให้เห็นรูปลักษณ์ดั้งเดิมของรถไฟ

กู่เหยียนถือบอลไฟไว้ในมือ แสงสาดส่องใส่รถไฟจนดูเหมือนกลางวัน

เขากล่าวว่า “ข้าไม่รู้นะว่าพวกเจ้าคิดยังไง แต่ข้าคิดว่า… มันดูไม่ดีเลย”

รางถูกปกคลุมไปด้วยกระดูกแห้งมากมาย พวกมันกลายเป็นเถ้าเมื่อถูกสัมผัส เห็นได้ชัดว่ามันตายอยู่ที่นี่มาหลายปี

ส่วนรถไฟ… พื้นผิวรถไฟเต็มไปด้วยร่องรอยการปล้น การกระแทก การข่วนและการฟัน คราบเลือดเก่ากลุ่มใหญ่เหมือนกับภาพวาดที่มีอยู่ทุกหนแห่ง

เห็นได้ชัดว่าเคยมีการต่อสู้ดุเดือดที่นี่มาก่อน

มีกระดูกแห้งกองอยู่ตรงหน้าต่างของรถไฟ เห็นได้ชัดว่าถูกอัดจนตาย

มันยังคงคาอยู่ตรงหน้าต่างรถไฟ

“ดูท่าจะไม่สามารถเข้ารถไฟได้นะ” กู่ฉิงซานกล่าว

หลานซิ่วกล่าวอย่างราบเรียบว่า “พวกเราไม่ต้องหาทางนั่งเจ้านี่อยู่แล้ว”

“ทำไมล่ะ?” กู่ฉิงซานถามด้วยความประหลาดใจ

“ข้าจำได้ว่ารถไฟของฝั่งเทคโนโลยีเร็วมาก… สำหรับคนธรรมดาน่ะนะ”

“ถ้างั้นในกรณีที่มีสิ่งผิดปกติข้างหน้า หากรถไฟเร็วเกินไป พวกเราก็มีแต่กระแทกใส่ลูกเดียว”

กู่เหยียนกล่าวเช่นกันว่า “ตอนนี้พวกเราล้วนอยู่ในร่างมนุษย์ ไม่ว่าจะการปะทะหรือการกระเด็นออกจากรถไฟ หากตกลงไปในความมืดของทั้งสองฝั่งรางรถไฟล่ะก็ ไม่มีทางรอดแน่นอน”

หลังจากกล่าวเช่นนั้น เขาหยิบหินบนรางรถไฟขึ้นมาแล้วโยนเข้าไปในความมืดเหนือรางรถไฟ

ทุกคนฟังอย่างตั้งใจ

แต่ไม่มีเสียงตกกระทบ

เป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจจับความลึกเหนือรางรถไฟได้

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “คิดแบบนี้ก็ไม่ผิด แต่พวกเรายังต้องตรวจสอบให้ละเอียดอยู่ดี…”

เขาให้ซูเสวี่ยเอ้อร์ตรวจสอบรถไฟ

ฉ่าเฉียงก้มศีรษะ มองสุนัขแดนชำระสองตัวแล้วกล่าวว่า

“ถ้าต้องทำจริงๆ ให้พวกมันสำรวจจะดีกว่า”

สุนัขแดนชำระสองตัวพุ่งออกไปตามรางรถไฟอย่างรวดเร็ว

คนอื่นตรวจสอบร่องรอยของรถไฟ

ใครบางคนชักอาวุธออกมาแล้วฟันเข้าใส่รถไฟ

ประกายไฟกระจายทุกหนแห่ง

แผ่นเหล็กชั้นนอกของรถไฟไม่บุบสลาย

ตอนนี้ทุกคนเข้าใจความสามารถการป้องกันของมันแล้ว

กู่ฉิงซานพาซูเสวี่ยเอ้อร์เดินรอบรถไฟ

ประตูหลายบานของรถไฟถูกปิดแน่นหนา ไม่สามารถเปิดจากด้านนอกได้

“มีผังโครงสร้างรถไฟบนแผนที่ดาราหรือเปล่า?” กู่ฉิงซานถาม

“ไม่นะ” ซูเสวี่ยเอ้อร์ส่ายหน้า

ทันใดนั้น เสียงอิเล็กทรอนิกส์จักรกลดังขึ้น “ข้ามีวัสดุทั้งหมดของจักรวรรดิดารา ทำการเรียกผังโครงสร้างและการทำงานของรถไฟนักสำรวจ”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ได้ยินเช่นกัน นางจึงตกตะลึงเล็กน้อย

“นี่คืออาวุธของสงครามกาลอวกาศ เป็นของเทพธิดาแห่งความยุติธรรม” กู่ฉิงซานอธิบาย

ตอนอธิบายซูเสวี่ยเอ้อร์ ข้อมูลองค์ประกอบของรถไฟนักสำรวจค่อยๆ ปรากฏขึ้นในใจของเขา

กู่ฉิงซานตรวจสอบการทำงานจำนวนมากของรถไฟเหล็กกล้าก่อนถอนหายใจยาวออกมา

“เยี่ยมเลย”

เขาอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้

“ดีกว่าเทคโนโลยีของพวกเราหรือ?” ซูเสวี่ยเอ้อร์ถาม

“ดีกว่ามาก” กู่ฉิงซานตอบอย่างจริงจัง

“ดีกว่านภาแผดเผาที่เจ้าสร้างในตอนนั้นอีก…”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ยังคิดจะถามต่อ แต่ถูกเสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ขัด

“ท่านกู่ฉิงซาน ท่านอยากรู้ข้อมูลอื่นอีกหรือเปล่า?”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ปิดปากด้วยท่าทีเศร้าสร้อย

“เมื่อครู่เจ้าใช้การส่งผ่านคลื่นสมองหรือ?” กู่ฉิงซานถาม

“ถูกต้อง” เสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ตอบ

“เจ้าเหลือความสามารถอะไรเอาไว้น่ะ ใช่การส่งผ่านคลื่นสมองหรือเปล่า” กู่ฉิงซานถามอีกครั้ง

“การส่งผ่านข้อมูลเป็นสัญชาตญาณชีวิตของเทคโนโลยีนี้อยู่แล้ว ความสามารถที่เหลือโดยอาวุธกาลอวกาศนี้เคยถูกใช้เพื่อเข้าร่วมสงคราม” เสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ตอบ

กู่ฉิงซานถามว่า “อาวุธอยู่ที่ไหนล่ะ? ข้าต้องการอาวุธเทคโนโลยีตอนนี้เลย”

เสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ตอบว่า “การเปลี่ยนจากสถานภาพของการทำศัลยกรรมไมโครพลาสติกเป็นอาวุธสงครามนั้นมีความต่างค่อนข้างมาก ต้องใช้เวลาสักพัก”

“เอาเถอะ ไม่ต้องรีบ ตอนนี้พวกเรายังมีบางสิ่งใช้แทนได้อยู่”

กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปสัมผัสกับผนังรถไฟส่วนหนึ่งก่อนกดปุ่มสี่เหลี่ยมลงไปอย่างแรง

…ส่วนนี้อยู่ถัดจากหน้าต่างบานที่สิบเอ็ดของขบวนรถที่สาม

เมื่อกู่ฉิงซานกดปุ่มสี่เหลี่ยมลงไป คันโยกสีเทาที่ไม่โดดเด่นพลันโผล่ขึ้นมา

ทันใดนั้น เสียงของฉ่าเฉียงดังมาจากอีกฝั่งของรถไฟ “ไม่นะ! สุนัขสองตัวของข้าตายแล้ว!”

หลานซิ่วถามว่า “สถานการณ์เป็นยังไง?”

“สัตว์ประหลาด” ฉ่าเฉียงตอบ “รางรถไฟข้างหน้าพัง สัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ปีนขึ้นมาจากใต้รางรถไฟ… มันกำลังมาหาพวกเรา!”

กลุ่มคนตึงเครียดทันที

“คนของข้ามาตรงนี้ เตรียมตั้งแถว!” หลานซิ่วกล่าวเสียงดัง

“ทุกคนเตรียมสู้!” กู่เหยียนกล่าวเช่นกัน

ฉ่าเฉียงกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า “ไม่ เจ้านั่นน่ากลัวเกินไป พวกเราในตอนนี้…”

หลานซิ่วกล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ถ้าเจ้าไม่อยากถูกกินทันทีล่ะก็ พวกเราก็ต้องสู้!”

ฉ่าเฉียงมีไฟขึ้นมาด้วยความไม่เต็มใจก่อนเริ่มกล่าวกับพวกปีศาจว่า

“ทุกคนเตรียมสู้จนตัวตาย!”

อีกฝั่งของรถไฟเหล็กกล้า

ซูเสวี่ยเอ้อร์คว้ามือของกู่ฉิงซานขณะส่งสายตามองมา

กู่ฉิงซานเผยสีหน้าวางใจให้

“ไม่ต้องห่วง อย่างที่เจ้ากล่าว ความรู้สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมได้”

เขาคว้าคันโยกสีเทาไว้มั่นด้วยมือข้างหนึ่งก่อนออกแรงดึงอย่างระมัดระวัง

คลิก!

ครืน…

รถไฟเหล็กกล้าทั้งขบวนสั่นไหวอย่างรุนแรง

แสงสาดส่องจากรถไฟ กระจายมายังทุกคน

วินาทีต่อมา เสียงโลหะเย็นเยือกดังมาจากรถไฟ

“ทำการตรวจสอบตัวเอง”

“ตรวจสอบตัวเองเสร็จสิ้น ความสมบูรณ์แปดสิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์”

“ตรวจพบเจ้าของสายเลือดดารา”

“ตรวจพบภัยคุกคามขนาดใหญ่กำลังเข้าใกล้รถไฟขบวนนี้”

“จะปะทะศัตรูในอีกหนึ่งนาที”

“ตอนนี้อยู่ในสภาพสงคราม”

“กำลังรอรับคำสั่ง”

เสียงหายไป แถวตัวเลขที่ขยับอย่างรวดเร็วปรากฏขึ้นในความมืดเหนือรถไฟ

หนึ่งนาที

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

กู่ฉิงซานบีบมือของซูเสวี่ยเอ้อร์แล้วกล่าวว่า “เสวี่ยเอ้อร์ ตาเจ้าแล้ว”

“อา จะว่าไปแล้ว ข้าคือเจ้าของสายเลือดดารานี่นะ แต่ข้าควรทำยังไงล่ะ?” ซูเสวี่ยเอ้อร์ถาม

กู่ฉิงซานนึกถึงการทำงานมากมายของรถไฟเหล็กกล้าอยู่ในใจแล้วตอบว่า “เจ้ามอบสิทธิ์ให้ข้าใช้รถไฟเหล็กกล้าขบวนนี้สิ”

ซูเสวี่ยเอ้อร์ตอบสนองก่อนถามว่า “เจ้าอยากให้มันต่อสู้หรือ?”

ตอนนี้ พื้นสั่นไหว

เสียงวิ่งขนาดใหญ่และหนักหน่วงกำลังตรงมาที่ทางนี้

“คนที่เข้าใจฝั่งเทคโนโลยีในตอนนี้มีแค่เจ้ากับข้า ข้าเพิ่งได้ผังโครงสร้างการทำงานของรถไฟมาจนรู้วิธีใช้งาน… อีกอย่าง ข้าคุ้นเคยกับการต่อสู้มากกว่า” กู่ฉิงซานตอบ

ซูเสวี่ยเอ้อร์กล่าวอย่างวิตกว่า “ถ้างั้นข้าอยากไปกับเจ้าด้วย”

“แน่นอน ต้องมีผู้ช่วยคนขับด้วยนี่นะ” กู่ฉิงซานกล่าว

ตอนนี้ รถไฟเหล็กกล้าส่งเสียง

“กำลังจะปะทะกับศัตรู”

“ยี่สิบวินาทีสุดท้าย”

“สิบเก้า”

“สิบแปด”

“สิบเจ็ด”

ซูเสวี่ยเอ้อร์กล่าวเสียงดังทันที “ข้าขอมอบสิทธิ์ให้ชายคนนี้ ให้เขาสู้ร่วมกับข้า เร็วเข้า!”

“รับคำสั่งเรียบร้อย”

เสียงโลหะเงียบไป แสงกวาดผ่านกู่ฉิงซานและซูเสวี่ยเอ้อร์

ทั้งสองหายไปจากที่ที่เคยอยู่ทันที

รถไฟทั้งขบวนพลันลุกขึ้นจากราง

มันยื่นมือเหล็กกล้าขนาดใหญ่สองข้างไปจับรางไว้มั่นเพื่อป้องกันไม่ให้ตกลงไป

หลังจากนั้น ชิ้นส่วนเหล็กกล้านับไม่ถ้วนกระแทกเข้าหากันก่อนประกอบเป็นร่างมนุษย์ขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว

ยักษ์เหล็กกล้านี้ยืนขึ้นจากท่ากึ่งคุกเข่า

“เกราะศึกเคลื่อนที่ดาราทำงาน โปรดเลือกอาวุธต่อสู้”

“…ทำการเลือกเรียบร้อย”

“ดาบแยกดาราทำงาน”

ยักษ์เหล็กกล้าชักดาบเหล็กกล้าขนาดเล็กออกมาจากขา

หึ่ง…

แถบแสงยาวโชติช่วงปรากฏขึ้นจากดาบเหล็กกล้าขนาดเล็กขณะฉีกกระชากความว่างเปล่ารอบข้างอย่างต่อเนื่อง

ยักษ์เหล็กกล้าทรุดตัวลง มือถือดาบยาวขณะถอยหลังออกมา

จู่ๆ มันหายไปจากสายตาของทุกคน!

“ไม่ต้องห่วงเรื่องผลผลิตทางเทคโนโลยีหรอก ทุกท่าน ดูนั่น!” ฉ่างเฉียงตะโกน

ทุกคนปล่อยวางความตกตะลึงในใจคนแล้วคนเล่าก่อนหันศีรษะไปทางรางรถไฟ

การสั่นสะเทือนของพื้นยิ่งมายิ่งรุนแรง

“เตรียมปะทะกับศัตรู…”

หลานซิ่วคำราม

วินาทีต่อมา

ร่างขนาดใหญ่พลันพุ่งออกมาจากความมืดข้างหน้า

มันคือสัตว์ประหลาดที่มีเปลวไฟสีดำกับกรงเล็บอยู่ทั่วร่างกาย

สัตว์ประหลาดตัวนี้สูงราวสิบเมตร รางรถไฟที่ลอยอยู่ในความมืดยังคงหลอมละลายและพังทลายอย่างต่อเนื่อง

ด้านหลังมัน ทุกสิ่งถูกทำลาย ไม่เหลือแม้แต่ซาก!

มันเหมือนกับสัตว์ประหลาดในตำนาน!

สัตว์ประหลาดก้มมองกลุ่มคนก่อนพึมพำว่า “เลือด เลือดเนื้อ พวกเจ้าล้วนเป็นอาหารของข้า…”

ก่อนที่จะทันได้พูดจบ ยักษ์เหล็กกล้าปรากฏตัวขึ้นจากอีกด้าน

มันถือดาบแสงสว่างไว้ในมือก่อนแทงใส่หน้าอกของสัตว์ประหลาดทันที!

………………………………….