webnovel

1052 จุดเริ่มต้นของการมาเยือน!

ตอนที่ 1052 จุดเริ่มต้นของการมาเยือน!

เมืองเรเควี่ยมพังทลายจนสิ้นก่อนกลายเป็นเถ้าธุลีหายไปในวังวนความว่างเปล่า

โลกนี้ไม่ถูกปกป้องโดยคำสาบานของเหล่าเทพอีกต่อไป

ในสมรภูมิของสองเทพ

เทพแห่งชีวิตฝืนระงับจิตสังหารในใจแล้วกล่าวว่า

“เทพองค์ใหม่ผู้อ่อนแอเอ๋ย ข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งสุดท้าย ไปจากที่นี่ซะ!”

มันประสานมือเข้าด้วยกันแล้วร่ายคาถาอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้น แสงสีม่วงโชติช่วงพุ่งออกจากมือของมันขณะสาดส่องกระแสวังวนความว่างเปล่าอันมืดมิดราวกับกลางวัน

อัญเชิญความว่างเปล่า

ทหารเทพโบราณ ผู้มอบความเจ็บปวดให้วิญญาณและเนื้อหนัง!

ตรงข้ามมัน วิญญาณกรีดร้องมองแสงสีม่วงอย่างระมัดระวังขณะตั้งท่าป้องกัน

“ปล่อยข้าอย่างนั้นเหรอ? ข้าคิดว่าเจ้ากำลังหนีจากบางสิ่งมากกว่า ยอมส่งผู้ครอบครองบัญญัติมาแต่โดยดี ไม่อย่างนั้นข้าจะตามหลอกหลอนเจ้าต่อไป เจ้าไม่มีทางหนีรอดได้หรอก!”

วิญญาณกรีดร้องขู่เสียงดัง

เป็นความจริงที่พละกำลังของอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าตัวเอง

ถ้าต้องการบัญญัติจากอีกฝ่าย สิ่งเดียวที่สามารถทำได้คือเดิมพันแล้วดูว่าอีกฝ่ายจะยอมประนีประนอมหรือไม่

ร่างของเทพแห่งชีวิตกระตุก

มันเข้าใจแผนของอีกฝ่ายทันที

อีกฝ่ายพบความลับเข้าให้แล้ว!

บัดซบ ถ้าเข้ามาพัวพันกับเทพ ย่อมไม่มีอะไรดีแน่ๆ

หญิงชราแทบจะตกอยู่ในความบ้าคลั่งก่อนกล่าวอย่างดุร้ายว่า “เจ้าคนน่าไม่อาย ถ้างั้นก็ตายซะ!”

นางจับแสงสีม่วงเอาไว้แล้วดึงอย่างรุนแรง

แสงสีม่วงพลันกลายเป็นแส้แสงสว่างริบหรี่

หญิงชราตวัดแส้แสงสว่าง

‘เพี้ยะ!’

มันฟาดเข้าใส่ร่างของวิญญาณกรีดร้องโดยตรง!

วิญญาณกรีดร้องกระอักโลหิตจนอดที่จะถอยกลับมาไม่ได้

พลังจากการโจมตีนี้เหนือกว่าที่คาดเอาไว้

วิญญาณกรีดร้องก้มศีรษะจนเห็นคราบโลหิตจากแผลลึกบนร่างกาย โลหิตยังคงไหลออกมา

ความเจ็บปวดไม่มีสิ้นสุด

ร่างและวิญญาณได้รับความเสียหายเป็นทวีคูณ

นี่คือความเจ็บปวดสุดแสนที่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดไม่สามารถทานทนได้ วิญญาณจะแตกสลายเมื่อถูกมันสัมผัส

แม้กระทั่งเหล่าเทพก็หวาดกลัวความเจ็บปวดเช่นนี้!

วิญญาณกรีดร้องหักห้ามความเจ็บปวดเอาไว้ก่อนกรีดร้องออกมา “พลังไม่ใช่น้อยๆ เลย ทีนี้ก็ตาข้าล่ะ”

‘เพี้ยะ!’

แสงสีม่วงอีกสายวูบไหวเข้ามา มันฟาดเข้าใส่แผลชุ่มโลหิตอย่างรุนแรงจนร่างกระเด็น เป็นไปไม่ได้ที่จะพูดออกมาสักพัก

มันอดที่จะเงยหน้าขึ้นมองไม่ได้

มันเห็นแส้ยาวสีม่วงปรากฏในมืออีกข้างของเทพแห่งชีวิต

เทพแห่งชีวิตเย้ยหยัน “เทพองค์ใหม่ผู้หยิ่งทะนงเอ๋ย ความสิ้นหวังของเจ้าเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น!”

“นี่ไม่ใช่อาวุธจากโลกเก้าร้อยล้านชั้น ไม่ใช่ทหารนักบุญหุบเหวด้วย…” วิญญาณกรีดร้องมองแส้ยาวขณะพึมพำเสียงต่ำ

เทพแห่งชีวิตกล่าวว่า “แน่นอน ความรู้ของเจ้าตื้นเขินเกินไป แต่ข้าไม่คิดว่าจะบอกเจ้าได้มากมายนัก เพราะข้าต้องการชีวิตเจ้ายังไงล่ะ!”

แสงสีม่วงพุ่งสูงขึ้นจนกลายเป็นลำแสงนับพันขณะกระแทกเข้าใส่วิญญาณกรีดร้อง

ความเจ็บปวดนี้ลึกไปถึงไขกระดูก วิญญาณกรีดร้องอยากขัดขืน แต่วิญญาณกับร่างกายยังคงถอยด้วยความไม่เต็มใจ

หญิงชราหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่เจ้าจะหลบหนี แส้ยาวของข้าจะหว่านเมล็ดแห่งความเจ็บปวดในวิญญาณของเจ้า ต่อไป ไม่ว่าเจ้าจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ต่อให้ห่างจากข้านับพันโลกก็ไม่สามารถหนีจากการโจมตีข้าไปได้!”

หลังจากพูดจบ นางตวัดแส้แสงสว่างสีม่วงสองสายเข้าใส่ความว่างเปล่าอย่างบ้าคลั่ง

เห็นได้ชัดว่ามันกำลังโจมตีความว่างเปล่า แต่คราบโลหิตลึกสองแห่งพลันปรากฏบนตัววิญญาณกรีดร้อง

ร่างกายของวิญญาณกรีดร้องสั่นสะท้านก่อนจะแผดเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวด

นี่คือความเจ็บปวดที่แทบไม่มีตัวตนใดสามารถต้านทานได้ เพียงพริบตา วิญญาณนับหมื่นในร่างของมันถึงแก่ความตาย

“รู้สึกอย่างไรบ้างล่ะ เจ้าเทพผู้น่าสงสาร” หญิงชรายิ้มกว้าง

วิญญาณกรีดร้องจ้องอีกฝ่ายขณะหอบหายใจ “บัดซบ… ถ้าไม่ใช่เพราะอาวุธข้า…”

ถ้าหอกหลากสีสันยังอยู่ในมือ มันสามารถหักห้ามความเจ็บปวดก่อนพุ่งไปสังหารอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน

ต่อให้ไม่สามารถสังหารอีกฝ่ายได้ อีกฝ่ายก็โดนเล่นจนยับ ทำให้ไม่มีเวลาตวัดแส้สีม่วง!

น่าเสียดายที่มันหลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน หอกจึงถูกดัดแปลงก่อนหายไป

บัดซบ!

วิญญาณกรีดร้องกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นมันรู้สึกถึงบางสิ่งในใจก่อนพลันเงยหน้ามอง

มันเห็นว่าในความว่างเปล่าไม่มีสิ้นสุดด้านบน บางสิ่งคล้ายกับกำลังพลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง

ในเวลาเดียวกัน

ลอร่ากางร่มหลากสีสันขณะถอยออกมาไกล

“เมื่อครู่นี้คือพลังฝั่งชะตากรรมอย่างนั้นเหรอ?” เหล่าต้าถามเสียงต่ำ

กู่ฉิงซานอธิบายว่า “ใช่ สิ่งที่ลอร่ามอบให้ข้า ประกอบกับหนึ่งในความสามารถของข้า ทำให้เกิดสกิลฝั่งชะตากรรมที่คาดไม่ถึง”

เหล่าต้ากล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “พวกเราต้องระวังแล้ว ทันทีที่เจ้าพูดจบแบบเมื่อครู่ ความหวาดกลัวบางอย่างก็ก่อตัวขึ้นในใจข้า”

กู่ฉิงซานนิ่ง

ร่างของเหล่าต้าไม่แม้แต่จะสั่นเทาเมื่อเผชิญหน้ากับสองเทพ

แต่ตอนนี้เขาถึงกับบอกว่ารู้สึกหวาดกลัว

กู่ฉิงซานสัมผัสการรับรู้ทางวิญญาณของตัวเองเงียบๆ ก่อนค่อยๆ สังเกตเห็นมัน

“ใช่ ข้ารู้สึกถึงอาการใจสั่นเหมือนกัน… เหมือนกับมีบางสิ่งกำลังมา” กู่ฉิงซานกระซิบ

ความจริง ในส่วนของ “การตัดสินใจด้วยถ้อยคำแห่งชะตากรรม” เมื่อครู่ได้ตัดสินไปสองสิ่ง

ส่วนแรก วิญญาณกรีดร้องจะอยู่สู้กับเทพแห่งชีวิต

ส่วนที่สอง สิ่งที่เทพแห่งชีวิตหวาดกลัวจะบังเกิดขึ้น

ถึงแม้วิญญาณกรีดร้องจะเป็นตัวตนที่ด้อยกว่า แต่ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะสงสัยในการกระทำของเทพแห่งชีวิต แต่ใครล่ะจะกล้ายืนยันว่าเรื่องนี้ถูกต้อง

หรือว่ามันสามารถตรวจพบปัญหาของเทพแห่งชีวิตจริงๆ

กู่ฉิงซานไม่ยอมเสียสมาธิอีก

เขาทุ่มเทกับส่วนของ “การตัดสินใจด้วยถ้อยคำแห่งชะตากรรม” เพื่อให้แน่ใจว่าวิถีของเรื่องราวจะสอดคล้องกับสิ่งที่เขาคาดเอาไว้

แต่ทันทีที่คำพูดถูกกล่าวออกมา เหล่าต้าและตัวเขารู้สึกถึงความหวาดกลัวที่ยากจะอธิบาย

มีบางสิ่งผิดปกติในเรื่องนี้

เย่เฟยหลีพลันกล่าวว่า “นี่ ทุกคน ข้ารู้สึกได้ถึงความวิตกอันแรงกล้า”

จางหยิงห่าวมองรอบข้างอย่างวิตกแล้วกล่าวว่า “ความรู้สึกนี้… ความตายคล้ายกับจะกลืนกินพวกเราได้ทุกเมื่อ”

กู่ฉิงซานและเหล่าต้ามองหน้ากัน

หากทุกคนสัมผัสได้ นั่นหมายความว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นอันตรายมาก

“ไม่ดีเอาเสียเลย ลอร่า ถอยกลับกันก่อน ยิ่งไกลเท่าไหร่ยิ่งดี!” กู่ฉิงซานกล่าว

“เข้าใจล่ะ!” ลอร่ากล่าว

ร่มหลากสีสันเร่งความเร็วขณะซ่อนอยู่ในส่วนลึกของความว่างเปล่าสีดำสนิท

ในสมรภูมิ

หญิงชราเงยหน้ามองความว่างเปล่าก่อนกล่าวเสียงหลงว่า “ไม่ดีแล้ว!”

มันไม่สนความเป็นความตายของวิญญาณกรีดร้องอีกต่อไปก่อนหันหลังเพื่อหลบหนี

ในที่สุดวิญญาณกรีดร้องก็รอจนมาถึงช่วงเวลานี้ มันจะปล่อยให้อีกฝ่ายทำในสิ่งที่ต้องการได้อย่างไร

อีกอย่าง อีกฝ่ายหว่านเมล็ดแห่งความเจ็บปวดในร่างของมัน หากหนีจากภัยพิบัตินี้ไปได้ ย่อมสามารถสังหารเขาได้อย่างช้าๆ ในอนาคตได้ทุกเมื่อ

“อย่าคิดที่จะหนี!”

วิญญาณกรีดร้องตะโกนขณะพุ่งออกไป

มันกระแทกใส่ร่างขนาดใหญ่ของงูสีดำสวมเกราะขณะทุบตีร่างของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง

หญิงชราถูกอัดจนร่างกายบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง นางไม่สามารถหลบหนีได้อีกแล้ว

วินาทีต่อมา

โลงศพสีดำเคลื่อนลงมาจากท้องนภาราวกับกระแสน้ำ

วิญญาณกรีดร้องตกตะลึง

โลงศพสีดำหรือ

โลงศพเหล่านี้ดูไม่มีพิษภัยเท่าไหร่

เมื่อหญิงชราเห็นโลงศพสีดำเหล่านี้ ใบหน้าของนางเปลี่ยนไปมาก

ครั้งนี้ นางวิตกจริงๆ

ร่างกายของเทพแห่งชีวิตสั่นสะท้านขณะสลัดวิญญาณกรีดร้องออกไป มันส่งเสียงร้องอย่างแตกตื่นว่า

“หนี! ไม่อย่างนั้นพวกเราจะตายอยู่ที่นี่”

ในที่สุดวิญญาณกรีดร้องก็รอจนมาถึงช่วงเวลานี้ที่จะพลิกผัน มันจะยอมฟังได้อย่างไร

นี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะทำลายบัญญัติ

ทันทีที่ปล่อยให้ศัตรูหลบหนีจนไม่สามารถจัดการได้อีก บัญญัติจะรอดชีวิตไปได้อีกครั้ง

ถ้าเช่นนั้น ยุคแห่งความโกลาหลก็จะไม่มีวันเสร็จสมบูรณ์!

วิญญาณกรีดร้องคำราม

“หากเจ้าไม่ยอมส่งผู้ครอบครองบัญญัติมา ข้าก็จะไม่ปล่อยให้เจ้าหนี!”

มันพุ่งเข้าใส่อย่างไม่เต็มใจขณะสู้กับเทพแห่งชีวิตอีกครั้ง

เทพแห่งชีวิตไม่ได้ตั้งใจที่จะสู้ แต่ทุกครั้งที่พยายามจะหลบหนี มันจะถูกอีกฝ่ายหยุดเอาไว้

ตอนนี้ โลงศพสีดำนับไม่ถ้วนตกลงมาอย่างเงียบงัน จำนวนยิ่งมายิ่งมากก่อนค่อยๆ ปกคลุมทั่วความว่างเปล่า

โลงศพล้อมสองเทพเอาไว้แล้ว

…………………………