ตอนที่ 955 ข้อตกลงระหว่างความโกลาหลกับบัญญัติ
กู่ฉิงซานยืนอยู่ในอากาศขณะรออย่างเงียบงัน
หนึ่งนาที
เพียงแค่หนึ่งนาที เขาจะกลายเป็นผู้ส่งสารโรคระบาด
ตอนนี้ เสียงของหน้าต่างระบบเทพสงครามดังขึ้น “ทำแบบนี้มันไม่บุ่มบ่ามเกินไปหน่อยหรือ”
“ทำไมเจ้าถึงพูดแบบนั้นล่ะ” กู่ฉิงซานถาม
“ต่อให้ข้าสามารถใช้พลังวิญญาณหนึ่งแสนแต้มเพื่อช่วยปลดปล่อยท่านจากความโกลาหลได้ แต่ความโกลาหลจะไม่มีวันหายไป มันจะยังคงอยู่ในโลกใบนี้” หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบ
“ข้าต้องสัมผัสถึงความโกลาหลก่อน จากนั้นจึงจะสามารถตัดสินใจได้หลังจากเข้าใจมันแล้ว นี่เป็นเพียงทางเดียวเท่านั้น” กู่ฉิงซานกล่าว
ผ่านไปหลายอึดใจ
สีหน้าของกู่ฉิงซานเปลี่ยนไป
เขาเห็นหน้าต่างระบบสีเขียวปรากฏขึ้นจากอากาศธาตุในความว่างเปล่าตรงหน้า
หน้าต่างระบบนี้เรียบง่ายมาก มีแถวตัวอักษรสีเขียวสองแถวปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบ
“ท่านต้องกระจายโรคระบาดให้กับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดก่อนจึงจะได้ชื่นชมความงดงามของความโกลาหล”
“ทุกสิ่งจะเริ่มขึ้นจากช่วงเวลานั้น”
ขณะมองสองแถวนี้ จิตของกู่ฉิงซานขยับ
เขารู้สึกถึงพละกำลังบางอย่างที่ได้รับมา
ก่อนกระจายมาที่มือ
เปลวเพลิงปล่อยหมอกสีเขียวออกมาขณะลอยอยู่ในมือของกู่ฉิงซานอย่างเงียบงัน
“โรคระบาด…”
กู่ฉิงซานกระซิบ
ถึงจะอธิบายไม่ได้ แต่เขาเข้าใจการดำเนินงานและการแพร่กระจายของโรคระบาดนี้
โรคระบาดเหมือนกับเป็นพลังโดยกำเนิดที่เป็นของเขา
“วิเศษไปเลย มันแตกต่างจากบัญญัตินิดหน่อยถึงแม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับการแพร่กระจายโรคระบาดก็ตาม”
กู่ฉิงซานกระซิบ
ตอนนี้ แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงครามจนดึงดูดความสนใจของเขา
“มันก็แค่กองขยะ อย่าไปสนใจ”
กู่ฉิงซานพูดไม่ออก
เมื่อกล่าวเช่นนั้น ความโกลาหลย่อยนี้ก็ไม่ได้แข็งแกร่งจริง ๆ
โดยเฉพาะเมื่อเอามาเทียบกับความโกลาหลย่อยอันอื่น
กู่ฉิงซานครุ่นคิด
เขาเหาะขึ้นสูงในท้องนภาขณะตัดสินตำแหน่งของผู้ส่งสารรองคนต่อไปอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้น เขาเริ่มก้าวพริบตาก่อนหายไปจากอากาศธาตุทันที
ในสุสาน
ร่างของกู่ฉิงซานปรากฏขึ้น
ไม่ไกลจากตรงหน้าเขา ร่างหนึ่งกำลังขุดหลุมศพเพื่อเตรียมที่จะสับชิ้นส่วนจากซากศพออกมา
กู่ฉิงซานไม่พูด แต่จิตของเขาขยับ
เพียงพริบตา
ร่างดังกล่าวถูกสับเป็นชิ้นจำนวนมาก ไม่เหลือเศษเสี้ยวชีวิตอีกต่อไป
ข้อความแจ้งเตือนใหม่ปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“ท่านฆ่าผู้ส่งสารร่างกายแตกหัก”
“นี่คือพลังโกลาหลที่แข็งแกร่งกว่าโรคระบาด ดังนั้นท่านจึงได้รับพลังวิญญาณสามหมื่นแต้ม”
“แจ้งให้ทราบ ในหนึ่งนาที ท่านจะทำการโหลดความโกลาหล: ร่างกายแตกหัก”
กู่ฉิงซานรออยู่กับที่หนึ่งนาที
ในความว่างเปล่าตรงหน้าเขา มีหน้าต่างระบบอีกอันปรากฏขึ้น
นี่คือหน้าต่างระบบสีเทา เทียบกับหน้าต่างระบบโรคระบาดแล้ว มันมีกล่องตัวเลือกเพิ่มขึ้นมาอีกสองสามกล่อง แต่พวกมันล้วนถูกล็อกจนไม่สามารถใช้งานได้
บนหน้าต่างระบบ แถวข้อความแจ้งเตือนจำนวนมากปรากฏขึ้น
“ผู้ส่งสารโรคระบาด ถึงแม้พฤติกรรมของจะอยู่เหนือบรรทัดฐาน แต่ก็เป็นการแสดงถึงความหมายที่แท้จริงของความโกลาหล”
“ท่านจะสามารถใช้พลังโกลาหลร่างกายแตกหักได้”
“อย่างแรก ท่านต้องตระเตรียมแขนขาให้มากพอสำหรับความโกลาหล”
กู่ฉิงซานมองมันอยู่สักพัก
เขาเหาะขึ้นท้องนภาขณะยังคงมองหาผู้ส่งสารย่อยรายต่อไป
เพียงสั้นๆ เขาทำตามคำแนะนำจากข้อมูลก่อนพบตำแหน่งที่ถูกต้อง
กู่ฉิงซานหายไปจากท้องนภา
เขาปรากฏตัวขึ้นในเมืองทันที
ในตรอกมืด กู่ฉิงซานกับผู้ส่งสารย่อยคนที่สาม
ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ทำอะไร เพียงแค่พิงกับกำแพงขณะนั่งอยู่เงียบๆ
มีรอยยิ้มที่อธิบายไม่ได้อยู่บนใบหน้าของเขา
กู่ฉิงซานปล่อยจิตเทพก่อนพบว่าภายในหนึ่งกิโลเมตร ทุกคนตายหมด
“เจ้าฆ่าหรือ” กู่ฉิงซานก้าวมาข้างหน้าขณะถาม
“ไม่ใช่ข้า” ผู้ชายยิ้ม “ข้าไม่ได้ฆ่าใครเลย”
“ข้าไม่เชื่อ” กู่ฉิงซานกล่าว
ประกายดาบพุ่งออกไป ส่องแสงทั่วทั้งตรอก
คนคนนั้นถูกสับจนไม่เหลือซากโดยดาบของกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานเหลือบไปดูหน้าต่างระบบเทพสงคราม
ไม่ช้า ข้อความแจ้งเตือนใหม่ปรากฏขึ้น
“นี่คือผู้ส่งสารที่มีศักยภาพเต็มเปี่ยม พลังที่เขาครอบครองคือเจ็ดบาป”
“เจ็ดบาปหรือ” กู่ฉิงซานถามด้วยความสนใจ
หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบว่า “ใช่ นั่นแหละที่เขามี มันจะจุดประกายบาปดั้งเดิมของสิ่งมีชีวิตและปล่อยให้สิ่งมีชีวิตฆ่ากันเองจนตาย ความสามารถนี้จะพัฒนาเป็นกฎเกณฑ์ลี้ลับทรงพลังในขั้นต่อไป”
“ท่านฆ่าสัตว์ประหลาดนั่นไป ดังนั้น ท่านจะได้รับพลังวิญญาณมหาศาล”
“ท่านได้พลังวิญญาณสองแสนแต้ม จากการตอบคำถามไปเมื่อครู่ทำให้โดนหักพลังวิญญาณไปสิบแต้ม ท่านจึงได้พลังวิญญาณหนึ่งแสนเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบแต้ม”
“โปรดทราบว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งนาที ท่านจะโหลดความโกลาหล: เจ็ดบาป”
กู่ฉิงซานรออยู่กับที่
ผ่านไปหนึ่งนาที
หน้าต่างระบบที่ประกอบด้วยเจ็ดสีสันปรากฏขึ้น มันถูกจัดวางอยู่ใต้หน้าต่างระบบเทพสงคราม
บนหน้าต่างระบบนี้ แถวข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นมาแล้ว
“ท่านเข้าใจความหมายที่แท้จริงของความโกลาหล”
“ความโกลาหลที่แท้จริง เมินทุกกลุ่ม!”
“มันจะมอบพละกำลังให้กับท่าน ทำให้สามารถใช้พลังความโกลาหล: เจ็ดบาป ได้”
“เมื่อท่านอยากใช้งาน มันจะสำแดงพลังเงียบๆ ภายในใจของสิ่งมีชีวิต”
“โปรดใช้เจ็ดบาปเป็นพลังหลักของความโกลาหล เพราะมันแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาความโกลาหลจำนวนมากที่ท่านเก็บรวบรวมมาได้!”
กู่ฉิงซานส่ายหน้า
เขานึกได้ครู่หนึ่ง จำได้ว่าผู้ส่งสารย่อยคนต่อไปอยู่ที่ไหน
วินาทีต่อมา เขาหายไปจากตรอกมืด
…
เวลาค่อยๆ ผ่านไป
ไม่นานนักสำหรับกู่ฉิงซานที่จะทำสิ่งที่ต้องการทำให้สำเร็จ
ผู้ส่งสารย่อยสองคนที่เหลือไม่หลบหนีจากโชคชะตาการถูกกู่ฉิงซานสังหาร
จนถึงตอนนี้ กู่ฉิงซานรวบรวมความโกลาหลได้ห้าประเภท มีชื่อดังนี้
ความโกลาหล: โรคระบาด
ความโกลาหล: ร่างกายแตกหัก
ความโกลาหล: เจ็ดบาป
ความโกลาหล: กลียุค
ความโกลาหล: สังหารหมู่
กู่ฉิงซานมองความว่างเปล่าตรงหน้า ผ่านไปสักพักก็อดที่จะส่ายหน้าไม่ได้
“มีอะไรหรือ” ดาบพิภพถาม
วันนี้มันได้สังหารอย่างเต็มอิ่ม
“ไม่มีอะไร ข้าแค่ตาลายนิดหน่อย” กู่ฉิงซานตอบ
ใช่แล้ว ในตอนนี้ ในความว่างเปล่าตรงหน้าเขา หน้าต่างระบบทั้งหมดหกอันที่มีสีสันแตกต่างกันเรียงตัวอย่างเงียบงันจนแทบจะบดบังสายตาของเขามิด
นอกหน้าต่างระบบเทพสงคราม หน้าต่างระบบห้าอันนี้ส่งเสียงตอบรับกันเล็กน้อยเป็นครั้งคราว
“น่าแปลก ตอนเก็บรวบรวมพลังโกลาหลสามถึงสี่อย่างมา ข้าไม่พบเสียงตอบรับมาก่อนเลย” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างสงสัย
ทันใดนั้น เสียงของหน้าต่างระบบเทพสงครามดังขึ้น “นี่เป็นสิ่งที่บ้ามาก ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะทำแบบนี้”
“ข้าไม่คิดเช่นกัน ข้าแค่อยากตรวจสอบเพื่อดูว่าถ้าความโกลาหลจำนวนมากรวมตัวกันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า” กู่ฉิงซานกล่าว
“ผลเป็นไง?” หน้าต่างระบบเทพสงครามถาม
“ผลที่ได้ พวกมันคล้ายกับเชื่อมต่อกันเองจนสามารถสะท้อนถึงกันได้”
กู่ฉิงซานกล่าว ทันใดนั้นจิตขยับ
“เดี๋ยวนะ ถ้าเป็นแบบนั้น…”
เขาจมสู่ความคิด
การปรากฏตัวของโรคระบาดสามารถส่งเสริมการเติบโตของเจ็ดบาปในใจของทุกชีวิตได้
เจ็ดบาปของสิ่งมีชีวิตจะถูกกระตุ้นให้สังหารกันเองผ่านการส่งเสริมด้วยการทำร้ายและการทรมาน
หลังจากนั้น การสังหารหมู่จะเกิดขึ้น
กลียุคจะมาเยือน
กลียุคจะส่งเสริมกับความโกลาหลก่อนหน้า
นี่คือกระบวนการที่สมบูรณ์ ในการสังหาร มันสามารถส่งเสริมทุกความโกลาหลให้แข็งแกร่งขึ้นได้
“ท่านสังเกตเห็นสินะ” หน้าต่างระบบเทพสงครามกล่าว
“ใช่ อย่าได้ประมาท” ใบหน้าของกู่ฉิงซานเคร่งขรึม “ไม่สงสัยเลยว่าโลกที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์แก่กล้าถึงได้ถูกทำลาย”
“ที่จริง มีร่างระดับต่ำของความโกลาหลนับล้าน แต่ไม่ว่ามันจะเป็นร่างไหน มันก็สามารถผสานกันจนเกิดเป็นพลังเพื่อทำลายโลกได้” หน้าต่างระบบเทพสงครามกล่าว
หน้าต่างระบบเทพสงครามกล่าวต่อว่า “กู่ฉิงซาน ท่านประสบความสำเร็จและคิดถึงสถานการณ์มากมายที่ไม่มีใครสามารถไปถึงได้มาก่อน แต่ท่านยังมีประเด็นสำคัญเรื่องความลับของความโกลาหลอยู่ ท่านต้องตามหามันด้วยตัวเอง”
กู่ฉิงซานสัมผัสได้ถึงความนัยลึกล้ำในน้ำเสียงของหน้าต่างระบบเทพสงครามได้
เขาอดที่จะถามไม่ได้ว่า “ทำไมเจ้าไม่บอกข้าตามตรง”
“ข้าบอกไม่ได้เพราะนี่คือกฎ คือการทดสอบและเป็นข้อตกลงระหว่างความโกลาหลกับบัญญัติ ความลับนี้ถูกพวกมันเก็บเอาไว้ ในเรื่องนี้ ข้าก็ต้องให้ความเคารพในเจตจำนงของพวกมันด้วย”
“กู่ฉิงซาน ท่านต้องเดาด้วยตัวเอง”
กู่ฉิงซานทำตาม
หน้าต่างระบบเทพสงครามเคร่งครัดเสมอ มันต้องการพลังวิญญาณในการพูดคุย น้อยครั้งที่จะพูดกับเขามากขนาดนี้
ความลับที่สามารถกล่าวถึงและบอกกล่าวโดยหน้าต่างระบบเทพสงครามด้วยท่าทีจริงจังได้นั้นจะต้องมีค่าอย่างน่าอัศจรรย์แน่นอน
ดังนั้น
อะไรที่เขาละเลยไป
กู่ฉิงซานจมสู่ความคิด
เขารวบรวมพลังโกลาหลย่อยทั้งห้าที่กระจายอยู่ในโลกใบนี้
อะไรที่เขาละเลยไป
ผ่านไปสักพัก แสงวิญญาณส่องประกายออกมาจากใจของกู่ฉิงซาน
“ข้ารู้แล้ว!”
กู่ฉิงซานโพล่งขึ้น
“ตามกฎแล้ว ท่านต้องพูดออกมา” หน้าต่างระบบเทพสงครามกล่าว
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ข้ารวบรวมความโกลาหลมาห้าอัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ขาดหายไป”
“อะไรล่ะ”
“ผู้ส่งสารของพวกมันยังไงล่ะ ผู้ส่งสารที่แท้จริงที่นำพวกมันมาสู่โลกใบนี้”
หน้าต่างระบบเทพสงครามเงียบไปสักพักแล้วกล่าวว่า “นั่นแหละ”
……………………………….