ตอนที่ 762 ผสานฟังก์ชันเทพสงคราม
สายใยกฎเกณฑ์ถูกโยนออกไปโดยกู่ฉิงซาน ละลายหายไปในความว่างเปล่า
ลม สายฟ้า แสง ความมืด และเสียง ห้ากฎเกณฑ์จากโลกปีศาจกระดูก ค่อยๆ จมลึกลงสู่กฎเกณฑ์ของโลกปีศาจซี่ฉี เริ่มส่งสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อโลกทั้งสองใบ
ในช่วงแรกเริ่ม มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีแค่เพียงปีศาจจำนวนมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ ที่รับรู้ได้ถึงคลื่นความผันผวนจากการต่อสู้
รอบๆ ซากปรักหักพังของพระราชวัง ถูกรุมล้อมไปด้วยปีศาจที่มาคอยสังเกตสถานการณ์
ปีศาจตนแรกที่มาถึง ได้บอกเล่าเหตุการณ์ที่กษัตริย์ปีศาจซี่ฉีลงทัณฑ์ทรมานราชาภูตกระดูก
ทุกคน ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า กษัตริย์ปีศาจซี่ฉี จะสามารถมอบความพ่ายแพ้แก่ราชาภูตกระดูกได้อย่างกะทันหัน
เนื่องจากโลกปีศาจของซี่ฉี คือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของปีศาจจากหลากหลายโลก ดังนั้นข้อมูลนี้จึงถูกส่งต่อออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นไม่นาน โลกปีศาจจำนวนมากก็ได้รับทราบถึงข่าวนี้
ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ฉากอันงดงามก็เริ่มปรากฏขึ้น
เหล่าปีศาจตะโกนโวยวายด้วยความตื่นตระหนก
กู่ฉิงซานกับฉานนู่เองก็เงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า
เห็นแค่เพียงแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
แผ่นดินกว้างใหญ่ค่อยๆ เลื่อนลงมาอย่างเงียบๆ ตกลงไปในเส้นขอบฟ้าโลกปีศาจของซี่ฉี
ครืน...
ภายใต้สายตาของปีศาจนับไม่ถ้วนที่กำลังจับจ้อง แผ่นดินและโลกปีศาจของซี่ฉีประกบติดเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว
ตามต่อด้วยการเปลี่ยนแปลงอันน่าอัศจรรย์บังเกิดขึ้น
ที่เท้าเบื้องล่างของกู่ฉิงซาน ปรากฏอัญมณีที่เปล่งประกายกระจ่างใสผุดขึ้นมาจากพื้นดิน
“นี่มันต้นกำเนิดสมบัติ! เป็นเพชรปีศาจ!”
หนึ่งในฝูงชนร้องตะโกนออกมา
นี่คือสกุลเงินที่หาได้ยากและมีมูลค่ายิ่ง มักใช้จับจ่ายกันในโลกปีศาจ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้กระตุ้นความสามารถทางพลังวิญญาณ และสำแดงเทคนิคมนตราอันทรงพลังได้อีกด้วย
ต้องทราบนะว่าเดิมที โลกปีศาจของซี่ฉีนั่นแห้งแล้งอย่างเห็นได้ชัด มันจึงผู้ใดคิดแก่งแย่ง ทว่าหลังจากทำการผสานรวมเข้ากับโลกของปีศาจกระดูก แหล่งกำเนิดของโลกก็อุดมสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ทั่วทุกมุมโลก ปรากฏสิ่งแปลกๆ ผุดขึ้นมาจากพื้นดินมากมาย บางครั้งในความว่างเปล่าก็เช่นกัน
พวกปีศาจที่มามุงดูเริ่มกระจายตัว และปล้นชิงสมบัติของโลกปีศาจใบนี้
เพียงครู่เดียว ตลอดทั้งโลกปีศาจของซี่ฉีก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
“นายน้อย พวกเขากำลังปล้นขุมทรัพย์ของโลกใบนี้” ฉานนู่เอ่ยเตือน
“อืม”
กู่ฉิงซานตอบรับส่งๆ ขณะที่สมาธิส่วนใหญ่ของเขายังคงมุ่งไปกับการรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างระมัดระวัง
ฉานนู่กล่าวอย่างไม่ยินยอม “นายน้อย ตอนนี้ท่านคือกษัตริย์ปีศาจของโลกใบนี้นะ นั่นหมายความว่าสมบัติเหล่านั้นสมควรตกเป็นของท่าน”
กู่ฉิงซาน “มันไม่เป็นไรหรอก จะช้าจะเร็ว พอผสานรวมโลกปีศาจใบต่อไป เดี๋ยวของพวกนี้ก็มีมากขึ้นเอง ดังนั้นตอนนี้ต่อให้พวกมัน-”
กู่ฉิงซานกระตุกไปอย่างกะทันหัน บนใบหน้าเริ่มปรากฏร่องรอยของความสุข
“ข้าสัมผัสได้! สัมผัสได้ว่าความแข็งแกร่งกำลังพุ่งทะยานขึ้น!” เขาบ่นพึมพำ
แหล่งกำเนิดของโลกกำลังตอบสนองต่อร่างกายกู่ฉิงซาน
ซึ่งนั่นหมายความว่า โลกใบนี้ได้ยอมรับถึงสถานะตัวตนของเขาแล้ว!
เหมือนกับที่ฉานนู่ได้กล่าวเอาไว้ ว่าการผสานรวมโลกเข้าด้วยกัน มันย่อมช่วยให้เขาได้รับผลประโยชน์ และตอนนี้ ตัวตนของเขาอยู่ในสถานะกษัตริย์ปีศาจซี่ฉี ดังนั้นโลกใบนี้จึงยินยอมมอบพลังงานจากแหล่งกำเนิดให้เขาเล็กน้อย
กู่ฉิงซานเร่งส่งดิสก์ค่ายกลให้แก่ฉานนู่อย่างรวดเร็ว
“ฉานนู่ จงรับหน้าที่เป็นธรรมพิทักษ์ให้แก่ข้า”
“เจ้าค่ะ นายน้อย”
พอรับคำ ฉานนู่ก็เริ่มจัดวางค่ายกลป้องกันทีละชั้น ทีละชั้น
เธอจัดวางหลายค่ายกลป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดภายในลมหายใจเดียว จากนั้นสองมือก็คว้ากุมดาบขุนเขาเทวะและเช่าหยิน หยุดยืนหยัดอยู่ข้างกายกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานปิดตาลง และเริ่มชักนำร่องรอยของพลังงานจากแหล่งกำเนิด นำมันมาใช้ยกระดับญฐานวรยุทธของเขา
พลังวิญญาณของเขาในเวลานี้ช่างสงบและเงียบงัน ไม่มีความผันผวนใดๆ เปรียบดั่งแหล่งน้ำใต้ฝนยามค่ำ ระดับของมันค่อยๆ สูงขึ้นอย่างช้าๆ
กู่ฉิงซานกดมือลงบนถุงสัมภาระ ทำการเลือกเทคนิคฝึกยุทธขอบเขตดาราโกลาหลจากใบหยกขนาดใหญ่ยักษ์ที่เซี่ยกู่หงส์เตรียมเอาไว้ให้ เริ่มจ่ายออกด้วยแต้มพลังวิญญาณทันที
ชั่วพริบตาเดียว กระบวนการทั้งหมดที่ใช้ในการทะลวงอุปสรรคของขอบเขตดาราโกลาหลก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของเขา
สมาธิของกู่ฉิงซานจมอยู่กับเทคนิคฝึกยุทธ ขับเคลื่อนพลังวิญญาณมุ่งเข้าสู่ตันเถียน
ไม่นาน
เขาก็สามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตดาราโกลาหลขั้นกลาง!
อีกพักหนึ่ง
ก็สามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตดาราโกลาหลขั้นปลาย!!
…ในไม่ช้า เขาก็เกือบที่จะตัดผ่านจากดาราโกลาหล ยกระดับขึ้นสู่ขอบเขตหวนคืนสู่ศูนย์
แต่พลังวิญญาณก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเกิดการปั่นป่วนแต่อย่างใด
สาเหตุแน่นอนว่าย่อมเกิดจากพลังงานแหล่งกำเนิดของโลก ที่ช่วยให้สภาวะร่างกายและจิตวิญญาณของกู่ฉิงซานสงบ พรั่งพร้อม มั่นคงเป็นอย่างยิ่ง
สรุปว่าเขาสามารถดำเนินการตัดผ่านต่อได้เลย!
กู่ฉิงซานทดลองปลดปล่อยจิตสัมผัสเทวะ และค้นพบว่า การรับรู้ของตนที่เกี่ยวข้องกับโลกกำลังขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ทุกสิ่งอย่างชัดเจนมากขึ้นกว่าที่เห็นในสายตา
นี่นับว่าเป็นข่าวดี
เพราะสองท่าร่างสกิลเทวะของเขา มันล้วนต้องอาศัยระยะพิสัยของจิตสัมผัสเทวะในการใช้งาน
กู่ฉิงซานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
นางเซียนไป่ฮั่วสามารถยกระดับได้ด้วยความเร็วสูง อย่างหนึ่งก็เพราะเธอครอบครองพรสวรรค์สูงลิ่วโดยกำเนิด สูงจนกระทั่งเทพวิญญาณก็ยังรู้สึกริษยา แต่ในทางกลับกัน มันก็หนุนเสริมมาจากการผสานรวมโลกหลายใบด้วยเช่นกัน
ซึ่งนี่คือกลยุทธ์ที่กู่ฉิงซานนำมาใช้ดัดแปลง หลังจากที่ถูกชายชรากำชับว่าต้องยกระดับสู่ขอบเขตกระจ่างจิตเทวะให้จงได้ เขาคิดอยู่นานจนได้ข้อสรุปว่า วิธีการยกระดับที่ไวที่สุด ย่อมไม่พ้นทำการผสานโลก และอาศัยพลังงานแหล่งกำเนิดโลกที่เพิ่มพูนขึ้น เกื้อหนุนตนให้สามารถตัดผ่านไปยังระดับถัดไป!
ในเวลานี้ ตลอดทั้งโลกปีศาจของซี่ฉี บังเกิดเสียงระเบิดโห่ร้องดังสนั่นขึ้นเป็นระยะๆ
ปีศาจในโลกเติบโตขึ้น ความแข็งแกร่งของพวกมันถูกส่งเสริมขึ้นอย่างรวดเร็ว
โลกปีศาจทั้งใบ ทรงพลังยิ่งกว่าเก่าก่อน
กู่ฉิงซานยืนอยู่ในสถานที่เดิม มุมปากค่อยๆ ผุดยิ้ม
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมรอยยิ้มของตนเอง จนในที่สุดก็หลุดปากหัวเราะออกมา
“นายน้อย เกิดอะไรขึ้น? มีเรื่องใดน่าตลกงั้นหรือ?” เธออดไม่ได้ต้องเอ่ยถาม
“ฉานนู่ เจ้าทราบหรือไม่ ว่าหากทัณฑ์สวรรค์เริ่มต้นขึ้น ไม่ว่าจะกษัตริย์ปีศาจ หรือราชาภูต ก็ล้วนต้องถูกระงับพลังลง ส่งผลให้สามารถปลดปล่อยอำนาจได้เพียงในขอบเขตที่ทัณฑ์สวรรค์เป็นตัวกำหนดเท่านั้น โดยมันจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าข้าเพียงเล็กน้อย”
“เรื่องนี้ข้าทราบ นายน้อย”
“ด้วยหนทางนี้เอง พวกมันจึงไม่มีทางเขาชนะข้าได้ ข้าไม่จำเป็นต้องระมัดระวังใดๆ เพราะปีศาจทุกตัวต่างก็ล้วนอ่อนแอเหมือนกันหมด ไม่ต้องพะวง คิดหาวิธีการเอาชนะสงคราม”
กู่ฉิงซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ด้วยวิธีนี้ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องเร่งวิ่งวุ่นไปรอบๆ ขอเพียงเริ่มเปิดทัณฑ์สวรรค์โดยตรง พวกเขาก็จะถูกลากมาหาข้าด้วยตัวเอง จากนั้น ข้าก็จะใช้พลังที่เหนือกว่า คร่ากุม แล้วบีบบังคับให้พวกมันนำแหล่งกำเนิดธาตุจำเพาะทั้งห้า มามอบให้ กลยุทธ์นี้ช่างรวบรัดและรวดเร็ว เจ้าเห็นด้วยหรือไม่?”
ฉานนู่ที่รับฟังอยู่ข้างๆ ตะลึงลาน
กู่ฉิงซานกำหมัดแน่น ปากอ้าตะโกน “ทัณฑ์สวรรค์จริงๆ แล้วช่างมีประโยชน์โดยแท้ ข้าจะใช้โอกาสนี้ ปล้นแหล่งกำเนิดโลกของกษัตริย์ปีศาจ และราชาภูตทั้งหมดเอง!”
ฉานนู่เหม่อมองกู่ฉิงซาน กล่าวด้วยความลังเลว่า “นายน้อย...ทัณฑ์สวรรค์มิได้มีไว้ให้ใช้ฉกฉวยผลประโยชน์เช่นนั้น”
“ไม่ต้องพูดแล้ว พวกเรามาทำให้เห็นกับตาเลยดีกว่าในตอนนี้”
กู่ฉิงซานกล่าว เขารีดเค้นพลังวิญญาณเต็มพิกัด เพื่อกระตุ้นกฎเกณฑ์ของฟ้าดิน
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้การผสานโลกยังไม่เสร็จสมบูรณ์ กฎเกณฑ์ฟ้าดินเลยไม่สามารถสร้างหายนะโทษทัณฑ์ขึ้นมาได้
หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ
โลกทั้งใบมันไม่ตอบสนองต่อการยกระดับของเขา
ส่งผลให้กู่ฉิงซานสามารถอาศัยโอกาสนี้ ตัดผ่านยกระดับขึ้นสู่ขอบเขตต่อไปได้เลยตรงๆ โดยไม่ต้องเผชิญกับทัณฑ์สวรรค์ของดาราโกลาหล
นี่เป็นสถานการณ์ที่นับว่าหาได้ยากยิ่ง
กู่ฉิงซานขบคิดสักพัก ก็เข้าใจ
เขาจึงค่อยเก็บรวบรวมพลังวิญญาณที่ปะทุจากทั้งร่างกลับคืน ยังไม่คิดตัดผ่านมันชั่วคราว
เพราะตามกลยุทธ์ของเขา หากไม่มีทัณฑ์สวรรค์ กษัตริย์ปีศาจกับราชาภูตก็จะไม่มา นั่นหมายความว่าตนเองจะไม่สามารถปล้นแหล่งกำเนิดธาตุจำเพาะทั้งห้าจากโลกปีศาจอย่างรวดเร็วได้
อย่ามาล้อเล่นนะ ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้ จะให้เขาไปเรียกพวกมันมาสู้ด้วยทีละตัวรึไง?
รอไปก่อนเถอะ ไม่น่าจะนานเกินไป
อาศัยประโยชน์จากทัณฑ์สวรรค์นี่แหละ เป็นวิธีการที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดแล้ว
กู่ฉิงซานยืนอยู่ในจุดเดิมอย่างสงบ เฝ้ารอคอยการผสานรวมโลกสิ้นสุดลง
ตัวเขาในเวลานี้ ปรารถนาสุดหัวใจที่จะเริ่มต้นทัณฑ์สวรรค์
ช่วงระหว่างที่รอคอย เขาก็ตระหนักได้ถึงบางอย่างขึ้นทันใด
สถานที่อยู่ของดาบนภา ยิ่งนาน ก็ยิ่งคล้ายว่าจะเริ่มชัดเจน
กระทั่งเป้าหมายของมอนสเตอร์บรรพกาลและเทพวิญญาณ กู่ฉิงซานก็ยังสามารถล่วงรู้ถึงมันได้แล้วเช่นกัน
ไหนจะผลลัพธ์จากการผสานรวมโลกปีศาจ ที่สามารถยกระดับฐานวรยุทธของตัวเองได้อีก
ตอนนี้ หลายหลากเหตุการณ์ที่แต่เดิมมืดมัวในจิตใจของเขา เริ่มกระจ่างขึ้น
ถ้าอย่างงั้นละก็...
กู่ฉิงซานมองไปยังหน้าต่างระบบเทพสงคราม สายตาเบนลงไปตรงหนึ่งในไอคอน
ซึ่งไอคอนนี้พิเศษกว่าอันอื่นๆ เป็นอย่างยิ่ง มันเกิดขึ้นจากในสถานการณ์ที่เขาคิดหมายมั่นที่จะต่อสู้ด้วยคมดาบ
เป็นไอคอนในส่วนของ ‘ภารกิจเทพสงคราม’
ในโลกสมบัติของทริสเต้ ครั้งหนึ่งกู่ฉิงซานเคยเปิดใช้งาน ‘ภารกิจแห่งโชคชะตา’ และทำการอัปเกรดมัน จนเปลี่ยนแปลงมาเป็น ‘ภารกิจเทพสงคราม’
‘ภารกิจเทพสงคราม’ จะพิเศษยิ่งกว่า มันไม่เพียงแต่มอบรางวัลระดับสูงให้เท่านั้น แต่ในระหว่างภารกิจ มันยังมอบสกิลสนับสนุนให้แก่เขาอีกด้วย
ครั้งล่าสุด กู่ฉิงซานได้รับ ความสามารถ ‘สั่งสมแต้มพลัง’ ซึ่งช่วยให้เขาสามารถเพิ่มพูนความสามารถในการโจมตีของสกิลได้
แม้ว่าความสามารถที่โคตรจะมีประโยชน์นี้ จะหายไปหลังจากที่เขาบรรลุภารกิจ แต่ทว่า ‘สั่งสมแต้มพลัง’ ก็นับว่ามีบทบาทอย่างใหญ่หลวงในการต่อสู้
และตอนนี้ เงื่อนไขทุกอย่างเหมือนจะสุกงอมแล้ว...
มันได้เวลาที่ตัวเขาจะเปิดใช้งานฟังก์ชันภารกิจเทพสงครามอีกครั้ง!
กู่ฉิงซานสูดหายใจลึกและกล่าว “ระบบ เริ่มทำการปล่อยภารกิจเทพสงครามได้”
หน้าต่างเทพสงครามส่องสว่างขึ้นทันใด
ตัวเลือกภารกิจเทพสงครามปรากฏขึ้นใจกลางหน้าต่าง
สามบรรทัดแสงหิ่งห้อยผุดขึ้นเบื้องล่างของภารกิจ
“ดาบยาวของคุณ คือเป้าประสงค์ของระบบ”
“ภารกิจเทพสงครามกำลังจะถูกเปิดใช้งาน โปรดตั้งเป้าหมายสุดท้ายของภารกิจด้วย”
“คำอธิบาย เป้าหมายภารกิจยิ่งยากเท่าใด กระบวนการระหว่างภารกิจก็จะยิ่งซับซ้อน แต่ขณะเดียวกัน อำนาจในการใช้แต้มพลังวิญญาณของคุณก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น”
กู่ฉิงซานกล่าวโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย “เป้าหมายภารกิจของพวกเราคือ การได้รับดาบนภา”
บนหน้าต่างเทพสงครามหยุดไปชั่วลมหายใจ
จากนั้น บรรทัดข้อความที่เกี่ยวข้องกับภารกิจก็ปรากฏขึ้น
“ตามข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับทราบ ตอนนี้ ภารกิจเทพสงครามได้รับการอนุมัติเปิดตัวแล้ว”
“คำอธิบายภารกิจ นี่คือโศกนาฏกรรมของเผ่าพันธุ์มนุษย์ยุคโบราณ มอนสเตอร์บรรพกาลและเทพวิญญาณได้ทำข้อตกลงร่วมกันตั้งแต่ต้น ว่าจักต้องกำจัดเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมดลงให้จงได้ และพวกเขาเกือบจะบรรลุในสิ่งที่ปรารถนาแล้ว ทว่า ในช่วงวินาทีสุดท้าย เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ทำการหลอมกลั่นดาบคู่พิภพและนภาขึ้นมาได้สำเร็จ ตามตำนานกล่าวว่า มีเพียงดาบคู่พิภพและนภาเท่านั้น ที่เผ่ามนุษย์จักสามารถใช้ถอนรากฐานโคน สับสะบั้นศีรษะของเทพวิญญาณลงได้”
“เนื้อหาภารกิจ เผ่ามนุษย์กำลังล่มสลาย แต่คุณต้องเดินทางข้ามผ่านช่วงเวลาอันไร้ที่สิ้นสุด ไหนจะถูกติดตามไล่ล่าโดยตัวตนที่ยิ่งกว่าทรงอำนาจ ต้องเผชิญกับมอนสเตอร์บรรพกาลและทุกประเภทของเผ่าพันธุ์เทพ ที่ใช้ทุกกลยุทธ์โดยไม่เลือกวิธีการ ซึ่งคุณจะต้องเอาชนะทั้งหมดที่กล่าวมา และได้ครอบครองดาบนภาในที่สุด”
“เป้าหมายภารกิจ ได้รับดาบนภา”
“รางวัลภารกิจ ภารกิจนี้ ยิ่งใหญ่และยากเย็นยิ่งกว่าทุกปัญหาที่คุณเคยพบเจอมา มันจักส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อชะตากรรมของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งมวล ส่งอิทธิพลต่อทุกสิ่งมีชีวิตในห่วงโซ่อาหาร ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ข้างต้น ‘ฟังก์ชันภารกิจเทพสงครามจึงจะดำเนินการประสานรวมกับฟังก์ชันสมญาเทพสงคราม’ เพื่อตั้งรางวัลภารกิจที่เหมาะสมกับความสามารถในการต่อสู้ของคุณ”
เห็นแค่เพียงตรงส่วนล่างของหน้าต่างเทพสงคราม ไอคอน ‘สมญาเทพสงคราม’ ค่อยๆ ลอยมายังใจกลางหน้าต่าง ผสานรวมเข้ากับภารกิจเทพสงคราม
กู่ฉิงซานอดไม่ได้ที่จะตกใจ
นี่พวกมันประสานรวมกัน?
นับเป็นครั้งแรกเลยที่ภารกิจเทพสงครามและสมญาเทพสงครามประสานกัน
ในช่วงเวลาสั้นๆ
เห็นแค่เพียงเส้นแสงหิ่งห้อยบรรทัดใหม่ปรากฏขึ้น
“คำอธิบาย คุณมีสถานะเป็นทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์และราชาภูต ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกสกิลที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างเทคนิคดาบในดวงตา สกิลดาบเองก็เหนือยิ่งกว่าฐานนักดาบนิรันดร์ คุณมีความแข็งแกร่งและโหดเหี้ยม ชื่อเสียงแพร่สะพัดไปทั่วทั้งโลกปีศาจ ดังนั้น ระบบจึงได้มอบสมญาเทพสงครามที่เหมาะสมให้แก่คุณ”
“คำอธิบาย สมญาเทพสงครามและภารกิจเทพสงครามประสานรวมกัน ก่อให้เกิดรูปแบบการใช้แต้มพลังแบบใหม่ สำหรับภารกิจนี้โดยเฉพาะ”
“ระหว่างภารกิจเทพสงคราม คุณจะได้รับสมญาเทพสงครามใหม่เป็นการชั่วคราว”
“สมญาเทพสงครามชั่วคราว ‘ดาบมาร’”
“และเมื่อไหร่ที่คุณสามารถบรรลุภารกิจเทพสงครามได้สำเร็จ สมญาพิเศษ ‘ดาบมาร’ ก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของฟังก์ชันสมญาเทพสงครามของคุณ”
“ยามเมื่อสวมใส่สมญานี้ คุณจะได้รับสกิลพิเศษ เนตรสะบั้นจิตวิญญาณ”
……………………………………..