webnovel

0701 สำรับไพ่ผู้ตัดสินบาป

ตอนที่ 701 สำรับไพ่ผู้ตัดสินบาป

“โปรดทราบ”

“อีกไม่นาน คุณจะกลายเป็นไพ่!”

กู่ฉิงซานจ้องมองหน้าต่างมองต่างเทพสงคราม ทั้งคนทั้งร่างกลายเป็นโง่งม

แม้ประโยคนี้จะดูเรียบง่าย แต่ขณะเดียวกันมันก็เหนือล้ำเกินกว่าจินตนาการ กู่ฉิงซานต้องพยายามอย่างหนักเพื่อจะสงบสติอารมณ์ตน

ก่อนที่เขาจะทันได้คิดเกี่ยวกับมันได้มากกว่านี้ วัยรุ่นสาวก็เริ่มเคลื่อนไหวซะก่อน

เธอชูนิ้วชี้ขึ้น และกดมันลงเบาๆ บนระหว่าง

บังเกิดแสงสาดออกมาจากหว่างคิ้วเธอ  ถ่ายเทลงในนิ้วที่พึ่งวางไป

ช่วงเวลาที่แสงนี้สาดออกมา คล้ายกับว่าโลกทั้งใบได้หายวับไป

ไร้ซึ่งมิติและเวลา

ปรากฏให้เห็นแค่เพียงจุดแสงที่ส่องประกายอยู่ในโลกสิบทิศ

ท่ามกลางโลกนับล้านๆ และสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ทั้งหมดต่างหมอบคลานเข้าหาจุดแสงนี้

กระทั่งกู่ฉิงซานก็ยังบังเกิดความรู้สึกนอบน้อมอย่างมิอาจต้านทานได้

วัยรุ่นสาวพยุงแสงนี้ไว้อย่างระมัดระวัง ค่อยๆ ก้าวเท้าเดินเข้าหากู่ฉิงซาน

ปากเปล่งเสียงกระซิบ “มอบสิทธิ์การเปลี่ยนร่าง”

สิ้นเสียง จุดแสงพลันถูกกดเข้าไปในหน้าอกของกู่ฉิงซาน

พริบตานั้นตลอดทั้งร่างของเขาพลันผลิบานไปด้วยบุปผาแสงสดใส

ในช่วงเวลาเดียวกัน กู่ฉิงซานรู้สึกคล้ายกับตนได้ถูกส่งออกห่างจากโลกใบนี้ไป มาปรากฏในมิติอันมืดมิดอีกแห่งหนึ่ง

การดำรงอยู่มากมายที่เร้นกายอยู่ในส่วนลึกของความมืดมิดนี้ เมื่อพวกมันเห็นกู่ฉิงซานปรากฏตัวขึ้น ทั้งหมดต่างก็แสดงออกถึงความสุขอย่างเปี่ยมล้น

“คุณได้กลายเป็นไพ่”

“คุณได้ละเมิดกฎเกณฑ์ที่ทวยเทพบัญญัติเอาไว้”

“เจตจำนงของทวยเทพกำลังจะสังหารคุณ”

“ทว่าก่อนหน้านี้คุณได้รับ ‘การรับรอง’ ให้สามารถเปลี่ยนร่างจากพลังแห่งบรรพกาลแล้ว”

“พิจารณาจากคำสาบานร่วมกันของทวยเทพ คุณได้รับสิทธิ์ในการเปลี่ยนร่างเป็นกรณีพิเศษ”

“คุณได้กลายเป็นไพ่โดยสมบูรณ์แล้ว”

บรรทัดแสงหิ่งห้อยหยุดลงเพียงเท่านี้

ทันใดนั้นปรากฏไพ่ใบหนึ่งขึ้นใจกลางหน้าต่างเทพสงคราม

มันเป็นไพ่สีเทา เบื้องหลังฟุ้งไปด้วยหมอกที่ดูสับสนไร้ที่สิ้นสุด เบื้องหน้าเป็นรูปกู่ฉิงซานกำลังยืนถือดาบคู่ ลอยอยู่กลางอากาศ

ในส่วนล่างของไพ่ บรรทัดคำอธิบายทยอยกันปรากฏออกมา

“ไพ่สีเทา ผู้ฝึกดาบกู่ฉิงซาน”

“ระดับ ไพ่เทาระดับศูนย์”

“คู่หู นางฟ้าตัดสินบาป ‘ซี’ ”

“สังกัดสำรับไพ่ สำรับไพ่ผู้หลบหนี”

หลังจากที่กู่ฉิงซานอ่านข้อมูลไพ่ของตัวเอง ข้อมูลทั้งหมดก็พุ่งออกมา และปรากฏเส้นแสงหิ่งห้อยขึ้นอีกครั้ง

“ในไม่ช้าคุณจะได้รับตำแหน่ง ราชทูตตัดสินบาป”

“คุณได้กลายเป็น ‘ราชทูตตัดสินบาป’ แล้ว”

เมื่ออักษรในบรรทัดสุดท้ายปรากฏขึ้น ตัวกู่ฉิงซานก็สาดแสงสว่างสดใส

มิติอันมืดมิดได้หายไป

กู่ฉิงซานค้นพบว่าตนได้กลับมายังโลกทะเลทรายอีกครั้ง

อักษรรูนสีเทาทั้งหมดรอบกายเขาได้หายไป

เขาลดระดับลงมาจากกลางอากาศอย่างช้าๆ และอดไม่ได้ที่จะทดลองขยับร่างกายของเขา

พบว่ามันไม่มีความผิดปกติใดๆ

“การเปลี่ยนร่างสำเร็จ!”

วัยรุ่นสาวชุดขาวกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

กู่ฉิงซานมองเธอ

เห็นแค่เพียงการแสดงออกที่ดูใกล้ชิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนของวัยรุ่นสาว เธอยิ้ม “นับตั้งแต่วันนี้ไป นายจะเป็นคู่หูเพียงหนึ่งเดียวของฉัน!”

เธอชูสองแขนขึ้น ตะโกนโห่ร้อง “ยอดไปเลย ในที่สุดฉันก็มีคู่หูแล้ว!”

“ใจเย็นก่อนนะ ช่วยอธิบายหน่อย ฉันยังไม่เข้าใจเลยว่านี่มันเรื่องอะไรกัน?” กู่ฉิงซานถาม

วัยรุ่นสาว “ไม่ใช่ว่านายต้องการช่วยเหลือทั้งสามร้อยกว่าชีวิตนั่นหรือ?”

กู่ฉิงซาน “อ่า ก็ใช่”

วัยรุ่นสาว “แล้วนายก็ไม่สามารถกลายเป็นเทพได้อีกด้วยใช่ไหม?”

“ใช่”

วัยรุ่นสาวปรบมือ “เพราะฉะนั้น ฉันก็เลยเปลี่ยนนายให้เป็นการดำรงอยู่ชนิดเดียวกันกับฉันไง!”

กู่ฉิงซาน “…เธอหมายถึงไพ่ใช่หรือเปล่า?” ตัวเขารู้สึกว่ากำลังฝันอยู่

“หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือตอนนี้ฉันเป็นไพ่? แล้วก็ยังเป็นไพ่ของเธอด้วย?” เขาอดไม่ได้ที่จะถาม

“ไม่ นายเป็นเหมือนกันกับฉัน เป็นผู้ตัดสินบาป” วัยรุ่นสาวส่ายหัว

กู่ฉิงซานถาม “แต่ฉันไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนเลย มันคืออะไร?”

วัยรุ่นสาวกำลังจะพูด แต่ทันใดนั้นตลอดทั้งผืนทรายพลันเกิดการสั่นสะเทือน

มันเป็นการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ วัยรุ่นสาวกับกู่ฉิงซานจำเป็นต้องลอยอยู่กลางอากาศหลายสิบลมหายใจ กว่าที่การสั่นสะเทือนจะหยุดลง

ทั้งสองค่อยกลับมาหยั่งเท้าบนพื้น

“แปลกจริง ตามความรู้ความเข้าใจของฉัน โลกใบนี้มันไม่สมควรจะเกิดแผ่นดินไหวได้เลยนี่นา” กู่ฉิงซานกล่าว

วัยรุ่นสาวพยายามรับรู้ถึงสิ่งรอบตัว สีหน้าของเธอหนักอึ้งขึ้น “อ๊ะ ดูเหมือนว่าฉันจะต้องรีบบอกนายทุกอย่างซะแล้ว ไม่อย่างนั้นมันจะสายเกินไป”

“ว่ามาสิ”

“นายรู้จักโลกยุคก่อนประวัติศาสตร์ไหม?”

“รู้ มันคือโลกที่ดำรงอยู่มาก่อนทวยเทพจะปรากฏตัวขึ้น”

วัยรุ่นสาว “โลกใบนี้คือโลกยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีกฎเกณฑ์ ‘ไม่ดับสูญ’ แต่บางครั้งกฎ ‘ไม่ดับสูญ’ จะถือกำเนิดสิ่งมีชีวิตบางอย่าง ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าการดำรงอยู่ของเทพวิญญาณขึ้น และสิ่งมีชีวิตที่ว่ามานี้ไร้ซึ่งอารมณ์หรือจิตสำนึก นอกเหนือไปจากการกลืนกินเทพวิญญาณจนเต็มท้องแล้ว ความสุขที่เหลือของมันก็มีเพียงการทำลายล้างเท่านั้น”

“มันฟังดูน่ากลัวจังแฮะ” กู่ฉิงซานกล่าว

“ใช่ ทุกครั้งที่มอนสเตอร์ไม่ดับสูญปรากฏกายขึ้น มันคือหายนะสำหรับเหล่าทวยเทพ”

“แต่นับว่าโชคยังดี ที่เหล่าทวยเทพโดดเด่นในการรังสรรค์ พวกเขาสามารถสร้างอาวุธและพลังอำนาจที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าตนเองได้”

“ราชทูตตัดสินบาปเองก็เป็นหนึ่งในนั้นใช่ไหม?” กู่ฉิงซานถาม

“ถูกต้อง นายนี่ฉลาดเหมือนกันนะ” วัยรุ่นสาวยกย่อง “ทุกการดำรงอยู่ที่สามารถคุกคามเทพวิญญาณได้ จะถูกพิจารณาว่าเป็น ‘บาป’ โดยเทพวิญญาณ”

“อย่างไรก็ตาม ราชทูตตัดสินบาปก็ได้ถูกสร้างขึ้นโดยเจ็ดเทพปีศาจ และถูกสั่งให้ใช้พลังอำนาจที่เหนือล้ำยิ่งกว่าพวกเขา คอยทำหน้าที่ปกป้องเจ็ดเทพปีศาจ ถอนรากถอนโคนสิ่งที่เจ็ดเทพเรียกมันว่า ‘บาป’ ทั้งหมดให้สูญสิ้นไป”

กู่ฉิงซานเอ่ยถาม “แล้วราชทูตตัดสินบาปทั้งหมดมีกันกี่คน?”

วัยรุ่นสาวส่ายหัว “มีกี่คนงั้นหรือ? แค่สร้างฉันคนเดียว เจ็ดเทพปีศาจก็ใช้พลังไปหมดแล้ว”

“เพื่อที่จะต่อสู้กับบาปที่มิอาจเอาชนะ เจ็ดเทพปีศาจได้พยายามรังสรรค์สิ่งที่ทรงพลังขึ้นมากมาย และมอบพวกมันให้กับฉันเพื่อสร้าง ‘สำรับไพ่ผู้ตัดสินบาป’ ขึ้น”

“ฉันรับภารกิจในการปกป้องเทพปีศาจ คอยวิ่งวุ่นไปในโลกนับอนันต์ ทั้งสังหาร ทั้งผนึกมอนสเตอร์เหล่านั้นเอาไว้ และในที่สุดเจ็ดเทพปีศาจก็ปลอดภัย”

“ครั้งสุดท้าย เจ็ดเทพปีศาจค้นพบว่าโลกก่อนประวัติศาสตร์ที่อยู่ภายใต้เท้าของพวกเราใบนี้ มันกำลังจะถือกำเนิดการดำรงอยู่แห่งบาปที่ทรงประสิทธิภาพขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงสั่งให้ฉันลงมือ”

“และในฐานะที่เป็นราชทูตตัดสินบาป ฉันจึงไม่ลังเลแม้แต่น้อย”

“แต่ในครั้งนั้น สถานการณ์มันกลับยากเย็นกว่าที่เคย ฉันจำต้องใช้พลังทั้งหมดของฉัน ถึงจะสามารถผนึกบาปตนนั้น ให้จมลงสู่ห้วงนิทรา”

“แต่หลังจากเหตุการณ์นั้น พอได้มาลองคิดๆ ดูแล้ว ฉันจึงตระหนักได้ว่าเทพวิญญาณน่ะรู้จักพลังของฉันเป็นอย่างดี ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกใช้มอนสเตอร์ตัวนั้นในการกำจัดฉัน”

“เดี๋ยวก่อนสิ เมื่อกี้เธอพูดว่าพวกเขาคิดกำจัดเธองั้นหรือ?” กู่ฉิงซานทนไม่ไหวต้องเอ่ยถาม

วัยรุ่นสาวถอนหายใจ “ใช่แล้ว ในตอนที่ฉันสามารถผนึกมอนสเตอร์ลงได้ พลังของฉันก็หมดลง เทพวิญญาณก็ได้ใช้กับดักที่เตรียมเอาไว้ลอบโจมตีฉัน และผนึกฉันไปพร้อมกับมอนสเตอร์”

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักค่อยเอ่ยถาม “หรือว่าพวกเขาจะกลัวเธอ?”

วัยรุ่นสาว “ถูกต้อง ในวันสุดท้ายที่ฉันอยู่พร้อมหน้ากับเจ็ดเทพปีศาจ ฉันค่อยๆ มีความนึกคิดเป็นของตัวเอง ไม่ใช่แค่เพียงเครื่องมืออีกต่อไป ฉันไม่มีวันลืมเลย ว่าในตอนที่ฉันแสดงอารมณ์ของตัวเองเป็นครั้งแรก สีหน้าของพวกเขาหวาดกลัวถึงขนาดไหน”

เธอเงียบไปและพูดต่อ “หลังจากนั้น ฉันก็ถูกผนึก และจมลงสู่ห้วงหลับไปเป็นเวลานาน เฝ้ารอวันเวลาที่จะตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ”

“ฉันค้นพบว่าโลกภายนอกได้เปลี่ยนผัน และเจ็ดเทพปีศาจก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว”

นอกจากนี้ยังไม่มีราชทูตตัดสินบาปปรากฏขึ้นมาให้เห็น แต่กลับเป็นผู้ใช้ไพ่มาแทนที่

“นี่คงเป็นเพราะเทพวิญญาณ ยังคงหวาดกลัวการปรากฏขึ้นของบาป แต่ขณะเดียวกัน ก็หวาดกลัว ‘ฉัน’ ที่ตนรังสรรค์ขึ้นมาเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึง ‘เปลี่ยนกฎเกณฑ์ของไพ่ ให้กลายเป็นผู้ใช้ไพ่แทน’ ซึ่งตัวตนเหล่านี้อ่อนแอกว่าเดิมหลายเท่านัก”

“แล้วถ้าอย่างนั้น ทำไมฉันถึงได้กลายมาเป็นราชทูตตัดสินบาปล่ะ?” กู่ฉิงซานถาม

“เป็นเพราะในตอนที่ฉันถูกสร้างขึ้น ‘สี่เทพทรงธรรม’ ได้มอบหมาย ‘อำนาจการรับรอง’ ที่จะช่วยให้ฉันสามารถ ‘เปลี่ยน’ คนอื่นเป็นราชทูตตัดสินบาปได้ แต่ภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นเทพทรงธรรมหรือเทพปีศาจ พวกเขาก็คงจะรู้สึกว่าพลาดเช่นกันที่มอบพลังนี้ให้แก่ฉัน”

“นอกเหนือไปจากที่ว่ามา ก็ยังมีเหตุผลอีกหนึ่ง” วัยรุ่นสาวมองกู่ฉิงซานและกล่าว “นั่นคือ นายเองก็เป็นเหมือนกันกับฉัน ที่ได้ถูก ‘ปลดล็อกจิตวิญญาณ’ ซึ่งอำนาจนี้เป็นสิ่งที่เจ็ดเทพปีศาจไม่สามารถทำได้ มีเพียงสี่เทพทรงธรรมเท่านั้นจึงจะสามารถทำมันได้”

“ดังนั้น ด้วยความร่วมมือกันระหว่างเทพทรงธรรมกับเทพปีศาจ ในที่สุดมันก็นำมาสู่การถือกำเนิดฉัน และการเปลี่ยนร่างเป็นราชทูตตัดสินบาปของนาย”

กู่ฉิงซานเงียบ แน่นอนอยู่แล้วว่าเธอต้องดูออก

ในความเป็นจริง หากคนที่พบความลับของเขาไม่ใช่วัยรุ่นสาวคนนี้ เขาคงจะสังหารมันเพื่อกลบซ่อนความลับของตนเองไปตลอดกาลแล้ว แต่ตอนนี้ อีกฝ่ายกลับเปิดใจกับเขา และใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้เขาเปลี่ยนเป็นราชทูตตัดสินบาป จนกลายมาเป็นความลับระหว่างทั้งสองคน

แม้ว่าการปลดล็อกจิตวิญญาณจะเป็นเพียงเงื่อนไขพื้นฐาน และทวยเทพก็หวาดเกรงการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถนี้ นี่ก็พอจะบ่งบอกได้แล้วว่าราชทูตตัดสินบาปน่าหวาดหวั่นขนาดไหน

ไม่ใช่ว่านี่หรอกหรือ คือสิ่งที่เขาตามหา?

“แล้วจากนั้นล่ะ?” กู่ฉิงซานถาม

วัยรุ่นสาว “เมื่อฉันตื่นขึ้นมา ฉันก็พบว่ามอนสเตอร์ไม่ดับสูญยังคงอยู่ในผนึกของฉัน”

“แต่ขณะเดียวกันฉันก็ติดอยู่ในสำรับไพ่ผู้ตัดสินบาป”

กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว “เทพวิญญาณไม่สมควรจะผิดพลาดแบบนี้ ทำไมสถานการณ์แบบนี้ถึงได้เกิดขึ้น?”

วัยรุ่นสาว “หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่นาน ฉันก็พบว่ามีหนึ่งในคริสตจักร ได้จัดสรรทรัพยากรณและกำลังคนจำนวนมาก เพื่อทำการศึกษาผนึกนี้ พวกเขาหมายปองพลังของสำรับไพ่ผู้ตัดสินบาป”

“ฉันฉวยโอกาสในช่วงจังหวะที่พวกเขายังไม่สำเร็จ คิดริเริ่มว่าจะออกไปอย่างไรดี”

“ต่อมา ฉันก็พบว่ามีเพียงการสลายอำนาจทั้งหมด ปิดผนึกภูมิปัญญาของตน และกลายเป็นการดำรงอยู่อ่อนแอเท่านั้น จึงจะสามารถเล็ดลอดไปจากผนึกหลังจากการหลับลึกได้”

“แต่นี่มันทำให้เกิดปัญหาขึ้น”

“ปัญหาอะไร?” กู่ฉิงซานถาม

“พอฉันออกมาจากสำรับไพ่ มันเลยกระตุ้นให้ ‘บาป’ที่เทพวิญญาณหวาดกลัว พลอยถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วย” วัยรุ่นสาวกล่าว

กู่ฉิงซานมองหน้าอีกฝ่าย ในแววตาเหมือนจะล่วงรู้ถึงความคิดของกันและกัน

วัยรุ่นสาวมองเข้าไปในดวงตาของกู่ฉิงซาน กล่าวอย่างจริงจัง “ที่จริงนี่ไม่ใช่การตัดสินใจของฉัน แต่เป็นความปรารถนาอันแรงกล้าของทางคริสตจักร ที่มุ่งหวังจะครอบครองสำรับไพ่ผู้ตัดสินบาป พวกเขาได้ทำการปลดผนึกบางอย่าง ส่งผลให้ฉันสามารถเป็นอิสระได้แม้จะในช่วงระยะเวลาสั้นๆ”

“ฉันคว้าโอกาสนั้นเอาไว้ เปลี่ยนสำรับไพ่ผู้ตัดสินบาปให้กลายเป็นสำรับไพ่ผู้หลบหนี จากนั้นก็สลายพลังทั้งหมดของฉันไป”

“ในเวลานั้น ฉันก็หลุดพ้นจากผนึก”

“แน่นอนว่าทางคริสตจักรสามารถตรวจพบฉันได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาล่วงรู้ความคิดของฉันที่ต้องการหลบหนีออกจากห้วงลึกของสำรับไพ่ผู้ตัดสินบาป” วัยรุ่นสาวกล่าว

“เธอเปลี่ยนสำรับไพ่ผู้ตัดสินบาป ให้กลายมาเป็นสำรับไพ่ผู้หลบหนี อย่างงั้นหรือ…” กู่ฉิงซานทวนซ้ำ

นี่เป็นสิ่งเดียวกันกับที่ปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

“แล้วทำไมเธอถึงต้องเรียกมันว่าสำรับไพ่ผู้การหลบหนีด้วย?”

วัยรุ่นสาว “ก็เพราะว่าฉันได้สูญเสียพลังส่วนใหญ่ไปแล้ว และเพราะอะไรถึงตั้งแบบนั้น นายน่าจะเดาออก”

กู่ฉิงซานแข็งค้าง เขาพลันตระหนักได้ถึงบางสิ่งในทันใด

“เข้าใจแล้ว” เขาพึมพำ “เธอได้ทิ้งผนึกทั้งหมดไป ดังนั้นหมายความว่า สิ่งที่กระทั่งเทพวิญญาณก็ยังหวาดกลัว กำลังจะตื่นจากการหลับใหลสินะ”

วัยรุ่นสาว “ใช่ และเหตุการณ์แผ่นดินไหวทั้งโลกเมื่อครู่นี้ คิดว่าเกิดจากการหลับใหลของมันที่ถูกรบกวน ฉันว่ามันกำลังจะตื่นขึ้นมาในไม่ช้า”

“งั้นพวกเราคงต้องรีบหนีกันในตอนนี้เลยใช่หรือเปล่า?”

“ถูกต้อง”

“แล้วพวกเราจะมีเวลาอีกนานแค่ไหน?”

วัยรุ่นสาวเหยียดนิ้วหนึ่งออกมา

“อีกหนึ่งวัน”

“หนึ่งวันต่อจากนี้ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกทะเลทราย จะกลายเป็นอาหารของมัน”

…………………………………………….