webnovel

0538 หายนะวิถีมาร

ตอนที่ 538 หายนะวิถีมาร

สายลมหนาวพัดกรรโชก เย็นลึกเข้าไปถึงกระดูก

กู่ฉิงซานมัดลอร่าไว้กับตัว แล้วทิ้งดิ่งลงจากยอดตึกสูง ร่วงตกลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้ง

อันที่จริงแล้วตามสถานการณ์ปกติ กู่ฉิงซานสมควรที่จะข้ามผ่านทุกชั้นไปเลยในคราวเดียว

ซึ่งนี่มันจะช่วยเขาประหยัดเวลาได้เป็นอย่างยิ่ง

แต่ตอนนี้เขากลับจำต้องระเบิดการโจมตีออกไปบ้างเป็นครั้งคราว

เพราะหลังจากที่ใช้กล้องส่องทางไกล เขาก็สามารถประเมินการต่อสู้ของตลอดทั้งหกร้อยชั้นได้อย่างละเอียดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หากในชั้นใดปรากฏมอนสเตอร์อำมหิตดุร้าย กู่ฉิงซานก็จะลงมือ ทำลายกำแพงของชั้นนั้นๆ และเข้าไปสังหารมันด้วยตัวของเขาเองทันที

โดยกระบวนการก็เริ่มจากดาบบินเล่มหนึ่งทำลายกำแพงชั้นนอก แล้วมันก็ปลีกตัวออกมาด้านข้างอย่างรวดเร็ว

เพื่อเปิดทางให้กับผู้ที่สวมใส่เกราะรบนายพลชั้นโหยวจี ที่กุมดาบพิภพหนักกว่าแปดสิบหกจุดสามสิบเจ็ดล้านจินไว้ในมือ กระโจนเข้าไปอย่างเต็มกำลัง ทำการจบการต่อสู้ลงอย่างรวดเร็ว และช่วยเหลือมิให้ผู้คนตกตายลงได้อย่างง่ายดาย

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ทั้งหมดในสถานที่แห่งนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นรุ่นเยาว์อายุไม่เกินสามสิบปีที่มาตามการเรียกขานเท่านั้น

และในบรรดาคนเหล่านั้น กู่ฉิงซานก็นับว่าเป็นหนึ่งในตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด! ฉะนั้นศัตรูที่เหล่ารุ่นเยาว์มิอาจรับมือไหว ย่อมไม่คณามือเขาอย่างแน่นอน!

ไม่กี่นาทีต่อมา

กู่ฉิงซานมาก็ได้มาถึงชั้นที่สองร้อยสามสิบเก้าในที่สุด

สถานที่ซึ่งมีผู้เข้าสู่วิถีมารหลบซ่อนตัวอยู่ในชั้นนี้!

กู่ฉิงซานสูดหายใจลึก และโบกสะบัดดาบขุนเขาเทวะหกโลกาออกไปด้วยกำลังทั้งหมดที่มี

ฝ่าวารีเชี่ยว!

ตูม!

ชั้นกำแพงพังทลายลง

“ลุยกันเลย”

กู่ฉิงซานกล่าว

แล้วดาบเช่าหยินก็พุ่งออกไป ผลุบหายเข้าไปในทะเลทราย

ตามด้วยกู่ฉิงซานขับเคลื่อนเทคนิคดาบ

กระแสธารอันยิ่งใหญ่!

รังสีดาบที่ราวกับใบมีดเล็กๆ ถูกควบรวมเข้าด้วยกัน ก่อกำเนิดกระแสธารเชี่ยวอันมิอาจต้านทาน โถมทับลงสู่พื้นทะเลทราย

เม็ดทรายนับไม่ถ้วนถูกรังสีดาบห่อหุ้ม พัดกระพือ ไหลย้อนพุ่งสู่เพดานสูง

ผู้เข้าสู่วิถีมารมิอาจหลบซ่อนตัวได้อีกต่อไป เขาจำต้องใช้กวัดแกว่งอาวุธตนเพื่อตัดรังสีดาบ เปิดทางหนีออกไป

เขาทะยานตัวลอยขึ้นมากลางอากาศ และใช้สายตาเย็นชาจ้องมองมายังกู่ฉิงซาน

และแล้วร่างของอีกฝ่ายก็ปรากฏสู่สายตาของกู่ฉิงซานจริงๆ เสียที เขาดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธที่มาจากโลกวรยุทธใดวรยุทธหนึ่ง ที่สำคัญยังเป็นมือสังหารที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

เขาจ้องมองดาบเช่าหยินที่กำลังบินกลับไป ปากเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ที่แท้ก็เป็นฝีมือของผู้ฝึกดาบนี่เอง”

“ถูกต้อง ฉันเป็นผู้ฝึกดาบ แต่แกไม่ใช่” กู่ฉิงซานกล่าว

อีกฝ่ายเคาะหลังมือลงบนดาบยาวของตน กล่าวเย้ยหยัน “นี่เจ้าตาบอดหรือ?”

“ไม่บอดนะ แต่ฉันเห็นอยู่ชัดๆ ว่าแกมันก็แค่ลูกเต่าที่หดหัวซ่อนตัวอยู่ในทะเลทราย ไม่มีผู้ฝึกดาบคนไหนเขาทำแบบแกหรอก!” กู่ฉิงซานสวน

“เจ้า ปากหาที่ตาย!”

มือสังหารสบถด้วยความโกรธ

เขาชักดาบยาวออกมา ถีบตัวตรงไปยังเบื้องหน้า หมายมั่นจะฆ่าสังหารศัตรูที่ดูถูกตน

ทว่าทันใดนั้นจู่ๆ กลับปรากฏดาบยาวขึ้นในสายตาของเขา

ใช่แล้วล่ะ มันคือดาบ

ในยามที่เขาถูกยั่วยุ และร่างกายของเขาเริ่มเคลื่อนไหว กู่ฉิงซานก็ได้คาดคำนวณเอาไว้ก่อนแล้ว และวางตำแหน่งดาบยาว ฟาดสับ ดักทางเอาไว้ก่อนล่วงหน้า!

ทว่ากว่าจะรู้ตัว มันก็ปาไปวินาทีต่อมาซะแล้ว ร่างของมือสังหารเคลื่อนที่ไปแล้ว เขาจึงมิอาจหลบเลี่ยงได้ จำต้องเข้าทานรับดาบโดยตรง

ในหัวใจของมือสังหารตระหนักชัด

“วางแผนแยบยลได้ถึงเพียงนี้ เจ้าคงเป็นผู้ฝึกดาบประเภทดาบอ่านใจสินะ?” เขาแสยะยิ้มเย็น

ตอนนี้ เขารู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังจงใจยั่วยุให้ตนเองโกรธ โดนลอบซ้อนกับดักดาบเอาไว้ วางแผนให้ตนพุ่งเข้าไปติดมัน

เมื่อคิดได้ มือสังหารก็ค่อยๆ สงบใจลง

เขาเป็นถึงนักฆ่าชั้นหนึ่ง ดังนั้นการเรียกคืนความสงบจึงนับว่าเป็นทักษะที่ตนเชี่ยวชาญ

‘หนทางที่ดีที่สุดในการกำจัดผู้ฝึกดาบประเภทอ่านใจ ก็คือการโถมโจมตีอย่างรวดเร็วจนมันมิอาจใช้สมองคาดคำนวณได้’

‘หากฝ่ายตรงข้ามที่เป็นผู้ฝึกดาบประเภทอ่านใจถูกกดดันจนมิอาจโต้ตอบได้ทัน ชัยชนะก็จะตกลงสู่มือข้าอย่างง่ายดาย’

นี่คือสิ่งที่มือสังหารคิด

ระหว่างช่วงเวลาเดือดพล่าน ด้วยประสบการณ์นักฆ่าที่มี ทำให้เขาสามารถตัดสินกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็ว

ดาบยาวในมือถูกกุมแน่น และจ้วงแทงลมออกไป

พริบตานั้นสี่สิบเก้ารังสีดาบพลันระเบิดออกมา มันวิบวับวาบข้ามผ่านชั้นอากาศ ทั้งหมดโฉบพุ่งเข้าตัดหัวกู่ฉิงซานโดยตรง

รูม่านตาของกู่ฉิงซานหดวูบลงทันที เขาเร่งชักดาบกลับขึ้นมาปัดป้องอย่างรวดเร็ว

ถึงแม้ว่าที่กำลังเผชิญอยู่ตรงหน้านี้จะมิถึงขั้นที่เรียกได้ว่าค่ายกลดาบ ทว่าตั้งสี่สิบเก้ารังสีดาบ อย่างไรก็ย่อมทรงอำนาจยิ่งกว่าการโจมตีจากดาบเล่มเดียว ดังนั้นด้วยพลังอำนาจของมัน นี่คงมิแคล้วเป็นเทคนิคลับอันแสนร้ายกาจเป็นแน่!

ฝ่ายตรงข้ามเห็นได้ชัดว่าเป็นมือสังหาร ซึ่งถึงแม้จะเป็นพวกที่ระวังตัวแจ แต่เมื่อสามารถขบคิดถึงแผนการสังหารได้ ก็ไม่ยินยอมพ่นคำใดๆ ให้เสียเวลา ลงมือใช้ออกด้วยเทคนิคเฉพาะตัวของตนอย่างรวดเร็ว

พอทั้งได้เจอได้ฟัง กู่ฉิงซานก็ลอบประหลาดใจเล็กน้อย

‘ผู้ฝึกดาบประเภทดาบอ่านใจงั้นเหรอ?’

นั่นเป็นชื่อที่ใช้เรียกประเภทของนักดาบหรือไงกันนะ?

กู่ฉิงซานลอบคิดอย่างลับๆ

ดาบเช่าหยินแปรเปลี่ยนเป็นภาพติดตา โฉบเข้าทานรับสี่สิบเก้ารังสีดาบ

แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง จู่ๆ มือสังหารก็กลับสามารถมาปรากฏตัวข้างกายกู่ฉิงซานได้อย่างกะทันหัน

มือสังหารใช้ประโยชน์จากจังหวะที่กู่ฉิงซานเบนสมาธิไปทานรับรังสีดาบทั้งสี่สิบเก้า เมื่อช่องว่างปรากฏ มือสังหารจึงฉวยโอกาสเคลื่อนกายเข้ามา และจ้วงฟันเข้าใส่เขาทันที!

“ตายซะ!” เขาตะคอกอย่างแรง

กู่ฉิงซานไม่มีเวลามากพอที่จะเรียกเช่าหยินกลับมา เขาจึงใช้มืออีกข้างคว้าดาบพิภพ แล้วฟาดแนวขนานออกไปปัดป้องเบื้องหน้าตน

เคร้ง!

สองคมดาบปะทะกัน บังเกิดเสียงอึกทึกกึกก้อง

แม้จะถูกอีกฝ่ายทานรับเอาไว้ได้ แต่บนใบหน้าของมือสังหาร กลับปรากฏรอยยิ้มตรงมุมปากขึ้นมาอย่างมิอาจอดกลั้น

ยังคงรับไว้ได้สินะ ถ้างั้นไหนลองดูซิว่าจะรับไอ้นี่ด้วยได้ไหม!?

เห็นแค่เพียงหกวิถีรังสีดาบฟาดซ้อนๆ ทับกันลงมายังสองดาบที่กำลังปะทะกัน โถมเข้ากดดันกู่ฉิงซาน

หนึ่งดาบของกู่ฉิงซานทานรับสี่สิบเก้ารังสีดาบอยู่บนท้องฟ้า อีกหนึ่งคอยทานรับศัตรูตรงหน้า เมื่อต้องพบเผชิญกับการลอบจู่โจมระลอกสาม ดาบขุนเขาเทวะหกโลกาจึงถูกเรียกออกมาจากในความว่างเปล่า และแปรสภาพเป็นร่างเงาดาบซ้อนๆ ทับกันสวนกลับไป!

เทคนิคลับแห่งดาบ วาดเงา!

ร่างเงาดาบเริ่มเบ่งบาน โฉบเข้าปะทะกับหกวิถีรังสีดาบกลางอากาศ

“จังหวะนี้แหละ!”

นักฆ่าฉวยโอกาสอีกครั้ง ปากพลันอ้าเผยอออก พร้อมด้วยบางสิ่งบางอย่างที่สาดประกายแสงสีเขียวเรืองรองถูกพ่นออกมาในพริบตา

นี่ต่างหากคือกระบวนท่าสังหารที่แท้จริงของเขา!

ฟุ่บ! เข็มบินถูกพ่นออกมา ขณะที่ก่อนหน้านั้นนักฆ่าจงใจเบนความสนใจของกู่ฉิงซานป่วนการอ่านใจของเขาให้มุ่งสมาธิไปยังเทคนิคลับแห่งดาบทั้งสาม ทั้งหมดทั้งมวลนี่ก็เพื่อชักจูงให้เขาไม่ทันคาดคิดถึงกระบวนท่าสังหารที่เตรียมเอาไว้!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘เข็มบิน’ ที่มีความสามารถทำลายชั้นป้องกัน และสามารถพุ่งเข้าสังหารศัตรูได้โดยตรง!

นี่คือกระบวนท่ารวบรวมรังสีดาบไว้ในอาวุธลับ ที่มือสังหารได้ฝึกฝนมาเป็นเวลายาวนานหลายปี มันคือเทคนิคลับในการลอบสังหารที่ทรงพลังที่สุด!

และแน่นอน ว่ารังสีดาบของวาดเงาที่กระจัดกระจายไปตลอดทั้งสี่ทิศทาง ย่อมมิอาจหยุดยั้งการลอบโจมตีนี้ได้!

จ้องมองไปยังแสงสีเขียวตรงหน้า ในหัวใจของกู่ฉิงซานกระจ่างชัดถึงภัยร้าย

เขาไม่คาดคิดเลยว่าศัตรูที่เป็นมือสังหารเบื้องหน้า จะครอบครองสกิลดาบสูงส่งถึงเพียงนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคนิคลับแห่งดาบของมือสังหาร ที่ปลดปล่อยออกมาดาบแล้วดาบเล่า ซึ่งไม่ว่าจะเป็นจังหวะหรือการสอดประสาน ก็ล้วนถูกใช้ออกมาได้อย่างอิสระและไหลลื่น

กล่าวได้ว่าเทคนิคดาบของมือสังหารผู้นี้…ควรค่าแก่การชื่นชมจริงๆ

ดังนั้น กู่ฉิงซานคงจำเป็นต้องจริงจังให้มากขึ้นกว่านี้สักเล็กน้อยบ้างแล้ว!

สกิลเทวะ ร่างเงาแทนที่!

แสงสีเขียวเรืองรองสลับเปลี่ยนตำแหน่งกับเขาในพริบตา และพุ่งตัดผ่านท้องฟ้าอันกว้างใหญ่เบื้องหลังไป

กู่ฉิงซานโน้มตัวลงเบื้องหน้า และโบกสะบัดดาบที่มีรูปลักษณ์ธรรมดา ฟาดเข้าใส่มือสังหาร

มือสังหารตกตะลึงจนผงะไป

นี่อีกฝ่ายสามารถรอดพ้นไปจากกระบวนท่าสังหารที่ตนวางแผนและกะจังหวะใช้ออกมาอย่างพิถีพิถันได้อย่างไร?

ทว่าขณะขบคิด คมดาบของกู่ฉิงซานก็มาถึงตัวเขาเสียแล้ว

อย่างไรก็ตาม สกิลดาบระดับนี้ มือสังหารคิดว่ามันยังคงเพียงพอที่จะต้านทานได้

แต่แน่นอนว่ามือสังหารก็ไม่ประมาทเขาสับ! ดาบสวนกลับไปตอบโต้ศัตรูทันที

เคร้ง!

สองคมดาบปะทะกันอีกครั้ง

และมือสังหารก็เตรียมที่จะระเบิดเทคนิคลับแห่งดาบออกมาอีกที

ประเดี๋ยวก่อน!?

ในสายตาของมือสังหาร ผู้ฝึกดาบเกราะรบสีทองซีดจู่ๆ ก็หยุดเพลงดาบไปอย่างน่าฉงน สายตาของอีกฝ่ายเบนออก ไม่เหลือบแลเขาอีกต่อไป แถมยังเคลื่อนกายไปอีกทาง โฉบลงไปเบื้องล่างคล้ายกับการต่อสู้ได้จบลงไปแล้ว

การต่อสู้ดำเนินไปได้เพียงครึ่งทางเท่านั้นเอง เจ้าหมอนี่มันถอดใจไปแล้วงั้นหรือ?

นี่เขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัวแล้วใช่ไหม?

ขณะที่ในหัวใจของมือสังหารรู้สึกไม่อยากจะเชื่อนั้นเอง ก็บังเกิดรังสีดาบบางเบาแผ่ขยายออกมาจากเบื้องหลัง และพุ่งเข้าตัดศีรษะของเขาโดยตรง!

เทคนิคลับแห่งดาบ กลืนกินหวนกลับ!

ลอร่าที่ซ่อนตัวอยู่ในอ้อมแขนของกู่ฉิงซาน สัมผัสได้ถึงฉากนี้ สองแขนน้อยๆของเธอจึงกอดเขาเอาไว้แน่น

หลังจากที่บินอยู่หลายนาที เธอก็ค่อยๆเริ่มหายหวาดกลัว และเอ่ยถามด้วยเสียงน้อยๆ

“นี่เจ้าเป็นผู้ฝึกดาบประเภทดาบอ่านใจจริงๆ น่ะหรือ” เธอเอ่ยถามเสียงดัง

“จะประเภทไหนก็ไม่รู้ล่ะ เพราะถ้าสำนักดาบหรือผู้ฝึกดาบคนไหนมัวแต่คิดเรื่องแบบนี้กับคู่ต่อสู้ พวกเขาคงไม่แคล้วพลาดพลั้ง ตกตายลงได้ง่ายๆ” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างไม่แยแส

ในสายตาของเขา ปรากฏบรรทัดแสงหนึ่งฟ้า หนึ่งแดง ขึ้นบนหน้าต่างสถานะพร้อมๆ กัน

“ได้รับแต้มพลังวิญญาณ : หนึ่งพันเจ็ดร้อย”

กู่ฉิงซานค่อนข้างประหลาดใจ

ชายคนเมื่อครู่นี้มีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปมากก็จริง แต่เขาสามารถครอบครองแต้มพลังวิญญาณมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร?

กู่ฉิงซานแอบถามระบบเทพสงคราม “เท่าที่ฉันลองประเมินความแข็งแกร่งของเขาดู มันน่าจะมีแค่เจ็ดร้อยแต้มพลังวิญญาณเท่านั้นไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมฉันถึงได้รับแต้มมามากมายขนาดนี้?”

“นั่นเป็นเพราะเขาได้รับแต้มพลังวิญญาณสะสมมาจากการฆ่าคน แต่ทั้งหมดนั่นได้ถูกรวมเข้าด้วยกันแล้ว และส่งมอบให้แด่คุณ” หน้าต่างระบบเทพสงครามตอบ

กู่ฉิงซานก็ถึงบางอ้อในทันที

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มทิ้งดิ่งลงต่อ

เจ็ดนาทีผ่านไป

ฝ่าเท้าของกู่ฉิงซานก็สามารถย่ำลงบนพื้นราบได้ในที่สุด

นอกเหนือไปจากผู้เข้าสู่วิถีมารแล้ว ก็ไม่มีใครตายอีกเลย

ขณะที่เหล่าผู้คนจำนวนมากที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ร้ายแรง ต่างก็ได้รับการช่วยเหลือโดยกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานคลายเชือกออก

ลอร่าที่ถูกมัดก็ตกลง เธอหันมาจ้องมองกู่ฉิงซานด้วยความไม่พอใจ

“เจ้าน่ะ มักจะทำร้ายหญิงสาวแบบนี้อยู่เสมอเลยงั้นหรือ?” เธอถามด้วยความโกรธ

“นี่คือเชือกที่ทำจากผ้าไหมวิญญาณพันปีนะฝ่าบาท มันอ่อนนุ่มที่สุดแล้ว ดังนั้นมันก็ไม่น่าจะทำร้ายท่าน …” กู่ฉิงซานพยายามอธิบาย

“เราหมายถึงว่าเจ้าพึ่งจะทำร้ายจิตใจของเราไป!” ลอร่าตะโกน

“หากเป็นเช่นนั้น กระหม่อมว่านับจากวันนี้ไป เหตุการณ์นี้คงจะทำให้จิตใจของฝ่าบาทถูกหล่อหลอมจนแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน” กู่ฉิงซานตอบกลับ

ลอร่าพอได้ฟังก็ฮึฮะ หันหน้าไปอีกด้านหนึ่ง

แต่เธอก็ยังเกาะกู่ฉิงซานแน่นไม่ยอมปล่อย

ส่วนกู่ฉิงซาน สายตาของเขากำลังกวาดอ่านไปบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

บรรทัดเส้นแสงหิ่งห้อยปรากฏขึ้น

“คุณสามารถรวบรวมแต้มพลังวิญญาณถึงหนึ่งพันแต้มได้สำเร็จ ส่งผลให้การสั่งสมแต้มพลังรอบแรกของคุณสมบูรณ์ในที่สุด”

“โปรดเลือกสกิลที่คุณต้องการจะเพิ่มความสามารถให้แก่มันด้วย”

“หมายเหตุ : หลังจากที่เติมสั่งสมแต้มพลังลงในสกิลแล้ว อำนาจโจมตีของมันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และจะมีผลเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”

กู่ฉิงซานจึงเริ่มตัดสินใจว่าจะใส่ความสามารถนี้ลงในสกิลใดดี

น่าเสียดายจริงๆ ที่ ‘การสั่งสม’ นี้ใช้งานได้กับเฉพาะสกิลเท่านั้น

ถ้าหากเขาสามารถใช้ ‘สั่งสมแต้มพลัง’ กับพวกพลังศักดิ์สิทธิ์อย่าง ‘ตัดขาดการเชื่อมต่อ’ ได้แล้วล่ะก็...

เอาเถอะ ดูเหมือนว่าตอนนี้คิดไปก็คงเท่านั้น

“ฉันเลือกเพิ่มความสามารถให้กับค่ายกลดาบไท่หยี”

“คุณแน่ใจหรือไม่?”

“แน่ใจ”

“ระบบได้ทำการล็อกสกิลนี้แล้ว และครั้งถัดไปที่คุณใช้มันโจมตี พลังอำนาจของมันก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า”

มองไปยังบรรทัดแสงหิ่งห้อยนี้ กู่ฉิงซานก็เริ่มเกิดความมั่นใจขึ้นเล็กๆ น้อยๆ ในจิตใจของเขา

ค่ายกลดาบไท่หยีคือเทคนิคดาบที่ทรงอำนาจที่สุดที่ตนครอบครอง หากสามารถเสริมอำนาจให้มันอย่างต่อเนื่องได้ บางทีพลังโจมตีที่มันระเบิดออกมา...อาจจะน่าทึ่งจนต้องอ้าปากค้างไปเลยก็ได้

ในเวลานี้ ยิ่งลึกเข้าไปในโลกของทริสเต้ การต่อสู้ก็ยิ่งจะรุนแรงขึ้น แถมยังมีเชื้อไฟการชักใยอยู่เบื้องหลังอีก ยิ่งมายิ่งอันตราย ดังนั้นกู่ฉิงซานจึงจำเป็นที่จะต้องเตรียมไพ่ตายแบบนี้เอาไว้ให้พร้อม

“แล้วเรื่องภารกิจล่ะจะว่าอย่างไร?”

กู่ฉิงซานเอ่ยถามต่อ

ระบบ “ภารกิจต่อเนื่องของระบบเทพสงคราม : วิหค เสร็จสมบูรณ์แล้ว”

“เราจะยังคงเฝ้ารอปฏิกิริยาของเชื้อไฟ ทำการวิเคราะห์ภารกิจต่อไปที่มันปล่อยออกมา จากนั้นจึงค่อยกำหนดภารกิจต่อเนื่องของระบบเทพสงครามเพื่อใช้รับมือกับมันโดยเฉพาะ”

กู่ฉิงซานเมื่ออ่านถึงประโยคนี้ เขาก็เบนสายตาไปตกลงบนหน้าต่างของเชื้อไฟ

สองหน้าต่างสถานะลอยเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ดังนั้นเขาจึงสามารถมองดูมันได้อย่างสะดวกสบาย

เสียงปรากฏขึ้น

“คุณได้ลงมาถึงพื้นราบแล้ว”

“คุณบรรลุภารกิจเสร็จสิ้น แต่จะไม่ได้รับรางวัลใดๆ”

กู่ฉิงซานกล่าว “ช่างมันเถอะ ฉันไม่สนใจรางวัลของทริสเต้แล้ว เพราะฉันต้องการแต้มพลังวิญญาณมาแลกเปลี่ยนของดีๆ กับคุณมากกว่า”

เชื้อไฟเงียบไปสักพัก

ประโยคที่กู่ฉิงซานกล่าวออกไป แน่นอนว่าย่อมสามารถดึงดูดความสนใจจากมันได้ไม่น้อยเลย

เพราะมันจำเป็นต้องใช้แต้มพลังวิญญาณ

มือสังหารที่กู่ฉิงซานฆ่าไปเมื่อครู่ ส่งผลให้กู่ฉิงซานได้รับแต้มพลังวิญญาณสะสมของมือสังหารมาไว้ในครอบครอง

และยังรวมไปถึงแต้มพลังวิญญาณจากชีวิตของมือสังหารอีกด้วย ส่งผลให้แต้มพลังวิญญาณสะสมของเขาเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก

สำหรับชีวิตหากมือสังหารแล้ว เชื้อไฟมิได้ให้ความสนใจแก่มันเลยแม้แต่น้อย

เพราะตราบใดที่แต้มพลังวิญญาณเพิ่มพูนขึ้น มันก็เป็นสิ่งที่เชื้อไฟยอมรับได้

แต่สิ่งที่สำคัญคืออีกปัญหาหนึ่งต่างหาก

มันคือปัญหาที่กู่ฉิงซานได้ช่วยชีวิตของผู้คนเอาไว้มากมายเกินไป

ในตลอดทั้งสิ่งปลูกสร้างหกร้อยชั้น เดิมทีมันสมควรที่จะสูบกลืนแต้มพลังวิญญาณได้เป็นจำนวนมาก ตราบใดที่ร่างกายเหล่านั้นสิ้นชีวิตลง เชื้อไฟก็จะสามารถรับเอาแต้มพลังวิญญาณของพวกเขามาได้เลยโดยตรง

อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยการออกหน้าลงมือของกู่ฉิงซาน ทำให้มันพลาดแต้มพลังวิญญาณเหล่านั้นไป

เชื้อไฟพอขบคิดถึงจุดนี้ มันก็จมลงสู่ความเงียบ...

…………………………………..........