ตอนที่ 375 เครื่องจักรปรภพ
เครื่องจักรเหล่านี้มันจะทำอะไรได้บ้างกันนะ?
ผู้คนทั่วโลกต่างก็กำลังสงสัยและอยากรู้อยากเห็น
หลังจากเกมแห่งชีวิตนิรันดร์กับเพชฌฆาตตัวตลก ต่อมาก็เป็นเจ้าเครื่องจักรพวกนี้นี่แหละที่ทางรัฐบาลให้ความระมัดระวังกับมันอย่างแท้จริง
ทางรัฐบาลเริ่มห้ามผู้คนไม่ให้เฉียดเข้ามาใกล้เครื่องจักรเหล่านี้
แต่ก็ราวกับรู้ทัน ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ประมาณนี้ขึ้น เหล่าเครื่องจักรก็จะทำการเคลื่อนย้ายทันที จากนั้นมันก็จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในสถานที่ที่ไม่มีการป้องกันจากทางหน่วยงานใดๆ
จึงกลับกลายเป็นว่า เหล่ามืออาชีพที่กล้าเข้าไปใช้งานมันและประชาชนทั่วไป ก็ได้คุ้นเคยกับเครื่องจักรทั้งสี่นี้อย่างรวดเร็ว
เพียงไม่นาน เรื่องราวเกี่ยวกับฟังก์ชันและวิธีการใช้งานของเครื่องจักรเหล่านี้ได้แพร่กระจายออกไปทั่วโลกราวกับไฟลามทุ่ง
จนท้ายที่สุด แม้กระทั่งหน่วยงานในภาครัฐบางแห่งก็เริ่มที่จะใช้งานเครื่องจักรเหล่านี้
รัฐบาลต้องแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น เลือกที่จะปิดตาเอาไว้ข้างหนึ่ง
ณ รัฐบาลกลาง
ภายในเมืองหลวง
รถตำรวจเจ็ดแปดคันกำลังล้อมรอบเครื่องจักรช่วยเหลือข้ามผ่านทะเลแห่งความขมขื่นอยู่ ขณะที่ตำรวจทุกคนที่มาต่างเฝ้ามองและคอยให้กำลังใจตำรวจคนหนึ่งที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่เบื้องหน้ามัน
บนหน้าผากของตำรวจคนที่ว่ามีเหงื่อผุดออกมาไม่หยุด
สมาธิของเขา เพ่งอยู่แต่กับเครื่องคีบตุ๊กตาอันแสนจะลึกลับนี้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
คันโยกถูกควบคุมอย่างระมัดระวัง ขณะที่เป้าหมายของเขาคือตุ๊กตาเด็กที่อยู่ภายใน
“ตอนนี้ล่ะ!”
เขาง้างมือกระแทกลงบนปุ่มกดอย่างแรง เพื่อคว้าจับ
และคีมคีบจากข้างบนก็อ้าออก จากนั้นก็เริ่มลดระดับลงแล้วหุบเข้าจับตัวตุ๊กตาเด็กเอาไว้
ทว่าหลังจากที่คีมคีบเลื่อนกลับขึ้นมาข้างบน และเคลื่อนตัวไปได้แค่ครึ่งทาง ตุ๊กตาก็ดันหลุดออกจากคีมคีบเสียอย่างงั้น
“โถ่เว้ย!”
“บ้าจริง!”
“ล้มเหลวอีกแล้ว!”
ในหัวใจของนายตำรวจหม่นทะมึน
“ยังไม่ได้อีกงั้นเหรอ?” เสียงหนึ่งดังขึ้น
นายตำรวจคนนั้นหันหน้าไปมองตามเสียง ก่อนจะยืดหลังตรงและตะโกนออกมา “หัวหน้า!”
“ทำความเคารพท่านหัวหน้า!”
ตำรวจอ้วนในชุดเครื่องแบบแหวกฝูงชนก้าวเข้ามาในวงล้อม และผงกหัวให้กับทุกคนที่ตะเบ๊ะให้เขา
จากนั้นก็ดึงวัยรุ่นตัวเล็กลีบคนหนึ่งที่หลบอยู่ข้างหลังเขาออกมาสู่สายตาฝูงชน
หน้าตาของวัยรุ่นดูซีดเซียว ร่างกายผอมแห้ง จนดูไม่เหมาะสมกับชุดหลวมโพรกที่เขาสวมใส่อยู่ มันกว้างและใหญ่เกินไป ดูไม่เข้ากันอย่างร้ายกาจ
อย่างไรก็ตาม นี่คือชุดที่ดีที่สุดที่เขาเคยมีมา…นับตั้งแต่วันนั้น!
ตำรวจอ้วนกล่าวว่า “ผมได้เชิญผู้เชี่ยวชาญในการคีบตุ๊กตามาแล้ว คราวนี้แหละพวกเราจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!”
“นั่นมันยอดไปเลย!”
นายตำรวจคนที่อยู่หน้าตู้ ผู้ที่คีบล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า พอได้ยิน ท่าทีของเขาก็แสดงออกถึงความสุขทันที
ไม่นานนัก วัยรุ่นคนที่ว่าก็มาหยุดยืนอยู่หน้าตู้คีบตุ๊กตาและกดมือของเขาลงบนจุดเชื่อมต่อสีดำ
พริบตานั้นเครื่องคีบตุ๊กตาก็สว่างขึ้นในทันใด พร้อมด้วยเสียงของเกมที่ดังขึ้นอีกครั้ง
วัยรุ่นหันหน้าไปมองตำรวจอ้วน
และอีกฝ่ายก็กล่าวสวนกลับมาว่า “เลือดหนึ่งหยด ฉันจะจ่ายให้เธอหนึ่งพันแต้มเครดิต”
วัยรุ่นคนนั้นพยักหน้า
เขาหยิบเอากระดาษมาจากในมือของตำรวจ และอ่านมันออกมา “หวังหมิไคว่ อายุสิบหกปี เพศหญิง”
ภายในเครื่องคีบ พลันบังเกิดรังสีแสงกวาดวาบลงไปยังตัวตุ๊กตาทั้งหมด
“เตรียมการพร้อมแล้ว ขอให้สนุกกับการเล่นนะ!” เครื่องคีบตุ๊กตาเปล่งเสียงออกมา
วัยรุ่นคว้าจับคันโยก สองตาของเขากวาดไปยังตุ๊กตาทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
เขากำลังมองหาตุ๊กตาที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะคีบมันขึ้นมาได้สำเร็จอยู่
วัยรุ่นคนนี้คือผู้เชี่ยวชาญในด้านการคีบตุ๊กตา กล่าวได้ว่าเขาเกือบที่จะชนะรางวัลเครื่องคีบตุ๊กตามาแล้วทั่วประเทศ
ส่วนหนึ่งก็เพราะแต่ก่อน ครอบครัวของเขาเคยบริหารสวนสนุกขนาดใหญ่ และกิจการก็เป็นไปได้ด้วยดี แต่แล้วเมื่อผีดิบกินคนปรากฏขึ้น สวนสนุกของครอบครัวก็ได้ถูกทำลายลง
พ่อแม่ของเขาถูกกิน และมีเพียงเขาที่รอดชีวิตมาได้ แต่ก็ต้องกลายเป็นคนจรจัดนับตั้งแต่นั้น
วันสิ้นโลกได้ทำลายความสุขในครอบครัว ความสุขในช่วงชีวิตวัยรุ่นไป ส่งผลให้ตอนนี้เขาทำได้เพียงซุกหัวนอนอยู่ตามท้องถนนเท่านั้น
วัยรุ่นควบคุมคันโยก เคลื่อนที่คีบไปมาหลากหลายทิศทาง เพื่อเลือกเป้าหมายที่เหมาะสม
เขาเติบโตมากับการเล่นแบบนี้
และในที่สุด วัยรุ่นก็เจอตุ๊กตาในตำแหน่งที่ต้องการ!
“ปึ้ก!”
ปุ่มถูกกดลง
ตามด้วยเสียงเพลงพิเศษที่ดังขึ้น และตัวคีบได้ตกลงไปอย่างรวดเร็ว
และที่คีบก็หุบเข้าใส่ตุ๊กตา!
นับจากนี้ไปนี่แหละ คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด!
เพราะที่คีบตุ๊กตากำลังไต่ระดับขึ้นมาอย่างช้าๆ
จะหมู่หรือจะจ่าในเรื่องการคีบตุ๊กตา มันก็วัดกันตอนนี้นี่แหละ
โดยส่วนมากแล้ว คีมคีบหลายอันจะหุบลงอย่างหลวมๆ ทำให้ไม่อาจหุบจับตุ๊กตาได้อย่างแน่นหนา
และเมื่อกี้ทางตำรวจเองก็ล้มเหลวลงในส่วนนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน พอเป็นฝีมือคีบของวัยรุ่น ตัวตุ๊กตากลับไม่ตกลง มันถูกหุบเอาไว้อย่างแน่นหนาโดยคีมคีบ
ตัวคีบค่อยๆ ขยับเคลื่อนที่กลับมาอย่างต่อเนื่อง
และในที่สุด! ตุ๊กตาก็ถูกปล่อยลงมาในช่องรางวัล
“ให้มันได้อย่างงี้สิ!” เหล่าตำรวจส่งเสียงเฮกันกึกก้อง
เครื่องคีบตุ๊กตากล่าวคำถามออกมา “ขอแสดงความยินดีด้วย คุณสามารถพบกับหวังหมิงไคว่ได้เลยในทันที คุณต้องการที่จะพบเธอหรือไม่?”
วัยรุ่นหันมามองตำรวจอ้วน
ตำรวจอ้วนพยักหน้า
“ต้องการพบเลย” วัยรุ่นกล่าว
“เข้าใจแล้ว จะทำการดำเนินการเดี๋ยวนี้” เครื่องคีบตุ๊กตากล่าว
และในวินาทีต่อมาพร้อมกับเสียง ‘ว่าบ!’ เด็กสาวผู้น่าสงสารคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ก็พลันปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าของเครื่องคีบตุ๊กตา
เด็กสาวหันไปมองเหล่าผู้คนทั้งหมดที่อยู่เบื้องหน้าเธอ ก่อนที่การแสดงออกที่เศร้าหมองทางสีหน้าจะแปรเปลี่ยนเป็นตะลึงลานอย่างชัดเจน
บนใบหน้าของเธอมีคราบเลือดอยู่ ขณะที่ตามร่างกายถูกผูกมัดด้วยเชือกจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
“ลูกฉัน!” สองชายหญิงในวัยกลางคนถลาลงมากอดเด็กสาว
“นั่นพ่อ? กับแม่เหรอ? โอ โอ…อ้า” เด็กสาวเริ่มร้องไห้ออกมา
ตำรวจหยิบเครื่องมือออกมา และเริ่มทำการตัดเชือกที่มัดตามตัวเด็กสาว
ตำรวจอ้วนหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมา และรีบเอ่ยสั่งการอย่างรวดเร็ว “ตัวประกันได้รับการช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว! ส่งทีมเกราะรบขับเคลื่อนชุดพิเศษออกปฏิบัติการได้ ระเบิดฐานพวกคนร้ายให้เป็นจุณเสีย!”
เขาเอ่ยสั่งการออกไปอย่างรวดเร็ว
วัยรุ่นเงยหน้าขึ้น จ้องมองไปทางตำรวจอ้วน “ทีนี้จะจ่ายเงินมาได้หรือยัง?”
ตำรวจอ้วนปั้นรอยยิ้มประจบประแจงบนใบหน้าให้อีกฝ่าย
ถ้าให้ตอนนี้เลยคงไม่มีทางเสียล่ะ เจ้าตู้คีบตุ๊กตานี่มันยากเกินไป ขอบอกตรงๆ ว่าฝีมือของตำรวจเช่นพวกเขามันไม่มากพอหรือสันทัดกับอะไรแบบนี้จริงๆ
“พอดีว่าฉันยังมีเจ้าพวกผู้ก่อการร้ายอีกสักสองสามคนที่ต้องการจะจับกุมตัวน่ะ เธอพอจะช่วยต่อได้ไหม?” เขาหยิบรูปถ่ายหลายใบออกมา แล้วยื่นมันให้แก่วัยรุ่น
วัยรุ่นรับเอาภาพพวกนั้นมามองสักพักและกล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่มีปัญหาหรอก แต่เงิน”
“แน่นอนว่าฉันจะจ่ายอยู่แล้ว!” ตำรวจอ้วนรีบเอ่ยขัด
แต่ทันใดนั้นเอง ในสมองของเขาก็มีความคิดหนึ่งไหลผ่านเข้ามาอย่างฉับพลัน
“แต่เดี๋ยวก่อน เธอสนใจที่จะมาเป็นตำรวจด้วยกันรึเปล่า?” เขาเอ่ยถาม
ขณะนี้ได้มีการปรากฏขึ้นของเครื่องจักรช่วยเหลือข้ามผ่านทะเลแห่งความขมขื่นบนโลกแล้ว และคุณจะสามารถพบใครก็ได้ที่ต้องการ ขอเพียงแค่คีบตุ๊กตาในตู้ให้ได้สำเร็จ
และเมื่อคุณจับมันได้แล้ว คุณจะสามารถทำให้อีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้นได้ในทันที!
แน่นอน!
ว่าผู้ที่จะจับมัน จะต้องมีแรงจูงใจเป็นพิเศษ มิฉะนั้นแล้วเครื่องคีบตุ๊กตาจะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
และด้วยกรณีนี้ มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจับตัวคนที่ต้องการได้
ตราบใดที่มีแรงจูงใจที่ต้องการจะจับตุ๊กตา และยิ่งมันสูงเท่าไหร่ คุณก็จะสามารถจับมันได้…จับใครก็ได้ในโลกใบนี้ตามต้องการ!
ดังนั้น กล่าวได้ว่าการปรากฏตัวขึ้นของเครื่องจักรช่วยเหลือข้ามผ่านทะเลแห่งความขมขื่นบนโลกใบนี้ จึงนับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดของทางตำรวจ!
ดวงตาของวัยรุ่นเปล่งประกายเจิดจ้า เขารีบเอ่ยถามออกไป “คุณกำลังหมายความว่าต้องการที่จะให้ผมเป็นตำรวจอย่างงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ ด้วยความสามารถในการคีบตุ๊กตาของเธอ ฉันจะทำการอนุมัติให้เธอเข้าร่วมกับทางกรมตำรวจเป็นกรณีพิเศษเลย…ว่าแต่เธอต้องการมันหรือเปล่าล่ะ?”
“ต้องการสิ!”
“ถ้างั้นตอนนี้ พวกเราก็มาเริ่มทำการจับกุมเจ้าพวกคนร้ายฉาวโฉ่กันได้แล้ว!”
“รับทราบ!”
วัยรุ่นยกมือขึ้นตะเบ๊ะ ปากอ้าขานรับคำเสียงดัง
…
ในเครื่องจักรจากปรภพทั้งสี่ที่เหงาเปล่าเปลี่ยวที่สุดก็คงจะไม่พ้นหมายเลข ‘ยี่สิบสาม’
มันคือตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ และชื่อของมันก็คือ ‘เครื่องจักรขจัดโทสะ’
สิ่งที่เรียกว่า ‘ขจัดโทสะ’ นี้ มีหน้าที่ในการกลั่นแกล้งเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นดึงหู บีบจมูก ปิดตา จั๊กจี้เท้า หรือเตะตูด ฯลฯ แทนคุณ
แน่นอน ว่าเจ้าเครื่องจักรนี้ไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย หน้าที่ของมันก็เป็นแค่การแกล้งเล่นแผลงๆ หลายร้อยรูปแบบกับผู้คนเท่านั้น
นี่จะช่วยให้ผู้ที่ใช้งานมันระบายความโกรธที่แสนจะอัดอั้นตันใจออกมาได้เล็กน้อย
หากคุณรู้สึกไม่พอใจกับการระบายความโกรธจากการกลั่นแกล้งที่แสนจิ๊บจ๊อยนี่ ‘เครื่องจักรขจัดโทสะ’ ก็จะให้คำตอบแก่คุณว่า อันที่จริงแล้ว ตัวมันนั้นทรงพลังกว่านี้มาก แต่ยาหยีของมันที่มีชื่อว่า ‘เครื่องจักรพิพากษาความปรารถนา’ คงจะไม่ยินยอมให้มันทำอย่างนั้น...และต่อให้ทำได้จริง แล้วอีกฝ่ายใช้เครื่องพิพากษามางัดกับคุณแทน อันนี้ถึงตายเลยนา มันไม่คุ้มกันหรอก
กล่าวได้ว่าเมื่อมีเครื่องจักรพิพากษา จึงไม่มีใครกล้าที่จะทำความชั่วร้ายแรง แล้วได้ทนกล้ำกลืนความอัปยศอดสูเอาไว้เท่านั้น
และนั่นจึงเป็นหน้าที่ของเครื่องขจัดโทสะ เพียงคุณบริจาคหยดเลือด คุณก็จะสามารถเปิดใช้งานเจ้าเครื่องนี้ได้ และส่งมันไปกวนบาทาคนที่คอยกวนใจคุณแทน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันสิ้นโลกได้มาถึง และผู้คนนับไม่ถ้วนล้วนถูกสังหารลงโดยอสูรร้ายแห่งท้องทะเล ผีดิบกินคนและผีดิบนักฆ่า ตามด้วยสามนรกที่ปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน แล้วแบบนี้ใครมันจะมาใช้เจ้าสิ่งนี้เพื่อเล่นตลก กลั่นแกล้งกับคนอื่นๆ กัน?
แต่แล้วสถานการณ์ก็เปลี่ยนไปในช่วงกลางดึกของคืนวันนั้น
“ยินดีต้อนรับคุณลูกค้ารายแรก” เครื่องขจัดโทสะกล่าว
ลูกค้ารายแรกที่ว่านี้เป็นเด็กหนุ่ม อายุราวๆ สิบเจ็ดถึงสิบแปดปี
เขาจ่ายเลือดและทำการเปิดใช้งานเครื่องจักรนี้
ติ๊ง!
เครื่องจักรขจัดโทสะส่งเสียงดังคมชัดขึ้น
มันลดเสียงลงและเอ่ยถามอย่างแผ่วเบาว่า “คุณต้องการทำบางสิ่งที่ไม่ดีอย่างเงียบๆ ไหม? สามารถใช้เครื่องนี้เพื่อซื้อจำนวนครั้งที่ต้องการกลั่นแกล้งได้เต็มที่เลยนะ เพราะถ้ากลั่นแกล้งเล็กๆ น้อยโดยผ่านทางกระผมแล้วล่ะก็ เครื่องจักรพิพากษาความปรารถนาจะไม่ทำการค้นพบอย่างแน่นอน”
“จัดมา ฉันต้องการทำสิ่งชั่วร้าย” วัยรุ่นกล่าวอย่างเยือกเย็น
“จัดไป ว่าแต่คุณต้องการจะทำอะไรกันล่ะ?” เครื่องจักรเอ่ยถาม
“แกล้งคนโดยการเอาขนนกไปจั๊กจี้เท้าคนหนึ่ง จากนั้นก็เตะก้นมันแรงๆ ด้วยรองเท้าบูตคู่ใหญ่” ท่าทีการแสดงออกของเด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นดุดัน
“ค่าเสียหายทั้งหมดยี่สิบหยดเลือดนะตกลงไหม”
วัยรุ่นไม่ตอบ แต่กดมือลงบนจุดสีดำของเครื่องแทน
“ดีมาก กระผมได้รับการชำระของคุณมาแล้ว เอาล่ะไหนบอกซิว่าเป้าหมายของคุณคือใคร?” เครื่องจักรถาม
“ไม่อยากจะพูดชื่อมัน เขียนใส่ปากกาจะได้รึเปล่า?”
“ได้สิ”
แล้ววัยรุ่นก็ส่งยื่นชื่อนั้นออกไป
เครื่องจักรกล่าว “ฉันเอาขนนกไปจั๊กจี้เท้าเจ้าหมอนั่นเรียบร้อยแล้ว และเขาก็หัวเราะจนหายใจไม่ออกเกือบตายแน่ะ!”
และมันก็กล่าวต่อ “เอารองเท้าบูตคู่ใหญ่ไปเตะตูดเจ้าหมอนั่นแล้ว กระผมเตะอย่างแรงเพื่อให้เขารู้ว่ามีคนคนหนึ่งโคตรจะเกลียดชังเขาอย่างสุดหัวขั่วใจเลยล่ะ!”
“การกระทำชั่วร้ายของคุณได้สิ้นสุดลงแล้ว หากต้องการทำชั่วอีกครั้ง โปรดเฝ้ารอคูลดาวน์เป็นเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง”
เด็กหนุ่มผงกหัว พอได้แก้แค้น สีหน้าของเขาเผยถึงความผ่อนคลายลงหลายส่วน
ได้ยินเพียงแค่เสียงบ่นพึมพำของเขา “เห็นรึยังว่าถ้าเล่นไม่ซื่อกับฉันมันจะเป็นอย่างไร อย่าคิดนะว่าฉันจะไม่กล้าทำมากกว่านี้ …”
หลังจากนั้นเด็กหนุ่มก็เดินจากไปด้วยความพึงพอใจและลูกค้ารายที่สองของเครื่องจักรขจัดโทสะก็เดินเข้ามา
อย่างรวดเร็ว ลูกค้ารายที่สองก็ได้เดินจากไปด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ
ตามด้วยเสียงอันแผ่วเบาของเขาที่ลอยตามมาในอากาศ
“เจ้าพวกชอบวิจารณ์นิยายคนอื่นแรงๆ เสียๆ หายๆ…นี่แหละเป็นผลจากการกระทำของพวกแกล่ะ..!”
…………………………………………….