0224 น้ำยาสูตรสุดท้าย

ตอนที่ 224 น้ำยาสูตรสุดท้าย

หลายนาทีผ่านไป เถ้าเปลวเพลิงที่ลอยฟุ้งก็เริ่มถูกปัดเป่า กระจายไปตามสายลม

อาคารคณะละครสัตว์ราบเป็นหน้ากลอง

ในช่วงเวลาที่เกิดระเบิด มีเพียงพระสันตะปาปาคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในตัวอาคาร และหลายนาทีที่ผ่านมา จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเห็นวี่แววของเธอ

ไพ่สีดำใบหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศอย่างเงียบๆ พลังศักดิ์สิทธิ์สีขาวนวลเปล่งประกายอย่างต่อเนื่องโดยมีตัวมันเองเป็นจุดศูนย์กลาง

ห้วงเวลาค่อยๆ ไหลผ่านไป

นอกเหนือไปจาก ‘ผู้ทรมานตน สาวกที่ครอบครอง ‘การไถ่บาป’’ อีวานแล้วนั้น สาวกศักดิ์สิทธิ์อีกหกคนก็ค่อยๆ มาปรากฏตัวขึ้นในจุดดังกล่าวทีละคนๆ โค้งตัวคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เรียงรายอยู่เบื้องหน้าไพ่สีดำใบนั้น

“บาปของข้าช่างหนักหนานัก ไม่เพียงล้มเหลวในการจับกุมศัตรู แต่ยังพ่ายแพ้ให้แก่มันอีกด้วย ขอพระองค์โปรดลงโทษข้าพเจ้าตามสมควรเถิด” สาวกศักดิ์สิทธิ์ฮัทท์ก้มหน้าลง ปากเอ่ยกล่าว

พระสันตะปาปาเอ่ยตอบ “มันมิใช่ความผิดของเจ้าหรอก แต่เป็นชายผู้นั้นที่แปลกพิสดารเกินกว่าจะรับมือไหวต่างหาก”

พระสันตะปาปากล่าวต่อ “ทั้งหมดที่พวกเจ้าต้องทำในเวลานี้ คือวางทุกสิ่งในมือลง”

สาวกศักดิ์สิทธิ์เงยหน้าขึ้น เฝ้ารอคำสั่งต่อไป

“ชายผู้นั้นเข้าร่วมงานเลี้ยงของมาดามดู่ พวกเจ้าจงไปค้นทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา เขากระทำสิ่งใด หรือเอ่ยคำใดออกไปบ้างแม้เพียงสองคำ ก็จงไปสืบเสาะมาอย่างละเอียด”

“หลังจากที่พวกเจ้าสืบค้นจนรู้ที่มาของเขา ก็อย่าพึ่งทำอะไรผลีผลาม เฝ้ารอให้ข้ากลับมาเสียก่อน”

เหล่าสาวกขานรับเป็นเสียงเดียว “ขอรับ!”

คาร์ดินัลคิดด์เอ่ยถามเสียงแผ่ว “แล้วอีกนานแค่ไหนกัน ท่านจึงจะกลับมา?”

“ข้าจำต้องหลบลี้ออกไปจากที่นี่ชั่วคราว ที่พวกเจ้าต้องทำนอกเหนือจากคำสั่งก็เพียงแค่เฝ้ารอข้ากลับมา มิจำเป็นต้องกังวลใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้”

สิ้นเสียงของพระสันตะปาปา ไพ่สีดำก็หายวับไป

สาวกศักดิ์สิทธิ์ลุกขึ้นยืน และเริ่มดำเนินการตามคำสั่งของพระสันตะปาปา

ไม่นาน ทั่วทั้งคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์เริ่มเคลื่อนไหว

ร่างของกู่ฉิงซานร่วงตุ๊บลงบนพื้นยานเฉินเตี้ยนเฮ่า

ทุกคนรีบวิ่งไปล้อมรอบเขา

อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้งหมดเห็นเลือดที่ท่วมไปทั้งร่าง กล้ามเนื้อที่ฉีกขาด ปากแผลที่ปริแตก ต่างก็พากันตื่นตระหนกออกมา

อาการบาดเจ็บขนาดนี้ ต่อให้พวกเขาต้องการจะสัมผัสตัวอีกฝ่าย ก็ยังไม่สามารถทำได้โดยง่าย

แอนนากังวลจนไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร เธอเอาแต่หันไปสั่งเทพธิดากงเจิ้งซ้ำๆ “เทพธิดา รีบจัดยานขนส่งเร็วเข้า พวกเราต้องส่งเขาไปรักษาตัวฉุกเฉินที่เมืองหลวง!”

กู่ฉิงซานเอ่ยออกมาทั้งเสียงทั้งเลือด “ไม่จำเป็น ฉันสามารถรักษาตัวเองได้”

ระหว่างกล่าวเขาก็หยิบขวดหยกออกมา และเทเม็ดยากระเรียนฟื้นวิญญาณเข้าปากไปสองถึงสามเม็ด

จากนั้นเขาก็นั่งสองขาซ้ายทับขวา สองมือขวาทับซ้ายจีบเข้าเป็นสัญลักษณ์ใช้ออกด้วยผนึกมนตรา และจมลงสู่ห้วงสมาธิ

กว่ากู่ฉิงซานจะตื่นจากห้วงภวังค์อีกครั้ง มันก็เป็นในอีกหนึ่งวันถัดมาแล้ว

เขายังคงอยู่ในท่วงท่านั่งสมาธิ เส้นชีพจรลมปราณทั้งร่างตกอยู่ในความเจ็บปวดราวกับถูกเข็มแหลมทิ่มแทงตลอดเวลา หากเป็นผู้อื่นที่มิใช่เขา เกรงว่าคงไม่อาจฝืนทนได้ในสถานการณ์เช่นนี้

เลือดตามบาดแผลที่ท่วมไปทั้งกาย บัดนี้เริ่มตกสะเก็ด แต่การเคลื่อนไหวแม้เพียงนิดก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด

ตันเถียนของเขาว่างเปล่าโดยสมบูรณ์ และกู่ฉิงซานก็ได้ลองพยายามดูแล้ว ทว่าเขากลับไม่สามารถรวบรวมพลังวิญญาณได้เลยแม้เพียงน้อย

เขาเริ่มทดลองขับเคลื่อนตันเถียน ทว่าทันใดนั้นตันเถียนของเขาก็เริ่มรู้สึกปวดๆ ขึ้นมา

อะไรกัน!? กระทั่งตันเถียนก็ยังได้บาดเจ็บ?

ในหัวใจของกู่ฉิงซานเริ่มบังเกิดความไม่สงบและกระวนกระวายขึ้น

คราวนี้ เขาไม่มีความกล้ามากพอที่จะขับเคลื่อนตันเถียนอีกต่อไป แต่เลือกที่จะใช้เม็ดยาวิญญาณค่อยๆ ซ่อมแซมเส้นชีพจรลมปราณและตันเถียนอย่างช้าๆ

เขาทดลองปลดปล่อยจิตสัมผัสเทวะออกไปอย่างระมัดระวัง จิตสัมผัสเทวะยังคงปกติดี นี่พอจะอนุมานได้ว่าทะเลแห่งห้วงสติมิได้เกิดปัญหาใดๆ

จากนั้นกู่ฉิงซานก็เริ่มสำรวจรอบกายอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกวาดจิตสัมผัสเทวะออกไป

บาดเจ็บหนัก

ได้รับบาดเจ็บหนักอย่างไม่ต้องสงสัย

ทั่วทั้งตัวล้วนเต็มไปด้วยบาดแผลร้ายแรง ไม่เว้นแม้กระทั่งเส้นชีพจรลมปราณ ที่แทบจะถึงขีดจำกัด อีกเพียงก้าวเดียวคงตกลงไปสู่หุบเหวแห่งการทำลายแล้ว

อาการบาดเจ็บดังกล่าวนี้ นับว่าเป็นอาการบาดเจ็บที่ร้ายแรงที่สุด นับตั้งแต่ที่กู่ฉิงซานได้กลับมาจุติใหม่อีกครั้ง

กู่ฉิงซานยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

สถานะในปัจจุบันของเขา ต่อให้อีกฝ่ายเป็นเพียงคนธรรมดา ก็สามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย

มันดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างที่ระบบเทพสงครามได้บอกเอาไว้จริงๆ ด้วยขอบเขตของตัวเขาในตอนนี้ มันยังไม่สมควรที่จะนำเทคนิคลับมังกรแหวกธาราออกมาใช้

อย่างไรก็ตาม หากไม่งัดมันออกมา ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบหนีจากพระสันตะปาปาได้

ในขณะนั้นเอง เสียงของเทพธิดากงเจิ้งก็ดังขึ้น

“ใต้เท้า ห้องพยาบาลได้ถูกเตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว คุณต้องการเข้ารักษาตัวตอนนี้เลยหรือไม่?”

“ไม่ล่ะ บาดแผลภายในของฉันไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการแพทย์สมัยใหม่”

กู่ฉิงซานส่ายหัว และหยิบเอาเม็ดยาวิญญาณออกมาโยนเข้าปาก และเริ่มเข้าสู่ห้วงสมาธิอีกครั้ง

เวลาผ่านพ้นไปอีกครึ่งวัน ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมา และกล่าวว่า “พาฉันไปที่ห้องพยาบาลที ตัวฉันในตอนนี้ต้องได้รับการฟื้นฟูในส่วนของกายภาพ”

แอนนาช่วยพยุงเขาอย่างระมัดระวัง และพาเขาไปส่งที่ห้องพยาบาลของป้อมปราการ

ไม่นานนัก ทั้งตัวของกู่ฉิงซานก็ถูกห่อหุ้มด้วยของเหลวที่เป็นสารละลายสำหรับการฟื้นฟูและผสานเซลล์

เมื่อตัวยาเริ่มการทำงาน เขาก็ตกอยู่ในสภาวะหลับลึกทันที

ผ่านไปอีกราวๆ สามชั่วโมง กู่ฉิงซานจึงตื่นขึ้นมา

เขาปลดปล่อยจิตสัมผัสเทวะออกมาสำรวจร่างกายอย่างระมัดระวัง และพบว่าในที่สุด อาการบาดเจ็บของเขาก็ดีขึ้นหลายส่วน

แม้จะยังคงบาดเจ็บรุนแรงอยู่ แต่สภาวะร่างกายโดยรวมเริ่มมั่นคง และค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นไปในอัตราที่เชื่องช้ามากก็ตามที

มองไปยังฝูงชนที่เข้ามามุงดู กู่ฉิงซานก็หัวเราะออกมาอย่างขมขื่น ปากเอ่ยกล่าว “รอดตายแล้วล่ะ”

ดวงตาของแอนนาแดงก่ำ เธอทำแค่เพียงลูบไล้ใบหน้าของเขาแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาสักคำ

ซางหยิงฮ่าวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา “ถ้าฉันรู้ว่ามันจะอันตรายขนาดนี้ ฉันจะต่อต้านเรื่องการใช้สูตรน้ำยามาทำเกมอย่างแน่นอน”

“ไม่หรอก เจ้าสิ่งนี้สำคัญมาก ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องไปเอามันมาอย่างแน่นอน”

“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้สมใจอยากรึยัง?”

“อ่า ก็เกินกว่าครึ่งแล้วล่ะนะ ต่อไป ยังเหลือสูตรน้ำยาธาตุทั้งห้าของสาธารณรัฐฟูซีอีกหนึ่ง”

“นายต้องการเป็นสูตรอย่างนั้นเหรอ หรือต้องการแค่เพียงตัวน้ำยา?” แอนนาเอ่ยถามฉับพลัน

“ก็แล้วมันแตกต่างกันยังไง?”

“องค์จักรพรรดิไม่มีทางเปิดเผยสูตรให้คนนอก แต่ตัวน้ำยาสามารถขายได้”

เธอเอ่ยต่อ “พระองค์เป็นคนที่สนใจแต่สิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ว่าใครก็ตาม ตราบใดที่สามารถจ่ายได้ เขาก็จะขาย”

“แต่ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีใครเคยซื้อน้ำยาระดับสูงอย่างนั้นมาก่อนเลยนะ” ซางหยิงฮ่าวขมวดคิ้ว

“องค์จักรพรรดิมิใช่คนโง่ ท่านขายให้กับเฉพาะคนของสาธารณรัฐฟูซีเท่านั้น และตามปกติแล้วคนนั้นจะต้องใช้งานมันต่อหน้าเขาทันทีเลยอีกด้วย” แอนนากล่าว

“ถ้าอย่างนั้นน้ำยาขวดหนึ่งมันจะมีราคาซักเท่าไหร่”เย่เฟย์หยูถาม

“ก็ถ้าแปลงเป็นเครดิตรัฐบาลกลาง สมควรจะมีราคาอยู่ที่หนึ่งพันห้าร้อยพันล้านต่อขวด”แอนนากล่าว

เย่เฟย์หยูเกือบจะลิ้นจุกปาก

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมในบรรดาประเทศมหาอำนาจ สาธารณรัฐฟูซีจึงเป็นประเทศที่ฟุ่มเฟือยที่สุด แม้กระทั่งชนชั้นสูงของเก้าตระกูลแห่งรัฐบาลกลางก็ยังพากันถอนหายใจ หากคิดจะสู้กับพวกเขาในเรื่องนั้น” ซางหยิงฮ่าวกล่าว

“แต่ถ้าเป็นในกรณีนี้ เขาไม่กลัวว่าคนอื่นๆ จะถอดสูตรยาของเขาเหรอ”

“ไม่หรอก ตัวน้ำยาของฟูซีได้รับการศึกษาค้นคว้าจนสามารถเข้าถึงรหัสทางพันธุกรรมอันลึกลับได้แล้ว และถ้าหากใครต้องการที่จะทดสอบมันอย่างที่นายว่า ตัวน้ำยาในขวดก็จะหมดสรรพคุณไปในทันที”

“แล้วจะเป็นยังไงถ้ามีคนสามารถถอดรหัสมันได้?” เหลียวฮังกล่าวด้วยความสนใจ

“ตัวอย่างเช่น คนนั้นมีเทคโนโลยีขั้นสูง ที่สามารถผลิตตัวน้ำยาที่อยู่ในระดับเท่าเทียมกันได้” เขาเหลือบสายตาไปมองกู่ฉิงซาน

“ผมไม่มีเทคโนโลยีแบบนั้นหรอก จะมีก็แค่เงินเท่านั้นแหละ แต่ผมก็ยังไม่มั่นใจหรอกนะว่าเขาจะขายให้ผมรึเปล่า เพราะผมเป็นคนของรัฐบาลกลาง” กู่ฉิงซานกล่าว

แอนนาตบลงบนอกตนเองและกล่าว “เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง ถ้าเป็นฉัน บางทีอาจจะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมบ้างก็ได้”

“เทพธิดากงเจิ้ง ฉันอนุญาตให้แอนนาใช้แต้มบุญในรัฐบาลกลางของฉันได้ชั่วคราว” กู่ฉิงซานกล่าว

“รับทราบ ได้รับการยืนยันแล้ว” เทพธิดากล่าว

แอนนาเอียงคอชำเลืองกู่ฉิงซาน แล้วทำเสียง หืม ในลำคอ

เหล่าชายชาตรีงุนงงกับท่าทีของเธอ

ไม่รอไขข้อสงสัยแก่ฝูงชน พอพูดแล้วก็ทำทันที แอนนาไม่ได้หยุดพักแม้เพียงหนึ่งหรือสองลมหายใจแต่เลือกที่จะมุ่งหน้าเดินไปนั่งลงบนยานอวกาศขนาดเล็กโดยตรง

ไม่นานนัก เธอก็เดินทางมาถึงสาธารณรัฐฟูซี และเข้าพบกับองค์จักรพรรดิ

องค์จักรพรรดิกำลังทำการเลือกสรรม้าในคอกอยู่

“น้ำยากระตุ้นธาตุทั้งห้าที่มีความบริสุทธิ์เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์อย่างนั้นหรือ?” องค์จักรพรรดิเอ่ยถาม ขณะที่กำลังลูบแผงคอของม้าตัวเบื้องหน้าเขา

“เพคะ หม่อมฉันต้องการจะให้พระองค์ขายให้สักหนึ่งขวด” แอนนาประกบสองมือเข้าด้วยกันทำท่าทีอ้อนวอน ยิ้มประจบประแจง

องค์จักรพรรดิมิเอ่ยตอบ

แอนนารีบกล่าวต่อพร้อมใช้สรรพนามที่เปลี่ยนไปทันที “หนูจะจ่ายเงินให้ตามกฎ ไม่ว่าจะเท่าไหร่ก็ตาม”

“แต่ข้าจำได้ว่าเจ้าสามารถปลดผนึกธาตุไฟมาได้จนถึงระดับสี่ขั้นสูงสุดแล้วมิใช่หรือ เจ้าไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าสิ่งนี้เลย”

“หนูไม่ได้เป็นคนจะใช้มัน แต่เป็นกู่ฉิงซานต่างหาก”

“โห?” องค์จักรพรรดิหันกลับมา เผยสีหน้ายิ้มแย้มที่แฝงไปด้วยความหมาย

ใบหน้าของแอนนามิได้แดงด้วยความเขินอาย ดูเธอจะไม่รู้ถึงความหมายที่แฝงมาในรอยยิ้ม ปากรีบเอ่ยต่อ “มีอะไรเหรอคะ? การที่จะต้องการให้ผู้ชายของตัวเองแข็งแกร่งขึ้นมันไม่ดีหรือ?”

องค์จักรพรรดิส่ายหัว “แต่เขามิใช่คนของสาธารณรัฐฟูซี ดังนั้นนี่จึงผิดกฎ”

แอนนาเอ่ยต่อ “เขากับหนู จะออกจากรัฐบาลกลางไม่ช้าก็เร็ว”

ประโยคนี้กระทบเข้าตรงหัวใจขององค์จักรพรรดิอย่างแรง

“ที่พูดมาเจ้ามั่นใจหรือเปล่า?”

“แน่นอน”

องค์จักรพรรดิยิ้ม

เขาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยปากออกมาในทันใด “เช่นนั้นมันจะเป็นการดีกว่าไหม ถ้าพวกเรามาเดิมพันกันสักเล็กๆ น้อยๆ…”

..........................................................