webnovel

0215 ในที่สุด

ตอนที่ 215 ในที่สุด

ณ ภายในห้องชั้นสามที่ไร้ผู้คน จู่ๆ ก็ปรากฏคนคนหนึ่งที่ถือเครื่องโลหะหน้าตาแปลกๆ ขึ้นมาอย่างกะทันหัน

กู่ฉิงซานเก็บเครื่องจัมป์ขนาดพกพา ตามด้วยกวาดจิตสัมผัสเทวะออกไปเพื่อรับรู้ถึงสิ่งของทั้งหมดภายในบริเวณ

ที่นี่เต็มไปด้วยสิ่งของที่ระลึกอันหลากหลายและน่าจดจำ มันถูกจัดแสดง และวางเรียงรายกันไปตามแต่ละประเภท

ไร้ซึ่งสรรพเสียงใดๆ ในห้อง มันเงียบงันราวกับว่าบรรยากาศโดยรอบได้ตายลง

“ฉันพบมันแล้ว” กู่ฉิงซานเอ่ยเสียงแผ่วเบา

มีภาพวาดเพียงหนึ่งเดียวที่แขวนอยู่จากทั่วทั้งห้อง

มันคือภาพวันเกิดของแอนนาในยามที่อายุได้สิบขวบปี

มือหนึ่งขององค์ราชาสัมผัสลงบนหัวของแอนนา ขณะที่มืออีกข้างกำลังถือมงกุฎอันน้อยๆ เตรียมที่จะสวมมันให้แก่เธอ

แอนนาในช่วงวัยเด็ก ตัวเล็กๆ จ้องมองไปยังพระบิดาตนด้วยรอยยิ้มอันแสนหวานบนใบหน้าของเธอ

กู่ฉิงซานก้าวไปข้างหน้า และมองรายละเอียดของภาพเพิ่มเติมเล็กน้อย

“แม้ในยามที่ยังไม่ผลิดอกเบ่งบานก็ยังงดงาม”

สองตาเพ่งพินิจ หนึ่งปากเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล สองมือยื่นออกไปจับขอบภาพ และลองขยับๆ มันดูสองถึงสามครั้ง

แล้วกรอบรูปภาพหลุดออกมา กู่ฉิงซานยื่นมือเข้าไปเบื้องหลังมัน และสัมผัสได้ถึงสิ่งสิ่งหนึ่ง

กู่ฉิงซานดึงเจ้าสิ่งนั้นออกมา และพบว่ามันเป็นกล่องขนาดเล็กที่มีรูปร่างเหมือนแถบยาวๆ ใบหนึ่ง

ไม่มีกับดักบนกล่อง และเขาสามารถเปิดมันขึ้นมาอย่างง่ายดาย

ภายในมีอยู่สองสิ่ง หนึ่งคือม้วนภาพวาดและอีกหนึ่งคือลูกบอลแก้วสีขุ่น

กู่ฉิงซานค่อยๆ คลี่ม้วนภาพออก เปิดดูมันอย่างช้าๆ

ภายในม้วนภาพ ขีดเขียนเต็มไปด้วยวิธีการอันหลากหลาย และสัดส่วนของวัตถุดิบต่างๆ

ไม่ผิดแล้ว ต้องเป็นเจ้าสิ่งนี้ล่ะ

กู่ฉิงซานม้วนแผ่นภาพกลับคืน ตบลงในถุงสัมภาระ และใส่ม้วนภาพเข้าไป

เขาพยายามที่จะหยิบลูกแก้วขึ้นมาเพื่อตรวจสอบมันอย่างละเอียด ทว่าเขาไม่คาดคิดเลยว่าจู่ๆ บนตัวลูกแก้วจะเกิดเสียง ‘เป๊าะ’ ขึ้นและแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

บอลแก้วทั้งลูกแตกเป๊าะและหายไปไม่อาจมองเห็นได้อีกเลย

กู่ฉิงซานชะงักงัน กวาดจิตสัมผัสเทวะออกไปทั่วบริเวณ ทว่าเขากลับไม่พบสิ่งใดเลย

องค์ราชาแห่งจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ย่อมไม่มีทางเก็บซ่อนสิ่งที่ไร้ประโยชน์ไว้ที่นี่อย่างแน่นอน

แต่บอลแก้วที่ถูกเก็บไว้ จู่ๆ ก็แตกร้าวและหายไปอย่างกะทันหัน?

มีสิ่งต่างๆ มากมายที่จะส่งผลกระทบดั่งเช่นในเหตุการณ์นี้ แม้เขาจะเริ่มกังวลแต่ก็นึกไม่ออกว่าแท้จริงแล้วนี่มันคือสิ่งใด

กู่ฉิงซานพยายามสงบจิตใจอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าก็ยังคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น

มิใช่ว่ามันถูกเก็บมาเนิ่นนานเกินไป จนสูญเสียประสิทธิภาพการคงรูปของตนไปแล้วหรือไม่?

เขาไม่สมควรจะรออยู่อีกต่อไป ภาพวาดถูกยกขึ้นมาอย่างระมัดระวัง และถูกนำกลับไปแขวนบนผนังดังเดิม

ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพปกติ และจะไม่มีใครจับสังเกตได้ว่ามีคนเข้ามาที่นี่

ช่างราบรื่นอย่างไม่คาดคิด

ในที่สุด น้ำยาปลุกเทคนิคเทียนซวนก็มาอยู่ในมือของเขา!

นี่มันไม่ได้หมายความแค่ว่าเขาจะสามารถก้าวเข้าไปใกล้สู่การบรรลุภารกิจ ‘ทัณฑ์ปีศาจ’ ขั้นสูงได้เท่านั้น

แต่เมื่อกลับไป เขาจะมอบสูตรนี้ให้แก่เทพธิดากงเจิ้ง และเทพธิดาก็จะคิดหาวิธีเจือจางให้ความบริสุทธิ์ของมันลดลงจนอยู่ในระดับทั่วไป

เมื่อเวลานั้นมาถึง ระบบที่ตัวเขาสร้างขึ้น ก็จะสามารถเลือกอาชีพประจำตัวได้

ผู้ใช้เทคนิคเทียนซวนและนักสู้หวูเต๋า ทั้งสองอาชีพนี้สามารถเลือกเล่นได้แล้ว เหลือเพียงแค่อาชีพผู้ใช้ธาตุทั้งห้า

การเตรียมการสำหรับตัวเลือกอาชีพ นับว่าเสร็จสมบูรณ์ไปแล้วสองในสามส่วน!

กู่ฉิงซานคว้าเอาเครื่องจัมป์ขนาดพกพาออกมาอีกครั้ง และเปิดใช้งานมัน เตรียมตัวที่จะเริ่มออกเดินทางกลับไป

และเสียงของเหลียวฮังก็ถูกอัปโหลดออกมาจากเครื่องจัมป์

“ทำการล็อกตำแหน่งเรียบร้อย เทพธิดากงเจิ้งกำลังเตรียมการ หลังจากนี้อีกสามสิบวินาที จะเริ่มทำการจัมป์”

“พระสันตะปาปายังคงอยู่ในวิหารศักดิ์สิทธิ์ ส่วนสถานการณ์ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ เดี๋ยวนะ! สาวกศักดิ์สิทธิ์อีวานจู่ๆ ก็ลุกขึ้นจากโต๊ะแล้ว เขากำลังเดินออกไปสำรวจรอบๆ” น้ำเสียงของปลายสายยกสูงขึ้นอย่างฉับพลัน

“ไม่เป็นไรหรอก ผมกำลังจะกลับไปทันที” กู่ฉิงซานกล่าว

“โอ้ นั่นสินะ...”

เหลียวฮังดูเหมือนจะรู้สึกว่าตัวเองจู้จี้เกินไปเล็กน้อย เขาจึงตอบกลับมาอย่างเคอะเขิน

“มุ่งความสนใจไปกับการแปลงข้อมูลของเครื่องจัมป์เถอะ คงต้องลำบากคุณแล้วนะ” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยอารมณ์ที่ผ่อนคลาย

มื้ออาหารค่ำที่แสนหรูหรา ควบคู่ไปกับสูตรน้ำยาของจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ กู่ฉิงซานรู้สึกว่าภารกิจในคืนนี้ ช่างเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบเสียจริง

ทว่าในขณะที่เขากำลังรอออกเดินทางนั้นเอง จู่ๆ กู่ฉิงซานก็เงยหน้าขึ้น และพบกับชายคนหนึ่งกำลังลอยอยู่กลางอากาศ เฝ้ามองดูเขาอย่างเงียบๆ

เขาคือชายชราที่ดูซีดเซียวและเปราะบาง

ร่างกายของชายชราโปร่งแสง สองตาของเขาจับจ้องไปยังกู่ฉิงซานอย่างรอบคอบ

“เจ้าเป็นผู้ใดกัน?” ชายชราเอ่ยถาม

กู่ฉิงซานตกใจ

“แล้วแอนนาเล่า? แอนนาตัวน้อยของข้าอยู่ไหน?” ชายชราบ่นพึมพำด้วยความผิดหวัง

“เป็นที่น่าเสียดายยิ่ง ที่หลังจาก ’จิตอาร์ติแฟ็ค’ นี้ถูกเปิดออก ข้าจะสามารถคงอยู่ได้เพียงแค่ สิบนาทีเท่านั้น แต่กลับไม่ได้พบกับแอนนา”

เขาก้มหน้าลง บนใบหน้าของเขาแสดงถึงความเสียใจอย่างที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

“องค์ราชา!” กู่ฉิงซาน เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

กู่ฉิงซานตระหนักได้แล้วว่า นี่คือจิตวิญญาณของราชาแห่งจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์!

“ทำไมกัน! ทำไมท่านถึงมาหลบซ่อนอยู่ที่นี่!”

เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ซ่อนซะลึกลับแบบนี้ แล้วแอนนาจะมาที่นี่เพื่อหาตัวท่านได้อย่างไร?”

ชายชราเอ่ยแดกดันกับตัวเอง “นางจะต้องมาอย่างแน่นอน เพราะนี่เป็นสถานที่เดียวกันกับที่เก็บสูตรยาปลุกเทียนซวนของอาณาจักร ตราบใดที่ธิดาข้ายังมีชีวิตอยู่ นางจะต้องมาอย่างแน่นอน”

กู่ฉิงซานยังรู้สึกไม่วางใจนัก เขาจึงค่อยๆ กวาดจิตสัมผัสเทวะออกไปอย่างอ่อนโยน

และก็ได้ข้อสรุปว่า นี่คือจิตวิญญาณขององค์ราชาจริงๆ!

แต่หลังจากที่เขาตกตายลง มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะรักษาจิตวิญญาณให้คงอยู่ในโลกนี้เป็นระยะเวลานานได้

ลูกแก้วสีขุ่นนั่นคงมิใช่ของธรรมดา แต่แท้จริงแล้วมันคือจิตอาร์ติแฟ็ค?

หากทั้งหมดนี้มิใช่ความฝัน นั่นก็หมายความว่าองค์ราชาแห่งจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์คงได้เตรียมการเอาไว้นานแล้วสำหรับวันนี้ เขารู้ว่าตนเองมีแนวโน้มที่จะตกตายภายใต้เงื้อมมือของพระสันตะปาปา

องค์ราชาต้องการที่จะได้พบกับธิดา แอนนาอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย

กู่ฉิงซานอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้

ในช่วงชีวิตก่อนหน้า หลังจากที่ราชาสิ้นพระชนม์ลง แอนนาได้มีโอกาสพบเจอกับจิตวิญญาณขององค์ราชาหรือเปล่านะ?

ภาพวาดนี้ เป็นของขวัญจากองค์ราชาที่มอบให้แก่มาดามดู่

หลังจากที่พระราชาสิ้นพระชนม์ลง แอนนาก็จะถูกควบคุมโดยคนแคระ คอยเป็นแหล่งอาหารสำหรับการเติบโตทางจิตวิญญาณของมัน

ในเวลานั้น เธอได้ถูกคุมขังโดยสมบูรณ์ ไร้ซึ่งอิสรภาพอีกต่อไป และคงไม่มีความคิดที่จะทำการค้นหาสูตรน้ำยาอีกครึ่งที่เหลือเป็นแน่

ซ้ำเมื่อแอนนาถูกช่วยเหลือโดยสาธารณรัฐฟูซี จักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในความโกลาหลและพังทลาย ส่วนมาดามดู่คงมิแคล้วสุคนธรสจางหาย ชิ้นหยกพลันมลาย ตกตายลงท่ามกลางความวุ่นวายของสงคราม และภาพวาดนี้สมควรที่จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย

แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจิตวิญญาณขององค์ราชาจะได้รับการผนึกเอาไว้ดังเดิม หรือถูกเปิดไปแล้วโดยคนอื่นๆ ทว่าหลังจากนั้นเป็นต้นมา สูตรน้ำยาปลุกเทคนิคเทียนซวนก็หายไป และไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลย

ดังนั้นในชีวิตก่อนหน้า แอนนาคงมิแคล้วพลัดพรากโอกาสครั้งสุดท้ายที่จะได้พบเจอกับองค์ราชาอย่างแน่นอน

กู่ฉิงซานถอนหายใจ ปากเอ่ยกล่าว “พระองค์โปรดรอกระหม่อมสักครู่ กระหม่อมจะไปเรียกแอนนามาหาท่านเดี๋ยวนี้แหละ”

ชายชราเงยหน้าขึ้นอย่างรุนแรง แววตาของเขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

“เจ้าพูดจริงๆ หรือ?” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เกือบจะสั่นสะท้าน

“แน่นอน พ่ะยะค่ะ”

กู่ฉิงซานกล่าว และรีบปรับเครื่องจัมป์ขนาดเล็กอย่างรวดเร็ว

“เอ๋? เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ ทำไมจู่ๆ แกถึงขัดจังหวะการเชื่อมต่อข้อมูล?” น้ำเสียงของเหลียวฮังดังขึ้น

“แอนนาล่ะ”

“อยู่ด้วยกันนี่แหละ”

“คุณต้องทำการจัมป์เธอมาที่นี่”

“อ๋า? แต่มีเพียงแค่คนเดียวที่จะสามารถทำการจัมป์ได้ในแต่ละครั้ง และมันก็มีกำหนดการใช้งานเพียงแค่สามครั้งเท่านั้นนะ ตอนนี้แกก็ใช้ไปหนึ่งแล้ว รู้ตัวรึเปล่าว่าถ้าทำแบบนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น”

ถ้าหากแอนนาถูกส่งผ่านเครื่องจัมป์มา ก็จะเหลืออีกเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถใช้เครื่องจัมป์หลบหนีออกไปได้

ส่วนคนที่เหลือจำต้องหาวิธีหลบหนีไปอีกทางหนึ่ง

กู่ฉิงซานกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “รีบจัมป์เธอมาที่นี่ทันที ตอนนี้เป็นสถานการณ์เร่งด่วนมาก!”

“เออๆ ฉันบอกเธอให้เตรียมพร้อมแล้ว มันจะใช้เวลาประมาณสามสิบวินาทีนะ ช่วยรอหน่อยก็แล้วกัน”

และเสียงของเหลียวฮังก็หายไป

30 วินาทีผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับผู้เฝ้ารอจะกล่าวว่ามันเนิ่นนานก็ได้

ก่อนที่แอนนาจะมาถึง กู่ฉิงซานก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากถามก่อน “ฝ่าบาทท่านสิ้นพระชนม์ลงด้วยสาเหตุใด และเพราะเหตุใดจิตวิญญาณจึงสามารถคงอยู่ในโลกได้เช่นนี้?”

องค์ราชามองดูเขา และเอ่ยปากพูด “บอกเจ้าไปมันก็คงไม่นับว่าเป็นอันใด ข้าได้แหกกฎเหล็กของชีวิตและความตาย ทำการเก็บรักษาวิญญาณตนเองเอาไว้ในจิตอาร์ติแฟ็คเพื่อที่จะให้ข้าสามารถคงอยู่ในโลกใบนี้ได้นานขึ้น”

“ท่านจะสามารถทำลายกฎเหล็กแห่งชีวิตและความตายได้อย่างไรกัน? มนุษย์ไม่สามารถบรรลุการกระทำเช่นนั้นได้” กู่ฉิงซานจี้ถาม

“เพราะข้าได้จ่ายราคาที่ต้องแลกออกไปอย่างสมน้ำสมเนื้อน่ะสิ”

“ท่านได้จ่ายสิ่งใดออกไปกัน?”

“หลังจากนี้อีกสิบนาที จิตวิญญาณของข้าก็จะแตกสลายลง”

กู่ฉิงซานตกตะลึง

แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็ค่อยๆ ฟื้นสติกลับคืนและกล่าว “ราคาที่ต้องจ่ายนี้มันหนักเกินไป เหตุใดท่านจึงยืนกรานจะกระทำเช่นนี้?”

“เพราะข้าต้องการจะได้พบกันแอนนา” ราชากล่าว

กู่ฉิงซานพูดอย่างยากที่จะเข้าใจ “แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น วิญญาณของท่านก็จะกระจัดกระจายไปโดยสมบูรณ์ และไม่มีทางที่จะไปมีชีวิตอยู่ได้ในโลกใดๆ หรือมิอาจกลับมาเกิดใหม่ได้โดยสมบูรณ์”

องค์ราชาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เขาเอ่ยเสียงหม่น “หากข้าได้หลงเลือนแอนนา และต้องเกิดใหม่เป็นคนอื่น นั่นคงมิใช่ตัวตนที่แท้จริงของข้าอีกต่อไป”

กู่ฉิงซานช็อก เขานิ่งค้างไป

ราชาถอนหายใจยาว “แอนนาธิดาข้า ยามที่ข้าได้จากไป นางก็คงหลงเหลือเพียงตัวคนเดียวอยู่ในโลกอันโหดร้ายใบนี้ นี่มันเป็นความผิดของข้าเอง”

“ไม่นะ ท่านพ่อ นี่มันมิใช่ความผิดของท่าน” แอนนาปรากฏตัวขึ้นในห้องจัดแสดง

เธอกัดริมฝีปาก น้ำใสๆ สองสายไหลรินออกจากตา สองมือเอื้อมไปสัมผัสลงบนใบหน้าขององค์ราชากำลังสั่นสะท้าน

นิ้วเรียวบาง ทะลุผ่านร่างจิตวิญญาณออกไป มิอาจสัมผัสได้ถึงสิ่งใด ราวกับคนเบื้องหน้าเป็นเพียงภาพลวงตา

“ท่านพ่อ เหตุใดจึงต้องทำแบบนี้” เธอร่ำไห้ด้วยความขมขื่น “หากท่านต้องจากไปอีกโลกหนึ่ง อย่างน้อยข้าก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างสบายใจ ทว่าตอนนี้กระทั่งจิตวิญญาณของท่านก็ยังมิอาจรักษามันไว้ได้”

“ไม่หรอก เจ้าจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างสบายใจเป็นแน่ ข้ารู้จักเจ้าดี เจ้าจะต้องพยายามแบกรับโชคชะตาของราชวงศ์ไว้บนบ่าด้วยตัวคนเดียวเป็นแน่”

“ธิดาข้า เจ้าไม่เห็นต้องทำเช่นนี้เลย”

ราชาเฝ้ามองดูธิดาของเขาอย่างจริงจัง ราวกับว่าเขาต้องการที่จะสลักรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายให้ติดตรึงลึกอยู่ในจิตใจ

“แอนนา แต่ก่อนข้าเคยเข้มงวดกับเจ้ามากเกินไป ทว่าทั้งหมดที่ข้าทำมันก็เพื่อเป็นการฝึกฝนเจ้า ให้เจ้าสามารถรับสืบทอดจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างเหมาะสมในอนาคต”

“ยามนี้ข้าต้องกล่าวว่า หากข้าสามารถกลับมาชีวิตได้อีกครั้ง ข้าจะไม่บังคับเจ้าให้เรียนรู้ในหลายๆ สิ่งมากเกินไป ตราบใดที่เจ้ายังคงมีชีวิตอยู่โดยปราศจากความทุกข์หรือคับข้องใจใดๆ แม้ว่าจิตวิญญาณข้าจะแตกสลาย อย่างน้อยหัวใจของข้าก็ได้รับการปลอบประโลมแล้ว”

สมองควอนตัมของกู่ฉิงซานส่องสว่างขึ้นอย่างกะทันหัน

“ใต้เท้า กรณีฉุกเฉิน มีใครบางคนกำลังเดินขึ้นมายังชั้นบน” เทพธิดากล่าว

“ใครกัน?”

“สาวกศักดิ์สิทธิ์ อีวาน รีบหนีไปเร็วเข้า!” เหลียวฮังตะโกน

“หุ้นส่วน เวลามีจำกัด ต้องรีบจัมป์แล้ว” เสียงของซางหยิงฮ่าวดังตามออกมา

ใบหน้าของทั้งสามแปรเปลี่ยนไป

“เจ้ามิใช่คู่ต่อสู้ของเขา ลืมมันซะ จงไปเสียเถอะ” องค์ราชากล่าว

“แล้วท่านล่ะ?”

“เพียงได้พบกับแอนนา ข้าก็พอใจแล้ว แถมหลังจากนี้อีกไม่กี่นาทีข้าก็จะสลายไป”

“เจ้าจงไปเถอะ หากพวกเจ้าทั้งสองตกตายลงที่นี่ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเลย” ราชาเอ่ยกระตุ้น

น้ำตาสองสายไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหลลงจากดวงตาของแอนนา มันไหลไปกองรวมกันที่ปลายคางเรียว และหยดลงบนพื้น

เธอต้องพยายามให้ดีที่สุด เพื่อควบคุมตัวเองไม่ให้สะอื้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

เธอเชิดหน้าขึ้น ความไม่ยินยอมและความเจ็บปวดอันร้าวลึกฟุ้งอยู่ภายในดวงตาของเธอ

“จงเร่งจากไปเร็วเข้า” ราชากระตุ้นเตือน

“ข้า...”

แอนนาพยายามที่จะเปล่งเสียงออกมา ทว่าเธอกลับมิอาจทำมันได้

เธอเกือบจะไม่สามารถยืนหยัดได้ไหว และจำต้องเอนกายอิงแนบกับไหล่ของกู่ฉิงซาน เพื่อรักษาสมดุลร่างกายให้มั่นคง

“ใต้เท้า สาวกศักดิ์สิทธิ์อีวานได้ขึ้นมาถึงชั้นสามแล้ว ฉันจะเริ่มการจัมป์ให้แก่คุณในทันที” เทพธิดากงเจิ้งกล่าว

กู่ฉิงซานปิดสองตาของเขาลง และจู่ๆ ก็เปิดปากกล่าวขึ้นในทันใด “ไม่ล่ะ”

“ใต้เท้า?” เทพธิดากงเจิ้งเอ่ยด้วยความสับสน

กู่ฉิงซานยิ้ม เขาหันไปมองแอนนาและกล่าวว่า “แอนนา ฟังที่ฉันกำลังจะพูดให้ดีนะ”

“ช่วงเวลาสุดท้ายยังคงเหลืออีกหลายนาที ฉันหวังว่าเธอจะสามารถใช้ช่วงเวลาดีๆ นี้อยู่กับพระบิดาให้นานที่สุด”

“ถ้าพวกเราจากไปตอนนี้ เชื่อฉันสิ ว่าเธอจะเศร้าเสียใจไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่”

“หลังจากที่เธอและเขาเฝ้ารอมาเนิ่นนานจนได้พบเจอกันเป็นครั้งสุดท้าย ฉากนี้ไม่ควรจะถูกแยกจากกัน ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันคงเสียใจไปตลอดชีวิต”

กู่ฉิงซานกล่าว และวางเครื่องจัมป์ขนาดพกพาไว้บนพื้นข้างๆ แอนนา

“นั่นนายคิดจะทำอะไรน่ะ!” น้ำเสียงของแอนนาสั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้

“เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันจะทำหรอก เพราะฉันอยากจะทำมัน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ” กู่ฉิงซานกล่าว

เขาเดินออกไปจากประตู เอ่ยปากกล่าวต่ออีกประโยค

“จะไม่มีใครสามารถรบกวน การพบปะกันของพ่อลูกในช่วงเวลาสุดท้ายได้”

“กระทั่งสาวกศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีข้อยกเว้น”

เขาเดินออกไป พร้อมกับประตูที่ปิดลง

..........................................................