ตอนที่ 24 วังเทียนซู (พิจิก)
ไม่คาดคิดเลยว่าในชีวิตใหม่ที่ถูกส่งกลับมานี้ เขาจะสามารถพบเจอเธอได้อีกครั้งตั้งแต่อายุยังน้อย
กู่ฉิงซานดูจะอารมณ์ดีเป็นอย่างมากในขณะนี้ เขาได้โยนเรื่องของมาดามซูทิ้งเอาไว้เบื้องหลังโดยสมบูรณ์
ชายสวมแว่นยืนขึ้น ก่อนจะจับมือกับกู่ฉิงซาน
“สวัสดี ส่วนฉันชื่อว่า วอนฟอร์ด คุณสามารถเรียกฉันว่าวอน หรือเรียกว่าฟอร์ดก็ได้”
“สวัสดีครับ”
กู่ฉิงซานมองหน้าอีกฝ่าย
ดูเหมือนว่าชื่อนี้ กู่ฉิงซานก็เคยได้ยินได้ฟังถึงความน่าประทับใจของเขามาบ้าง แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะตายลงรวดเร็วเกินไป จึงไม่อาจจดจำรายละเอียดได้อย่างชัดเจน
ช่างมันเถอะ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
“ไม่ต้องพูดให้มากความ พวกเรามาดื่มกันก่อนสักแก้วเถอะ”
กู่ฉิงซานเดินไปด้านหลังบาร์ และมองหาเหล้าและวอดก้าที่วางโชว์อยู่ด้านบน
ในขณะนี้ อารมณ์ของเขาฟื้นคืนมาอย่างสมบูรณ์ เหมือนดังเช่นได้กลับไปยังวันสิ้นโลก ตัวเขาได้กลับมากลายเป็นนักดาบนิรันดร์ที่ยิ่งใหญ่ กลายมาเป็นผู้บัญชาการการรบแห่งสหพันธ์ที่สั่งการทหารนับหลายพันคน
วอนฟอร์ดจ้องมองกู่ฉิงซานก่อนจะกล่าวอย่างสงบ “เขาดูมีบางอย่างผิดปกตินะ พวกเราควรจะเกลี้ยกล่อมเขาตามแผนที่วางไว้เลยดีไหม?”
แอนนาจ้องมองเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะเบนสายตาไปยังขวดเหล้าที่เรียงรายอยู่หลังบาร์และกล่าว “รอดูอีกสักพัก ฉันอยากจะรู้ว่าเขาต้องการจะทำอะไร”
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังกล่าว กู่ฉิงซานก็เอื้อมมือไปคว้าขวดวอดก้าขนาดใหญ่ลงมา ก่อนจะเหลียวหลังกลับมาและเปิดขวดเหล้า โซดา อีกหกถึงเจ็ดขวดตรงหน้าบาร์
“แบบนี้ยังไม่ดี เหมือนจะขาดอะไรไปสักอย่าง”
เขาพึมพำก่อนจะหันกลับไปเลือกเหล้าและนิ่งไป
“เฮ้ สหาย นี่นายต้องการจะทำอะไร?” วอนฟอร์ดอดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา
กู่ฉิงซานเหลือบมองเขา ก่อนจะหยิบแก้วจากในบาร์ขึ้นมาสามแก้วและกล่าว “นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พวกเราพบเจอกัน ดังนั้นจึงควรดื่มฉลอง”
“ฉันคิดว่านั่นก็เป็นความคิดที่ดี” แอนนาเอ่ยด้วยความสนใจเล็กน้อย
ความสนใจที่อยู่นอกเหนือจากงาน
ราชินีแห่งการทำลายล้างเป็นหญิงที่รักในการดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับค็อกเทล
ในโลกก่อนหน้า บาร์เทนเดอร์คนหนึ่งในวังเทียนซูมีวิธีชงค็อกเทลที่ไม่เหมือนใคร เขาได้รับความโปรดปรานจากเธอ จนเกือบที่จะได้เป็นแฟนคนแรกขององค์หญิงซะแล้ว
แต่บาร์เทนเดอร์คนนั้นก็ไม่อาจทำได้สำเร็จ
เพราะเธอได้ตายลงเสียก่อน…
กู่ฉิงซานขับรถเป็นเวลาติดกันกว่าสองวันสองคืนเพื่อมุ่งไปช่วยเหลือเธอ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ทันเวลา และเห็นแค่เพียงเปลวเพลิงแห่งการทำลายล้างค่อยๆมอดดับลงจากจุดที่ห่างไกลออกไป
ด้วยพลังเฮือกสุดท้ายของเธอ แอนนาสามารถลากเผ่ามารนับไม่ถ้วนให้จบชีวิตลงตามไปพร้อมกับเธอได้
กู่ฉิงซานส่ายหัว ระงับอารมณ์ของเขา และเริ่มชงค็อกเทลอย่างมุ่งมั่น
สามนาทีต่อมา
เครื่องดื่มค็อกเทลที่มีสีเหมือนกับเลือดแก้วหนึ่งก็ถูกวางลงตรงหน้าแอนนา
เหล้านี้ดูเหมือนกับเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้ หากแต่มองลึกลงไปในเปลวเพลิงที่กำลังเดือดพล่าน มันกลับดูราวกับเหวที่มืดมิดที่ไม่อาจละสายตาได้
แอนนามองลงไปในแก้วเหล้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองกู่ฉิงซาน
“ลองดื่มดูสิ” กู่ฉิงซานมองเธอด้วยมุมปากที่ยกสูงขึ้น
“เหล้าในแก้วนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร” แอนนาหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา
กู่ฉิงซานจ้องมองเธอ ก่อนจะเอ่ยสั้นๆ “วังเทียนซู”
นี่คือผลงานที่เขาพัฒนาขึ้น โดยมีพื้นฐานมาจาก ‘วังเทียนซู’ หลังจากที่เขาได้ทดสอบดื่มมันอย่างหนักจนเมา
มันเป็นผลงานที่น่าพึงพอใจมากที่สุด ที่เขาได้ทำเพื่อให้เหมาะสมแก่เกียรติของเธอ
“ทำไมมันถึงเรียกด้วยชื่อนี้”
“เพราะวังเทียนซู พิจิก เป็นกลุ่มดาวพิทักษ์บนฟากฟ้า มันเป็นกลุ่มดาวที่มีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ไม่เคยดับสูญ”
“นี่มัน…ช่างเป็นคำอธิบายที่โง่เง่า”
แอนนาเอ่ยอย่างดูหมิ่น ทว่าอย่างไรก็ตาม จู่ๆเธอกลับสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดและขมขื่นที่ได้รับมาตลอดช่วงหลายปีขึ้นในหัวใจ
เธอยกแก้วขึ้นและดื่มมันรวดเดียวหมด
รสขม สัมผัสรุนแรง ให้ความรู้สึกราวถูกเผาไหม้
มันช่วยทำลายความเหงาและเศร้าโศกลง
ทว่าในสัมผัสสุดท้ายกลับรู้สึกได้ถึงความหวานละมุนอันลึกล้ำ
หลังจากหลับตาลงดื่มด่ำกับรสสัมผัสของมันอยู่นาน แอนนาก็ลืมตาขึ้น และจ้องมองกู่ฉิงซาน
“ฉันชอบนาย” เธอกล่าว
“ฝ่าบาท! ”วอนฟอร์ดตะโกนลุกขึ้นพรวด
“‘อย่างงั้นเหรอ? ถ้างั้นพวกเรามาดื่มแก้วต่อไป ‘กระหายเลือด’ กัน” กู่ฉิงซานก้มหัวลงและกันไม่ให้อีกฝ่ายเห็นการกระทำของเขาที่สองมือวูบไหวอย่างรวดเร็ว ชงค็อกเทลแก้วที่สอง
สำหรับความพยายามอยู่ครู่หนึ่ง ขณะนี้ค็อกเทล ‘กระหายเลือด’ ทั้งสองแก้วได้ถูกผสมเสร็จเรียบร้อยแล้ว
กู่ฉิงซานเท ‘กระหายเลือด’ ลงไปแก้วไวน์สองใบ ใบหนึ่งวางลงหน้าแอนนา อีกใบถือไว้กับตัว ก่อนจะยื่นขึ้นชนกัน และดื่มมันรวดเดียวจนหมดทั้งคู่
“คุณเป็นคนดีจริงๆ!”
แอนนาหัวเราะและเอื้อมแขนออกไปตั้งท่าตบแปะกับฝ่ามือของกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานตบมือสวนกลับไปและกล่าวอย่างจริงจังว่า “อย่าเอะอะไป ฉันยังมีอีกแก้ว ‘นรกแผดเผา’ คุณต้องการจะดื่มมันไหม?”
เขาอดไม่ได้ที่จะเสิร์ฟค็อกเทลดีๆทั้งหมดที่เขาได้เรียนรู้มาตลอดหลายปีให้เธอ
ดวงตาของแอนนาเปล่งประกายสดใส เธอนั่งลงและกล่าวอย่างสุภาพ “ฉันดื่ม!”
เธอมองไปยังเด็กหนุ่มฝั่งตรงข้ามที่กำลังผสมค็อกเทลอย่างรวดเร็วและเอ่ยถาม “ชื่อนรกแผดเผา ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย?”
“นี่เป็นสูตรค็อกเทลฉบับใหม่ของฉัน พึ่งทดสอบใส่ส่วนผสมออกมาได้ลงตัวเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง”
กู่ฉิงซานกล่าวขณะเดียวกันก็เทค็อกเทลและน้ำแข็งลงในแก้ว
แอนนาหยิบมันขึ้นมา และจ้องมองภายในแก้วที่มีเพียงสีดำสนิท
เธอเงยหน้าขึ้นและกระดกค็อกเทลทั้งแก้วลงในคราวเดียว
“รสมันรุนแรงน่าดู ดูเหมือนว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอารมณ์ของคุณจะไม่ค่อยดีสินะ” แอนนายิ้ม
กู่ฉิงซานยิ้วแผ่วแต่ไม่ได้เอ่ยตอบกลับไป
อีกด้านหนึ่ง วอนฟอร์ดเป็นกังวลจนเขาไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร
เดิมทีนี่เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ของจักรวรรดิ เป็นการเฟ้นหาผู้ที่มีพรสวรรค์ขั้นสูงสุดกลับไปอย่างลับๆ ซึ่งบอกตรงๆวอนฟอร์ดกังวลและไม่คาดคิดว่าองค์หญิงจะพาตัวผู้มีพรสวรรค์กลับไปได้สำเร็จ
กู่ฉิงซานสังเกตเห็นอีกฝ่าย
“ผ่อนคลายเถอะ” กู่ฉิงซานหยิบวิสกี้ขวดหนึ่งส่งให้เขาและเอ่ยต่อ “เราก็แค่ดื่มกันก่อน จากนั้นค่อยเริ่มพูดคุยเรื่องราวกันอย่างจริงจังอีกครั้ง”
วอนฟอร์ดรับวิสกี้มาและกล่าว “ดื่มก็ดื่ม! ฉันก็แค่ไม่คิดว่ามันจะมาลงเอยด้วยรูปแบบนี้”
แอนนาวางแก้วลง และมองไปยังกู่ฉิงซาน
ทันใดนั้นก็เกิดเสียง ‘ติ๊ง’ ขึ้น
ตามมาด้วยเสียงเดียวกันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งสามหันมาสบตากันโดยพร้อมเพรียง แต่กลับพบว่ามันเป็นเสียงอุปกรณ์สื่อสารของกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานวางอุปกรณ์สื่อสารลงบนโต๊ะและเปิดมันขึ้นมา
“พลเมืองแห่งรัฐบาลกลาง กู่ฉิงซาน ตอนนี้เราได้รับข้อสงสัยว่าคุณมีส่วนร่วมในการฆาตกรรม โปรดอยู่ในตำแหน่งเดิมห้ามเคลื่อนที่ไปไหน เจ้าหน้าที่บังคับกฎหมายกำลังจะไปถึง”
“นักเรียนกู่ฉิงซาน เนื่องจากคุณเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม และถูกกล่าวหาว่าได้ขโมยของจากนักเรียนในตระกูลชั้นสูงหลายคน ดังนั้นโรงเรียนเอกชนฉางหนิงจึงขอประกาศว่าคุณได้ถูกไล่ออก”
แสงสว่างบนอุปกรณ์สื่อสารค่อยๆจางหายไป
กู่ฉิงซานยังคงนั่งนิ่งอย่างเฉยเมยราวกับรูปปั้น
แอนนาลูบไหล่ของเขา “อย่าเสียใจไปเลย ชีวิตไม่มีทางเลวร้ายได้ตลอดไปหรอก มากับฉันเถอะ ฉันสัญญาว่าดูแลคุณอย่างดี ไม่สิ ฉันสัญญาว่าจะมอบตำแหน่งบารอนให้คุณ คิดว่าอย่างไร?”
เห็นกู่ฉิงซานไม่กล่าวอะไร แอนนาก็เอ่ยเสริม “ดูเหมือนว่าจะมีหลายคนดักรออยู่ข้างนอก ต้องการให้ฉันจัดการปัญหาให้คุณไหม?”
วอนฟอร์ดยืนขึ้น ก่อนจะจ้องมององค์หญิงของเขาด้วยความประหลาดใจ
องค์หญิงที่ทรงภูมิไม่แยแสสิ่งใด กลับปฏิบัติตัวดีต่อเด็กหนุ่มถึงขนาดนี้…
บ้าจริง!
หวังว่าเจ้าเด็กนี่คงไม่คิดจะเคลมองค์หญิงจริงๆหรอกนะ!
จู่ๆ กู่ฉิงซานก็เผยยิ้มและเอ่ยอย่างช้าๆ “เดิมทีฉันคิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่เงียบสงบเสียอีก”
เบื้องนอกปรากฏเสียงไซเรนดังขึ้น
ตามมาด้วยเสียงวุ่นวาย
เสียงตะโกน เสียงวิ่ง เสียงคำรามของรถเหินเวหา ค่อยๆมุ่งตรงใกล้เข้ามายังบาร์
กู่ฉิงซานยืนขึ้นและกล่าว “ฉันเสียใจด้วย คงต้องขอปฏิเสธ เพราะฉันยังหวังที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่”
“นั่นคุณจะกำลังไปไหน อย่าบอกนะว่าจะไปสอบเข้ามหาวิทยาลัย? ไปเป็นนักศึกษา?” แอนนาถามด้วยความประหลาดใจ
“เปล่า ตอนนี้ฉันต้องออกไปเผยเขี้ยวเล็บ จะได้พักอย่างสงบสักที”
กู่ฉิงซานเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน
“ดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด แม้กระทั่งในโลกใบนี้ก็ยังไม่อาจพักผ่อนอย่างสบายใจได้”
คันธนูปรากฏปรากฏขึ้นในมือของเขาจากอากาศที่ว่างเปล่า และจู่ๆลูกธนูสามดอกก็แขวนอยู่บนหลังเขา
กู่ฉิงซานยกคันธนูขึ้นและเดินไปหน้าประตูของบาร์
ทุกฝีเท้าที่เขาก้าวเดินดูราวกับทำให้ร่างทั้งร่างของเขาเจิดจ้าขึ้นทีละน้อย
เมื่อถึงหน้าประตูบาร์ เขาก็เปิดมัน พร้อมกับกลิ่นอายที่มองไม่เห็นเอ่อล้นไปทั่วทั้งร่าง ตามมาด้วยรัศมีบริสุทธิ์ของพลังวิญญาณที่ปะทุขึ้นรอบตัวเขา
กู่ฉิงซานในเวลานี้ เปรียบดั่งคมดาบที่ถูกถอนออกจากฝัก!
.......................................