ตอนที่ 2 นิก นิโคลัส
"ไนท์ไปไหน ผมไปด้วย..."
ผมเอ่ยถ้อยคำนี้กับชายหนุ่มเส้นผมสีดำผู้มีรอยยิ้มอบอุ่น ผมยังจำได้ว่าแววตาสีดำอมเขียวมรกตของเขากระจ่างใสยิ่งกว่าแก้วคริสตัลใดที่ผมเคยเห็น
รอยยิ้มของท่านไนท์จะมีใครบ้างไม่หลงใหล ดวงตาของเขามีใครบ้างไม่เหม่อมอง เขาคืออัลฟ่าแห่งดวงดาวเฟลม่า อัลฟ่าที่ดีที่สุดในนิยามของผม และคงจะดีที่สุดในจักรวาลด้วย
ผมอยากให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ตลอดไป
ทว่า...
ผมลืมตามองขึ้นไปบนฟ้า ยังคงเห็นกลุ่มเมฆอันเป็นเศษซากการระเบิดในอดีตของดาวออลเรีย ในหมู่ดาว MILLE อยู่เช่นเดิม
ไม่น่าเชื่อเลยว่า กลุ่มเมฆนี้คือฝุ่นผงในอวกาศที่ห่างไกลไปกว่าหมื่นล้านปีแสง มันงดงามจริงๆ อย่างที่ท่านไนท์เคยบอกไว้
เป็นความงดงามที่ผมไม่เคยเข้าใจ จนกระทั่งวันนี้
วันที่มีแค่ตัวผมแหงนมองท้องฟ้าเพียงลำพัง...
ผมหลับตาพริ้มลง ปล่อยให้สายลมกระทบใบหน้าและพัดพาความนึกคิดผมไปไกลแสนไกล เส้นผมสีขาวนุ่มพองฟู ม้วนเป็นเกลียวคลื่นล้อเล่นกับเพื่อนวายุ ร่างเล็กๆของโอเมก้าพันธ์ุพิเศษยืนต้านทานลมหนาวอย่างไม่สะทกสะท้านและไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใด
พลันความรู้สึกที่เป็นสัญญาณเตือนอันตรายก็ร้องขึ้นข้างใน เป็นคลื่นสั่นสะเทือนชนิดหนึ่งที่มีแต่ผมที่สัมผัสได้
สัญญาณของสิ่งมีชีวิต...เป็นเบต้าระดับ 'รุค' ขั้น BB จำนวนสามคนกำลังเข้ามาใกล้ ทั้งหมดเคลื่อนไหวอย่างเงียบกริบ แต่ผมก็ได้ยินเสียงในหัวของพวกมันที่คิดถึงสิ่งเดียวกันอย่างชัดเจน
'ตายซะ เจ้าขยะโอเมก้า'
ร่างสามร่างปรากฎกลางอากาศด้วยอาวุธระยะประชิด มาเพื่อมอบความตายให้กับผม
น่าชื่นชม น่ายกย่อง เป็นทั้งความบ้าบิ่น และกล้าหาญ...
แต่ร่างที่กำลังลอยอยู่เหนือศีรษะผมด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะก็พลันมีสีหน้าบิดเบี้ยว เมื่อร่างกายถูกสอยจนพรุนเป็นรังผึ้งด้วยพลังที่คาดไม่ถึง พวกเขาทั้งสามตกลงมาเหมือนใบไม้ที่ปลิดปลิวจากต้นอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ
ธนู? ปืน? อาวุธบินชนิดใดผู้เคราะห์ร้ายก็คงไม่มีสิทธิได้รับรู้
แต่มันเดินทางมาจากอีกหนึ่งสัญญาณเตือนที่อยู่ไกลออกไป เป็นสัญญาณของเบต้าระดับ 'บิชอป' ระยะห่างคือสามกิโมเมตรและกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้
ความปลอดภัยของผมเป็นหนึ่งในหน้าที่ของเบต้าคนนั้น และดูเหมือนว่าเขาคนนั้นจะขวัญกล้าไม่น้อยที่จงใจเปิดโอกาสให้ศัตรูเข้าถึงตัวผมเพื่อวางกับดักกำจัดในทีเดียว เขาเลือกทำสิ่งที่มีประโยชน์สูงสุด โดยไม่เกรงกลัวว่าจะถูกลงโทษที่บังอาจเอาผมเป็นเหยื่อล่อ
คงเพราะแน่ใจว่าตัวเองจะไม่มีวันโดนลงโทษถึงตายกระมั้ง...
นอร์ทเวสต์ : เบต้าระดับบิชอป ขั้น AAA+
ตำแหน่งทางการ : มหาดเล็กประจำวังหลวง
ตำแหน่งรอง : ผู้สำเร็จราชการแทน(ชั่วคราว - ไม่ระบุระยะเวลา)
ความสามารถในการต่อสู้ : ศาสตร์การใช้อาวุธระยะใกล้และไกล
พลังจิตที่ถนัด : ไซโคไคเนซิส(ควบคุมและเคลื่อนย้ายวัตถุ)
ข้อความข้างต้นปรากฎในหัวของผมทันทีที่ผมอยากรู้ว่าทำไมผมถึงลงโทษเจ้าเบต้าที่อาจหาญนี้ด้วยความตายไม่ได้ คงเพราะหมายเหตุในเรื่องคุณสมบัติที่หาได้ยาก และผลงานผ่านๆมาที่มากมายมหาศาล
ผมสะบัดหัวไล่ข้อมูลที่พรั่งพูนในความคิดออกไป แค่มองประวัติผ่านๆก็รู้แล้วว่าเขาคือคนที่ดวงดาวนี้ขาดไม่ได้ ทั้งเรื่องความรู้ ทั้งความสามารถในการใช้พลังจิต คือเบต้าหนึ่งเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดของดาว น่าเสียดายที่ระดับเกรดเบต้าไม่สามารถเพิ่มไปได้มากกว่าระดับ AAA+ แล้ว เพราะถ้ามันทำได้เขาคนนี้คงได้ตัว 'A' เรียงกันจนทะลุออกไปนอกอวกาศ
สรรพคุณอันยอดเยี่ยมของนอร์ทเวสต์ลอยผ่านตาผมไปโดยไม่ได้รับความสนใจใดๆจากผม เพราะคุณสมบัติของเวสต์น่ะ ท่านไนท์เคยพรรณนาให้ผมฟังมาหมดแล้ว รวมทั้งพึมพำอย่างหัวเสียว่าท่านรุ่นก่อนสร้างบรรพบุรุษของเวสต์มาให้สมบูรณ์แบบเกินไป จนกลบรัศมีของเขาที่เป็นอัลฟ่าไปหมด ถ้าไม่ติดว่าเวสต์มีประโยชน์มหาศาลต่อดาว เขาคงดัดแปลงพันธุกรรมเวสต์ให้โดดเด่นน้อยลงกว่านี้แล้ว
ดังนั้นผมจึงรู้จักเขาดีแม้ว่าจะไม่เคยพูดคุยกันมาก่อนก็ตาม เพราะเวสต์คือเบต้าที่ใกล้ชิดไนท์มากที่สุด คอยวิ่งวุ่นให้ไนท์ที่เอาแต่นอนดูดาวและพาผมไปเที่ยวนั่นเอง
"เวสต์ชอบทำงาน ส่วนผมชอบไปเที่ยว แบบนี้เราน่าจะแบ่งกันทำสิ่งที่แต่ละคนถนัดนะ จริงมั้ย นิก แล้วนายชอบไปเที่ยวกับผมหรือเปล่า"
"ชอบ!"
ผมต้องเห็นด้วยกับไนท์อย่างแน่นอน และตอนนี้มันก็เป็นข้ออ้างที่ผมชอบใช้มากที่สุดไปแล้วด้วย
"ท่านนิก" เหยื่อคำนินทาเดินเข้ามาถึงแล้วเอ่ยเรียกด้วยเสียงทุ้มต่ำ
เขาก้มใบหน้าดูดีที่ท่านไนท์ค่อนแคะลงอย่างสุภาพเพื่อทำความเคารพจากระยะไกล ทำให้มองเห็นใบหน้าเรียวยาวที่คมเข้มได้ไม่ชัด แต่ผมจำได้ดีว่าความหล่อเหลาของเขาถูกบดบังด้วยรอยแผลเป็นขนาดใหญ่สองแผลบนใบหน้าซีกขวา
รอยแผลแรกพาดผ่านสันจมูกโด่งไปจนถึงแก้มและคาง ส่วนอีกแผลอยู่ตรงคิ้วด้านขวาพาดข้ามดวงตาสีฟ้าข้างเดียวกันลงไปถึงโหนกแก้ม แผลดูเก่าแล้ว และเวสต์ก็ดูไม่ได้เจ็บปวดหรือสนใจอะไรกับมันเลย แต่การที่มันยังประดับอยู่บนหน้าเวสต์โดยที่อัลฟ่ารุ่นก่อนไม่ได้รักษาให้ ก็ชวนให้หลายๆคนเข้าใจว่ารุ่นก่อนคงจงใจทิ้งแผลนี้เอาไว้ คงไม่ใช่ว่าเขาหล่อเหลาเกินหน้าเกินตาจนท่านไนท์หมั่นไส้หรอกนะ
"นายทำหน้าที่ได้ดีนะ เวสต์ แต่จะดีกว่านี้ถ้าไม่เอาผมเป็นตัวล่อ" ผมเลือกประโยคตำหนิเป็นคำกล่าวทักทาย แต่ใบหน้าที่เรียบเฉยกลับไม่แสดงอาการใดๆออกสักนิด เขาเพียงแต่เอ่ยต่อไปอย่างนอบน้อม
"ข้าน้อยยินดีรับโทษทัณฑ์หากท่านนิกเห็นว่าสิ่งที่ทำไม่เหมาะสมด้วยประการใดๆก็ตามภายหลังจากนี้ แต่ตอนนี้ข้าน้อยมีเรื่องจำเป็นต้องเรียนให้ท่านทราบขอรับ"
ชายหนุ่มเอ่ยแล้วทรุดลงคุกเข่าตรงหน้าผมทันที
ให้ตายเถอะ...ผมขยาดเวลาที่เวสต์ทำแบบนี้ที่สุดเลย น่ากลัวยิ่งกว่าตอนใช้ความสูงเหลือเฟือนั่นมายืนค้ำหัวผมแล้วทอดเงาดำทะมึนใส่อีกนะ เพราะเวลาที่เวสต์ทำแบบนี้มีสาเหตุแค่สองอย่าง
หนึ่งคือ เพื่อขอรับโทษอะไรสักอย่างจากผม หรือไม่ก็ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ผม 'อัลฟ่าหน้าใหม่' ควรทำ ด้วยภาษีของมหาดเล็กเก่าแก่และหมายเหตุพ่วงท้ายมากมาย ทำให้ผมเองก็ไม่มีอะไรจะไปงัดข้อด้วยเลย ได้แต่พยักพเยิดเออออ ปล่อยให้เวสต์ทำและพูดไปตามใจชอบ
"ท่านนิก ท่านยังไม่ได้ประทับตราพวกเราเลยนับตั้งแต่ที่ท่านไนท์ลาจากไป ตราของท่านไนท์นับวันจะยิ่งอ่อนพลังลงเรื่อยๆ ทำให้ประชาชนบางกลุ่มมีการแสดงออกที่ผิดปกติ ดังนั้น ขอท่านโปรดอย่าช้าอีกเลย รีบจัดการก่อนที่พวกมันจะกำเริบเสิบสานไปมากกว่านี้เถอะขอรับ"
ผมได้ยินแล้ว...ได้ยินมาประมาณร้อยรอบแล้ว
"เวสต์ เมฆบนฟ้าสวยมากเลย นายว่ามั้ย?"
"…"
เวสต์มองตามขึ้นไปด้วยใบหน้าราบเรียบเพียงเสี้ยววินาทีก็กรอกตากลับมาจ้องที่ใบหน้าของผม รอคอยคำตอบด้วยแรงกดดันมหาศาล จนผมรู้สึกเหมือนถูกกดทับจากทุกทิศทาง
แต่บรรยากาศอึมครึมที่สร้างน่ะ ทำอะไรผมไม่ได้หรอก เพราะตัวผมไม่กลวงโบ๋และว่างเปล่าอีกแล้ว ไม่ใช่โอเมก้าตัวน้อยที่เลื่อนลอย คอยพึ่งพิงแต่คนรอบข้าง
ผมจะไม่กลัวอีกแล้ว
แม้ว่าท่านไนท์จะไม่อยู่แล้ว
แม้ว่าจะไม่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของท่านไนท์
แม้ว่ารอบตัวผมตอนนี้จะเหลือเพียงคนสนิทหน้าตายคนนี้ และคำพูดส่งท้ายของท่านไนท์ที่ผมจำได้ขึ้นใจ...
"นิก จากนี้นายคืออัลฟ่านะ คิดว่าทำได้มั้ย?"
ตอนนั้นผมพยักหน้าทันที แม้จะไม่รู้ว่าท่านไนท์หมายความว่าอะไร จากนั้นก็เอียงหัวอย่างงุนงง แต่ท่านไนท์ก็ไม่ได้อธิบายอะไรอื่นนอกจากหัวเราะตัวผมที่ทำหน้าเหรอหราขณะที่พยายามรับปากว่าจะทำสิ่งที่เขาฝากฝังไว้ให้สำเร็จ ทั้งๆที่ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าภาระของมันหนักหนาแค่ไหน
ในอดีตผมไม่เคยรู้หรอกว่าอัลฟ่าหรือโอเมก้าคืออะไร ผมรู้แต่ว่าผมต้องเชื่อฟังใคร และภักดีต่อใครมากที่สุด
แต่ในเวลานี้ผมเข้าใจแล้ว...เพราะผมคืออัลฟ่าหนึ่งเดียวของดวงดาว สืบทอดพลังมาจากอัลฟ่าทุกรุ่น ถือสิทธิอำนาจสูงสุดของดวงดาวนี้
"ท่านนิก" เบต้าคนสนิทเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ โดยเลือกที่จะเรียกชื่อเดิมของผม ชื่อที่ท่านไนท์เป็นคนตั้งให้ มหาดเล็กผู้ใกล้ชิดคนนี้เป็นคนเดียวที่รู้สิ่งผิดปกติที่ท่านไนท์ทำทั้งหมดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
"ตอนนี้มีหลายฝ่ายต่อต้านท่าน เพราะที่มาดั้งเดิมของท่าน แต่การต่อต้านนี้จะจบลงทันทีที่ท่านประทับตราอำนาจแก่พวกเขา เพราะอัลฟ่าคืออำนาจสูงสุด มันจะไม่สำคัญอีกต่อไปว่าท่านเคยเป็นอะไรมา"
น้ำเสียงของเวสต์มั่นคงเด็ดเดี่ยว แววตาไม่สั่นไหว เขาหมายความตามที่พูดจริงๆ และผมก็ดีใจที่มีคนพูดแบบนี้กับผม
แต่...
"มันสำคัญสำหรับผม"
เพราะผมรู้ดีว่าผมเคยเป็นอะไรมาก่อน และชีวิตที่กำเนิดมาเช่นนั้นเป็นอย่างไร
ผมปิดดวงตาสีหมอกลง สดับฟังการตั้งคำถามจากผู้คนทั่วทั้งดวงดาว
'เหตุใดถึงท่านอัลฟ่าถึงมอบพลังให้กับโอเมก้าได้?'
'เรื่องเช่นนี้ไม่สมควรเกิดขึ้น!'
'การกระทำเยี่ยงกบฎต่อพระเจ้าเช่นนี้! ภาคีจะต้องลงโทษดาวของเราแน่!!'
'ท่านไนท์บ้าไปแล้วหรือไร?'
สายธารคลื่นความคิดของประชาชนในดวงดาวหลั่งไหลเข้ามา ผมมองเห็นและรู้สึกได้ เหล่าโอเมก้ายังคงทำงานตามหน้าที่ตัวเองอย่างไม่บิดพลิ้ว แต่เหล่าเบต้าต่างหากที่เริ่มมีปัญหา ด้วยความคิดที่ซับซ้อนกว่า ยึดมั่นกว่า และมีความปรารถนามากกว่า ทำให้พวกเขาสงสัยไปต่างๆนานาต่อการกระทำของอัลฟ่ารุ่นก่อน
ปกติความคิดเช่นนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ภายใต้การตีตราที่ถูกต้อง แสดงว่าพลังของตราอ่อนลงอย่างที่เวสต์บอกจริงๆ
แต่ว่า
"ผมจะไม่ตีตราพวกเขา..."
ผมหันไปพบสีหน้าตกใจที่หาดูได้ยากของเวสต์
"และจะไม่ตีตรานายด้วย"
"ท่านนิก!" สายตาเบต้าหนุ่มชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย แม้แต่เวสต์ก็สามารถมีความคิดต่อต้านผมได้ ซ้ำยังด่าผมในใจว่า 'บ้าไปแล้วหรือ' ได้อีกต่างหาก อืม พลังของตราคงใกล้สลายไปแล้วล่ะ เชื่อเลยว่าอีกไม่นาน เวสต์คงสามารถจับผมมัดแล้วเฆี่ยนตีให้ทำงานที่โยนไปให้เขาทำได้เลยด้วยซ้ำ
"ท่านนิก กระทำการต่อต้านพระเจ้าเช่นนั้น ไม่ต้องพูดถึงปฏิกิริยาของภาคี แม้กระทั่งประชาชนของท่าน พวกเขาจะ..."
"พวกเขาจะตั้งคำถาม พวกเขาจะต่อต้าน เหมือนที่นายกำลังทำอยู่ใช่มั้ย?"
เวสต์ชะงัก สีหน้าเขาเคร่งเครียดจนคิ้วแทบผูกกันเป็นปม ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมา เพราะเขากำลังพยายามไตร่ตรองการกระทำของตัวเองอยู่
"นายยังอยู่ฝ่ายเดียวกับผมหรือเปล่า? เวสต์"
เบต้าอันดับหนึ่งเม้มปากแน่น เขาใช้เวลาครู่สั้นๆทบทวนตัวเองแล้วแล้วเอ่ยยืนยันด้วยดวงตาที่แน่วแน่
"บนดาวดวงนี้ ทุกคนล้วนอยู่ฝ่ายเดียวกับท่าน!"
"งั้นไม่ว่าผมจะตีตราหรือไม่ก็ตาม ผลลัพธ์ย่อมไม่แตกต่างใช่หรือไม่ ดังนั้นการตีตราย่อมไม่จำเป็น"
"ท่านนิก..." เวสต์เอ่ยเสียงอ่อนลง คล้ายคนหนักใจแสนสาหัส
"หรือนายชื่นชอบให้ผมตีตรานายกันล่ะ นายจะเอาความชอบส่วนตัวมาบังคับคนอื่นๆบนดาวไม่ได้หรอกนะ"
ผมเอ่ยทีเล่นทีจริง จนเวสต์ไม่อาจหาถ้อยคำมาโต้เถียงได้
"แต่ไม่ว่านายจะชอบหรือไม่ชอบ แต่ผมไม่ชอบตีตราผู้ใด เพราะผมสนุกที่ได้เถียงกับนาย ได้เห็นนายปั้นหน้าไปต่างๆนานา" ผมตอบพลางฉีกยิ้มกว้าง
"…"
สีหน้าเวสต์เข้าสู่ความปลงเรียบร้อยแล้ว เขาคุกเข่าลงและก้มหน้าทำความเคารพ
"ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ประสงค์ของท่าน"
ดวงตาสีหิมะสะท้อนเงาของดวงดาวเป็นประกายดังเนบิวล่าของดาวออลเรียที่ดับสูญ ผมหลุบตาลงค้อมศีรษะทำความเคารพวิญญาณของราชาผู้วายชนม์เพื่อประชาชนของตัวเองในเส้นทางที่แตกต่าง
"ผม นิก นิโคลัส อัลฟ่าอันดับที่ 47!"
เสียงของผมก้องกังวานไปทั้งดวงดาว บังคับให้ประชาชนทุกคนได้ยิน
"ต่อจากนี้ผมคือผู้นำ พวกเจ้าทั้งหลายผู้อาศัยบนดวงดาวแห่งนี้จงตามผมมาสู่อนาคตใหม่ของดาวเฟลม่า"
ผม...จะพิสูจน์ให้เห็นว่าไนท์ไม่ได้บ้าอย่างที่ใครบังอาจคิด ท่านเพียงแค่อ่อนโยนอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้เท่านั้นเอง
'จงเป็นอัลฟ่าที่แตกต่าง นิก'
ผมจะพยายาม..