ตอนที่ ๔
"เหนื่อยหน่อยนะครับ"
เสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังเรียกให้ธาราที่กำลังนั่งดูสมุดบันทึกของตัวเองรีบหันกลับไปมอง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นเบนที่เดินถือน้ำเข้ามาให้
"ขอบคุณมากครับ"
"ไม่เป็นไรครับ ผมก็โดนใช้มาจากคนนั้นนั่นแหละ"
เบนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มขณะส่งสายตาไปยังคุณหัวหน้ามหาโหด ที่ยังคงยืนคุยงานอยู่กับหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ต้องประจำการอยู่โดยรอบนครสาบสูญที่เพิ่งถูกค้นพบแห่งนี้ เห็นแบบนั้นธาราเลยหันไปมองบ้างก่อนจะพยักหน้ารับเบา ๆ
"ผมต้องไปขอบคุณเขาสินะครับ"
"เดี๋ยวก่อนก็ได้ครับ ผมว่าตอนนี้คุณก็ยุ่งมากพอแล้ว"
ธาราหัวเราะรับคำพูดนั้นเบา ๆ เมื่ออ่านสายตาของเบนออก ซึ่งก็จริงอย่างที่ว่าเพราะความจริงแล้วตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะพักทานข้าวด้วยกันหลังจากลุยงานช่วงเช้ามาอย่างหนัก แต่เขากลับยังเอาแต่นั่งอ่านสมุดบันทึกของตัวเองแล้วแตะข้าวไปได้ไม่กี่คำเพียงเท่านั้น
"งั้นเดี๋ยวผมขอตัวก่อนแล้วกันนะครับ ขืนนั่งคุยกับคุณนานกว่านี้ผมคงถูกหัวหน้าดุเอาแน่ ๆ"
"ทำไมต้องโดนดุด้วยล่ะครับ"
"เพราะเขาจะบอกว่าผมแอบอู้งานมากวนพวกคุณไง"
"แต่คุณไม่ได้มากวนสักหน่อยนี่ครับ แถมตอนนี้ก็เป็นเวลาพักด้วย แล้วจะหาว่าอู้ได้ยังไง"
พอเห็นธาราที่เถียงแทนตัวเองด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ เบนก็ได้แต่อมยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู คนอะไรทำไมน่ารักได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้ ตาโต ๆ แป๋ว ๆ ตอนมองกลับมานี่ยังกับลูกแมวเลย
"นั่นสินะครับ"
"คุณอาเธอร์เองนั่นแหละ เวลาพักแท้ ๆ ทำไมยังไปยืนขมวดคิ้วใส่คนอื่นเขาแบบนั้น"
"ผมเห็นด้วยกับคุณเลย"
"งั้นผมจะไปตามเขามาพักดีกว่า"
พูดจบโดยไม่รอความเห็นใด ๆ ทั้งสิ้นธาราก็ลุกขึ้นเดินลิ่ว ๆ ไปหาอาเธอร์ทันที ปล่อยให้เบนได้แต่นั่งอมยิ้มอย่างชอบใจอยู่ที่เดิม
ปกติเวลาทำงานมักจะไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับหัวหน้าของเขาสักเท่าไร เบนเองก็เพิ่งจะเห็นคุณนักโบราณคดีคนนี้เป็นคนแรกนี่แหละ ที่กล้าบ่นออกมาตรง ๆ แถมยังกล้าเดินไปตามมาพักอีก น่าสนใจจริง ๆ ด้วย
"....."
พอเดินพ้นออกมาจากเบน ธาราก็ได้แต่ยืนด้อม ๆ มอง ๆ เพื่อให้อาเธอร์คุยกับทหารคนนั้นให้เสร็จเรียบร้อยก่อน เพราะถึงยังไงก็ไม่อยากจะเสียมารยาทเข้าไปแทรกกลางคัน ดวงตากลมโตจึงกวาดมองอะไรไปเรื่อยเพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอ แต่มองนั่นมองนี่อยู่ได้ไม่นานเท่าไร หันกลับมาอีกทีทหารคนนั้นก็เดินออกไปแล้ว ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่อาเธอร์เองก็หันมาสบตากันเข้าพอดี
"มีอะไรหรือเปล่าครับทาร่า"
"ผม..."
"หืม?"
"ผมแค่จะมาตามคุณไปพักน่ะครับ"
".....?"
"ตอนนี้เป็นเวลาพักแล้วแต่คุณยังทำงานอยู่เลย ผมก็เลยจะมาตามคุณไปพัก"
พอได้ยินสิ่งที่ธาราพูด อาเธอร์ก็มุ่นหัวคิ้วนิด ๆ อย่างไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไร ปกติไม่ค่อยมีใครมาพูดกับเขาเรื่องนี้ยกเว้นเบนคนเดียว ตอนแรกที่แอบเห็นว่าเดินมาก็คิดว่าจะมีเรื่องงานซะอีก นึกไม่ถึงว่าจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าน่าแปลก แต่ถึงในใจจะแปลกใจยังไงอาเธอร์ก็ยังคงตอบกลับไปอย่างสุภาพเหมือนเดิม
"ไม่เป็นไรครับ ผมยังไม่เหนื่อย"
"แต่ถ้าคุณไม่พักคุณก็จะหาว่าคนอื่นอู้นี่ครับ ไปพักเถอะ"
"คุณว่าอะไรนะ?"
จากที่แปลกใจอยู่เมื่อกี้ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสงสัยแทนแล้วว่านี่มันเรื่องอะไรกัน อาเธอร์ได้แต่ขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าอย่างจะขอคำตอบ ในขณะที่ธาราเองก็มองกลับไปตรง ๆ ทั้งยังขมวดคิ้วแน่นไม่ต่างกัน
"คุณเบนบอกว่าถ้าเขานั่งคุยกับผมนานคุณจะดุว่าเขาอู้ ทั้งที่เป็นเวลาพักแท้ ๆ ทำไมต้องดุเขาด้วยล่ะครับ อีกอย่างเวลาคุณเบนมาคุยกับผมเขาก็ไม่ได้กวนอะไรเลยนะ คุณอย่าไปดุเขาอีกนะครับ"
"เบนเอาอะไรไปบอกคุณครับ"
หลังถามออกไปอย่างไม่ต้องการคำตอบเสร็จ อาเธอร์ก็หันหน้าไปทางกระโจมที่พักที่ตอนนี้มีเบนกำลังนั่งกินน้ำสบายใจอยู่ในนั้น เห็นแล้วก็นึกอยากจะจับมาเขย่าคอถามเหลือเกินว่าเอาเรื่องอะไรมาบอกคุณนักโบราณคดีคนนี้กัน ถึงได้ทั้งทำหน้าตาและน้ำเสียงดุ ๆ ใส่กันเหมือนเขาเป็นคนผิดแบบนี้
คอยดูเถอะ เดี๋ยวจะสั่งงานให้หนักจนไม่มีเวลาไปพูดอะไรไร้สาระเลย
"สรุปคุณจะไปพักกับผมใช่ไหมครับ"
ประโยคคำถามถูกส่งมาจากธาราอีกรอบ เมื่อเห็นว่าคุณทหารสุดโหดยังคงเอาแต่เงียบไม่ยอมตอบ ดวงตากลมโตกระพริบปริบรอคอยอย่างคาดหวังว่าการมาเจรจา(?)ในครั้งนี้ของตัวเองจะประสบผลสำเร็จ
ซึ่งทางฝั่งอาเธอร์พอโดนถามย้ำมาแบบนั้นอีกครั้ง ก็ละสายตาจากทางกระโจมมาสบตากับคนตรงหน้านิ่ง ๆ ส่วนสูงที่ต่างกันเกือบครึ่งหัว ทำให้เขาต้องก้มหน้าลงเล็กน้อย ดวงตาคู่คมมองสำรวจคนที่กำลังเงยหน้าช้อนตามองขึ้นมา...
จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนเห็นภาพซ้อนทับ...
เหมือนตรงหน้าตอนนี้มีเจ้าแมวน้อยตัวหนึ่งกำลังมองมาตาแป๋ว
…
"อะแฮ่ม"
ลำคอที่แห้งผากเพราะความคิดที่ผุดขึ้นมากะทันหันเมื่อครู่ ทำให้อาเธอร์ต้องรีบกระแอมกลบเกลือนพร้อมทั้งเบือนสายตาไปทางอื่น จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนความสามารถในการต้านทานของตัวเองจะลดต่ำลงโดยไม่มีสาเหตุ จนต้องแอบผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ เพื่อเรียกสติแล้วค่อยตอบรับกลับไป
"ครับ"
"จะไปพักกับผมจริง ๆ นะ?"
"ไปจริง ๆ ครับ"
ระหว่างที่พูดอาเธอร์ก็เริ่มออกเดินไปพร้อมกันด้วย เมื่อตอนนี้ความรู้สึกและความคิดแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นชั่ววูบสลายหายไปแล้ว จนเขาสามารถกลับมาควบคุมตัวเองได้ตามปกติเหมือนเดิม
"งั้นพอไปถึงกระโจมแล้ว ห้ามดุคุณเบนอีกนะครับ"
"ถ้าไม่ทำอะไรผิดผมจะไม่ว่าครับ"
"เรื่องผิดที่ว่าเนี่ย หมายถึงที่มาคุยกับพวกผมเหรอครับ"
ขณะที่ถามไปธาราก็ทำสีหน้าสงสัยไป โดยที่ระหว่างนั้นสองขาก็ก้าวตามคุณทหารข้าง ๆ เพื่อเดินกลับกระโจมที่พักไปด้วย ใบหน้าขาวใสเงยขึ้นมองพร้อมกับดวงตากลมโตที่กระพริบปริบเพื่อรอคำตอบ จนอาเธอร์ที่เห็นท่าทางแบบนั้นได้แต่นึกเอ็นดูอยู่ในใจแต่ไม่พูดออกมา
"ถ้าคุยเฉย ๆ ไม่กวนเวลาพวกคุณ ผมก็ไม่ว่าหรอกครับ"
"ไม่กวนครับ คุณเบนไม่ได้กวนเลย ดีซะอีกที่มาชวนคุยทำให้พวกผมหายเกร็งไปได้เยอะเลย"
"พวกคุณเกร็งมากเหรอครับเวลาอยู่กับพวกผม"
"ก็...กับคนอื่นไม่ค่อยเท่าไรหรอกครับ"
"....."
"แต่กับคุณน่ะใช่...คุณน่ากลัว"
ได้ยินแบบนั้นคุณทหารผู้น่ากลัวก็เลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ อย่างแปลกใจ ไม่ใช่แปลกใจที่โดนบอกว่าตัวเองน่ากลัวเพราะปกติก็มักจะได้ยินอะไรทำนองนี้บ่อยอยู่แล้ว แต่เขาแปลกใจตรงที่...คนที่บอกว่าเขาน่ากลัวกลับกล้าเดินไปตามให้มาพัก แถมยังสั่งห้ามไม่ให้เขาว่าเบนอีกนี่แหละ
กลัวยังไงของเขากันนะ?
"หึ ๆ"
คิดไปคิดมาอาเธอร์ก็หลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง ๆ จนเบนที่มองเห็นมาไกล ๆ จากกระโจมยังอดแปลกใจไม่ได้
คือไม่ใช่ว่าอาเธอร์ไม่เคยยิ้ม แต่เป็นเพราะเจ้าตัวไม่ค่อยจะมีรอยยิ้มแบบนี้ให้คนอื่นต่างหาก...มันเลยน่าแปลก
"ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่าครับ"
"เปล่าหรอกครับ"
ดวงตาแป๋ว ๆ ที่กระพริบปริบมองกลับมาอย่างสงสัยทำให้อาเธอร์ยิ่งเผลอยิ้มกว้างขึ้น ก่อนที่หลังจากนั้นจะตั้งสติได้ กระแอมไอครั้งหนึ่งแล้วกลับมาทำหน้านิ่งเหมือนเดิม ท่อนแขนที่แม้จะซ่อนรูปอยู่ภายใต้แขนเสื้อแต่ยังรับรู้ได้ถึงความแข็งแรงผายออกไปด้านหน้าข้างหนึ่ง เป็นเชิงว่าให้คุณนักโบราณคดีเดินนำไปก่อนได้เลยครับ
ถึงแม้จะยังสงสัยว่าเมื่อกี้อีกฝ่ายหัวเราะอะไร แต่สุดท้ายธาราก็ยอมเดินนำกลับกระโจมที่พักอยู่ดี พอมาถึงก็ฉีกยิ้มกว้างให้เบนที่ส่งยิ้มต้อนรับมาให้ ก่อนร่างสูงโปร่งจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ของตัวเองแล้วหันไปกำชับคนที่เดินตามมาอีกที
"ห้ามว่าคุณเบนอู้นะครับ"
พอนั่งลงแล้วคุณนักโบราณคดีก็วางมาดโหดหันมาทำตาดุเสียงดุใส่อาเธอร์ที่ยังไม่ทันได้เปิดปากพูดอะไร จนเจ้าตัวได้แต่อมยิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้าตอบกลับมาด้วยความเอ็นดู เลยโดนเบนที่สังเกตุการณ์อยู่ตลอดแอบส่งสายตาล้อเลียนไปให้
"ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนแล้วกันนะครับ เชิญหัวหน้ากับคุณทาร่าตามสบายเลย"
พูดจบเบนก็รีบลุกพรวดแล้วเดินหายออกจากกระโจมไปทันที ปล่อยให้หนึ่งคุณทหารและหนึ่งคุณนักโบราณคดีได้แต่มองตามหลังไปโดยที่เรียกไว้ไม่ทัน ดวงตากลม ๆ มองตามแผ่นหลังของเบนจนกระทั่งหายวับไปแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหันกลับมามองทางอาเธอร์ที่ยังคงนั่งหลังเหยียดตรงอยู่ที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ซึ่งท่าทางแบบนั้นก็ทำให้นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้พอดี
"อาเธอร์ครับ"
"ครับ"
"ตอนนี้หลังเป็นยังไงบ้างครับ"
คำถามที่ถูกส่งมาด้วยน้ำเสียงและสายตาเป็นห่วงอย่างไม่ปิดบัง ทำให้อาเธอร์ยิ่งรู้สึกเอ็นดูอยู่ในใจ แม้ภายนอกจะยังคงมีสีหน้านิ่งสนิทเหมือนเดิม
ดวงตาเรียวคมกระพริบช้า ๆ หนึ่งครั้ง ก่อนที่น้ำเสียงทุ้มเข้มจะตอบกลับไปอย่างสุภาพเหมือนเคย
"ไม่เป็นไรแล้วครับ"
"ไม่ปวดแล้วเหรอครับ"
"ไม่แล้วครับ"
"แต่เพิ่งจะเป็นเมื่อคืนเองนะครับ จะหายไวขนาดนี้ได้ยังไง"
"เพราะได้คุณช่วยประคบให้ไงครับ"
"ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย"
"เกี่ยวสิครับ นี่ไง...ตื่นเช้ามาผมถึงได้ไม่เจ็บ ไม่ปวดเลย"
แม้สีหน้าจะยังคงนิ่งสนิทเหมือนไม่ได้พูดเล่น แต่ประกายตาขำ ๆ ที่ส่งมาก็ทำให้ธารารู้ได้ทันทีว่าคงโดนล้อเข้าแล้ว
อะไรกันเล่า คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วงเลยไปช่วยประคบให้ แต่ดันทำเหมือนมันเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่เขาตื่นตูมไปเองซะอย่างนั้นน่ะ
"คุณอะ!"
คนอะไรนิสัยไม่ดีเลย
เห็นอีกฝ่ายส่งค้อนมาให้อาเธอร์ก็ได้แต่อมยิ้มในใจ ดวงตาพราวระริกเป็นประกายขำขันขณะมองคุณนักโบราณคดีที่เหมือนตอนนี้จะหน้ามุ่ยลงเล็กน้อย เห็นแบบนั้นอาเธอร์เลยยิ่งหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะรีบปรับสายตาให้กลับมาจริงจังแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้มอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
"แต่ผมพูดจริงนะ เพราะได้คุณประคบหลังให้อาการของผมก็เลยดีขึ้นมากเลย"
ธาราเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ เมื่อได้ยินแบบนั้น ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ ขณะที่ดวงตาก็มองไปยังไหล่ข้างที่ตัวเองเป็นคนประคบให้เองกับมือเมื่อคืนอย่างเป็นห่วง
"มันดีขึ้นจริง ๆ เหรอครับ ไม่ได้จะพูดให้ผมสบายใจเฉย ๆ ใช่ไหม"
"ดีขึ้นจริง ๆ ครับ"
"จริง ๆ นะครับ?"
"จริงครับ ต้องขอบคุณคุณมาก ๆ เลย"
"บอกแล้วไงครับว่าคนที่ต้องขอบคุณคือผมต่างหาก--"
"พี่น้ำ!!"
เสียงตะโกนเรียกที่ดังขึ้นทำให้บทสนทนาของธาราและอาเธอร์ต้องหยุดลงชั่วคราว เมื่อต่างฝ่ายต่างก็หันไปทางคนต้นเสียงที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาด้วยท่าทีร้อนรน
"พี่น้ำ เกิดเรื่องแล้ว!"
"มีอะไรรุต ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ พูด"
อารามตกใจตามท่าทีร้อนรนที่เห็นทำให้ธาราหลุดเรียกชื่อจริงของศรุตออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ทั้งที่ตกลงกันไว้แล้วว่าเวลาอยู่ที่นี่จะใช้ชื่อที่เป็นสากลเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครสนใจกับเรื่องเล็กน้อยนั่น เพราะความสนใจทั้งหมดถูกดึงไปอยู่ในเนื้อประโยคที่ศรุตกำลังจะพูดขึ้น
"ลูซี่..."
"ลูซี่ทำไม"
"เมื่อกี้ผม จอห์น กับลูซี่ เดินเข้าไปเอาของกันในปราสาท แต่อยู่ดี ๆ ทรายมันก็ถล่มลงมา โชคดีที่เราวิ่งหลบกันทันแต่ลูซี่ดันล้ม ไม่รู้ว่าขาเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้คุณเบนกำลังดูให้อยู่ครับ"
ทันทีที่ฟังจบธาราก็ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปในปราสาทอย่างรีบร้อนโดยมีศรุตและอาเธอร์เดินตามไปด้วย แต่ยังเข้าไปไม่ทันถึงด้านในก็เห็นเบนที่กำลังอุ้มลูกทีมของตัวเองเดินสวนออกมาพอดี ธาราเลยรีบเดินเข้าไปถามอาการด้วยความเป็นห่วง
"ลูซี่เป็นยังไงบ้างครับคุณเบน"
"ขาแพลงน่ะครับ แต่ไม่เป็นอะไรมาก ให้พักสัก 2-3 วันก็น่าจะดีขึ้น"
ได้ยินแบบนั้นคนเป็นห่วงก็ค่อยคลายกังวลลงบ้าง สติที่เกือบหายไปเพราะความตกใจก่อนหน้านี้ก็เริ่มกลับคืนมาเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากดูอาการจนแน่ใจว่าลูกทีมของตัวเองไม่มีใครเป็นอะไรหรือได้รับอันตรายอะไรอีก ธาราก็บอกให้สามคนที่เข้าไปเจอเหตุการณ์ทรายถล่มนั่งพักอยู่ข้างนอก ส่วนคนอื่นก็ให้ไปทำงานของตัวเองต่อ
ทันทีที่จัดการกับด้านนอกเรียบร้อยธาราก็ค่อยตามคนอื่น ๆ เข้าไปในปราสาท ดวงตากลมโตกวาดมองห้องโถงใหญ่ที่ยังคงเรียบร้อยเหมือนตอนก่อนออกไปพัก ส่วนทรายที่ถล่มลงมาอยู่ตรงทางเชื่อมทางเดินฝั่งซ้าย ซึ่งตอนนี้มีอาเธอร์และนายทหารอีกสองคนกำลังยืนดูอยู่
ก่อนหน้านี้ก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องลูกทีมจนไม่ทันสังเกตว่าอาเธอร์เดินเข้ามาในนี้ตั้งแต่เมื่อไร
ทางด้านอาเธอร์ที่เหลือบเห็นธาราเดินเข้ามาด้านในพอดีแถมเจ้าตัวก็ยังมองมาทางนี้ด้วย เขาจึงสั่งให้ทหารทั้งสองนายถอยออกไปก่อนเพื่อเป็นการเปิดทางให้เจ้าตัวได้เดินเข้ามาหา
"เป็นยังไงบ้างครับอาเธอร์"
"ทรายถล่มลงมาปิดทางเดินหมดเลยครับ"
"แบบนี้ก็แย่เลยสิครับ"
"ใช่ครับ กว่าจะเอาออกจนหมดได้ก็คงต้องใช้เวลาพอสมควรเลย"
หัวคิ้วคนฟังขมวดเข้าทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ดวงตากลมโตหันไปมองกองทรายที่ตอนนี้ปิดทางเดินที่เชื่อมไปยังปราสาทฝั่งซ้ายจนไม่สามารถเข้าไปได้
"ต้องมากขนาดไหนถึงปิดได้สนิทขนาดนี้นะ"
"นั่นสิครับ ไม่รู้ว่ามีปริมาณมากขนาดไหน และไม่รู้ด้วยว่ามาจากไหนเพราะเมื่อเช้าเราก็มาสำรวจกันไปแล้วรอบหนึ่ง"
"....."
"แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะให้คนรีบมาเอาออกให้เร็วที่สุด ระหว่างนี้คงต้องให้คุณเปลี่ยนแผนไปสำรวจตรงกลางหรือทางฝั่งขวาก่อน"
"ได้ครับ ยังไงก็ฝากจัดการด้วยนะครับ"
พอเห็นอาเธอร์พยักหน้ากลับมาธาราก็ส่งยิ้มกลับไปอย่างให้กำลังใจ ระหว่างที่ต่างคนต่างมองหน้ากัน จู่ ๆ ธาราก็รู้สึกเหมือนมีเงาดำเคลื่อนผ่านหางตาจนต้องหันไปมอง
".....!"
ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากธาราเพราะถูกความตกใจพุ่งเข้าจู่โจมอย่างฉับพลัน
เมื่อทันทีที่หันมองตามเงาดำไปกลับพบเข้ากับใครบางคน ที่มีรูปร่าง หน้าตาเหมือนกับอาเธอร์ทุกประการยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าโถงทางเดินฝั่งขวา...
แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่ออาเธอร์ยังยืนอยู่ตรงนี้
"อ๊ะ!"
เสียงร้องอย่างตกใจดังขึ้นทันทีเมื่อหันกลับมาแล้วเห็น...
อาเธอร์ในชุดเครื่องทรงเต็มยศของกษัตริย์แห่งอาณาจักรที่สาบสูญ
".....!"
ร่างสูงโปร่งรีบถอยหนีอย่างตกใจ แต่เพราะรีบร้อนเกินไปแถมไม่ได้หันมองด้านหลังว่ามีเศษทรายกองเล็ก ๆ ที่กระเด็นมาอยู่ตรงนี้ด้วยจึงสะดุดเข้าเต็ม ๆ จนเกือบล้ม แต่โชคดีที่อาเธอร์รีบตามมาช่วยไว้ทัน มือข้างหนึ่งคว้าแขนในขณะที่อีกข้างโอบเอวแล้วออกแรงดึงเข้าหาตัว ก่อนจะเรียกขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจไม่แพ้กัน
"ทาร่า"
เสียงเรียกของอาเธอร์ทำให้ธาราเผลอสะดุ้งจนสุดตัว จังหวะการหายใจขาดห้วงไปช่วงหนึ่งก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นการหอบอย่างหนักพร้อมกับสติที่ค่อย ๆ เริ่มคืนมา หลังจากได้เห็นว่าตอนนี้อาเธอร์ก็ยังคงใส่ชุดเดิมที่ได้เห็นในทุก ๆ วัน ไม่ใช่ชุดที่เขาหลอนไปเองเมื่อกี้
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ"
อาเธอร์ได้แต่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง ก่อนจะปล่อยมือให้อีกฝ่ายได้ถอยกลับไปยืนดี ๆ เพราะท่าทางที่เป็นอยู่ตอนนี้มันดูใกล้ชิดจนกลายเป็นคลุมเครือเกินไปหน่อย แต่พอเห็นสีหน้าซีดเผือดของเจ้าตัว ความเป็นห่วงก็พุ่งแซงขึ้นมาจนต้องเอื้อมมือไปจับแขนที่เพิ่งปล่อยเมื่อกี้เพื่อช่วยประคองไว้โดยไม่คิดจะสนใจสายตาคนอื่นอีก
"เมื่อกี้...ผมเห็นภาพหลอนน่ะครับ"
"....."
"สงสัยคงจะเครียดมากไป"
พูดเสร็จธาราก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่โดยไม่ทันสนใจท่าทางที่เป็นอยู่ ทั้งยังเผลอเอนตัวพิงแผ่นอกของคนข้าง ๆ โดยไม่ตั้งใจเพื่อหาหลักในการประคองตัว
หัวคิ้วเหนือดวงตาคู่สวยขมวดมุ่น ขณะมองไปยังโถงทางเดินฝั่งขวาที่ตัวเองเห็นภาพหลอนไปเมื่อกี้ด้วยความสงสัย
ครั้งแรกยังไม่เท่าไร แต่นี่มันครั้งที่สองแล้วนะ
ทำไมถึงต้องเห็นอาเธอร์เป็นแบบนั้นด้วยนะ?
tbc…