____อันที่จริง บิชอปวาเนสซ่ายังแอบวางแผนในใจว่าจะผลักดันให้แฟนธ่อมเติบโตเป็นบาทหลวง และกลายเป็นบิชอปแห่งวิหารเซนต์มารีอาในอนาคตด้วยซ้ำ จากการที่แฟนธ่อมนั้น ฉลาด มีพฤติกรรมดี และไม่เคยขโมยอะไร บิชอปวาเนสซ่าจึงไม่ลังเลที่จะรีบมอบโอกาสในการศึกษาให้แฟนธ่อมเมื่อมีโอกาสอันเหมาะสม
____โดยที่บิชอปวาเนสซ่าไม่ได้รู้เลยว่า ตัวการแห่งความวุ่นวายในคืนนี้ รวมถึงหัวขโมยตัวจริงที่ได้ขโมยกุญแจห้องสมุดไปก็คือแฟนธ่อมนั่นเอง
____แท้จริงแล้วกุญแจห้องสมุดอยู่ในตัวของแฟนธ่อมตลอดเวลา แต่ส่วนใหญ่แฟนธ่อมจะซ่อนมันไว้ใต้เท้าของเขาในรองเท้าฟางสาน แต่ต่อให้มีคนมาค้นรองเท้าของแฟนธ่อม พวกเขาก็จะไม่พบอะไรอยู่ดี แฟนธ่อมมีทักษะของสายลับมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือทักษะมายากลนั่นเอง มือของแฟนธ่อมนั้นคล่องแคล่วรวดเร็วและลึกลับมากเกินกว่าที่จะมีใครสามารถไล่จับเขาได้ทันได้
____"เฮ้ย! ไอเด็กกระจอก" เสียงหยาบคายดังขึ้นในขณะที่แฟนธ่อมกำลังเดินกลับเข้าไปยังเตียงของเขาที่อยู่ในสุดของห้องนอนรวมของเด็กกำพร้า
____เสียงหยาบคายนั้นดังลั่นเพียงพอที่จะทำให้เด็กทั้งหมดหันกลับไปมองต้นเสียง มีเพียงแฟนธ่อมเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้หันหลังกลับไป ทั้งยังเดินต่อไปราวกับเขาไม่ได้ยินเสียงใดทั้งสิ้น
____"เฮ้ย! ไอโง่!! กล้าทำเป็นหูทวนลมรึไงว้ะ!!" เสียงนั้นดังขึ้นอีกระดับแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งอีกฝ่ายังปาสิ่งของบางอย่างเข้าใส่ด้านหลังศีรษะของแฟนธ่อมอีกด้วย
____แต่ยังไม่ทันที่ของสิ่งนั้นจะสัมผัสโดนตัวแฟนธ่อม เขาก็ยื่นมือออกไปรับของสิ่งนั้นได้อย่างแม่นยำ ปรากฎว่ามันเป็นขนมปังก้อนหนึ่งที่ถูกโยนเข้ามา แฟนธ่อมกันกลับไปพลางกัดขนมปังแล้วตอบกลับทั้งที่ยังเคี้ยวขนมปังอยู่ในปากอย่างอวดดี
____"แกน่ะสิโง่ สมองของแกคงฝ่อจนคิดได้เท่ากับหมูแล้วสินะ แต่ขอบใจที่คืนขนมปังนี้ที่แกขโมยไปจากฉันนะ" แฟนธ่อมกล่าวพลางเคี้ยวขนมปังโต้ตอบกับอีกฝ่าย
____ซึ่งตั้งแต่ได้ยินอีกฝ่ายพูดประโยคแรกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเดาเลยว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร ดาฮัดนั้นเป็นคนที่พยายามแข่งขันความโดดเด่นกับแฟนธ่อมมาโดยตลอด เดิมทีก่อนที่แฟนธ่อมจะมาอยู่ที่โบสถ์นั้น ดาฮัดเป็นลูกรักอันดับหนึ่งมาโดยตลอด ทว่านับตั้งแต่มีแฟนธ่อมเข้ามาอยู่ในวิหารเซนต์มารีอา ดาฮัดก็ไม่เคยได้รับความสนใจจากบิชอปวาเนสซ่าเท่ากับแฟนธ่อมอีกเลย อย่าว่าแต่การได้รับความรัก ตลอดชีวิต 14 ปีของดาฮัดนั้น เขาไม่เคยเห็นเด็กกำพร้าคนใดได้รับความรักความเอ็นดูเทียบเท่ากับแฟนธ่อมมาก่อน โดยเฉพาะเรื่องการเข้าเรียนในโรงเรียนเซนต์มารีอาและคลาสเวทมนตร์ที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยสำหรับเด็กกำพร้า นี่ไม่ต่างจากการดันหลังให้แฟนธ่อมได้เป็นขุนนางในอนาคตโดยไม่ต้องทำอะไร
____การได้เป็นขุนนางและชนชั้นสูงนั้นเป็นความฝันของดาฮัดตลอดมา เขาอยากจะเป็นขุนนางที่ร่ำรวย หลังจากนั้นเขาก็จะเหยียบย่ำคนอื่นเหมือนที่ตัวเขาเคยโดน และนำหญิงสาวที่เคยใช้สายตาดูแคลนเขามาเป็นนางบำเรอ นี่เป็นความเพ้อฝันของเขา แต่มันกำลังจะกลายเป็นความจริงสำหรับแฟนธ่อม นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่มีวันรับได้ จากเดิมที่ดาฮัดก็จงเกลียดจงชังแฟนธ่อมตลอดมา แต่ในตอนนี้เขามีความคิดอยากจะฆ่าแฟนธ่อมอย่างรุนแรง จนเขาแทบจะไม่สามารถเก็บกดความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว
____"แกกกก!! แกอยากจะตายตอนนี้เลยสินะ!!" ดาฮัดจับจ้องแฟนธ่อมด้วยสายตาแดงฉาน เขาอยากจะจับแฟนธ่อมมาฉีกเนื้อกลืนกินทั้งเป็น เขาอยากจะได้ยินเสียงกรีดร้องของอีกฝ่ายที่กำลังทำหน้าเยอะเย้ยเขาอย่างที่ไม่เคยมีเด็กกำพร้าคนไหนกล้าทำกับเขาเช่นนั้นมาก่อน
____"แกคงไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่จะต้องตาย ฉันขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าไม่อยากตายอย่างเจ็บปวดอย่ามายุ่งกับฉันอีก ไม่อย่างนั้นแกจะต้องเสียใจในการกระทำของตัวแกเอง" แฟนธ่อมหรี่ตามองพลางกล่าวอย่างไม่ลดราวาศอกเลยแม้แต่น้อย
____"หึหึ! ก่อนหน้านี้ไอขี้ขลาดอย่างแกไม่เคยกล้าปากดีขนาดนี้เลยนี่ คิดหรือว่าแค่เพียงได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์มารีอาแล้วจะเปลี่ยนอะไรได้ แกมันก็ยังคงเป็นเพียงแค่เด็กกำพร้า ทุกคนจะมองแกเป็นแค่หัวขโมย สุดท้ายข้าจะกระทืบแกให้ตาสว่าง ให้แกรู้ว่าสวะอย่างแกมันก็เป็นได้เพียงแค่ไอกระจอกคนหนึ่งเท่านั้นละว้ะ!!" ดาฮัดยั่วยุด้วยคำพูดรุนแรง
____ดาฮัดอยากจะให้แฟนธ่อมโกรธจนขาดสติ แล้วนำตัวเองพุ่งเขามาหาเขาเอง ดาฮัดจะได้มีข้ออ้างในการทำร้ายแฟนธ่อมโดยชอบธรรม ส่วนถ้าเขาจะลงมือหนักไปหน่อยจนแฟนธ่อมสมองเสื่อมเป็นบ้าหรือตายไปมันก็ช่วยไม่ได้ เขาสามารถอ้างได้ว่าแฟนธ่อมอ่อนแอเกินไปแต่กลับเข้ามาหาเรื่องเขาเอง นี่จะเป็นข้ออ้างที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับดาฮัด
____"ฉันไม่รู้ว่าแกกำลังพูดถึงตัวแกเองอยู่รึเปล่า ในห้องนี้ก็มีเพียงแกคนเดียวเท่านั้นที่ทะเยอทะยานแต่ไม่พยายามทำอะไรเลย ฉันจะพูดเป็นคำสุดท้ายว่า... ถ้าไม่อยากตายอย่ามายุ่งกับฉันอีก!!" แฟนธ่อมกล่าวพลางหันกลับปืนขึ้นเตียงชั้น 2 ของเขาโดยไม่สนใจต่อล้อต่อเถียงกับคนอย่างดาฮัดอีก
____แฟนธ่อมรู้ดีว่าเถียงกับคนไร้สมองแบบนี้ไปก็เปล่าประโยชน์ สุดท้ายอีกฝ่ายก็จะหาโอกาสลอบทำร้ายเมื่อยามที่เขาเผลออยู่ดี ซึ่งมันย่อมไม่ใช่เวลานี้แน่นอน เพราะในห้องนี้มีคนเยอะเกินไป หากทั้งสองคนเกิดการทะเลาะวิวาทขึ้นมากลางดึก แน่นอนว่าต้องมีคนรีบวิ่งไปฟ้องบิชอปวาเนสซ่า แล้วพวกเขาทั้งสองคนก็จะโดนลงโทษอย่างหนัก แฟนธ่อมจะไม่ยอมให้รางวัลจากความเพียรพยายามตลอดมาของเขาต้องสูญเปล่าแน่นอน
____แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าแฟนธ่อมจะลดความระแวดระวังตัวที่มีต่อดาฮัด เดิมทีสถานการณ์ที่แฟนธ่อมจะโต้เถียงกับดาฮัดเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในอดีตหากดาฮัดต้องการทำร้ายร่างกายหรือขโมยอาหารของแฟนธ่อม เขาก็จะยอมอีกฝ่ายแต่โดยดี ไม่ใช่ว่าเขากลัวดาฮัด แต่ร่างกายเล็กๆนี่เมื่อเทียบกับดาฮัดแล้ว ก็เหมือนเอาไข่ไปกระแทกกับก้อนหินหากต้องต่อสู้กับอีกฝ่าย แต่ในเวลานี้เขาพอที่จะใช้เวทมนตร์ได้บ้างแล้ว ต่อให้เวทมนตร์ของเขาในยามนี้จะอ่อนด้อยเพียงใด แต่แฟนธ่อมเชื่อว่าเขาสามารถประยุกต์ใช้งานมันได้อย่างหลากหลายแน่นอน การใช้เวทมนตร์ไม่สมประกอบของเขาตอนนี้เพื่อฆ่าเด็กน้อยอายุ 14 ปีที่ไม่รู้จักประมาณตนนั้นไม่ใช่เรื่องยากเย็นแต่อย่างใด
.......