webnovel

เมื่อนางร้ายอย่างต้องหนี

"คุณหนูเสิ่นใช้ชีวิตเป็นคุณหนูผู้ร่ำรวยแสนร้ายกาจอยู่ดี ๆ ก็หลุดเข้ามาในม่านฮวาที่เปิดอ่านผ่าน ๆ ซะอย่างนั้น" เพราะเสิ่นอ้ายฉิง เติบโตมาแบบถูกตามใจ จึงกลายมาเป็นคุณหนูผู้ร่ำรวยแสนร้ายกาจ ใช้ชีวิตแบบนางเอกอยู่ดี ๆ จู่ ๆ ก็มีพี่สาวแสนดีปรากฏตัวขึ้นมาเป็นนางเอกแทนเธอเสียอย่างนั้น พ่อก็รัก แม่แท้ ๆ ของเธอก็รักยัยนั่น ส่วนพี่ชายสองคนจากที่เคยเอาใจแต่เธอ กลายเป็นไปเอาใจแม่นางเอกนั่นกันหมด ก็ใช่สิเพราะเธอมันร้ายกาจ แล้วเรื่องที่เธอไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จำได้ว่าเกิดอุบัติเหตุ จำได้ว่าโดนรถบรรทุกขับชน จำได้ว่าคนที่ลงมาดูฉันตายเป็นลุงหัวหน้าเลขาของคุณพ่อที่ฉันเคยดูถูกเอาไว้  ทำไมเขาไม่ช่วยฉันล่ะ หรือว่าคนที่ขับรถชนฉันก็คือเขา ฉันก็หวังว่านั่นจะเป็นแค่ความฝัน แต่พอตื่นมาอีกทีก็กลายเป็นคุณหนูเสิ่นบุตรสาวแม่ทัพไร้พ่ายไปเสียแล้ว นี่ฉันไม่ได้ฝันสินะ...

Pum_Nanth · 歴史
レビュー数が足りません
36 Chs

เรื่องราวของเสิ่นอ้ายฉิง 2 (อดีต)

ภายหลังเสิ่นอ้ายฉิงก็ได้รับรู้ว่าหลงเยว่เทียนคือใคร เขาคือองค์ชายรัชทายาท ผู้มีพันธะหมั้นหมายกับคุณหนูแห่งจวนแม่ทัพ เพื่อเกี่ยวดองความสัมพันธ์ ในคำหมั้นหมายไม่ได้กำหนดว่าผู้ใดต้องเป็นคนแต่งด้วย ขอเป็นเพียงคุณหนูใหญ่เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันก็คือเสิ่นอ้ายเหริน

คนผู้นั้นแวะเวียนมาที่จวนแม่ทัพอยู่บ่อย ๆ ยามที่เขามาเที่ยวเล่นที่จวนแม่ทัพ เสิ่นอ้ายฉิงมักจะไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ ความรู้สึกที่นางมีให้เขาเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

จนกระทั่งวันหนึ่ง...

ณ ศาลาไร้กังวล

เด็กหญิงเตรียมขนมไว้สำหรับพี่ชายชุดฟ้า นางรู้ว่าเขาชอบไปนั่งเล่นที่นั่น คนตัวเล็กเดินไปเงียบ ๆ กะว่าจะทำให้เขาประหลาดใจ

เด็กหญิงได้ยินเสียงคนสองคนคุยกันนางจำได้ว่าเป็นเสียงของผู้ใด นางจึงแอบฟังอยู่เงียบ ๆ

"อ้ายเหริน ข้าให้เจ้า" เขามอบจี้หยกชิ้นหนึ่งให้นาง

"ให้ข้าเพราะเหตุ" เด็กสาวถาม

"ข้าจะต้องเดินทางไกล มอบมันไว้ให้เจ้า เพื่อแทนใจของข้า" หลงเยว่เทียนจับมือนางขึ้นมาเพื่อรับหยกชิ้นนั้น

"..." เสิ่นอ้ายเหรินน้ำตาคลอ เขาบอกว่าจะไปก็ไปเลย มันกะทันหันเกินไปนางไม่ทันได้เตรียมใจ "อย่าร้องไห้ไปเลยอ้ายเหริน ข้าสัญญาว่าจะต้องกลับมาแต่งงานกับเจ้าแน่นอน" เขายังคงจับมือนางเอาไว้

เสิ่นอ้ายเหรินไม่มีสิ่งใดจะมอบให้ นางแกะถุงหอมที่คาดเอวไว้ออกมาให้เขาถือว่า

"เยว่เทียนเจ้าถือไว้ก่อน"

เด็กหนุ่มงงแต่ก็รับมาโดยดี

ไม่ทันขาดคำเสิ่นอ้ายเหรินก็ตัดปอยผมหนึ่งปอย ผูกเป็นปมสวยงามใส่ไว้ในถุงหอมเมื่อสักครู่

"นี่คือ...." หลงเยว่เทียนยิ้ม เขาคาดไม่ถึงว่านางจะทำแบบนี้

"ไม่รู้ เจ้าไปคิดเอาเองเถอะ" เสิ่นอ้ายเหรินหน้าแดงระเรื่อ นางเขินจนเก็บอาการไม่อยู่

พูดจบเด็กทั้งคู่ก็ออกไปเที่ยวเล่นนอกเมือง

เสิ่นอ้ายฉิงที่ยืนอยู่ในมุมได้ยินทุกคำที่พวกเขาสนทนากัน ได้เห็นทุกอย่าง ความคิดดีเลวสับสนปนกันในหัว เด็กหญิงเดินกลับห้องในทันที

********************

เดือน 1 เทศกาลหยวนเซียว

ตั้งแต่วันนั้น วันที่นางได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เสิ่นอ้ายฉิงก็หมางเมินกับเสิ่นอ้ายเหรินอย่างไม่รู้ตัว เด็กหญิงไม่ออดอ้อนนางเหมือนเช่นเคย เสิ่นอ้ายเหรินเองก็แปลกใจ ปกติน้องสาวจะต้องมาคอยออดอ้อนให้นางเล่าเรื่องนอกจวนให้ฟัง แต่พักหลังมานี้ไม่เป็นเช่นนั้น

เมื่อไปหาที่เรือนนางก็อ้างแต่ว่าป่วยอยากนอน ไม่อยากพูดคุยเจรจาใด ๆ กับพี่สาว เสิ่นมู่เฉิงเข้าไปหา นางก็ไม่พูดด้วยเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นคนในจวนก็ไม่ดื้อดึงเดี๋ยวอีกไม่นานนางก็คงเป็นเช่นเดิม

เพื่ออยากให้ความสัมพันธ์พี่น้องกลับมาเป็นดังเดิม เสิ่นมู่เฉิงจึงขออนุญาตมารดาพาน้องออกไปชื่นชมโคมไฟ ฮูหยินเสิ่นก็ไม่ขัดข้อง

อันที่จริงเด็กหญิงไม่อยากออกมาเท่าใดนัก แต่ในเมื่อเห็นว่าพี่ชายและท่านแม่กระตือรือร้นจะให้นางออกไปให้ได้ เอาเป็นว่ายอมทำตามสักหน่อยก็ไม่เสียหาย

ชั่วระยะเวลาผ่านไปไม่กี่เดือนเสิ่นอ้ายฉิงตัวสูงขึ้นแขนขาที่เคยอ้วนป้อมก็เริ่มเรียวเล็ก ร่างกายที่เคยเจ็บป่วยบ่อย ๆ ก็แข็งแรงขึ้นเช่นกัน

ตอนนี้นางไม่ต้องให้พี่เลี้ยงหรือองครักษ์อุ้มอีกแล้ว

สถานการณ์ในตลาดดำเนินไปตามปกติ ชาวเมืองต่างออกมาชื่นชมแสงสีของเมือง ชายหนุ่มหญิงสาวต่างก็ออกมาเกี้ยวพาราสีกัน บรรยากาศของเมืองจึงอบอวลไปด้วยความสุข

เด็กหญิงเดินชื่นชมสิ่งรอบตัวไปเรื่อย ๆ เสิ่นอ้ายเหรินพยายามพูดคุยกับน้องสาว แต่นางก็มิได้สนใจนาง ไม่ว่านางจะยื่นข้อเสนออะไรไปเด็กหญิงก็เฉยเมย ยามเมื่อน้องสาวมองมาก็มีแต่ความเฉยชา ราวกับว่าคือคนอื่นไม่ใช่พี่สาวของตน

เสิ่นอ้ายเหรินรู้สึกเจ็บปวดใจ

"ฉิงเอ๋อ มีเรื่องอะไรเจ้าสามารถพูดกับพี่ตรง ๆ ได้นะ"

เสิ่นอ้ายฉิงมองหน้าพี่สาว แววตายังคงเรียบเฉย จะให้นางพูดอะไร พูดว่าโกรธเกลียดที่นางเป็นพี่สาวของตน พูดว่าโกรธที่นางเป็นคุณหนูใหญ่ พูดว่าโกรธที่นางคือคู่หมั้นของพี่เยว่เทียนงั้นหรือ

นางพูดแบบนั้นได้ที่ไหนกัน!!

เด็กหญิงยังคงมึนตึงเหมือนเช่นเดิม นางไม่พูดไม่ใส่ใจกับคำสนทนาของพี่สาว...

กุบกับ!!! กุบกับ!!!

เสียงม้ากลุ่มใหญ่วิ่งตรงมาทางที่พวกนางยืนอยู่ องครักษ์เห็นเช่นนั้นก็รีบคว้าตัวคุณหนูเล็กที่อ่อนแอ เอาไว้กับตัว ส่วนคุณหนูใหญ่นั้น ด้วยแรงของเขาคนเดียวคงไม่สามารถดูแลได้ จึงปล่อยเลยตามเลย เขาคาดการณ์ว่าคุณชายน่าจะกำลังดูแลนางอยู่

ความโกลาหล วุ่นวายเต็มไปหมดทั้งเมือง เสียงผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บร้องระงมไปทั้งเมือง ม้าที่ใช้ในการแสดงเกิดการพยศ พวกมันตื่นตกใจเสียงประทัด ผู้ควบคุมไม่สามารถดูแลได้ มันจึงวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง

เสิ่นอ้ายฉิงที่กำลังตื่นตระหนก กอดทหารองครักษ์แน่น สายตาของนางคอยสอดส่องหาพี่สาว นางเป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ในที่สุดเด็กหญิงที่อยู่ภายใต้อ้อมอกขององครักษ์ก็เห็นพี่สาวของตน เมื่อกำลังจะเอ่ยคำพูดใด ๆ ความคิดชั่วร้ายก็แล่นเข้ามาหัว

หากนางแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่าพี่สาวหายตัวไปไหน จะเป็นเช่นไร? หากพี่สาวของตนหายตัวไปจากตระกูลเสิ่น นางก็จะเป็นคุณหนูเพียงคนเดียวของตระกูลเสิ่นใช่หรือไม่

ดวงตาสีน้ำตาลเขียวที่ดูไร้เดียงสา จ้องมองไปยังทิศที่พี่สาวของตนอยู่ รถม้าอีกคันวิ่งมาจากไหนไม่รู้ชนนางจนล้มลงกับพื้น เสิ่นอ้ายฉิงมองผู้เป็นพี่ด้วยสายตาเย็นยะเยือก

นางเห็นเสิ่นอ้ายเหรินหมดสติ

นางเห็นเสิ่นอ้ายเหรินถูกพ่อค้าเร่พาตัวไป

นางเห็นทุกเรื่องที่เกิดกับพี่สาวของตน

*******************

คุณหนูใหญ่แห่งจวนแม่ทัพหายตัว คนทั้งกองทัพออกตามหาเช่นไรก็หาไม่เจอไม่มีข่าวคราวของนางอีกเลย พวกเขาลองสอบถามจากชาวบ้าน ไม่มีพบเห็นเด็กสาว ไม่มีใครรู้เรื่องราวของนาง

แม่ทัพเสิ่นและเสิ่นฮูหยินได้แต่ระทมทุกข์

นายหญิงผู้เฒ่าเมื่อรู้ว่าหลานสาวหายตัวไป หาเช่นไรก็หาไม่เจอ ก็ล้มป่วยและละสังขารในที่สุด

มีเพียงผู้เดียวที่มีความสุขนั่นก็คือนาง…เสิ่นอ้ายฉิงคุณหนูเพียงคนเดียวของตระกูลเสิ่น