webnovel

ตอนที่ 276

ตอนที่ 276 บทส่งท้าย

ตอนที่เย่หนิงและคนอื่นลงมาจากภูเขา ฝนหยุดตกแล้ว 

คิดไม่ถึงเลยว่าฝนที่ดูตกหนักขนาดนี้ พอลงมาข้างล่าง ตีนเขากลับไม่มีน้ำฝนเลยสักหยด 

เสิ่นอี้และพวกของเขากางเต็นท์เอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พอลงมาจากภูเขาเสิ่นอี้ก็รีบลากเย่หนิงเข้าไปเต็นท์แล้วห่อร่างเธอด้วยผ้านวม กลัวว่าเธอจะแข็งเสียก่อน

"บนภูเขาหนาวมากจริงๆ" เย่หนิงซุกกายเข้าไปในอ้อมกอดของเสิ่นอี้ แล้วพูดเสียงเบาว่า "เมื่อกี้ฟ้าผ่าลงมาตั้งสี่สิบเก้าครั้ง พวกคุณได้ยินกันไหม" 

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "เสียงฟ้าผ่าดังขนาดนี้ เกรงว่าคงจะได้ยินไกลกว่าสิบกิโลเมตร" 

เขาพูดพลางจุมพิตหน้าผากของเย่หนิงอย่างแผ่วเบา แล้วถามอย่างอ่อนโยนว่า "กลัวไหม" 

"กลัวค่ะ" เย่หนิงปิดตา แล้วกระซิบบอก "เมื่อกี้ฉันกลัวมากจริงๆ กลัวว่าตัวเองจะพลาด วางกระจกฟ้าดินได้ไม่ดีพอ เผลอทำพิธีกรรมล้มเหลว" 

เสิ่นอี้หุบยิ้ม "คุณกลัวสิ่งนี้หรอครับ ผมคิดว่าคุณกลัวเสียงฟ้าผ่าซะอีก" 

เย่หนิงหัวเราะออกมาเสียงดัง "ฟ้าผ่าไม่เห็นจะน่ากลัวเลย! ตอนนั้นอดเครียดขึ้นมาไม่ได้ เสียงฟ้าร้องทั้งหมด ฉันเฝ้ารอให้มันรีบผ่าลงมาทั้งหมด 49 ครั้ง ไม่ทันได้เครียดก็กลัวเสียแล้ว! เฝ้ามองเสียงฟ้าผ่าแต่ล่ะครั้ง ค่อยๆ นับเสียงฟ้าผ่าอยู่ในใจเงียบๆ"

เสิ่นอี้เชยคางของเย่หนิงขึ้นมาอย่างแผ่วเบา สบตาเธอ แล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า "เสี่ยวหนิง ผมเชื่อใจคุณเสมอมา ผมรู้ ว่าคุณต้องทำเรื่องนี้สำเร็จอย่างแน่นอน"

เย่หนิงซุกเข้าไปในอ้อมอกของเสิ่นอี้ พยักหน้า แล้วพูดกระซิบว่า "ตอนนี้พอคิดดูแล้วเหมือนกับฝันเลยนะคะ ขนาดนั้นฉันเองยังไม่กล้าเชื่อว่าจะทำเรื่องนี้ได้สำเร็จแล้ว ถ้าคุณป้ารู้ว่าพวกเราทำสำเร็จแล้ว คงต้องมีความสุขมากๆ อย่างแน่นอน"

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "พูดแล้ว ถ้าคุณป้าของคุณกลับมาจริง คุณมีแผนจะแนะนำผมให้คุณป้าของคุณรู้จักไหม"

ทั่วทั้งร่างของเย่หนิงแข็งทื่อ

เธอ...จะแนะนำให้เสิ่นอี้รู้จักคุณป้าของเธอไหม

แม้ว่าจะไม่กล้ายืนยันว่าคุณป้าของเธอจะสงสัยเสิ่นอี้ไหม แต่...นานวันเข้า ป้าของเธอต้องมองออกอย่างแน่นอน

เย่หนิงรู้สึกสับสน ถ้าคุณป้าของเธอรู้เข้าว่าเธออยู่กับปีศาจพันปีตนนี้ เธอจะถูกคุณป้าของเธอตีตายไหม

"เฮ้อ......" เย่หนิงถอนหายใจยาว "เสิ่นอี้คุณไม่พูด ฉันก็คงจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว คุณป้าของฉันท่านกำลังจะกลับค่ะ หลายวันก่อนท่านบอกว่าจะกลับมา ท่านต้องไม่วางใจเรื่องของราชาผีดิบแน่ๆ เลย ถึงอยากกลับมาก่อนวันสุริยุปราคา แต่เธอต้องคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่าพวกเราจะซ่อมแซมผนึกได้เร็วขนาดนี้ แต่..." 

เย่หนิงรู้สึกกลัดกลุ้มใจ "ฉันควรจะบอกกับคุณป้ายังไงดีคะ" 

เสิ่นอี้หยิกแก้มเธอ พูดว่า "เสี่ยวหนิง ถ้าคุณไม่รู้จริงๆ ไม่ต้องบอกก่อนก็ได้ แล้วจากนั้นถ้าคุณคิดดีแล้วค่อยบอกคุณป้าของคุณก็ได้ครับ อีกอย่าง ถ้าคุณไม่กล้าเผชิญหน้า หลังจากเธอกลับไป ค่อยส่งอีเมล์ไปบอกเธอก็ได้ครับ"

"เฮ้อ!" เย่หยิงซุกเข้าไปในอ้อมอกของเสิ่นอี้ แล้วพูดอย่างกลุ้มใจว่า "ถึงคุณป้าของฉันจะกลับไป แต่ถ้าได้รับอีเมล์ของฉัน ท่านก็ต้องบินกลับมาอยู่ดี!"

เธอพูดพลางถูศีรษะเข้ากับอกของเสิ่นอี้ แล้วพูดอย่างกลัดกลุ้มใจว่า "ทำยังไง ทำยังไงดี คุณป้าท่านจะฆ่าฉันไหม" 

"วางใจได้ครับ มีผมอยู่ทั้งคน!" เสิ่นอี้ฉีกยิ้มแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า "ผมจะให้เธอฆ่าคุณได้ยังไง พอแล้ว เสี่ยวหนิง คุณไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นหรอก พักผ่อนเถอะครับ ปัญหาทุกอย่างมีทางออก ไม่ว่าจะหนักหนาขนาดไหน พวกเราต้องเผชิญหน้าไปด้วยกัน คุณคิดดูสิ ขนาดราชาผีดิบที่เป็นบอสใหญ่ คุณยังจัดการได้สำเร็จ ยังมีเรื่องอะไรที่จะทำไม่สำเร็จอีก คุณคงไม่ได้กลัวป้าของคุณมากกว่าราชาผีดิบหรอกนะ"

เย่หนิงฉีกยิ้มแล้วพูดออกมาว่า "กล้าพูดถึงคุณป้าของฉันแบบนี้เชียวหรอ คุณเนี่ยรนหาที่ตายแล้วจริงๆ! ถ้าเธอรู้ คุณตายแน่!"

ถึงจะพูดเช่นนี้ แต่พอเสิ่นอี้พูดปลอบเย่หนิง อารมณ์ของเย่หนิงกลับรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย บอกกับวันนี้เหนื่อยเหลือเกิน ถึงจะบอกว่าไม่อยากนอน แต่ไม่นานก็ผล็อยหลับไป ตอนที่ตื่นขึ้นมา เป็นเวลาเที่ยงของวันถัดมาแล้ว

อากาศดีมาก แสงแดดสดใสงดงาม 

เดิมทีอากาศหนาวเหน็บแห่งนี้แทบทำให้ผู้คนแข็งตาย ทว่าเพราะแสงแดดนี้ จึงเพิ่มความอบอุ่นได้ไม่น้อยเลย 

ทุกคนที่อยู่ที่นี่กินของเล็กๆ น้อยๆ แล้วจึงขับรถกลับเข้าไปในเขตตัวเมือง ฉินเฉาฮุ้ยและมู่หรงซี ล้วนตายไปแล้ว ในที่สุดราชาผีดิบก็หลับใหลอยู่ในความมืดชั่วนิจนิรันดร์ คดีนี้ในที่สุดก็สิ้นสุดลงจริงๆ แล้ว!

ทว่าหลังจากที่กลับไป เย่หนิงและพวกเขาต่างก็ยุ่งอยู่หลายวัน หลังจากนั้นต้องรีบเคลียร์งาน ผลกลายเป็นว่าวันนั้นเพิ่งจะเลิกงาน เสิ่นอี้ยังบอกอยู่เลยว่ากลับไปจะทำของอร่อยให้กิน เย่หนิงก็ได้รับโทรศัพท์ของคุณป้าเสียก่อน

คุณป้าของเธอ กลับมาแล้ว! 

พอเย่หนิงรับโทรศัพท์ เธอก็ถึงกับต้องตกใจ 

"ทำไมครับ เสี่ยวหนิง" เสิ่นอี้ยื่นศีรษะออกมาจากห้องครัว ถามอย่างใคร่รู้มากๆ 

เย่หนิงน้ำตานองหน้า "เสิ่นอี้ คุณป้าของฉันกลับมาแล้ว!" 

"เมื่อไหร่ครับ" เสิ่นอี้เองก็รู้สึกคาดไม่ถึงเป็นอย่างมาก "ต้องไปรับเธอที่สนามบินไหม"

"กลับมาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว...ตอนนี้อยู่ที่บ้าน" เย่หนิงวุ่นวายใจ "ทำยังไงดี เสิ่นอี้...คุณป้าของฉันกลับมาแล้ว ตายแน่เลย!"

เสิ่นอี้รู้สึกขำ ค่อยๆ เดินไปตรงหน้าของเสิ่นอี้ แล้วพูดว่า "คุณป้าของคุณกลับมา แล้วคุณจะเครียดทำไมครับ! ครั้งก่อนกลับไปพบคุณอาสะใภ้ของคุณ คุณก็เครียด ตอนนี้ต้องไปเจอกับคุณป้าของคุณ ก็ยังจะกลัวอีกเหรอ!"

เขาพูดพลางโอบกอดร่างของเย่หนิงเข้ามาในอ้อมอก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "กลัวอะไร มีผมอยู่ด้วย! ผมไม่เคยบอกคุณหรือไง มีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้ ให้ผมเป็นจัดการทั้งหมดก็แล้วกัน"

เย่หนิงพูดอย่างกลัดกลุ้มใจว่า "คุณป้าของฉันไม่ได้ใจดีเหมือนกับอาสะใภ้หรอกนะ"

เสิ่นอี้หุบยิ้ม "ไม่ว่ายังไงก็ต้องไปเจออาสะใภ้ของคุณอยู่ดี ใช่ไหม พอดีว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุด พวกเรากลับไปเสียหน่อย ดีไหมครับ"

เย่หนิงอยากบอกว่าไม่เอา แต่เธอจะพูดไม่เอาได้ไหมล่ะ

ผลกลายเป็นว่าคืนนี้ เย่หนิงอยากนอนก็นอนไม่หลับจริงๆ เอาแต่เป็นกังวล วันถัดมา พอเห็นเธอตาเป็นหมีแพนด้า เสิ่นอี้กล่าวเสียงขรึม "คุณนะคุณ คุณใบหน้าซีดเซียวขนาดนี้ กลับไป พอคุณป้าของคุณเห็นเข้า ต้องโกรธผมที่ดูแลคุณไม่ดีแน่เลย"

เย่หนิงรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม "มีใครจะมาห่วงว่าฉันจะนอนไม่หลับบ้างไหมนะ"

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "ช้าเร็วก็ต้องเกิดขึ้น จะต้องห่วงอะไรอีก พอเถอะครับ ช่างมัน ทานอาหารเช้ากันเถอะ ยังไงพวกเราก็ต้องกลับไป ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้ผมคุยกับคุณป้าของคุณเองก็แล้วกัน ไม่ต้องกลัว ไม่เป็นไรหรอกครับ"

เขาลูบผมยาวของเย่หนิง แล้วจับที่ใบหน้าของเธออีกครั้ง "ไม่ต้องกังวลครับ รีบไปทานอาหารเช้าเถอะ คุณป้าของคุณรออยู่ที่บ้านนะครับ"

กลับไปที่เมืองก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าคุณป้าของเย่หนิงจะไม่อยู่บ้าน พอถามคุณอาสะใภ้ จึงรู้ว่าคุณป้าของเธอกลับไปที่บ้านเก่าตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว เสิ่นอี้ไม่สนว่าเย่หนิงจะตอบตกลงหรือไม่ ลากเธอกลับที่บ้านเก่าของตระกูลเย่ทันที 

เย่หนิงพูดอย่างกังวลใจ "เสิ่นอี้ คุณไม่กลัวคุณป้าของฉันเลยหรือไงคะ" 

เสิ่นอี้หุบยิ้ม "เสี่ยวหนิง คุณป้าของคุณมีอะไรให้น่ากลัว ผมจะกลัวเธอทำไมครับ" 

เย่หนิงครุ่นคิด ก็ใช่ เสิ่นอี้ไม่จำเป็นต้องกลัวคุณป้าของเธอเลย ถึงเสิ่นอี้ไม่กลัว แต่เธอกลัวนี่นา! ตั้งแต่เล็กจนโต สิ่งที่เธอกลัวมากที่สุดก็คือตอนที่คุณป้าของเธอโกรธ

กลับมาถึงบ้านเก่าตระกูลเย่ เห็นประตูเปิดอยู่ เย่หนิงยังคิดอยู่เลยว่าคุณป้าของเธอเข้าไปทำอะไรที่บ้านเก่า คิดไม่ถึงว่าพอเข้ามาก็เห็นคุณป้าของเธอกำลังอยู่ที่กลางลานบ้าน หันหลังให้พวกเขา กำลังมองเข้าไปที่บ้านหลังนี้นิ่ง

ได้ยินเสียงฝีเท้า คุณป้าหันกลับมา พอมองเห็นเย่หนิงและเสิ่นอี้ ใบหน้าของเธอประหลาดใจ "นายท่านเสิ่นอี้...ทำไมถึงเป็นท่าน" 

เย่หนิงและเสิ่นอี้ต่างก็ตกตะลึง 

แต่ไม่นานนักเสิ่นอี้ก็แสดงปฏิกิริยาออกมา เขาถามอย่างแปลกใจเล็กน้อยว่า "คุณ...รู้จักผมเหรอครับ" 

คุณป้าของเย่หนิงเองก็ไม่รีบตอบ แค่มองเสิ่นอี้และเย่หนิงอย่างแปลกใจเล็กน้อย สักพักหนึ่ง จึงพยักหน้าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้ฉันเคยเห็นรูปเหมือนของคุณ! บรรพบุรุษของฉันเคยเอาให้ฉันดู" 

เธอพูดพลางมองไปที่เย่หนิงอีกครั้ง ครุ่นคิดแล้วพูดขึ้นว่า "คุณพ่อของอาหนิงก็เคยให้ฉันดูรูปเหมือนของคุณ...ความจริงแล้ว...คุณพ่อของอาหนิง ก่อนเกิดเรื่องครั้งนั้น...พวกเขาก็จะพาฉันไปหาคุณอยู่แล้ว"

เสิ่นอี้ตะลึงงัน "เกิดเรื่องอะไรขึ้น" 

คุณป้าของเย่หนิงถอนหายใจ ปิดตาลง แล้วค่อยๆ พูดอย่างช้าๆ ว่า "ผีดิบกลายพันธุ์...ปีนั้น มีนักล่าผีดิบไม่น้อยต้องตายด้วยน้ำมือของนักล่าผีดิบ กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเช่นนั้นอีก ก็เลยอยากมาปรึกษากับคุณ...คิดไม่ถึงว่าระหว่างทางจะถูกทำร้ายเสียก่อน...ปีนั้นฉันกลัวว่าอาหนิงจะต้องเข้ามาพัวพันด้วย เลยไม่กล้าบอกความจริงกับเธอ บอกแค่ว่าคุณพ่อของเธอเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เท่านั้น"

สีหน้าของเย่หนิงตกตะลึงเล็กน้อย นิ่งเงียบอยู่นาน "ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง..." 

คุณป้าของเย่หนิงเงยหน้า มองเสิ่นอี้และเย่หนิง ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงถามว่า "นายท่าน ท่านกลับมาเมื่อไหร่ แล้วคุณกับอาหนิง...คุณกับอาหนิง..." 

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม พูดว่า "ปีนั้นผมเคยตอบตกลงกับบรรพบุรุษของพวกคุณ บอกว่าจะดูแลลูกหลานของเขา เรื่องพ่อแม่ของเสี่ยวหนิงเป็นความประมาทของผมเอง ดังนั้นไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก"

คุณป้าของเย่หนิงมองพวกเขาทั้งสองคน คล้ายกับเข้าใจอะไร เธอไม่พูดอะไรอีก แค่ถามเย่หนิงหนึ่งประโยคว่า "อาหนิง หลานตัดสินใจจริงๆ แล้วใช่ไหม" 

เย่หนิงพยักหน้าแข็งขัน "คุณป้าคะ หนูอยากอยู่กับเขาค่ะ ไม่ว่าเขาจะไปไหนหนูก็จะไปด้วย!"

คุณป้าถอนหายใจ หันไปมองเสิ่นอี้ พูดด้วยสีหน้าจริงใจว่า "ถ้าเป็นอย่างนี้ นายท่านเสิ่นอี้ หลังจากนี้ก็คงต้องไว้วานให้คุณช่วยดูแลอาหนิงแล้ว"

เสิ่นอี้พยักหน้า "วางใจได้ครับ ผมต้องดูแลเสี่ยวหนิงอย่างแน่นอน!"

คุณป้าของเย่หนิงเดินมาตรงหน้าของเย่หนิง โอบกอดเย่หนิง แล้วพูดเสียงเบาว่า "อาหนิง หลานโตแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว หลานคงรู้ว่าตัวเองอยากจะทำอะไร ป้าจะไม่เข้าไปก้าวก่ายการตัดสินใจของหลาน ป้าแค่หวังว่าหลังจากนี้หลานจะต้องมีความสุข"

เย่หนิงกอดคุณป้าของเธอแน่น พูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "คุณป้าคะ คุณป้าวางใจได้! หนูต้องมีความสุขอย่างแน่นอนค่ะ!"

คุณป้าของเย่หนิงกลับมาครั้งนี้ สิ่งสำคัญก็คืออยากมาดูเย่หนิงเท่านั้น ได้ยินมาว่าผนึกได้รับการซ่อมแซมแล้ว พอราชาผีดิบถูกผนึก ไม่นานนักก็จะต้องตาย นั่นทำให้เธอวางใจไปเปราะหนึ่ง ส่วนการเลือกของเย่หนิง เธอรู้ เย่หนิงโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีความคิดเป็นของตนเอง และอีกอย่างระหว่างเย่หนิงและเสิ่นอี้ ได้ผ่านการทดสอบความเป็นความตายมาตั้งมากมาย ความรู้สึกของพวกเขาต้องมั่นคงเป็นอย่างมากๆ พอเห็นว่าในที่สุดเย่หนิงก็พบความสุขของตนเองแล้ว จึงทำให้เธอมีความสุขและสงบใจลงได้ 

คุณป้าของเย่หนิงกลับมาไม่กี่วันก็กลับไปแล้ว ตอนที่ไปส่งที่สนามบิน คุณป้าจับมือของเย่หนิงแน่น แล้วพูดว่า "หลังจากนี้ ถ้าหลานมีโอกาสต้องการมาหาพวกเราที่ต่างประเทศให้ได้นะ"

เย่หนิงฉีกยิ้ม "คุณป้าคะ ป้าวางใจได้ พวกเราต้องไปหาอย่างแน่นอนค่ะ" 

หลังจากส่งคุณป้าของเย่หนิง คดีในสถานีตำรวจมีมากมาย แต่ไม่นานคดีก็ปิดลง เย่หนิงและเสิ่นอี้เองก็เลยหาเวลาว่างไปหาเซียะยุ่นผิงอีกครั้ง

เดิมทีเซียะยุ่นผิงถูกตัดสินประหารชีวิต ทว่าหลังจากนั้นเพราะมาเป็นพยานให้กับตำรวจ ออกมาชี้เป้าความผิดของเทียนเหิงกรุ๊ปและฉินเฉาฮุ้ย จึงถูกลดความผิดจากการประหารชีวิต พอเห็นเย่หนิงและเสิ่นอี้ เซียะยุ่นผิงคุกเข่าลงอย่างซาบซึ้งใจ เสิ่นอี้รีบเข้าไปประคองร่างเขา แล้วพูดว่า "อย่าทำอย่างนี้ครับ"

เซียะยุ่นผิงพูดอย่างซาบซึ้งใจว่า "ที่ผมทำไม่ใช่เพื่อตนเอง แต่เพื่อคุณลุงอู๋! ศาสตราจารย์เสิ่น คุณหมอเย่ ขอบคุณพวกคุณ ในที่สุดก็พลิกคิดของคุณลุงอู๋ได้แล้ว! คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคดีเมื่อปีนั้นจะเป็นคนข้างกายของคุณลุงอู๋ เป็นคนที่เขาเชื่อใจที่สุด"

เสิ่นอี้พูดเสียงเรียบว่า "ถ้าครั้งนี้ใช่เพราะอยากถอนรากถอนโคนพวกเทียนเหิงกรุ๊ป บางทีอาจจะยังหาหนทางพลิกคดีของอู๋เหวินคังไม่ได้ คุณก็คงคิดไม่ถึงว่าคนคนนั้นก็เป็นหมากอีกตัวหนึ่งของเทียนเหิงกรุ๊ป ตั้งแต่เริ่มต้นก็เป็นประโยชน์ต่อพวกเขา เดิมทีพวกเขาก็รู้อยู่แล้วว่าฆาตกรตัวจริงเป็นใคร กลับไม่ยอมบอกคุณ แล้วใช้ประโยชน์จากคุณ"

"อะไรนะ!" เซียะยุ่นผิงตกใจจนพูดไม่ออก

ไม่ต้องพูดถึงเซียะยุ่นผิง ขนาดเสิ่นอี้ เย่หนิงและคนอื่นๆ ทั้งหมดต่างก็คิดไม่ถึง หลังจากที่จับพวกเทียนเหิงกรุ๊ปแล้ว ทางตำรวจประกาศข่าวออกไป ว่าตำรวจได้พัฒนายาต้านไวรัส เดิมทีแล้วอยากตกปลาตัวใหญ่ คิดไม่ถึงว่านอกจากปลาตัวใหญ่แล้ว ยังมีปลาตัวเล็กไม่น้อย ที่ติดเบ็ดเข้ามาด้วย โจวฉงเองก็เป็นหนึ่งในนั้น 

เขามาถึงสถานีตำรวจ เพื่อจะได้รับการรักษาจากทางตำรวจ ถ้าไม่สืบสวนคดีนี้อย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นถ้าทางตำรวจอยากพลิกคดี ก็คงไม่ง่ายขนาดนี้

ทำดีกับเขา เพราะอยากช่วยเหลือเขาจากใจจริง แต่กลับอยากใช้ประโยชน์จากเขาเท่านั้น พวกเขารู้อยู่แล้วว่าฆาตกรตัวจริงเป็นใคร กลับจงใจไม่ยอมบอก หลอกใช้เขาให้ทำงานให้พวกเขา 

พอเห็นสีหน้าเกลียดชังของเซียะยุ่นผิง เสิ่นอี้พูดเสริมขึ้นว่า "พวกนั้นไม่มีความเป็นมนุษย์ด้วยซ้ำ จะช่วยพวกคุณอย่างจริงใจได้ยังไงล่ะ”

เซียะยุ่นผิงเช็ดน้ำตา เงยหน้าขึ้นแล้วฝืนยิ้ม "ผมรู้แล้ว! ผมจะไม่ทำให้คุณลุงอู๋ผิดหวังอีกเป็นอันขาด! ศาสตราจารย์เสิ่น คุณหมอเย่ ขอบคุณพวกคุณมาก!”

”พอออกมาจากห้องขัง เย่หนิงถามเสิ่นอี้ว่า "เสิ่นอี้ หลังจากนี้ คุณมีแผนจะทำอะไร" 

"คุณล่ะ" เสิ่นอี้ฉีกยิ้มพลางถามว่า "เป็นหมอนิติเวชต่อ หรือว่าจะเป็นนักล่าผีดิบ" 

เย่หนิงหุบยิ้ม "นักล่าผีดิบเหมือนไม่น่าจะเหมาะสมกับฉัน อีกอย่างของทั้งหมดของฉันก็เอาให้พวกเฝิ่งเยี่ยนฮวายไปหมดแล้ว จะใช้ยังไงก็ดูพวกเขาไปแล้วกัน ตอนนี้พวกเขาตัดสินใจกันแล้ว บางทีไม่นานนักตระกูลนักล่าผีดิบอาจจะค่อยๆ กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งก็เป็นได้"

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "พวกเขา...ตัดสินใจได้ไม่เลว ผมคิดว่าต้องประสบความสำเร็จ" 

ทันใดนั้นเย่หนิงก็หยุดฝีเท้า ถามเสิ่นอี้ "คุณไม่สามารถอยู่ที่ที่เดิมได้นานๆ อยู่นานเข้า ต้องทำให้คนสงสัยอย่างแน่นอน ไม่ใช่เหรอคะ'' 

เสิ่นอี้หันศีรษะกลับมา มองเย่หนิง ฉีกยิ้มเล็กน้อยแล้วถามว่า "คุณก็ไปกับผมสิครับ" 

เย่หนิงก็ถามว่า "สิบปี หรือยี่สิบปีหรอคะ"

จู่ๆ เสิ่นอี้ก็เข้ามากอดเย่หนิง แล้วเข้ามากระซิบที่ข้างหูของเธอว่า "ถ้าคุณยอม ไม่ว่านานแค่ไหน! หนึ่งร้อยปี หนึ่งพันปี...หนึ่งหมื่นปี...พวกเราจะต้องอยู่ด้วยกัน...ตลอดไป ชั่วนิจนิรันดร..." 

จบบริบูรณ์