webnovel

ตอนที่ 269

ตอนที่ 269 ผนึก

ลมบนภูเขาพัดแรงมาก ยิ่งดึกก็ยิ่งรู้สึกว่าลมหนาวพัดแรงขึ้น อากาศหนาวจู่โจมเข้าหา 

ภูเขาที่มีป่ารกชัฏแห่งนี้ ปกติก็ไม่มีทางอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างภูเขาก็สูงชันเป็นอย่างมาก ทว่าพอมีเสิ่นอี้คอยช่วยเหลือพวกเขา เย่หนิง เฝิ่งเยี่ยนฮวาย และคนอื่นต่างก็ไม่ต้องเสียแรงในการขึ้นไปยอดเขา

เพียงแต่ลมบนยอดเขามีลมแรงมากๆ โชคดีที่เสิ่นอี้เตือนเอาไว้แล้ว เย่หนิง เฝิ่งเยี่ยนฮวายและคนอื่นๆ จึงสวมเสื้อนอกที่ค่อนข้างหนา ถึงจะเป็นเช่นนั้นทว่ายังรู้สึกว่าบนยอดเขาแห่งนี้ยังหนาวจับขั้วกระดูกอยู่ดี

แม้ว่าจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่เมืองตงไห่ตั้งอยู่ทางใต้ ถึงแม้ว่าอากาศในช่วงฤดูหนาวจะไม่ได้หนาวมากนัก แล้วภูเขาแห่งนี้ไม่สูงนัก พวกเขาต่างก็คิดไม่ถึงว่าจะหนาวขนาดนั้น ทุกๆ คนต่างตัวแข็งและหนาวสั่น

เหลียงเซิ้งห่อตัวเข้าไปในเสื้อผ้า เย็นจนร่างสั่นเทา พูดว่า "ทำไมถึงรู้สึกว่าสถานแห่งนี้น่ากลัวนะ" 

เฝิ่งเยี่ยนฮวายจามออกมา ถูจมูก แล้วจึงพูดขึ้นว่า "ถ้าไม่มีอะไรฝังอยู่ข้างล่าง คงไม่หนาวหรอก”

เฝิ่งเยี่ยนฮวายไม่พูดก็ดีอยู่แล้ว พอพูดถึงเรื่องนี้ เย่หนิงและคนอื่นๆ ต่างก็ยิ่งรู้สึกหนาวขึ้นไปอีก เย่หนิงแนบตัวเข้าไปในอ้อมอกของเสิ่นอี้ สั่นเทาไปพลาง พูดไปพลางว่า "หนาวมากจริงๆ...เสิ่นอี้ สถานที่แห่งนี้หนาวผิดปกติเกินไปหรือเปล่าคะ"

เสิ่นอี้กอดเย่หนิงแน่น แล้วพูดอธิบายว่า "เฝิ่งเยี่ยนฮวายพูดไม่ผิด สถานที่แห่งนี้หนาวผิดปกติ เพราะเกี่ยวข้องกับของสิ่งที่อยู่ข้างใต้! ตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่หนาวที่สุด รอให้ถึงวันสุริยุปราคาก่อนเถอะ พวกคุณขึ้นมาจะรู้เลยล่ะว่าอะไรที่เรียกว่าหนาว! เมื่อถึงเวลานั้นภูเขาต้องแช่แข็งด้วยน้ำแข็งและหิมะอย่างแน่นอน!"

เย่หนิงเบิกตาขึ้นมองอย่างตกตะลึง "สิ่งที่ถูกฝังอยู่ข้างให้คือราชาผีดิบ หรือว่าเจ้าหญิงหิมะกันแน่!"

เสิ่นอี้พูดเสียงต่ำว่า "มีพลังหยินมากเกินไป ถึงได้เป็นแบบนี้!"

เย่หนิงถามเสิ่นอี้อย่างอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย "ทำไมคุณถึงตัวอุ่นล่ะ" 

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "บอกคุณไม่ได้ครับ!" 

"ทำไมล่ะ ขี้งก..." เย่หนิงร้องเหอะๆ 

"อะแฮ่มๆ......" จวงหมิงหานกระแอมออกมาเล็กน้อย "ผมว่าพวกคุณสองทำเกินไปแล้ว! คิดว่าพวกเราไม่อยู่ที่นี่หรือไงห๊ะ! นายคิดถึงความรู้สึกของหมาที่มันไร้คู่บ้างสิ!"

เสิ่นอี้พูดว่า "พวกนายก็กอดกันเองสิ ถ่ายทอดความอบอุ่นซึ่งกันและกัน!"

เย่หนิงอดหัวเราะฮ่าๆ ออกมาไม่ได้ "ความคิดไม่เลว!"

ขณะที่พูดยังคล้ายกับเป็นการโอ้อวด เบียดตัวเข้าซุกไปในอ้อมอกของเสิ่นอี้ จวงหมิงหานรู้สึกหนาวจนฟันกระทบกัน "ฉันว่า ขืนยังขึ้นไปแบบนี้ พวกเราคงต้องแข็งตายแน่! ทำยังไงได้บ้าง!"

เสิ่นอี้สบตาหยางปิน แล้วพูดว่า "ก่อไฟ!"

หยางปินและคนอื่นเคลื่อนไหวได้เร็ว ครู่เดียวก็จัดการพื้นที่บนภูเขาสะอาดเกลี้ยง แล้วรีบก่อไฟขึ้นทันที 

ทุกคนผิงไฟไปพลางกินอาหารไปพลาง จึงรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาก แน่นอนว่านี่จำกัดแค่เย่หนิงและพวกเขาที่เป็นคนธรรมดาเท่านั้น สำหรับเสิ่นอี้ หยางปิน และคนอื่นๆ แน่นอนว่าทั้งไม่รู้สึกหนาวแล้วก็ไม่รู้สึกหิว พวกเขาแค่แสร้งทำเป็นกินของบ้างเท่านั้น 

จวงหมิงหานอยู่ข้างกองไฟ เช็ดลูกศรเงินที่อยู่ในมือของตนเอง แล้วถามเสิ่นอี้ไปด้วย "เสิ่นอี้ สถานที่แห่งนี้เป็นเพราะผนึกราชาผีดิบเอาไว้ใช่ไหม พลังหยินถึงรุนแรงมาก อากาศถึงหนาวมากขนาดนี้"

"ใช่!" เสิ่นอี้พยักหน้า "ภูเขาที่อยู่แถวนี้ต่างก็ได้รับผลกระทบทั้งหมด อากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่ตอนกลางคืน อากาศตอนกลางวันเองก็ค่อนข้างหนาวด้วย"

จวงหมิงหานพยักหน้า "ฉันจำได้ทุกๆ ปี เมื่อถึงฤดูหนาวบริเวณนี้หิมะจะตกเร็วที่สุด และมักมีหิมะตกบ่อยๆ อีกด้วย"

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "ฤดูหนาวไม่พอ แต่ให้พูดฤดูร้อนที่มีอากาศร้อนจัดกลับเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในฤดูร้อน!"

"ฮ่าๆ......" จวงหมิงหานฉีกยิ้ม "ถ้ามีคนรู้ว่าข้างล่างนี้ฝังอะไรเอาไว้ คาดว่าคงไม่มีคนกล้ามาพักผ่อนหย่อนใจที่นี่หรอก!"

"ผมไม่คิดอย่างนั้น เฝิ่งเยี่ยนฮวายเอาไม้ไผ่ในมือโยนเข้าไปในกองไฟ พูดว่า "มีคนไม่กลัวตายเยอะแยะ! ผมว่ายิ่งบอกว่าสถานที่แห่งนี้น่ากลัวก็มีคนจำนวนมากชอบเข้ามาสร้างความวุ่นวายมากขึ้น ทดสอบความกล้า บางทีอาจจะมีทีมเข้าขุดหาผีดิบเสียด้วยซ้ำ!"

ทุกๆ คนมีเหงื่อไหลอาบ แต่พอคิดความไปได้ที่เฝิ่งเยี่ยนฮวายพูด ใช่ว่าจะไม่มีจริงๆ เสียหน่อย!

จวงหมิงหานถามเสิ่นอี้ "ตำแหน่งของผนึกอยู่ที่ไหน สถานที่เฉพาะเจาะจงอยู่ที่ไหน" 

เสิ่นอี้หุบยิ้ม "นายไม่รู้เหรอ"

จวงหมิงหานถามเจิ้งชวนอีกครั้ง "นายรู้ไหม" 

ใบหน้าของเจิ้งชวนอึดอัด

เฝิ่งเยี่ยนฮวายพูดว่า "ฉันก็รู้ว่าอยู่บนภูเขาแห่งนี้เท่านั้น" 

เสิ่นอี้กุมหน้าผาก "พวกนาย จะพึ่งพาได้ไหมเนี่ย”

เฝิ่งเยี่ยนฮวายมองเสิ่นอี้อย่างสงสัยมากๆ "นายรู้เหรอ" 

"ไม่ใช่ที่นี่หรือไง" เสิ่นอี้ไม่อยากพูดนัก 

"ที่นี่งั้นเหรอ" เฝิ่งเยี่ยนฮวายชี้ไปข้างหน้าของตนเอง "นายบอกว่าที่นี่งั้นเหรอ ตอนนี่พวกเรานั่งกินปิ้งย่างอยู่บนผนึกงั้นเหรอ"

เสิ่นอี้ถอนหายใจ "พวกนายไม่รู้หรือไง ขนาดเรื่องนี้พวกนายยังไม่รู้ จะซ่อมแซมและเพิ่มพลังของผนึกได้อย่างไรกัน พวกผู้อาวุโสในบ้านสอนพวกนายมายังไง! จะให้ฉันบอกหมดทุกอย่างเลยหรือไง บอกพวกนายเลยนะ ไม่ต้องมาถามฉันเรื่องซ่อมแซมผนึก! ตอนนั้นที่พวกเขาผนึกราชาผีดิบ ฉันไม่อยู่ด้วยจริงๆ ดังนั้นฉันทำไม่เป็นหรอกนะ!"

จวงหมิงหานถอนหายใจเล็กน้อย "ถ้าขนาดพวกเราไม่รู้ แล้วถึงกับต้องให้ผีดิบมาสอนพวกเรา...ผมคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องมีนักล่าผีดิบแล้วล่ะ! ยอมเปลี่ยนไปเป็นผีดิบอย่างนายไม่ดีกว่าหรือไง!" 

เสิ่นอี้ถอนหายใจ "พวกนายรู้ว่าจะต้องซ่อมแซมผนึกอย่างไรก็ดีแล้ว!" 

"นี่..." เฝิ่งเยี่ยนฮวายยังคงไม่เชื่อ "ฉันว่าเสิ่นอี้ นายคงไม่หลอกพวกเราหรอกนะ ก็ผนึกนี้ ผนึกนี้...คงไม่ได้เห็นชัด จะไม่ทิ้งเครื่องหมายให้คนมองออกหน่อยหรือไง”

"ไม่ชัดเจนอีกเหรอ" เสิ่นอี้ถามกลับไป "ผมคิดว่าชัดเจนมาก! ผนึกใหญ่ออกขนาดนี้!"

"ผนึกใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ" เฝิงเยี่ยนฮวายมองเสิ่นอี้ แล้วมองกองไฟที่ลุกโชนอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง มันยากที่จะเข้าใจ "ผนึกที่ใหญ่ขนาดนี้อยู่ที่ไหนกัน" 

หัวใจของเย่หนิงอดเต้นรัวขึ้นมาไม่ได้ "เสิ่นอี้ หรือว่า...ทั้งภูเขานี้...เป็นผนึก!" 

เสิ่นอี้พยักหน้า "ใช่!" 

"อะไรนะ" เฝิ่งเยี่ยนฮวายและคนอื่นๆ ต่างก็ตะลึงงัน

"นายพูดอะไร" เฝิ่งเยี่ยนฮวายรู้สึกว่าตนเองกำลังฟังผิด “เสิ่นอี้ นายจะบอกว่าภูเขาแห่งนี้ ทั้งภูเขาเป็นผนึก"

"ถูกต้อง!" เสิ่นอี้มั่นใจเป็นอย่างมาก "ทั่วทั้งภูเขาล้วนเป็นผนึก! ดังนั้นถึงได้พาพวกคุณมาที่ยอดเขาไงล่ะ! ผมว่า..." 

เสิ่นอี้พูดกับเฝิ่งเยี่ยนฮวายและคนอื่นๆ ที่นิ่งเงียบไป "ทำไมพวกคุณถึงไม่รู้ หรือว่าคนในครอบครัวของพวกคุณไม่ได้บอกเรื่องของผนึกนี้กับพวกคุณมาก่อน ก่อนนี้บรรพบุรุษของพวกคุณคงมีคนมาเพิ่มพลังของผนึกบ้างใช่ไหม ไม่มีคนพูดเรื่องผนึกนี้กับพวกคุณเลยเหรอ"

จวงหมิงหานรู้สึกจนปัญญา ยิ้มขื่น "คุณก็คงรู้ว่าสถานการณ์ในบ้านของฉันเป็นยังไง! ยายของยายของยายของยายของฉันนั้น เธอเองก็ไม่ใช่คนของตระกูลถัง โดยทั่วไปแล้วเลยไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกนี้เลยด้วยซ้ำ เธอมีก็แค่ของและหนังสือต่างๆ ที่ตกทอดมาให้เท่านั้น"