webnovel

ตอนที่ 266

ตอนที่ 266 พลังฟ้าดิน

เฝิ่งเยี่ยนฮวายรีบพูดขึ้นทันที "ความหมายของคุณ ทีแรกคนที่คิดออกแบบผนึกนี้ เป็นเพราะอยากใช้ประโยชน์จากพลังของวันสุริยุปราคา ลดพลังของราชาผีดิบ กระทั่งบรรลุเป้าหมายในการฆ่าราชาผีดิบด้วยใช่ไหม"

"ถูกต้อง! เขาต้องคิดอย่างนี้แน่นอนอยู่แล้ว!" เสิ่นอี้พยักหน้าแล้วพูดว่า "ผ่านการเพิ่มพลังของผนึก กักขังราชาผีดิบเอาไว้อยู่ภายในนั้น ซ้ำยังเป็นเพราะผลกระทบของวันสุริยุปราคา จึงทำให้พลังราชาผีดิบอ่อนแรงลงไปอย่างมาก และพลังลึกลับที่ดำรงอยู่ภายในผนึก ยังกัดกร่อนพลังของราชาผีดิบอย่างต่อเนื่อง กระทั่งว่าพลังของเขาดับสูญ หลังจากนั้นผนึกก็จะถูกทำลายโดยอัตโนมัติ"

"แต่ ถ้าหากพวกเราไม่สามารถเพิ่มพลังของผนึกได้ เมื่อถึงวันสุริยุปราคา วันที่พลังของผนึกอ่อนแรงจนถึงที่สุด ถึงขั้นมีความเป็นไปได้มากว่าราชาผีดิบจะทำลายผนึกแล้วหนีออกมาได้! ดังนั้นผมว่านี่เป็นโอกาสสุดท้าย แล้วก็เป็นโอกาสเดียวเท่านั้น!"

เสิ่นอี้ชะงักงัน แล้วพูดต่อว่า "ถ้าครั้งนี้พวกเราซ่อมแซมผนึกสำเร็จ พวกเราไม่ต้องลงมือ พลังของผนึก ก็เพียงพอที่จะฆ่าราชาผีดิบได้" 

เย่หนิงเองก็คิดไม่ถึงจริงๆ ผนึกชิ้นๆ มีอะไรมากกว่าที่คิดจริงๆ!

และที่ยิ่งคิดไม่ถึง คนที่ออกแบบผนึกนี้ขึ้นมาจะคำนวณผ่านช่วงเวลาเมื่อสองร้อยปีก่อน คนคนนี้ เป็นอัจฉริยะชัดๆ 

เฝิ่งเยี่ยนฮวายมองเสิ่นอี้อย่างแปลกใจ "เรื่องพวกนี้ นายรู้มากจังเลยนะ!" 

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "ผมต้องรู้มากอยู่แล้ว! เพราะเมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน ผมเคยร่วมมือกับพวกคุณ!" 

"หา!" เฝิ่งเยี่ยนฮวายพูดสบถออกมา "นายโกหก!"

เสิ่นอี้พูดอย่างช้าๆ ว่า "แน่นอนว่าเป็นความจริง ไม่อย่างนั้นผมจะเข้าสถานการณ์ของผนึกได้อย่างไรกัน"

เฝิ่งเยี่ยนฮวายมองจวงหมิงหาน มองไปที่เจิ้งชวนอีกครั้ง แล้วถามขึ้นว่า "เรื่องโกหกทั้งนั้น! ทำไมผมไม่เคยได้ยินคุณปู่เล่าให้ฟังมาก่อนเลยล่ะ!"

เสิ่นอี้พูดอย่างไม่เห็นด้วยว่า "ผมไม่ได้ร่วมมือกับคุณปู่ของคุณ คุณปู่ของคุณเลยไม่รู้แน่นอนอยู่แล้ว! ผมร่วมมือกับ ปู่ ของปู่ของปู่ของคุณ..." 

"พอ พอได้แล้ว!" ความจริงเฝิ่งเยี่ยนฮวายรับไม่ได้แล้ว "ยังมีปู่ของปู่ของปู่อีกเหรอ นี่เป็นเรื่องเมื่อกี่ร้อยปีก่อนมาแล้วเนี่ย"

เสิ่นอี้ยิ้มแล้วพูดว่า "ก็เป็นเรื่องเมื่อร้อยกว่าปีก่อนน่ะสิ!"

เฝิ่งเยี่ยนฮวายมองเจิ้งชวน เจิ้งชวนหันศีรษะ มองข้างนอกหน้าต่าง ด้วยสีหน้าเมินเฉย เหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเสิ่นอี้ยังไงยังงั้น

เฝิ่งเยี่ยนฮวายมองไปที่จวงหมิงหานอีกครั้ง จวงหมิงหานแสดงสีหน้าไม่รู้เรื่อง "นายมองฉันทำไม! ฉันจะไม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไงกันเล่า ฉันไม่ได้เป็นปีศาจแก่พันปีแบบเขาสักหน่อย!"

"ปีศาจแก่พันปีเหรอ" เสิ่นอี้หลุดขำ

จวงหมิงหานแสดงสีหน้าไม่รู้เรื่องเข้าไปอีก "ทำไม หรือว่าฉันพูดอะไรผิด" 

"ผิดแล้ว! ไม่ใช่แค่ผิดนะ แต่ยังผิดมากๆ ด้วย!" สีหน้าของเสิ่นอี้เคร่งขรึมเป็นอย่างมาก

"ผิดมากๆ งั้นเหรอ" จวงหมิงหานยังไม่เข้าใจ ว่าเขาพูดผิดตรงไหนกันแน่! 

เย่หนิงหัวเราะจนท้องแข็งแล้วจริงๆ 

"เสี่ยวหนิง!" จวงหมิงหานรู้สึกจนปัญญาเป็นอย่างมาก "คุณหัวเราะอะไรกันนะ!" 

"หัวเราะความโง่ของนายนะสิ! ยังจะหัวเราะอะไรอีก!" เสิ่นอี้ยังคงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเช่นเดิม " เมื่อกี้ใครเป็นคนพูดว่าเป็นปีศาจแก่พันปีกันล่ะ! บอกนายเลยนะ! ฉันเป็นผีดิบ! รู้ไหมว่าอะไรคือผีดิบ ผีดิบพันปีและปีศาจแก่พันปี นายนึกภาพของทั้งสองสิ่งนี้ออกไหม เป็นถึงศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย ใบปริญญานายซื้อมาหรือไง"

จวงหมิงหานได้ยินถึงกับเบิกตาตกตะลึง พูดโต้แย้งอะไรไม่ได้เลย

เย่หนิงหัวเราะไม่หยุด ขนาดเหลียงเซิ้งก็อดไม่ไหวหัวเราะออกมาเสียงดังเช่นกัน 

"อะแฮ่มๆ..." จวงหมิงหานกระแอมสองครั้ง "มีเหตุผล! ผีดิบพันปีงั้นเหรอ! แต่ให้พูด ผีดิบพันปีก็ไม่เลวมากนัก! นายดูสิ หลายคนอยากมีชีวิตอมตะ! แล้วก็เพื่อมีชีวิตอมตะเช่นนี้ คนพวกนั้น ถึงได้ทำสิ่งที่ผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า!"

"ใช่!" เสิ่นอี้พูด "ก็เพราะอยากมีชีวิตอมตะไม่แก่ไม่เฒ่าไงล่ะ ถึงได้มีผู้บริสุทธิ์หลายคนต้องถูกฆ่า!"

"เฮ้ๆ..." จวงหมิงหานหันศีรษะกลับมา ใช้สายตามองไปทางเสิ่นอี้ ถามว่า "แล้วนายไม่ต้องกินอะไรจริงๆ งั้นเหรอ" 

"กิน!" เสิ่นอี้พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมมากๆ "ฉันกินคน!" 

จวงหมิงหาน...

เจิ้งชวนพูดเสียงเย็นว่า "ไม่เห็นจะตลกเลยสักนิด!" 

จวงหมิงหานกระแอมสองครั้ง แล้วพูดว่า " นี่...ปัญหาสำคัญตอนนี้และมีชีวิตอมตะไม่แก่ไม่เฒ่าเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลย ฮาฮา...แล้วก็ไม่เกี่ยวกับการกินคนเลยด้วย...เมื่อกี้พวกเราไม่ใช่ว่าคุณกันเรื่อง ร่วมมือกันอยู่งั้นหรอ...พูดถึงตรงไหนกันแล้วล่ะ"

เฝิ่งเยี่ยนฮวายมองมาจากทางกระจกหลัง แล้วพูดว่า "มีคนบางคนบอกว่าก่อนหน้านี้เคยร่วมมือกับพวกเรา" 

เสิ่นอี้พูดว่า "มันก็ไม่ได้สำคัญนักหรอก! สิ่งสำคัญอยู่ทีผนึก! เพียงแค่ซ่อมแซมผนึกและเพิ่มพลังของมันซะ เหนื่อยครั้งเดียวก็จะสบายไปทั้งชาติแล้ว! ราชาผีดิบก็จะถูกผนึก ขังอยู่ในความมืดตลอดไป กระทั่งตายจาก แล้วหลังจากนั้นก็จะออกมาทำร้ายผู้คนไม่ได้อีกต่อไป!"

หลังจากที่เงียบสักพัก เจิ้งชวนพูดขึ้นว่า "หวังว่าที่คุณพูดจะเป็นความจริงทั้งหมด" 

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "ถึงพวกคุณจะไม่เชื่อผม แต่ก็คงจะเชื่อบรรพบุรุษของคุณ! เริ่มแรกพวกเขาร่วมแรงกันผนึกราชาผีดิบ! ถึงแม้ว่าพลังของพวกเขาในเวลานั้น จะไม่มีหนทางฆ่าราชาผีดิบได้เลย แต่ผนึกนี้ เป็นวิธีที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน แล้วอีกอย่างมันยังทำให้พลังของราชาผีดิบอ่อนแรงลงด้วย!"

เฝิ่งเยี่ยนฮวายพูดออกมาอย่างไม่เชื่อ "เสิ่นอี้ ขนาดผนึกชิ้นนี้ ไม่ใช่ว่านายรู้วิธีทำด้วยหรอกนะ" 

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "ผมจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะ ตอนที่พวกเขาผนึกราชาผีดิบ ผมไม่ได้อยู่ด้วย! ผมแค่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่เท่านั้นเอง!"

เย่หนิงกะพริบตา มองเสิ่นอี้แล้วพูดว่า "เรื่องนี้คงไม่ใช่ ปู่ของปู่ของปู่ของฉันบอกคุณหรอกนะ"

เสิ่นอี้กลั้นยิ้ม "คงงั้นมั้ง!" 

เหลียงเซิ้งถอดทอนใจ "สถานแห่งนี้ ลึกลับเกินไปหรือเปล่านะ!"

เสิ่นอี้พูดว่า "ตอนนี้ยังดี! ตอนนั้น ยิ่งกว่าลึกลับเสียอีก! ก่อนหน้านั้นเมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีก่อน สถานที่แห่งนี้ขนาดเงาคนยังไม่มีให้เห็นเลย! เต็มไปด้วยสัตว์ร้าย! ปัจจุบันคนมีเยอะขึ้น! สัตว์ร้ายกลับไม่มีเสียแล้ว!"

สถานที่แห่งนี้ ลึกลับเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะบอกว่าไม่ไกลจากเมืองตงไห่มากนัก แต่ในความรู้สึกของคนอื่น ก็รู้สึกเหมือนกับว่าสองโลกนี้แตกต่างกันเหลือเกิน 

หลังจากที่ผ่านถนนของหมู่บ้านว่างยาชุนไม่ไกลกันนัก พวกเราก็เลี้ยวเข้าเส้นทางของภูเขา เส้นทางเล็กๆ แคบๆ ถนนภายในแคบมากๆ ทว่ารถของพวกเขาก็ยังคงฝืนเข้าไป สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้และพุ่มไม้นานาพันธุ์ที่ไม่รู้จักชื่อ แม้ว่าจะเย็นสบาย แต่กลับทำให้รู้สึกน่ากลัวเป็นพิเศษ 

ตามหลังรถของพวกเรา เป็นรถของหยางปิน แล้วยังเป็นรถตำรวจคันอื่นๆ

นอกจากหยางปิน ข้างหลังยังตามมาด้วยรถอีกหลายคัน ทั้งหมดล้วนเป็นของตำรวจพิเศษ

เย่หนิงหันกลับไปมองหลายต่อหลายครั้ง ความจริงเธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็เลยถามเสิ่นอี้ว่า "เสิ่นอี้ คุณอย่าบอกนะว่า ตำรวจพิเศษเหล่านั้น ก็เป็นคนของพวกคุณด้วย"