webnovel

ตอนที่ 265

ตอนที่ 265 วันสุริยุปราคา

บริเวณที่ผีดิบถูกผนึกเอาไว้ ก็อยู่ที่เมืองตงไห่

ไม่ได้อยู่ในเขตตัวเมือง แต่อยู่ในป่าเขาห่างจากตัวเมืองกว่าสิบกว่ากิโลเมตร 

ตะวันตกของเมืองตงไห่ เป็นแนวเขาที่ทอดยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด ถึงแม้ว่าเมืองตงไห่จะเป็นเมืองที่มั่งคั่งเฟื่องฟู ทว่าเขตแนวเขานี้ ที่อยู่นอกเมืองกว่าสิบกิโลเมตรนี้ กลับไม่มีใครไหนเลยเข้าไปอาศัยอยู่ ภายในภูเขาแห่งนี้อันตรายมาก พื้นที่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ถูกใช้ เคยมีนักท่องเที่ยวเกิดอุบัติเหตุอยู่ข้างในนี้ แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น นานวันเข้า ภายในแนวเขาแห่งนี้ก็เกิดตำนานผีสางหลากหลายรูปแบบขึ้นมา

และก่อนหน้านั้นหลายเดือน เคยเกิดเรื่องที่หมู่บ้านว่างยาชุน ที่อยู่ห่างจากตำแหน่งของแนวเขานี้ไม่ไกลนัก เมื่อพวกเขาขับรถผ่านหน้าหุบเขานั้น ขับผ่านถนนเล็กอยู่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้าน 

ป้ายถนนนั้นกลับยังอยู่ เพียงแต่ชาวบ้านในหมู่บ้านว่างยาชุน กลับไม่อยู่ในหมู่บ้านตั้งนานแล้ว พวกเขาทั้งหมดถูกส่งไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาอย่างใกล้ชิด มีบางส่วนที่อาการหนักถึงไม่สามารถทนทรมานต่อไปได้อีก ถึงอย่างนั้นสถานการณ์ส่วนใหญ่ของชาวบ้านก็ถือว่าดีขึ้น

ตอนที่ขับผ่านหมู่บ้านว่างยาชุน เย่หนิงอดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า "เสิ่นอี้ คุณว่า ถ้าอาการป่วยของพวกเขาดีขึ้นแล้ว จะกลับมาอีกไหม" 

เสิ่นอี้พูดขึ้นว่า "ถึงพวกเขาจะกลับมา แต่ถ้าต้องสร้างที่อยู่ขึ้นมาใหม่ ก็คงจะต้องใช้เวลาไปไม่น้อย"

เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แล้วก็ฆ่าแมลงดูดเลือดทั้งหมด ทั้งหมู่บ้านก็เลยถูกไฟแผดเผาจนกลายเป็นขี้เถ้า ถึงแม้ว่าชาวบ้าจะกลับมาที่หมู่บ้านว่างยาชุนอีกครั้ง บ้านของพวกเขาก็ไม่มีเหลือแล้ว ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ แต่คงจะต้องเสียเวลาและกำลังไปไม่น้อยเลย เพียงแต่น่าเสียดายชาวบ้านที่หมู่บ้านว่างชายุนมีคดีติดตัวไม่น้อย ถึงกลับมาได้ ก็มีไม่กี่คนเท่านั้น

คิดถึงตรงนี้ เย่หยิงอดรู้สึกถอดทอนใจขึ้นมาไม่ได้ "ความจริงแล้ว ไม่ต้องกลับไปก็ได้!"

เหลียงเซิ้งฟังไปพลาง หันกลับไปมองปากทางเข้านั้น พูดขึ้นว่า "ถ้าเป็นผม ถ้าผมเป็นชาวบ้านของหมู่บ้านว่างยาชุน ผมคงจะไม่กลับมาเป็นเด็ดขาด! หมู่บ้านแห่งนี้ สำหรับพวกเขาแล้ว คงจะเต็มไปด้วยฝันร้าย ใครจะอยากกลับมาในที่ๆ มีฝันร้ายอีกครั้งกันล่ะ"

"ใช่!" จวงหมิงหานเองก็พยักหน้า พูดขึ้นว่า "ถ้าเป็นผม ก็จะไม่มีทางกลับมาเป็นอันขาด! กลับจะยิ่งอยู่ให้ห่างจากที่แห่งนั้นให้ไกลไปเลย! ลืมฝันร้ายที่อยู่ในที่แห่งนั้น ลืมสิ่งที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมด แล้วกลับไปตั้งต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!"

เฝิ่งเยี่ยนฮวายพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "หวังว่าฝันร้ายของพวกเรา จะจบสิ้นได้ในเร็ววัน!"

"ครั้งสุดท้ายแล้ว!" เสิ่นอี้พูดว่า "นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว! แค่เพิ่มพลังของผนึกได้ หลังจากนั้นแล้ว เขาก็จะหลับใหลอยู่ในโลกแห่งความมืด ชั่วนิจนิรันดร! แล้วก็จะไม่ออกมากดขี่ข่มเหงคนอื่นอีก!"

เหลียงเซิ้งรู้สึกแปลกใจ "ศาสตราจารย์เสิ่น ที่คุณพูดหมายความว่าอะไร หลังจากนี้เขาจะไม่มีโอกาสออกมาแล้วงั้นเหรอ" 

"ไม่ใช่!" เสิ่นอี้ส่ายหน้า "พลังของเขา พอถูกผนึกก็จะยิ่งอ่อนแรงลงเรื่อยๆ กระทั่งดับสูญไปในที่สุด ตราบเท่าที่อำนาจชั่วร้ายและความน่ากลัวของเขาหมดสิ้นแล้ว ราชาผีดิบก็ไม่มีอยู่จริง! เพราะก่อนหน้านี้ขาดอาวุธวิเศษของตระกูลถัง ดังนั้นผนึกจึงต้องได้รับการซ่อมแซมอยู่สม่ำเสมอ! แต่ครั้งนี้คนของสี่ตระกูลใหญ่มารวมตัวอยู่ด้วยกัน! พวกเราต้องใช้โอกาสครั้งนี้ หลังจากที่เพิ่มพลังของผนึกแล้วก็ไม่ต้องกลับมาซ่อมแซมผนึกหลายครั้งหลายคราอีก!"

"ราชาผีดิบถูกผนึกเอาไว้กว่าสองร้อยปี ความจริงแล้วพลังอ่อนแรงไปไม่น้อย สิ่งสำคัญที่สุดเป็นเพราะวันสุริยุปราคา ความจริงแล้ววันสุริยุปราคา ไม่เพียงแต่ทำให้พลังอ่อนแรงเท่านั้น แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้พลังของราชาผีดิบอ่อนแรงด้วยเช่นกัน ไม่แตกต่างกันเลย"

"หมายความว่าอะไร" ไม่ต้องบอกว่าเหลียงเซิ้งฟังไม่เข้าใจ ขนาดเย่หยิง จวงหมิงหานและคนอื่นๆ ก็ฟังไม่เข้าใจเช่นกัน 

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "พวกคุณไม่รู้งั้นเหรอ ทำไมวันสุริยุปราคาครั้งนี้ สำหรับราชาผีดิบจึงสำคัญขนาดนี้ ความจริงแล้วไม่เพียงเป็นเพราะผนึกอ่อนแรงเท่านั้น!"

จวงหมิงหานถามอย่างประหลาดใจว่า "วันสุริยุปราคาส่งผลกระทบกับราชาผีดิบ นี่...พวกเราเองก็เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรก" 

เสิ่นอี้พูดเสียงเรียบว่า "พวกนายไม่รู้เยอะมากเลยนะนั่น! ผนึกนี้มีอะไรมากกว่านั้นเยอะ! และอีกอย่างคนที่ออกแบบผนึกนี้ในตอนแรก เป็นคนที่เยี่ยมและเก่งมากๆ เขาคำนวณเรื่องหลังจากนั้นสองร้อยกว่าปี รวมถึงวันสุริยุปราคาในครั้งนี้ด้วย!"

เย่หนิงได้ฟังถึงกับเบิกตาอย่างตกตะลึง ตกใจจนขนาดจะพูดก็พูดไม่ออก! 

เหตุการณ์มันเป็นยังไงกันแน่! พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยจริงๆ!

"เสิ่นอี้ เหตุการณ์มันเป็นยังไงกันแน่!" เย่หนิงรีบถามขึ้นว่า "ผนึกนี้ มีอะไรมากกว่านั้นอีกเหรอ"

เสิ่นอี้พูดอย่างช้าๆ ว่า "ตอนนั้นขนาดพึ่งพลังของพวกเขาหลายคน ยังไม่มีหนทางฆ่าราชาผีดิบได้เลย ทำได้เพียงแค่พึ่งพลังของผนึก ทำให้ราชาผีดิบถูกผนึกได้ชั่วคราวเท่านั้น แต่ใครจะรู้ นี่ไม่ใช่ทางออกในระยะยาว! ดังนั้นต้องทำอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะถอนรากถอนโคนได้ วิธีการที่ดีทีสุดคือต้องฆ่าราชาผีดิบ! แต่เห็นได้ชัดว่ายากมากๆ ขนาดพึ่งพลังของพวกเขาหลายคนยังไม่พอเลย!"

"ครั้งนั้นผู้นำของตระกูลเย่จึงคิดวิธีหนึ่งขึ้นมา ถ้าพึ่งพลังของพวกเขาทุกคน แล้วยังหมดหนทางฆ่าราชาผีดิบ ถ้าเช่นนั้นคงต้องพึ่งพลังของฟ้าดินเท่านั้น ว่าจะทำได้หรือไม่"

เหลียงเซิ้งพูดอย่างประหลาดใจว่า "วิธีการนี้ ผู้นำตระกูลเย่เป็นคนคิดออกมางั้นเหรอ" 

เสิ่นอี้ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า "ปีนั้นผู้นำของตระกูลเย่ ผู้สืบทอดคนนั้น เป็นบุคคลที่เก่งกาจมากจริงๆ เป็นเพียงนักล่าผีดิบ ทว่ายังรู้วิชาดาราศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญในการผนึกในรูปแบบต่างๆ วิธีการที่ผนึกราชาผีดิบ ก็เป็นสิ่งที่เขาคิดออกมา ผนึกนั้นก็เป็นเขาที่ออกแบบออกมา จุดประสงค์ของการออกแบบผนึกนี้ ไม่เพียงเพื่อผนึกราชาผีดิบอย่างถาวรเท่านั้น เขายังคิดอยากผนึกราชาผีดิบไปชั่วนิจนิรันดร กระทั่งอยากฆ่าราชาผีดิบอีกด้วย" 

หลังจากที่ตกตะลึงอยู่นาน เย่หนิงจึงถามว่า "โดยเป็นใช้พลังของวันสุริยุปราคาเหรอคะ"

"ใช่!” เสิ่นอี้พยักหน้า "ความจริงแล้ววันสุริยุปราคา สามารถทำให้พลังของผนึกอ่อนแรงมาก แต่ในเวลาเดียวกัน ก็ยังช่วยลดพลังของวิญญาณมืดให้อ่อนแรงลงด้วย"

"วิญญาณมืดเหรอ" เย่หนิงเบิกตามองเสิ่นอี้อย่างกระหายใคร่รู้

เสิ่นอี้ฉีกยิ้มอย่างไม่สนใจเลยสักนิด "ยกตัวอย่างเช่นก็เหมือนกับพวกเราตอนนี้! เพราะในสายตาของมนุษย์อย่างพวกคุณ พวกเราที่ดำรงอยู่โดยไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ก็คือวิญญาณมืดไงล่ะ"

เย่หนิงอดประหลาดใจไม่ได้ "วันสุริยุปราคา ก็ทำให้พลังของพวกคุณอ่อนแรงด้วยงั้นเหรอคะ"

"ใช่ครับ!" เสิ่นอี้พยักหน้าพลางพูดว่า "พลังจะยิ่งอ่อนแรง ความรู้สึกเช่นนี้เห็นได้อย่างชัดเจนมาก เดิมทีแล้วคนแบบราชาผีดิบ ความจริงแล้วไม่มีผลกระทบอะไรกับเขาเลย แต่พอถูกผนึกอยู่ข้างในนั้น ก็เลยไม่ต่างกัน!"

"ไม่แตกต่างกันงั้นเหรอ" เย่หนิงพูดเสียงเบา "หรือว่าหมายถึงอย่างนี้" 

"ก็หมายถึงอย่างนี้ล่ะครับ!" เสิ่นอี้พูดอธิบาย "ถ้าไม่มีผนึก พลังของราชาผีดิบคงไม่ได้รับผลกระทบมากถึงขนาดนี้หรอก ถึงเขาจะฝึกพลังปราณเอาไว้สูงส่ง แต่พอ มีผนึกนี้ ก็สามารถทำให้พลังของราชาผีดิบอ่อนแรงได้เช่นกัน แล้วอีกอย่างก็ค่อยๆ ลดพลังของเขาลงไปเรื่อยๆ ด้วย"