webnovel

ตอนที่ 263

ตอนที่ 263 จับกุมครั้งใหญ่

ทางตำรวจกำลังสืบสวนคดีของเทียนเหิงกรุ๊ป หลังจากนั้นไม่นานมากนักก็ประกาศออกไปอีกครั้งว่า 'ทางตำรวจได้พัฒนายาต้านเชื้อตัวใหม่ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถรักษาเชื้อที่พัฒนาโดยกลุ่มเทียนเหิงกรุ๊ปได้อย่างสมบูรณ์ แต่กลับบรรเทาอาการได้อย่างดี ทำให้ทางตำรวจสามารถช่วยเหลือเหยื่อพวกนั้นได้ หลังจากที่ผ่านการใช้ยาแล้ว อาการของเชื้อจะได้รับการควบคุม และมีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น เชื่อได้ว่าถ้าใช้ไปสักพัก จะต้องหายขาดอย่างแน่นอน’ 

เมื่อได้เห็นข่าวนี้ เย่หนิงก็ฉีกยิ้ม แล้วพูดกับเสิ่นอี้ว่า "นี่มันยอดเยี่ยมจริงๆ เลย!"

เสิ่นอี้ฉีกยิ้มอย่างเฉยเมย แล้วพูดว่า "ที่จริงแล้วไม่ต้องให้พวกเราไปสืบหรอก คิดดูก็รู้ ฉินเฉาฮุ้ยมีวิธีการอะไรเพื่อทำให้ผู้นำเหล่านั้นทำงานเพื่อเขา ถึงอย่างไรทั้งหมดนี่ก็เกี่ยวข้องกับผู้คนหมู่มาก นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย! พึ่งแค่เงินอย่างเดียวไม่ได้อย่างแน่นอน เขาต้องมีวิธีที่ดีกว่า ในการควบคุมผู้คนเหล่านั้น วิธีการอะไรล่ะ ก็ต้องให้คนพวกนั้นเสพติดยาเข้าไปน่ะสิ!”

"พวกผู้นำพวกนั้นกินยาของฉินเฉาฮุ้ย บางทีช่วงเวลาหนึ่งอาจจะรู้สึกว่าร่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีจริง คล้ายกับว่าได้เปลี่ยนไปเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง แต่มันจะตลอดไปงั้นเหรอ แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว! มันเป็นเพียงยาเสพติดชนิดหนึ่ง ใช้ยาควบคุม ถ้าวันไหนขาดยาเข้า...ก็ยกตัวอย่างเช่น มีคนคนหนึ่ง จู่ๆ ก็ไม่อยากทำงานให้ฉินเฉาฮุ้ยแล้ว รู้สึกหวาดกลัว อยากวางมือ ฉินเฉาฮุ้ยจะทำอย่างไรล่ะ"

เย่หนิงครุ่นคิดแล้วพูดขึ้นว่า "ความจริงแล้วฉินเฉาฮุ้ยไม่ต้องทำอะไรเลย! แค่เขาไม่ให้ยาแก่คนคนนั้นต่อก็พอแล้ว คนคนนั้นคงจะคิดอย่างไร้เดียงสามากๆ ถ้าทำให้ร่างกายของเขาแข็งแรงมากขึ้น หลังจากนี้เรื่องกินยานั้นก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว แต่ใครจะไปรู้ เขาขาดยาไปไม่กี่วัน ทันใดนั้นตนเองก็เริ่มเปลี่ยนเป็นชิ้นเนื้อเน่าเปื่อยเสียแล้ว..." 

เสิ่นอี้พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ชีวิตคนๆ หนึ่ง จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นชิ้นเนื้อเน่าเปื่อยอย่างไม่สาเหตุ...คงจะทำให้ผู้คนตกใจมากจริงๆ"

เย่หนิงฉีกยิ้ม "ยิ่งกว่าตกใจเสียอีกค่ะ คนคนนี้ไปโรงพยาบาลหลายแห่ง ทว่ากลับดูไม่ออกว่าเป็นโรคอะไร แน่นอนเขาเองก็ตระหนักได้ว่าสาเหตุของการเน่าเปื่อยคืออะไร แล้วรู้ด้วยว่าหากตนเองเน่าเปื่อยเช่นนี้อีกต่อไปต้องตายแน่นอน และอีกอย่างสภาพการตายคงจะดูน่าเกลียดมากๆ เผลอๆ คนในครอบครัวของเขาก็อาจจะติดเชื้อ ถึงได้รู้สึกหวาดกลัวเข้าไปอีก"

"เดิมทีเขาคงคิดว่าโรคแปลกๆ นี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทว่ากลับคิดไม่ถึง วิ่งไปหลายโรงพยาบาล แต่กลับยังรักษาอาการป่วยได้ไม่หายขาด กลับกันยิ่งอยู่อาการก็ยิ่งหนักขึ้น! ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาต้องตายอย่างแน่นอน ขนาดคนในครอบครัวของเขาก็พลอยต้องตายไปด้วย ขัดขืนต่อไปไม่ได้แล้ว เขาก็เลยต้องกลับไปติดต่อกับฉินเฉาฮุ้ยอีกครั้ง"

เสิ่นอี้พยักหน้าแล้วพูดว่า "ต้องมีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน! ให้พูด ฉินเฉาฮุ้ยคงจะเก่งในการจับจุดอ่อนของคน กลัวตายเป็นจุดอ่อนหนึ่ง ยังมีความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ก็เป็นจุดอ่อนอีกจุดหนึ่งที่ใหญ่มากๆ! ฉินเฉาฮุ้ยเองก็ใช้จุดอ่อนพวกนี้กับผู้คน ควบคุมเอาไว้ในกำมือของตนเอง ก็ยกตัวอย่างเริ่มแรกที่ใช้ประโยชน์จากเซียะยุ่นผิง จะไม่เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร! เซียะยุ่นผิงเป็นเพียงหมากรุกตัวหนึ่งที่ไม่สะดุดตามากนัก ยังไม่ได้รับรองให้ไปอยู่ในชั้นที่สูงกว่า มิฉะนั้นคาดว่าก็ยากที่จะหลบหนีความโชคร้ายนี้ด้วยเช่นกัน"

เย่หนิงพูดขึ้นว่า "คนที่เสพยาพวกนั้นก็เหมือนกับที่คุณพูด ฉินเฉาฮุ้ยต้องให้ยากับพวกเขาเอาไว้ไม่มากอย่างแน่นอน ทุกครั้งที่ให้ยากับพวกเขา จะอยู่ได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น พอไม่มียาพวกเขาก็จะลำบาก! เรื่องมาถึงตอนนี้ ถ้าอยากปกป้องชีวิตของตนเองและคนในครอบครัว นอกเหนือจากการยอมจำนนกับตำรวจ คาดว่าพวกเขาก็คงจะออกนอกลู่ไม่ได้เลย ไม่อย่างนั้นก็คงทำได้เพียงแค่รอความตาย แต่จวงหมิงหานก็เก่งจริง สามารถวิจัยยาแก้พิษออกมาในช่วงเวลาสั้นๆ ขนาดนี้"

เสิ่นอี้ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า "เรื่องนี้ จวงหมิงหานเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากจริงๆ!"

เย่หนิงพูดหยอกล้อว่า "โชคดีที่ก่อนหน้านี้ฉินเฉาฮุ้ยไม่รู้ความสามารถนี้ของเขา ไม่อย่างนั้นบางทีคงจะลักพาตัวเขาเข้าไปที่เทียนเหิงกรุ๊ป ให้จวงหมิงหานช่วยพวกเขาทำการวิจัยผีดิบพวกนี้ตั้งแต่แรกแล้ว!"

"ฮ่าๆ!" เสิ่นอี้หัวเราะ "พูดมีเหตุผล! โชคดีที่พวกเขาไม่รู้ ถ้ารู้เข้า บางทีจวงหมิงหานอาจถูกพวกเขาจับไปตั้งแต่แรกจริงๆ แต่เจ้าหมอนี้แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ได้ดูสะดุดตาอยู่แล้วด้วย”

เย่หนิงหลุดหัวเราะออกมาอย่างทันที

เสิ่นอี้หาสาเหตุไม่ได้ "ทำไมครับ ตลกขนาดนั้นเลยเหรอ" 

"ตลกมาก..." เย่หนิงรู้สึกตลกจนหยุดไม่อยู่แล้ว 

เสิ่นอี้ยิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้น "เสี่ยวหนิง มีเรื่องอะไรที่ทำให้คุณขำถึงขนาดนี้เหรอครับ" 

"ไม่สะดุดตาเหรอคะ ฮ่าๆๆ...คุณบอกว่าจวงหมิงหานไม่สะดุดตา...ฉันว่านะเป็นเพราะเขาหล่อมากต่างหาก ดังนัทุกคนจึงให้ความสนใจกับรูปลักษณ์ภายนอกของเขาเสมอ กระทั่งว่าไม่...ฮ่าๆๆ พึ่งหน้าหาเงินกินข้าวชัดๆ...พึ่งกำลังเพียงน้อยนิด...ไม่ไหวแล้ว ฉันหัวเราะจนใกล้จะตายอยู่แล้วเนี่ย!"

เสิ่นอี้ทั้งอารมณ์ดีและรู้สึกตลก ดึงแก้มเล็กของเย่หนิง ฉีกยิ้มแล้วพูดขึ้น "พูดจาเหลวไหลอะไรอีกล่ะครับ" 

เย่หนิงหัวเราะจนรู้สึกปวดไปทั่วทั้งท้อง "ฉันไม่ได้พูดจาเหลวไหลนะคะ! ก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้วนี่นา!"

พูดให้พูด พอตำรวจประกาศข้อมูลเหล่านี้ออกไป คาดไม่ถึงว่าจะสั่นสะเทือนเป็นจำนวนมาก แล้วอีกอย่างก็เป็นอย่างที่เสิ่นอี้และพวกเขาคาดเดากันเอาไว้ ทุกครั้งฉินเฉาฮุ้ยจะจัดเตรียมยาให้ตัวหมากพวกนั้นไม่มากนัก อย่างมากที่สุดก็เพียงพอสำหรับหนึ่งเดือนเท่านั้น และอีกอย่างปริมาณยาของทุกๆ คนก็ไม่เหมือนกัน หลังจากที่ทางตำรวจประกาศข้อมูลเหล่านี้ออกไปไม่นาน ก็เริ่มมีคนทยอยเข้ามามอบตัว 

พอไม่ได้ยา พวกเขาเป็นได้แค่คนตายที่เดินได้เท่านั้น เพื่อคนในครอบครัวของตนเองที่โดนหางเลข จึงต้องมอบตัว แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ก็ตาม แต่อย่างน้อยที่สุด ก็สามารถรับประกันความปลอดภัยของคนในครอบครัวได้

เพียงแต่เย่หนิงและเสิ่นอี้ต่างก็มีเรื่องที่คิดไม่ถึงว่าจะมีพนักงานที่เกี่ยวข้องมากถึงขนาดนี้ ทั้งพนักงานระดับสูงและพนักงานระดับล่าง คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีถึงสองร้อยกว่าคน และนอกจากนั้นแล้ว ก็ยังมีข้าราชการคนอื่นๆ บวกเพิ่มเข้าไปอีก หกถึงเจ็ดร้อยกว่าคน ทั้งหมดต่างเป็นพนักงานระดับสูง และพวกผู้บังคับบัญชา กระทั่งว่ายังมีอธิการบดีของโรงพยาบาล ผลลัพธ์เช่นนี้ความจริงแล้วทำให้ผู้คนต่างตกใจ พวกเขาต่างคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเครือข่ายของเทียนเหิงกรุ๊ปจะมีมากถึงขนาดนี้ มีตัวหมากที่หลบซ่อนอยู่ราวๆ พันคนได้

และในหมู่คนพวกนั้น พวกเขาเองก็ได้รับเบาะแสมากมาย คดียิ่งขุดลงไปลึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกตกใจ คิดไม่ถึงว่าเทียนเหิงกรุ๊ปที่ก่อตั้งมาจนถึงวันนี้ จะก่อคดีฆาตกรรมเอาไว้มากมาย ทำบาปทำกรรมเอาไว้มากจนเกินจะพูดหมด

ทางตำรวจเองก็เริ่มการค้นหาครั้งใหญ่ ออกประกาศนำจับกว่าสิบฉบับ ประกาศนำจับคนตำแหน่งสูงในเทียนเหิงกรุ๊ปกว่าสิบคน ทั้งเป็นหัวโจกในการก่อคดี พอเริ่มการเคลื่อนไหว บางคนก็ค่อยๆ ถูกจับกุม และคนที่ก่อคดีบ้างก็มีเบาะแส บางส่วนก็ไม่มีเบาะแสใดๆ ต้องติดตามเบาะแส โดยเฉพาะคนที่ก่อคดีหลักๆ ที่สำคัญที่สุดสองคน ฉินเฉาฮุ้ยและซีซาน่า

สองคนนี้ ดูเหมือนว่าจะระเหยหายไป ไม่มีข้อมูลเลยสักนิดเดียว

ถึงแม้ว่าจะสอบถามคนตำแหน่งสูงๆ ของเทียนเหิงกรุ๊ปคนอื่นๆ ทว่าไม่มีคนพูดออกมา ตัวการสำคัญสองคนนี้ หลบไปอยู่ที่ไหนกันแน่ แล้วก็ไม่มีคนรู้ด้วยว่าพวกเขาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน