webnovel

ตอนที่ 226

ตอนที่ 226 พยานบุคคลที่น่าสงสัย

ความรักทำให้โลกกลายเป็นสีชมพูงั้นเหรอ 

พอความคิดนี้ปรากฏขึ้นมา ขนาดเย่หนิงเองยังต้องตกใจ 

เหลียงกังชอบเสี่ยวหลิงงั้นเหรอ

น้องสาวข้างบ้านงั้นเหรอ

อีกทั้งยังเป็นชายหญิงที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก

ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ มิน่าล่ะ มิน่าเหลียวกังคนนี้ถึงได้ร้องไห้อย่างเจ็บปวดใจเช่นนี้!

ผู้ชายคนนี้น่าสงสารจริงๆ!

พาคนที่ตนเองรักมาทำงาน ผลกลายเป็นว่าคนที่ตนเองรักเปลี่ยนเป็นผู้หญิงของคนอื่น จนสุดท้าย ยังถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ถูกแขกฆ่า หลายเดือนมานี้เหลียงกัง ต้องเศร้าและรู้สึกผิดอย่างแน่นอน ความรู้สึกต้องย่ำแย่มากแน่ๆ 

คิดเช่นนี้ เธอกลับเข้าใจความรู้สึกของเหลียงกังเป็นอย่างมาก รู้ว่าทำไมเหลียงกังถึงเกลียดฉินเฉาฮุ้ยขนาดนี้! เพราะสำหรับเหลียงกัง ฉินเฉาฮุ้ยที่ถูกใส่ร้ายก็คือผู้ร้ายที่ฆ่าเสี่ยวหลิงจนตาย 

เย่หนิงแอบส่งข้อความไปให้เสิ่นอี้ 'เหลียงกังชอบเสี่ยวหลิงเหรอ' 

เสิ่นอี้หยิบโทรศัพท์มือถือ มองข้อความของเย่หนิง ไม่พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้า 

แต่เหลียงกังพูดถึงแรงจงใจของฆาตกรเช่นนั้น ฝืนใจว่าเป็นแรงจูงใจในการฆ่าจริงๆ ทว่าปัญหาที่สำคัญคือฉินเฉาฮุ้ยไม่มีเวลาก่อคดี ถ้าทั้งสองคดีนี้เป็นคนเดียวกัน ต้องไม่ใช่ฉินเฉาฮุ้ยอย่างแน่นอน 

จากวิดีโอที่คัดลอกมาจากเทียนเหิงกรุ๊ป เมื่อคืนพวกเขาดูกันหมดแล้ว ทุกๆ คน ทุกๆ วิดีโอ แยกดู เปลี่ยนดู ดูกลับไปกลับมา ภาพในกล้องวงจรปิดพบฉินเฉาฮุ้ยอยู่หลายครั้ง ขนาดวิดีโอกล้องวงจรปิดในลิฟต์ก็มองเห็นเขา

ครั้งแรกคือตอนหนึ่งทุ่มกว่า อยู่กับเจ้าหน้าที่ชั้นสูงหลายคนของเทียนเหิงกรุ๊ป ขึ้นลิฟต์ไปที่ร้านอาหารเล็กๆ ที่ชั้น 35 แล้วขึ้นลิฟต์กลับมาที่ชั้น 55 

ครั้งที่สองตอนใกล้เที่ยงคืน ครั้งนี้ยังมีคนอีกหลายคน นอกจากเจ้าหน้าที่ชั้นสูง ยังมีพนักงานคนอื่น ที่ขึ้นลิฟต์ไปกินอาหารที่ชั้น 35 ครั้งนี้กินค่อนข้างนานเกือบจะหนึ่งชั่วโมงได้

พอกินข้าวเสร็จ คนส่วนใหญ่ลงลิฟต์ แล้วหลังจากนั้นก็ออกไปจากบริษัท มีแค่ฉินเฉาฮุ้ยและรองประธาน ทั้งยังมีผู้ช่วยอีกสองคน กลับไปที่ออฟฟิศของเขาที่อยู่ชั้นที่ 55 

ใกล้จะตีสาม ถึงได้เห็นรองประธานคนนั้นและผู้ช่วยสองคนของฉินเฉาฮุ้ยออกมา แต่ฉินเฉาฮุ้ยไม่ได้ออกมา

ตามที่พวกเขาได้สืบก่อนหน้านี้ ก็เลยรู้ว่าออฟฟิศของเขาและห้องนอนของฉินเฉาฮุ้ยอยู่ชั้นบนสุดของบริษัท จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะอยู่ที่บริษัท มีบางครั้งเขายังพาผู้หญิงจากข้างนอกกลับมาข้างคืนด้วย ทุกคนเองก็ไม่แปลกใจเลยด้วย

หลังจากนั้นตอนเช้าของวันถัดมาตอนสิบโมงกว่าๆ เห็นเขาลงมาจากลิฟต์ไปที่ชั้น 35 ไปกินข้าวที่ร้านอาหารคนเดียว ไม่ถึงเที่ยงก็กลับไปแล้ว 

หลังจากนั้น กระทั่งตอนบ่ายสามโมงกว่าๆ ถึงได้เห็นเขากับผู้ช่วยของเขา และพนักงานชั้นสูงคนอื่นๆ ลงมาชั้นล่าง มาที่ลานจอดรถแล้วออกไป คาดว่าคงจะออกไปกินข้าวเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงก็กลับมา แล้วหลังจากนั้นก็เห็นอีกทีที่ประตูใหญ่ ซึ่งคือเวลาที่เย่หนิงและพวกเขาไปที่นั่น ไปหาฉินเฉาฮุ้ย

นอกจากสถานที่ไม่กี่แห่งนี้ ภาพอื่นๆ ในกล้องวงจรปิด ทั้งหมดแทบจะไม่ได้ถ่ายฉินเฉาฮุ้ยเอาไว้เลย

เทียนเหิงกรุ๊ปมีลิฟต์ทั้งหมดแปดตัว นอกจากฉินเฉาฮุ้ยที่ใช้ลิฟต์นั้นเป็นปกติแล้ว กล้องวงจรปิดที่ลิฟต์ตัวอื่นๆ ก็ไม่ได้ถ่ายเขาเอาไว้เลย 

อีกอย่าง กล้องวงจรปิดบนทางเดินก็ไม่ได้ถ่ายเขา

มีภาพอยู่ที่ลานจอดรถสองครั้ง ก็คือเมื่อออกไปตอนบ่ายสามโมงกว่าและกลับมาตอนบ่ายสี่โมงครึ่ง

ในช่วงเวลานี้ที่ประตูใหญ่ถ่ายได้แค่หนึ่งครั้ง ก็คือตอนที่เขากลับมา เพราะตอนที่พวกเขาออกไป ตอนที่เดิน กล้องวงจรปิดถ่ายติดข้างหลังของเขาได้

ก็คือทุกๆ ช่วงเวลา นี่เป็นภาพของกล้องวงจรผิดไม่กี่อันเท่านั้น เย่หนิงและคนอื่นเอามาโยงไขว้กัน หลายต่อหลายครั้งจนมั่นใจ และอีกอย่างเนื้อหาของกล้องวงจรปิดก็ได้รับการตรวจสอบแล้ว ไม่มีปัญหาใดๆ นี่จึงสามารถยืนยันได้ว่า ในช่วงเวลาที่เสี่ยวถิงถูกทำร้าย ฉินเฉาฮุ้ยไม่ได้ออกไปจากเทียนเหิงกรุ๊ป เขาไม่มีเวลาไปก่อคดี และภาพเสี่ยวถิงก็ไม่ได้ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด ดูแล้วเธอคงไม่ได้มาที่เทียนเหิงกรุ๊ป

นี่จึงตัดสินได้ว่า คำให้การของฉินเฉาฮุ้ยนั้นเป็นความจริง เดิมทีเสี่ยวถิงโทรมาหาฉินเฉาฮุ้ย แต่ในสองวันนี้ฉินเฉาฮุ้ยไม่ว่างพอดี ก็เลยไม่มีเวลาไปพบเธอ ดังนั้นเสี่ยวถิงอยากเจอฉินเฉียวฮุ้ยก็เลยไม่สำเร็จ เลยไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเสี่ยวถิงไปพบใคร แล้วทำไมถึงได้ถูกฆาตกรฆ่า 

ภายในใจของเย่หนิงรู้สึกสงสัย ก็ได้ยินเสิ่นอี้พูดว่า "เหลียงกัง คุณสงสัยว่าทั้งเสี่ยวหลิงและเสี่ยวถิง ล้วนถูกฉินเฉาฮุ้ยฆ่าทั้งคู่ ทั้งยังบอกว่าฉินเฉาฮุ้ยเพื่อที่จะสลัดพวกเธอทั้งสองที่เข้ามายุ่งเกี่ยว ก็เลยฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยม คดีของเสี่ยวหลิง ก่อนหน้านี้พวกเราไม่ได้เป็นคนจัดการก็เลยพูดไม่ได้ งั้นพวกเรามาพูดถึงคดีที่เสี่ยวถิงถูกทำร้ายกันเถอะครับ!" 

"ตามที่ผมรู้ ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนก่อน ฉินเฉาฮุ้ยไม่ได้มาที่บาร์ของพวกคุณ แล้วคืนก่อนหน้านี้ ตอนที่เขาไป เสี่ยวถิงเองก็ป่วยพอดี ลาพัก เช่นนี้ไม่ผิดใช่ไหมครับ"

เหลียงกังรีบพูดขึ้นว่า "ถึงเขาจะไม่มา ก็เหมือนกันเขานัดเสี่ยวถิงออกไป! บางที่อาจจะตั้งใจไม่มา เพื่อต้องการหลีกเลี่ยงความน่าสงสัย ไม่อย่างงั้นจะทำให้คนอื่นสงสัยได้ และอีกอย่าง คืนก่อนเสี่ยวถิงไม่ได้ออกไปพบฉินเฉาฮุ้ยงั้นเหรอ ยังต้องพูดอะไรอีก ฉินเฉาฮุ้ยต้องจงใจนัดเธอไปฆ่าอย่างแน่นอน"

พอเย่หนิงได้ยิน ถึงกับอดขมวดคิ้วไม่ได้ ทำไมเธอยิ่งฟังเธอยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้ออกนอกโลกไปนะ!

แต่พอมองเสิ่นอี้เขากลับยังสงบนิ่ง แล้วกล่าวเสียงเรียบว่า "เบาะแสทั้งหมดที่คุณให้นั้นสำคัญมากๆ พวกเราจะตั้งใจตรวจสอบ ขอบคุณในความร่วมมือของคุณมากๆ"

เหลียงกังรีบพูดว่า "ไม่เป็นไรๆ ช่างมันเถอะ แค่คุณสามารถจับฆาตกรได้เร็วๆ ก็ดีแล้ว"

เสิ่นอี้ฉีกยิ้มเล็กน้อย "คุณเหลียง คุณวางใจได้! พวกเราจะจับกุมตัวฆาตกรโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างแน่นอน"

หลังจากออกมาจากหอของเหลียงกัง เสิ่นอี้ก็เลยถามเย่หนิงและกวานอี้เหลียงว่า "พวกคุณมีความเห็นยังไงบ้าง" 

เย่หนิงพูดขึ้นทันที "ฉันคิดว่าเหลียงกังคนนั้น ความจริงแล้วน่าสงสัยมากๆ เลย" 

กวานอี้เหลียงประหลาดใจ "เหลียงกังเหรอ" 

เสิ่นอี้พยักหน้า แล้วพูดว่า "คุณก็คิดว่าเหลียงกังน่าสงสัยมากๆ งั้นเหรอ เสี่ยวหนิง คุณว่าคุณรู้สึกว่าเขาน่าสงสัยตรงไหน"

เย่หนิงครุ่นคิด แล้วพูดว่า "งั้นฉันจะพูดตามความเห็นของฉันเลยนะ"

เสิ่นอี้อมยิ้ม "คุณพูดมาเถอะ" 

เย่หนิงก็เลยพูดว่า "ดูแล้วเหลียงกังคนนี้ มีความรู้สึกที่ลึกซึ้งมากๆ กับเสี่ยวหลิง! เขาคงจะรักเสี่ยวหลิงคนนั้นมากๆ ดังนั้นพอเสี่ยวหลิงตาย เขาถึงได้รู้สึกเสียใจ กระทั่งเสี่ยวถิง...เธอเป็นคนที่มีความขัดแย้งกับเสี่ยวหลิงมาก เพราะปัญหาเรื่องทะเลาะตบตี ไม่รู้ว่าทั้งสองคนนี้มีความขัดแย้งกันกี่ครั้ง แข่งขันกันกี่ครั้ง กระทั่งยังมีการลงไม้ลงมือ ประเด็นสำคัญคือ พอเสี่ยวหลิงตายไป เสี่ยวถิงก็คือคนที่น่าสงสัยมากที่สุด"

กวานอี้เหลียงประหลาดใจ "คุณหมอเย่ ความหมายของคุณคือ เหลียงกังคิดว่าเสี่ยวหลิงถูกเสี่ยวถิงฆ่า ดังนั้นเขาจึงไปฆ่าเสี่ยวถิง แก้แค้นให้เสี่ยวหลิงงั้นเหรอ" 

เย่หนิงพยักหน้าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้ไม่ต้องพูดถึงว่าเสี่ยวหลิงถูกใครฆ่า แต่สำหรับคดีที่เสี่ยวถิงถูกทำร้าย เหลียงกังคนนี้เป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุด" 

กวานอี้เหลียวหมดคำพูด "แต่ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็ไม่ต้องพูดต่อไปแล้วน่ะสิ!"