webnovel

ตอนที่ 220

ตอนที่ 220 คนปกติไม่มีทางเห็น

ลู่เว่ยหุบยิ้ม "เสี่ยวถิงคนนี้น่าตลกชะมัด เรื่องแบบนี้มีอะไรให้ทะเลาะ พวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแบบสามีภรรยาเสียหน่อย ไม่ใช่ว่ามีโอกาสก็เล่นสนุกบ้างเป็นครั้งคราวหรอกหรอ วันไหนที่ผู้ชายไม่มีเงิน มาหาเธอ เธอก็คงจะไม่สนใจหรอก เพื่อเรื่องนี้ยังจะทะเลาะกับอีก"

จงอี้ฮ่าวเองก็ยิ้ม "ใครบอกไม่ใช่กันล่ะ" 

หยางปินกลับปวดหัวมากขึ้น "ความสัมพันธ์ของชายหญิงซับซ้อนมากจริงๆ! ผู้ชายคนนั้นก็คือคนที่พาไปเสี่ยวเหลียนไปตั้งแคมป์เมื่อคืนวาน" 

"ถูกต้อง ก็คือเขาคนนั้น!" เหล่าเทียพูด "เขาชื่อฮวางซูหรง เป็นรองประธานบริษัทสายการบิน แล้วก็เป็นแขกประจำของคลับฮวางเจีย ความจริงแล้วที่บาร์ฮวางเจียมีหญิงสาวไม่น้อยเลยที่สนิทมากๆ กับเขา ได้ยินว่าเมื่อหลายวันก่อน ยังพาผู้หญิงคนใหม่ออกไปเที่ยว แต่ฮวางซูหรงคนนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉินเฉาฮุ้ย ถ้าบอกว่ามีความแค้นก็ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลย”

หยางปินถามเสิ่นอี้ว่า "ศาสตราจารย์เสิ่น พวกเราต้องไปเทียนเหิงกรุ๊ปก่อนใช่ไหม" 

เสิ่นอี้พูดว่า "เทียนเหิงกรุ๊ปต้องไปอย่างแน่นอนอยู่แล้ว ฉินเฉาฮุ้ยคนนั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องไปเจอ ดูว่าเป็นคนยังไง เช่นนี้แล้วพวกคุณกลับไปที่ที่เขาอยู่อีกครั้ง ไปสักรอบ ถามทุกคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดูว่าจะถามอะไรได้บ้างไหม! ไม่อย่างงั้นตอนนี้ขนาดรูปโปรไฟล์ของเขาพวกเราก็คงจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำ!"

เสิ่นอี้พูดจบ พูดกับเย่หนิงอีกครั้งว่า "เสี่ยวหนิง พวกเราไปเทียนเหิงสักรอบเหอะ" 

"พวกเราเหรอ" 

"ยังมีลู่เว่ยด้วย" 

ลู่เว่ยรีบพูดว่า "ได้! ผมเองก็กำลังอยากไปหาเจ้าหมอนั่นอยู่พอดี!"

หยางปินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า "ศาสตราจารย์เสิ่น ต้องรบกวนคุณแล้ว ได้ยินว่าฉินเฉาฮุ้ยคนนั้นจัดการได้ไม่ง่ายเลย"

"ไม่เป็นไรครับ" เสิ่นอี้ฉีกยิ้มอย่างไม่สนใจเลยสักนิด "แค่คุณชายแห่งเทียนเหิงกรุ๊ปเท่านั้น ไม่ใช่คุณชายจริงๆ เสียหน่อย กลัวอะไร"

เย่หนิงกลับเข้าใจในความหมายเช่นนี้ของเสิ่นอี้ คนที่มีอายุมาพันกว่าปี มีคนใหญ่คนโตแบบไหนบ้างที่ไม่เคยพบ มีอุปสรรคอะไรบ้างที่ไม่เคยเจอ ประธานบริษัทดังกล่าวยังต้องสนใจอีกงั้นเหรอ

คนทั้งสามมาถึงเทียนเหิงกรุ๊ป พอบอกว่ามาพบฉินเฉาฮุ้ย พนักงานต้อนรับถามพวกเขาตรงๆ ว่าพวกเขาได้นัดเอาไว้ไหม ถ้าไม่ได้นัดเอาไว้พวกเขาอยากให้นัดก่อนถึงจะจัดให้พบได้ ทั้งยังบอกออกมาว่า 'ฉินเฉาของพวกเรายุ่งมาก ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเจอได้ ไม่ต้องมาพูดว่าคุณเป็นตำรวจ ขนาดเป็นประธานาธิบดีมายังต้องรอเลย'

ความจริงแล้วลู่เว่ยรู้สึกเหลืออด "นี่ พวกคุณเป็นบ้าอะไรกัน! พูดกับคุณเลยนะ พวกเราตำรวจจัดการคดี คุณหมายความว่าอะไร ไม่อยากให้พวกเราเข้าไปเหรอ อาชญากรรมที่ขัดขวางตำรวจในการจัดการคดีหมายความอะไร คุณรู้ใช่ไหม"

หญิงสาวที่รับผิดชอบแผนกต้อนรับฉีกยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดด้วยสีหน้าสงบนิ่งว่า "ขออภัยค่ะ บริษัทมีกฎเกณฑ์ของบริษัท ถ้าฉันปล่อยคุณเข้าไปเช่นนี้ หัวหน้าของฉันต้องต่อว่าฉันแน่ๆ เมื่อถึงเวลานั้น ถ้าฉันตกงานจะทำยังไง พวกคุณกลับไปที่สถานีตำรวจเถอะค่ะ "

ลู่เว่ยพูดอย่างอารมณ์เสียว่า "งั้นก็โทรศัพท์สิ ขออนุญาตจากหัวหน้าของพวกคุณ"

หญิงสาวคนนั้นยังคงยิ้ม ส่ายหัว "ต้องขออภัย ถ้าพวกคุณอยากเจอประธานฉิน นอกจากนัดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่อย่างนั้นก็จะพบประธานฉินไม่ได้ค่ะ ต่อให้ฉันมีความกล้ามากขนาดไหน ฉันก็ไม่กล้าปล่อยให้พวกคุณเข้าไป คุณตำรวจทุกท่าน พวกคุณต้องนัดประธานฉินก่อน เขาถึงจะจัดเวลาให้พวกคุณเข้าพบได้" 

"อ่อ" ลู่เว่ยอารมณ์เสีย "ถ้าประธานฉินของพวกคุณฆ่าคน แล้วพวกเราต้องจับตัวเขา ต้องนัดล่วงหน้าไหม"

หญิงสาวคนนั้นฉีกยิ้ม "คุณเจ้าหน้าที่ คุณขี้เล่นจริงๆ เลย!"

เสิ่นอี้เองก็ฉีกยิ้ม "ดูแล้ว ฉินเฉาฮุ้ยเป็นวัวสันหลังหวะจริงๆ ไม่อย่างงั้นทำไมขนาดตำรวจอย่างพวกเราถึงยังไม่กล้าพบ! ถ้าเป็นอย่างนี้งั้นก็ไม่ต้องพบแล้ว พวกเราแน่ใจแล้ว เขาไม่ให้ความร่วมมือในการสืบสวน พวกเราก็ทำได้แค่คิดว่าเขาก็คือฆาตกร! ได้ น้องสาว คุณไม่ต้องกังวล หลังจากที่เพื่อนร่วมงานของพวกเรามาก็จะพุ่งไปจับเขา พอประธานบริษัทของคุณถูกจับ คุณก็ไม่ต้องกังวลว่าประธานบริษัทจะตำหนิคุณแล้ว ใช่ไหม"

เสิ่นอี้พูดพลาง หันออกไปโทรศัพท์ 

หญิงสาวคนนั้นตื่นตระหนกเล็กน้อย รีบพูดว่า "คุณตำรวจทุกท่านคะ พวกคุณล้อเล่นอะไรกันอยู่ ทำไมประธานฉินของพวกเราจะต้องให้ความร่วมมือกับการสอบสวน เขายุ่ง ประธานฉินของพวกเรายุ่งมากๆ จริงๆ ทุกวันต้องมีเรื่องจัดการมากมาย มีแขกเยอะแยะมาขอพบ แน่นอนว่าต้องนัดเอาไว้ล่วงหน้าถึงจะได้พบ ไม่อย่างนั้นพวกคุณอยากเจอ คนนั้นเองก็อยากเจอ แล้วพวกเราประธานฉินจะจัดการกันยังไงล่ะ"

จู่ๆ เย่หนิงก็ถามขึ้นมาว่า "คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันเองก็มีเรื่องจะถามคุณ หมอที่โรงพยาบาลยุ่งไหม ทุกวันมีคนป่วยมากมาย ข้างนอกโรงพยาบาล มีคนเข้าแถวเยอะทั้งวัน แต่ถ้าจู่ๆ มีคนบาดเจ็บสาหัส แล้วก็เป็นคนป่วยที่ใกล้ตาย ไหนคุณพูดสิว่าจะให้ช่วย หรือว่าให้เขาไปต่อแถว"

สีหน้าของหญิงสาวคนนั้นฉีกยิ้มอึดอัดเล็กน้อย "นี่เหมือนกันงั้นเหรอ" 

"ชีวิตของคนสำคัญ!" เย่หนิงพูดเสียงเย็น "ธุรกิจประธานฉินของพวกคุณยุ่ง การพบแขกถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แล้วชีวิตของคนล่ะมีความสำคัญไหม คุณมีความเห็นไหม ไม่กล้าให้พวกเราเข้าไป ขนาดโทรศัพท์ก็โทรไม่ได้ คุณหมายความว่าอะไร ในสายตาของคุณชีวิตของคนไร้ค่าหรอ คุณกลัวตกงาน แล้วคนอื่นไม่ต้องสูญสิ้นชีวิตไปฟรีงั้นหรือไง!"

สีหน้าของหญิงสาวคนนั้นยิ่งบิดเบี้ยว "นี่คุณน้องสาว คำพูดนี้หมายความว่ายังไง"

"ฉันพูดผิดงั้นหรอ" เย่หนิงถามกลับ "งานใหญ่มาก ใหญ่กว่าชีวิตคนหรือไง สำคัญกว่าคดีฆาตกรรมไหม"

เย่หนิงพูดเช่นนี้ ทันใดนั้นด้านกลังก็ปรากฏเสียงหัวเราะแผ่วเบา แล้วไม่เสียงของชายหนุ่มที่พูดอย่างไม่จริงจังขึ้นมาทันที "ปากของคุณผู้หญิงช่างเก่งกาจนัก! มาเป็นเลขาของผมไหมครับ!"

เย่หนิงหันกลับไป จากนั้นเห็นคนหลายคนเดินเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่ม การปรากฏตัวของชายหนุ่มคนนั้นไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ดูทรงพลัง มีความเย่อหยิ่งปรากฏอยู่ระหว่างคิ้ว มองดูก็รู้ว่าสถานะของเขาไม่ปกติ

แววตาดูคุ้นเคยเล็กน้อย เย่หนิงยังพยายามคิดย้อนว่าตนเองเคยเห็นคนคนนั้นใช่ไหม ยิ่งได้ยินหญิงสาวที่แผนกต้อนรับเรียกด้วยน้ำเสียงจริงจังและตกตะลึงว่า "ประธานฉิน" 

ประธานฉิน ฉินเฉาฮุ้ย

ก็คือเจ้าหมอนี่นี้เอง

ไม่แปลกใจเลยว่าเหมือนเธอเคยเจอที่ไหน 

ฉินเฉาฮุ้นฉีกยิ้มแล้วเดินมา "น้องสาว คุณก็เป็นตำรวจหรอ เป็นตำรวจสาวที่สวยจริงๆ เลย พูดอีกอย่าง ผมพบตำรวจพวกคุณนับครั้งไม่ถ้วน ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่เคยเจอคุณเลยล่ะ มาใหม่เหรอ น้องสาว"

เย่หนิงก็ยิ้ม "อ่อ ประธานฉินใช่ไหมคะ ฉันว่าคุณไม่เคยเจอฉันก็เป็นปกติมากๆ อยู่แล้ว! คนปกติส่วนใหญ่ไม่เจอฉันหรอก"

"โอ้" ฉินเฉาฮุ้ยแปลกใจเป็นอย่างมาก "คนปกติไม่เจอคุณเหรอ แล้วใครล่ะที่จะได้เจอคุณ"