ตอนที่ 179 รอคอยพันปี
" ได้ค่ะ ได้...เอ่อ เรื่องไหนหรอคะ"
" ก็เรื่องคนที่สร้างผีดิบไงล่ะครับ! เรื่องนี้ยังจัดการไม่ได้เลย ผมก็เลยไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!”
เย่หนิงพอจะเดาออก " เสิ่นอี้ ความจริงแล้วที่คุณมาเมืองตงไห่ก็เพราะเรื่องนี้ใช่ไหม"
เสิ่นอี้ไม่ได้ไม่ยอมรับ " ใช่ครับ มาเพราะเรื่องนี้อย่างแน่นอน"
" งั้นคุณก็คงสืบได้ไม่น้อยเลยสิคะ"
เสิ่นอี้ไม่ตอบ
เย่หนิงหงุดหงิด " ทำไม บอกฉันไม่ได้เหรอ"
" เสี่ยวหนิง! " เสิ่นอี้กล่าวเสียงนุ่ม " นั่้นมันอันตรายมากๆ! ที่หมู่บ้านว่างยาชุนและสุสาน คุณก็เห็นหมดแล้ว ว่าผีดิบพวกนั้นน่ากลัวมากขนาดไหน ผมไม่หวังให้คุณต้องไปเสี่ยง และอีกอย่าง คุณก็เป็นแค่หมอนิติเวช ไม่ใช่ตำรวจอาชญากรรม ไม่จำเป็นต้องออกไปเสี่ยงอันตรายแบบนั้น"
เย่หนิงมองเสิ่นอี้ แล้วพูดอย่างจริงจังมากๆ ว่า " แต่ตอนนี้ คงจะไม่เลี่ยงไม่ได้แล้ว! และอีกอย่าง ฉันก็เป็นนักล่าผีดิบ การรับมือกับผีดิบ เป็นทางสายดั้งเดิมของฉัน คุณลืมไปแล้วเหรอ"
" นักล่าผีดิบงั้นเหรอ" เสิ่นอี้หมดคำพูด " เด็กน้อย ตอนนี้ดันกลับมาจำได้ว่าตนเองเป็นนักล่าผีดิบซะงั้น
" พูดสิ พวกคุณสืบไปถึงไหนแล้ว" เย่หนิงจี้ถามไม่ลดละ " คุณไม่บอกฉัน...เหอะ งั้นคุณต้องเคยเจอกับแม่ภรรยามาเยอะแล้วแน่ๆ เลย"
นี่้มันอะไร อะไรกัน
เสิ่นอี้ไม่รู้จะร้องไห้หรือตลกดี " พูดเหลวไหลอะไรกับครับ! ผมบอกไปแล้วนี่นาว่าไม่มี! ความจริงที่ผมพูดไป คือการเข้าไปดำรงชีวิตแบบมนุษย์จริงๆ แล้วก็เรื่องหลายปี หลายปีมานี้ ผมก็ใช้เวลาทั้งหมด เรียนรู้หลายสิ่ง จะเอาเวลาที่ไหนไปทำความรู้จักกับแม่ภรรยาได้ล่ะครับ"
เขาพูดไปพลาง โอบร่างของเย่หนิงเข้ามาในอ้อมกอด แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า " คุณเป็นคนเดียว เสี่ยวหนิง! แต่ไหนแต่ไรผมก็ไม่เคยมีใครอื่นเลย! ผมคิดว่า ชีวิตที่ผ่านมาพันกว่าปีของผม ความจริงแล้ว ก็เพื่อรอที่จะพบคุณเท่านั้น"
หัวใจของเย่หนิงเต้นอย่างรุนแรง
มีชีวิตมาพันกว่า แค่เพื่อรอพบเธอเท่านั้นเหรอ!
" พูดจาเหลวไหล..." เย่หนิงเคืองจมูก อดกลั้นน้ำตาอย่างยากลำบากไม่ให้ร้องออกมา
" เป็นความจริงครับ เสี่ยวหนิง! ดังนั้นผมถึงได้ไม่อยากปิดบังคุณแล้ว และบอกตัวตนที่แท้จริงของผมกับคุณ!"
เย่หนิงถูจมูก แล้วพูดอย่างเสียใจมากๆ ว่า " แต่ แต่...แต่ฉันคงไม่อายุไม่ถึงหนึ่งร้อยปีหรอกค่ะ..."
เสิ่นอี้สะดุ้งตกใจ รีบกอดเย่หนิงแน่น พร้อมพูดอย่างอ่อนโยนว่า " มีอะไรต้องเครียด ผมรอคอยคุณมาโดยตลอด ชีวิตนี้จบไป ยังมีชาติต่อไป แล้วก็ยังมีชาติต่อๆ ไป แค่ผมยังอยู่ ก็จะตามหาคุณ ไม่ว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหน ผมก็จะตามหาคุณตลอดไป"
“" จริงเหรอคะ"
"แน่นอนครับ!"
" ชาติต่อไป ชาติต่อต่อไป ชาติต่อต่อต่อไป...จะต้องไปตามหาฉันนะ"
" แน่นอนครับ! เสี่ยวหนิง ผมต้องตามหาคุณอย่างแน่นอน"
" ฮิฮิหิหิ คุณจะไปจำฉันได้ยังไงล่ะ"
" เพราะ..." เสิ่นอี้กัดที่หูของเธอเบา พร้อมกล่าวเสียงเบาว่า " เพราะ เสี่ยวหนิงครับ บนร่างของคุณ ผมทิ้งเครื่องหมายประทับเอาไว้ อาศัยแค่เครื่องหมายที่ประทับเอาไว้ ผมก็ต้องหาคุณเจออย่างแน่นอน! ถึงแม้ว่าคุณจะอยู่สุดหล้าฟ้าเขียว ผมก็หาคุณเจอ!"
เย่หนิงกอดเสิ่นอี้แน่น ร้องไห้อย่างอดไม่ได้
ชาตินี้ ชาติต่อไป ชาติต่อต่อไป...ยังนานอยู่ดี...
หนึ่งร้อยปีไม่พอ ยังจะมีอีกหนึ่งร้อยปีอีกเหรอ...ยังยาวนานอยู่ดี!
" ห้ามลืมฉันนะ..." เย่หนิงพูด พลางร้องหือๆ
" ไม่มีทาง เป็นไปได้ยังไง! ความจำของผมดีมากๆ! จะไปลืมคุณได้ยังไงครับ! แล้วอีกอย่าง..." เสิ่นอี้ค่อยๆ ช้อนใบหน้าของเธอขึ้น มองน้ำตาที่ล้นเอ่ออยู่ในดวงตาทั้งสองของเธอ แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า " แม้ว่าผมจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ผมก็จะไม่มีทางลืมคุณ เด็กโง่! พอแล้ว อย่าร้องสิครับ! ร้องทีไรผมปวดใจทุกทีเลย!"
เขาก้มศีรษะ จูบซับน้ำตาของเธออย่างแผ่วเบา
น้ำตารินไหลออกมา แต่ริมฝีปากเย็นเยียบของเขากลับประทับจูบอย่างอ่อนโยน
ทันใดนั้นเย่หนิงโอบคอของเขา แล้วลุกขึ้นจูบเขาอย่างรุนแรง เสิ่นอี้ตกตะลึง แล้วจูบตอบเธอโดยทันที ขณะนี้ ภายในใจของเย่หนิงไม่ได้คิดอะไร เพียงแค่อยากหยุดช่วงเวลานี้เอาไว้ตลอดไป ตราบชั่วนิจนิรันดร์
เหลวไหลมากๆ เลย! คิดไม่ถึงว่าเธอจะตกหลุมรักผีดิบตนหนึ่ง แล้วยังเป็นความรักที่ลึกซึ้งขนาดนี้ด้วย กระทั้งมีความคิดโง่ๆ ว่า ถ้าหากตนเองเปลี่ยนเป็นผีดิบได้ก็คงดี แบบนี้ก็จะสามารถอยู่กับเขาได้ เพราะชาติต่อไปและชาติต่อๆ ไป...สำหรับเธอแล้ว มันเป็นสิ่งที่เหลวไหลมาก!
เธอแค่อยากให้ชาตินี้ ชาตินี้คงอยู่ไปชั่วนิจนิรันดร์!
ตอนกินข้าว เย่หนิงกลัดกลุ้มใจอย่างเห็นได้ชัด
เสิ่นอี้รู้สึกแปลกมาก ทำไมเธอได้กินข้าวแล้วยังไม่มีความสุขอีกล่ะ
" เป็นอะไรครับ เสี่ยวหนิง กับข้าวไม่ถูกปากคุณเหรอครับ"
" ไม่ยุติธรรมเลย!" เย่หนิงขุ่นเคืองใจ " ทำไมผีดิบถึงไม่แก่ไม่ตายนะ!"
เสิ่นอี้...
ปัญหานี้ เขาเองก็หมดหนทางจะตอบ
ผละจากความโกรธ หลังจากเย่หนิงกินข้าวชุดใหญ่ แล้วก็ผลไม้ปั่น อารมณ์ก็เลยค่อยๆ ดีขึ้นมาหน่อย " ฉันก็อยากเปลี่ยนเป็นผีดิบ!"
" งั้นก็จะไม่ได้กินอาหารอร่อยน่ะสิครับ!" เสิ่นอี้โน้มน้าวเธอไม่ให้คิดเหลวไหลอีก
" กินไม่ได้เหรอ ทำไมกินไม่ได้ล่ะ" เย่หนิงไม่เข้าใจ
" เพราะหลังจากที่เปลี่ยนเป็นผีดิบ จะไม่มีความรู้สึกอะไรเลย นอกจากความรู้สึกเจ็บแล้ว ยังมีการรับรส รับกลิ่น...ดังนั้นของอร่อยหรือว่าของที่มีรสชาติแย่ กินเข้าไป ก็รับรสไม่ได้อยู่ดี"
เย่หนิงตะลึงงัน " จริงหรือหลอกคะ"
แน่นอนว่าเป็นความจริงครับ!" เสิ่นอี้พูด " ก่อนหน้านี้ในบ้านของอ้ายหลุน ที่คุณบอกว่ามีกลิ่นหอมอะไรใช่ไหม ผมก็รับรู้ไม่ได้"
เย่หนิงจำเรื่องวันนั้นได้ แต่เธอมันพวกมีความรู้สึกไวต่อกลิ่นเป็นพิเศษ ดังนั้นแล้วปฏิกิริยาของเสิ่นอี้ในตอนนั่น ก็เลยไม่ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจมากนัก คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นอย่างนี้
"ไม่ได้กลิ่นสักนิดเลยเหรอคะ"
" ก็ไม่เชิง!" เสิ่นอี้ยิ้ม " กลิ่นของคุณ ผมได้กลิ่นนะครับ"
" หือ..."
เสิ่นอี้พูดเสริมขึ้นอีกครั้ง " ดังนั้น ถ้าคุณเปลี่ยนเป็นผีดิบ หลังจากนี้ก็กินของอร่อยๆ อย่างนี้ไม่ได้แล้ว คุณยอมงั้นเหรอ"
" ฉัน..." ทันใดนั้นเย่หนิงก็จับความหมายอื่นที่อยู่ในคำพูดของเสิ่นอี้ได้ " ถ้าฉันยอม คุณจะมีวิธีไหมล่ะ"
เสิ่นอี้หุบยิ้ม " เลิกงอแงได้แล้วครับ คุณเป็นนักล่าผีดิบนะ"
“ อืม…ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมถึงต้องพยายามสร้างผีดิบ มีชีวิตอมตะ ล่อใจล่อใจชะมัดยาก แม้จะไม่ได้ลิ้มลองของอร่อย แต่ไม่ต้องตายและบุบสลาย...คนมากมายก็เลยยอมจ่ายเพื่อสิ่งนี้" เย่หนิงพูดเสียงเบา ถามเสิ่นอี้อีกครั้งว่า “ เสิ่นอี้ งั้นที่คุณบอกก่อนหน้านี้ว่ามาทำโครงการระยะยาวที่นี่ ก็เป็นเรื่องโกหกน่ะสิคะ คุณมาเพื่อสืบคดีผีดิบใช่ไหม”
" ใช่ครับ!" เสิ่นอี้ไม่ได้ไม่ยอมรับ เขาพูดเสียงเรียบว่า " ผมไม่อนุญาตให้คนมาทำเช่นนี้ได้!"
คุณสืบอะไรอยู่กันแน่ เฮ้ห้ ไม่ต้องมาทิ้งกันเลยนะ! ฉันขอเตือนคุณ! ถ้าคุณกล้าคิดแบบนั่น หลังจากนี้ฉันจะไม่สนใจคุณแล้วด้วย!" เย่หนิงเตือนเสิ่นอี้อย่างดุดัน
" ได้!" เสิ่นอี้หมดปัญญา " ไม่ว่ายังไงช้าเร็วคุณก็ต้องรู้! งั้นก็ชิงบอกคุณก่อนเลยแล้วกัน แต่เรื่องนี้ เดิมพันสูงมาก และไม่สามารถแพร่งพรายออกไปได้! โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักล่าผีดิบสองคนนั้น อย่าให้พวกเขารู้! ถ้าพวกเขาไป ต้องตายให้อย่างเดียว! ผีดิบพวกนี้ กับผีดิบที่พวกเขาเคยเจอมาก่อนหน้านี้ ไม่เหมือนกันเลย"