webnovel

ตอนที่ 152

ตอนที่ 152 สิ่งที่ปิดบังเอาไว้ แดงขึ้นมาแล้ว

แผ่นกระดาษเหรอ คาดไม่ถึงว่าที่สถานที่เกิดเหตุจะมีแผ่นกระดาษด้วย 

ด้านบนเป็นชื่อน้ำหอม 

ฆาตกรล้วนส่งชื่อน้ำหอมให้แก่พวกเธองั้นเหรอ

ทั้งยังไม่ซ้ำกันอีกด้วย 

"นี่...ไม่ได้บอกเอาไว้บนแฟ้ม..." อ้ายหลุนไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดี 

“บอกได้เลยว่าแฟ้มคดีถูกทำลายไปส่วนหนึ่ง!” ครั้งนี้เสิ่นอี้ไม่ได้จับผิดคำพูดของอ้ายหลุน แล้วก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขากลับพูดอธิบายขึ้นมาว่า “อาจกลัวว่ากระดาษจะโดนเลือด และมองเนื้อหาด้านบนไม่ชัดเจน ฆาตกรก็เลยจงใจเอาแผ่นกระดาษชุบด้วยน้ำมันอย่างระมัดระวัง ถ้าไม่อย่างงั้นก็คงไม่ไหม้ได้ง่ายขนาดนี้หรอก พอเทียนไขตกลงมันก็สายเกินไปแล้วที่จะช่วยเหลือ กระดาษทุกแผ่นล้วนติดไฟ ทำให้ข้อมูลอื่นๆ ล้วนถูกเผาไปด้วย"

อ้ายหลุนยังไม่ตายใจ เขาถามอีกครั้งว่า "ถ้าถูกเผาทั้งหมด งั้นพวกคุณรู้ได้อย่างไร" 

"ถ่ายรูป" เสิ่นอี้มองอ้ายหลุน "ตอนที่เก็บรวบรวมหลักฐานได้ถ่ายรูปเอาไว้ แม้ว่าคำสารภาพเหล่านี้จะหายไป แต่ตอนที่เก็บรวบรวมหลักฐาน ของกลางพวกนั้นที่ถ่ายรูปเอาไว้ยังคงอยู่ ถึงแม้รูปภาพจะถูกเผาทำลาย แต่ยังมีฟิล์มอยู่ ตอนนั้นยังคงใช้กล้องรุ่นเก่าเลยยังมีม้วนฟิล์มอยู่!"

อ้ายหลุนรีบถามขึ้นมาว่า "ถ้าอย่างงั้น ทำไมถึงไม่มีในแฟ้มคดีล่ะ" 

เสิ่นอี้กลับถามว่า "ทำไมคุณถึงรู้ว่าไม่มีในแฟ้มคดีล่ะ" 

อ้ายหลุนชะงักงัน "ผม..." 

เสิ่นอี้ถามอีกครั้ง "ใครบอกว่าไม่มีในแฟ้มคดีกันล่ะครับ ถ้าในแฟ้มคดีไม่มี แล้วพวกเราจะไปรู้ได้ยังไง" 

“แต่..." อ้ายหลุนไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร เพราะเขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนั้น!

เขาไม่ได้เป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งนั้น ที่แน่ใจว่าในแฟ้มคดีมีการบันทึกเอาไว้หรือไม่ เว้นแต่ว่าเขาได้เห็นแฟ้มคดีนั้นแล้ว

แต่ความจริงกลับเป็นว่าเขาไม่เคยเห็น ถ้าเขาไม่เคยเห็น โดยปกติแล้วเลยไม่กล้ายืนยันว่าในแฟ้มคดีมีเนื้อหาเหล่านั้นหรือไม่

แต่สิ่งที่เสิ่นอี้พูด ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้เลยจริงๆ 

สถานที่เกิดเหตุยังมีหลักฐานพวกนี้ด้วยเหรอ 

อีกอย่างถ้าเป็นเหมือนอย่างที่เสิ่นอี้พูดจริงๆ ถ้าอู๋เหวินคังไม่ใช่ฆาตกร งั้นทำไมเขาถึงรู้ล่ะว่าในที่เกิดเหตุฆาตกรทิ้งของอะไรไว้ในที่สถานที่เกิดเหตุบ้าง 

แม้แต่เนื้อหาบนกระดาษเขาก็ยังรู้อย่างละเอียด......

มีทั้งอุปกรณ์สังหาร! 

และยังมีหลักฐานอื่นๆ เป็นจำนวนมาก! 

หลักฐานที่สำคัญ

เป็นหลักฐานที่สำคัญจริงๆ ด้วย 

"นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ" จริงๆ แล้วอ้ายหลุนไม่มีทางเชื่อเลย

"ต้องจริงอยู่แล้วล่ะครับ! ไม่อย่างงั้นคุณคิดว่าพวกเราจะใช้อะไรมาตัดสินคดีล่ะครับ จะให้พึ่งหลักฐานที่ไม่ครบพวกนั้นเหรอ ถึงแม้พวกเราจะยินยอม แต่ศาลต้องไม่มีทางยินยอมหรอก! คุณคิดว่าตอนที่ศาลพิจารณาคดีจะไม่ดูหลักฐานหรือไง"

"แต่ แต่..." อ้ายหลุนไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี! พูดมากไปอาจทำให้ส่งที่ปิดบังเอาไว้แดงขึ้นมาได้! แต่สิ่งเหล่านั้นที่เสิ่นอี้พูด ก่อนหน้านี้เขาเองก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน ทางตำรวจหาอาวุธสังหารเจอแล้ว และยังมีหลักฐานอื่นๆ ที่ยืนยันได้ว่าอู๋เหวินคังเป็นคนร้ายอีกด้วย!"

ยังมีเมิ่งซินถงที่ถูกสังหาร...

อ้ายหลุนกลืนน้ำลาย "งั้น งั้นที่เมิ่งซินถงถูกฆ่า..." 

"เป็นฆาตกรรมเลียนแบบชัดๆ!" เสิ่นอี้มั่นใจมาก "ฆาตกรคนเดียวกัน ถ้าเขาต้องการใช้วิธีการเดียวกันส่วนที่สำคัญมากๆ ต้องไม่มีทางตกหล่นและหลุดรอดไปอย่างแน่นอน! แต่ในกล่องกระดาษที่ใส่ชิ้นส่วนอวัยวะของเมิ่งซินถง กลับหาแผ่นกระดาษที่เขียนชื่อน้ำหอมไม่เจอเลย"

อ้ายหลุนไม่ตายใจ "พึ่งเรื่องแค่นี้ ยังไม่พอที่จะอธิบายหรอก"

"ถ้าแค่คดีเดียวกัน แน่นอนว่าไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว! แต่คุณอย่าลืมสิ คดีฆ่าต่อเนื่องเมื่อสิบห้าปีก่อน ฆาตกรลงมือสังหารเหยื่อเพศหญิงติดต่อกัน ทั้งยังทิ้งโน้ตที่ไม่เหมือนกันให้พวกเธอ บนโน้ตมีเป็นชื่อน้ำหอมที่แตกต่างกัน ถ้าเขาจะลงมือซ้ำวิธีเดิม รายละเอียดที่สำคัญขนาดนี้เขาจะทำผิดพลาดได้อย่างไร" 

“บางที บางทีเขาอาจจะลืมก็ได้" อ้ายหลุนยังคงไม่ปล่อยวาง 

"ลืมเหรอครับ" เสิ่นอี้ถามกลับ "ฆาตกรที่มีความรอบคอบละระมัดระวังขนาดนี้ จะทำผิดพลาดง่ายๆ ได้อย่างไร จะลืมเครื่องหมายที่สำคัญนี้ได้อย่างไร ฆาตกรทิ้งชื่อน้ำหอมให้ผู้ตายทุกราย การกระทำที่มีความหมายแฝงเช่นนี้ เขาจะลืมได้อย่างไร" 

"ถ้าเขาลืมล่ะ" 

"ก็แค่ถ้าเท่านั้น พวกเราเป็นตำรวจ ไม่ได้ดูแค่ความบังเอิญเท่านั้น! อันดับแรก คดีเมื่อสิบห้าปีก่อน เดิมทีก็คือหลักบ่งชัดที่สำคัญ อันดับที่สอง คดีในตอนนี้และคดีเมื่อสิบห้าปีก่อนถึงแม้ว่าวิธีการลงมือจะเหมือนกัน แต่ยังมีรายละเอียดบางส่วนที่ยังไม่เหมือนกัน อันดับที่สาม ฆาตกรพลาดเนื้อหาที่สำคัญมากๆ และนั้นก็เป็นเครื่องหมายที่สำคัญมากๆ เครื่องหมายของการกระทำผิด! แม้แต่เครื่องหมายที่สำคัญยังไม่มี งั้นจะยืนยันได้ยังไงว่าฆาตกรเป็นคนเดียวกัน ความเป็นไปได้มากที่สุดคือนี่เป็นการฆาตกรรมเลียนแบบครับ!"

อ้ายหลุนไม่พูดอะไรอีก 

เพื่อทำความเข้าใจกับข้อเท็จจริงของคดี แน่นอนว่าเขาไม่ถกเถียงกับเสิ่นอี้จะดีกว่า ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์ที่เขารู้ยังต้องใช้วิธีพิเศษบางอย่างถึงจะได้มา เรื่องเหล่านี้โดยปกติแล้วเขาเลยไม่ควรนำออกมาพูด ดังนั้นหลังจากเสิ่นอี้พูดโต้แย้งแล้ว เขาก็เลยไม่พูดออกมา

กลับกันเป็นเสิ่นอี้ที่มองเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น แล้วถามขึ้นมาว่า "คุณดูสนใจคดีนี้มากเลยนะครับ"

อ้ายหลุนไอเล็กน้อย "ศาสตราจารย์เสิ่น คุณกำลังล้อเล่นผมอยู่ใช่ไหม เมิ่งซินถงเป็นเด็กนักเรียนของผม...แล้วนักเรียนอีกสองคนที่หายตัว...ก็เกี่ยวข้องกับผมอยู่ ผมเป็นห่วงบ้างก็ปกติมาก..."

"ใช่ จริงอยู่ครับ แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจ" เสิ่นอี้มองอ้ายหลุน แล้วพูดออกมาอย่างช้าๆ ว่า "ผมจำได้ว่าผมไม่เคยพูดกับคุณเรื่องที่เมิ่งซินถงถูกทำร้าย" 

อ้ายหลุนตกตะลึง 

เสิ่นอี้พูดขึ้นอย่างช้าๆ ว่า "หลายวันก่อนที่เรียกคุณเข้ามาถามที่สถานีตำรวจ แล้วให้คุณดูรูปนักเรียนเหล่านั้น ตอนนั้นพวกเราไม่เคยบอกว่าเมิ่งซินถงถูกฆ่า และตอนนั้นพวกเราเองก็ไม่ได้บอกว่าหลังจากเธอโดนฆ่าแล้วถูกหั่นศพ คุณรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร" 

ขณะนั้น บนหน้าผากของอ้ายหลุนมีเหงื่อเย็นไหลอาบลงมา

เสิ่นอี้ไม่เคยพูดงั้นเหรอ

แต่ไหนแต่ไร เสิ่นอี้ไม่เคยพูดว่าผู้ตายคือเมิ่งซินถงเลยงั้นเหรอ

เสิ่นอี้พูดอีกครั้งว่า "พวกเราก็ไม่เคยบอกคุณว่าพวกเรากำลังสืบเรื่องคดีหั่นศพอยู่ แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าพวกเรากำลังสืบเรื่องนี้อยู่" 

อ้ายหลุนเช็ดเหงื่อ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักว่า "ศาสตราจารย์เสิ่น คุณ คุณพูดตลกอีกแล้วใช่ไหม...คดีฆ่าหั่นศพนี้ ช่วงนี้ก็ครึกโครมไปทั่วทั้งเมืองตงไห่ ยังจะมีใครที่ไม่รู้อีก นอกจากพวกคุณที่สืบคดีนี้ ต้องมีคนอืนพยายามเรื่องนี้อยู่แล้ว"

เสิ่นอี้มองอ้ายหลุน แล้วกล่าวเสียงเย็นว่า "เสแสร้ง เรื่องมันแดงขึ้นมาแล้วยังจะเสแสร้งอยู่อีก ทำไม คุณมีแผนจะเสแสร้งไปถึงตอนไหน จะเสแสร้งไปตลอดชีวิตเลยหรือไง"

อ้ายหลุนกัดฟัน "ศาสตราจารย์เสิ่น คุณพูดอะไรกันแน่ ทำไมผมไม่เข้าใจสักนิดเลยล่ะ!"

"ฟังไม่เข้าใจเหรอ งั้นผมจะบอกให้คุณ! จนกว่าคุณจะเข้าใจ! คุณรู้ไหมว่าทำไมสิ่งที่คุณปิดเอาไว้ มันถึงแดงขึ้นมา"

อ้ายหลุนเงียบ ไม่พูดอีกเลย 

"ไม่พูดเหรอครับ" เสิ่นอี้ยิ้มเย็น "คิดว่าไม่พูดแล้วจะหมดเรื่องได้งั้นเหรอ" 

อ้ายหลุนพูดอย่างอดไม่ได้ว่า "ศาสตราจารย์เสิ่น ถึงผมจะเพิ่งพูดอะไรผิด แต่ก็ไม่ได้บ่งบอกว่าผมเกี่ยวข้องกับคดีนี้เสียหน่อย" 

"ฮาฮา คุณนี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาเลยจริงๆ! ถ้าคุณไม่ยอมรับ ผมก็จะบอกคุณไปทีละอย่างเอง!"