webnovel

ตอนที่ 150

ตอนที่ 150 จุดบกพร่อง

อ้ายหลุนดูเป็นทุกข์ เขากล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึงว่า "พูดขนาดนี้ ศาสตราจารย์เสิ่นคืนนี้ที่คุณมาก็คงมาตรวจสอบคดีสินะ" 

ถึงแม้อ้ายหลุนจะแสดงท่าทางไม่ดี เสิ่นอี้กลับไม่สนใจ เขาพูดขึ้นอย่างช้าๆ ว่า "มาถามคุณก็ไม่จำเป็นต้องให้คุณเป็นผู้ต้องสงสัย แค่หลักฐานบุคคลครับ คุณอ้ายหลุนยิ่งคุณดูเครียด กลับยิ่งทำให้คนสงสัยมากขึ้น คุณไม่รู้สึกเลยเหรอครับ"

 "ผม ผมจะเครียดอะไร..." อ้ายหลุนพูดเสียงเบา "บอกได้เลยว่าช่วงเวลาที่ก่อคดีนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมเลย! ผมจะไปเครียดอะไรล่ะครับ!"

เสิ่นอี้ยิ้ม "คุณอ้ายหลุน คุณมั่นใจมากเลยนะครับ"

"อา" ตรงนี้อ้ายหลุนไม่เข้าใจ แต่ยังพูด "แน่นอนสิ ผมไม่ได้ฆ่าคน! ผมต้องมั่นใจอยู่แล้ว!"

"แต่ ผมก็ยังรู้สึกแปลก..." เสิ่นอี้กล่าวเสียงเรียบ "งั้นเมื่อกี้ทำไมไม่พูด คุณไม่ได้ฆ่าคน ทว่ากลับเอาแต่พูดว่าคุณไม่มีเวลาจะไปก่อคดีเหรอครับ" 

อ้ายหลุนตกตะลึง

เสิ่นอี้ถามอีกครั้งว่า "คุณรู้เวลาที่เหยื่อเสียชีวิตงั้นเหรอครับ" 

อ้ายหลุนตกตะลึงอีกครั้ง

เสิ่นอี้พูดขึ้นมาว่า "ไม่อย่างงั้นทำไมถึงได้พูดอย่างมั่นใจขนาดนี้ คุณไม่มีเวลามาก่อคดี คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหยื่อเสียชีวิตเมื่อไหร่ ทำไมตัวคุณเองถึงได้รู้ว่าเหยื่อโดนทำร้ายตอนไหน ตนเองไม่มีเวลาลงมือ ยกเว้นว่า คุณรู้ช่วงเวลาที่เหยื่อถูกทำร้ายอยู่แล้ว" 

อ้ายหลุนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ถึงแสดงปฏิกิริยาออกมา เขารีบพูดอย่างรวดเร็วว่า "ศาสตราจารย์เสิ่น คุณ นี่คุณกำลังใส่ร้ายผมอยู่ชัดๆ!"

"ผมใส่ร้ายใครครับ" ใบหน้าของเสิ่นอี้ปรากฏความสงสัย "หรือว่า ผมพูดผิด" 

"ผม ผม..." ระหว่างนั้นอ้ายหลุน กลับไม่รู้จริงๆ ว่าควรแก้ตัวอย่างไร ทำไมเขาถึงไม่เคยเอะใจว่าเพราะประโยคง่ายๆ นี้จะทำให้เสิ่นอี้สงสัยได้

มิน่าเมื่อครู่ตอนที่เขาพลั้งปากบอกว่าไม่มีเวลาไปก่อคดี สีหน้าของเสิ่นอี้ถึงแปลกๆ ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง! 

คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รู้ตัวเลย 

เดิมทีแล้วเขามั่นใจมาก คดีที่เมิ่งซินถงถูกทำร้ายและถูกเคลื่อนย้ายศพ เขามีหลักฐานที่อยู่ที่แน่นอน ดังนั้นเขาจึงได้พูดอย่างมั่นใจว่าเขาไม่มีเวลาจะไปก่อคดีหรอก

ทว่าประโยคนี้เดิมทีแล้วเขาไม่ควรพูดออกไป และทำให้ตำรวจมาตรวจสอบได้ แต่ตอนนั้นเขากลับรีบร้อนโพล่งปากออกมาอย่างไม่ระมัดระวัง

ไม่มีเวลาก่อคดี...

รู้เวลาที่ก่อคดีอย่างแน่ชัดถึงได้พูด ถ้าไม่รู้ ทำไมถึงพูด 

แต่เขาไม่ใช่ฆาตกร เขาจะไปรู้ว่าเวลาที่ก่อคดีได้ยังไง...

ทางตันแล้วจริงๆ 

"จะเป็นไปได้อย่างไร..." น้ำเสียงของอ้ายหลุนที่พูดเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาฝืนยิ้มออกมา "ศาสตราจารย์เสิ่น คุณพูดตลกจริงๆ ผมเอง...ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน...ว่าเมิ่งซินถงถูกฆ่าเมื่อไหร่ บนอินเตอร์เน็ตมีบอกเอาไว้...ความหมายของผมคือช่วงเวลาที่เมิ่งซินถงถูกทำร้าย ผมไม่มีเวลาจะไปก่อคดีพอดี...ดังนั้นการตายของเธอ จึงไม่เกี่ยวกับผมเลยสักนิด..." 

อ้ายหลุนยังพูดไม่ทันจบ เขาหยุดพูดอย่างรวดเร็ว เหงื่อเย็นไหลอาบอยู่บนหน้าผาก

ทำไมเขาพูดอะไรผิดอีกล่ะ! 

เมื่อกี้เสิ่นอี้ยังพูดอยู่เลยว่าไม่ได้บอกว่าเขาเป็นฆาตกร ทำไมเขาถึงต้องรีบพูดแก้ตัวด้วยล่ะ ยิ่งไม่เป็นการกินปูนร้องท้องเข้าไปใหญ่เหรอ

เสิ่นอี้ยังพูดได้ไม่เท่าไหร่ เขากลับทำเรื่องโง่ๆ อีกแล้ว 

รีบร้อนขนาดนี้ อยากเรียกร้องความบริสุทธิ์ให้ตนเอง นี่ยิ่งไม่เป็นการฟาดหน้าตนเองหรอกเหรอ

ตั้งแต่ต้นจนจบ เสิ่นอี้ไม่เคยพูดอะไร ล้วนเป็นเขาที่สงบอารมณ์ของตนเองไม่ได้ ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้เสิ่นอี้จับจุดผิดพลาดได้ อ้ายหลุนอยากจะตบหัวตนเองจริงๆ

ยังดีที่เสิ่นอี้ไม่ถือสาหาความกับเรื่องนี้ แค่ยิ้ม แล้วพูดว่า "ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณไม่ใช่ฆาตกร!" 

อ้ายหลุนถอนหายใจ ทว่าทันใดนั้นความสงสัยกลับปรากฏขึ้นอีกครั้ง " ศาสตราจารย์เสิ่น คุณมั่นใจขนาดนี้เลยเหรอครับ" 

เสิ่นอี้ยิ้มอีกครั้ง 

อ้ายหลุนรู้สึกตัวขึ้นฉับพลัน "ถูกแล้ว ผมเห็นในโพสต์ว่าคนร้ายของคดีฆ่าหั่นศพครั้งนี้และคดีฆาตกรรมเมื่อสิบห้าปีก่อน ความจริงแล้วเป็นคนเดียวกัน ตอนนั้นจับเขาไม่ได้ ตอนนี้เขาก็กลับมาก่อคดีอีกครั้งเหรอครับ"

เสิ่นอี้ไม่คิดอย่างนั้น "คุณก็เชื่อข่าวบนอินเตอร์เน็ตที่กล่าวอ้างมั่วซั่วด้วยเหรอครับ" 

อ้ายหลุนตกตะลึง "ไม่ใช่เหรอครับ" 

"แน่นอนว่าไม่ใช่ครับ!" เสิ่นอี้หรี่ตามองเขาแล้วพูดว่า "บนอินเตอร์มีแต่ข่าวมั่วซั่ว คุณก็ยังจะเชื่ออีกนะ!"

"มั่วซั่วหรอ" อ้ายหลุนอดพูดไม่ได้ "ผมเห็นอู๋หมิงซือบอกว่ามีเหตุผล มีหลักฐาน ทำไมถึงเป็นพูดมั่วซั่วได้ล่ะครับ" 

"มีเหตุผล มีหลักฐานงั้นเหรอ" เสิ่นอี้พูดอย่างดูถูก "คุณรู้ได้อย่างไรว่าเขามีเหตุผลและมีหลักฐาน คุณรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้เดา"

"จะคาดเดาได้อย่างไร เห็นชัดๆ ว่า..." อ้ายหลุนชะงักงัน สีหน้าปรากฏความอึดอัดเล็กน้อย สักพักจึงพูดขึ้นมาว่า "เขาไม่ได้พูดหรอก ว่าเป็นการเปิดเผยจากผู้รู้"

"ความด้านเดียว" เสิ่นอี้ยังคงแสดงสีหน้าดูถูก

"ความด้านเดียวเหรอ" อ้ายหลุนขมวดคิ้ว ขณะกำลังครุ่นคิดปัญหา ไม่คิดว่าจู่ๆ เสิ่นอี้จะถามขึ้นอีกครั้งว่า "คุณแน่ใจได้ขนาดไหนว่าสิ่งที่เขาพูดไม่ได้เป็นเรื่องมั่วซั่ว คุณไม่รู้จักเขาเสียหน่อย" 

อ้ายหลุนฉีกยิ้มอึดอัด "ไม่ ผมก็แค่เห็นว่าเขาพูดอย่างมั่นใจมากๆ เท่านั้น และ...และอีกอย่างเขาไม่ได้บอกหรอว่าเขามั่นใจมาก นั่นเป็นเพราะ..."

เสิ่นอี้ตัดบทคำพูดของอ้ายหลุนโดยที่ไม่สนใจเลยสักนิดเดียว "แน่นอนว่าเขาต้องพูดอย่างนั้น! เพราะถ้าพูดขนาดนี้ พวกคุณจึงจะเชื่อ! ยิ่งคนที่ไม่รู้ก็ยิ่งถูกหลอกได้โดยง่าย! อย่างไรแล้วพวกคุณไม่รู้เรื่องของคดีเลย ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไร โดยปกติพวกคุณก็ต้องเชื่ออยู่แล้ว! ยิ่งไปกว่านั้น คุณรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงไม่ยี่หระอะไรเลย เพราะรายละเอียดของคดีมีมาก ทางตำรวจต้องไม่มีทางประกาศออกไป! ตำรวจจะเผยแพร่เรื่องของฆาตกร แต่ค้นหาได้อย่างไร หลักฐาน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความลับ แน่นอนว่าไม่สามารถเปิดเผยออกมาได้" 

"เหรอครับ..." อ้ายหลุนตอบ ทว่าในใจกลับคิดเรื่องอื่น

"คุณไม่เชื่อเหรอครับ" เสิ่นอี้ดูเหมือนขำมาก "หรือว่าคุณยังเชื่อสิ่งที่คนคนนั้นพูดจริงๆ งั้นใครจะรับผิดชอบการพูดมั่วซั่วของเขาได้ล่ะ"

"เหรอครับ" อ้ายหลุนยังคงตอบอย่างไม่ใส่ใจ

"แน่นอนอยู่แล้ว!" เสิ่นอี้พูดอย่างมั่นใจมากๆ "ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับข้อมูลจากบุคคลภายใน แต่คนภายในอะไรนั้น จะกล้ายืนยันได้เหรอว่าที่รู้นั่นเป็นความจริงแน่นอน ในกรณีนี้คนอื่นก็แค่พูดเรื่องไร้สาระ หลอกเขาเท่านั้น" 

"แต่..." อ้ายหลุนยังไม่ตายใจ ถามขึ้นมาว่า "บางที เขาอาจจะค้นพบเอง...ผม ความหมายของผมคือ บางทีเขาอาจบังเอิญ เห็นข้อมูลของคดีเมื่อสิบห้าปีก่อน...แล้วทราบว่าคดีมีปัญหา"

"เขาจะมองออกได้อย่างไร" เสิ่นอี้ยังไม่เห็นด้วย

"ผมพูดว่า...อาจจะเป็นเท่านั้นครับ"

"ฮาฮา...ถึงเขาจะมองออก นั้นก็ไม่ใช้แฟ้มคดีที่สมบูรณ์" 

อ้ายหลุนมึนงงอีกครั้ง "ไม่ใช่แฟ้มคดีที่สมบูรณ์เหรอครับ"

"ถูกต้อง! ไม่ใช่แฟ้มคดีที่สมบูรณ์!" 

"ศาสตราจารย์เสิ่น นี่มันหมายความว่ายังไง หรือว่าแฟ้มคดีจะถูกแบ่งเก็บออกเป็นหลายส่วน"