webnovel

ตอนที่ 147

ตอนที่ 147 จิตแพทย์

"ใช่ครับ! เดิมทีเพื่อหาเบาะแส พวกเราเองก็อยากเข้าใกล้เขามากๆ อยู่แล้ว ดังนั้นพอเขานัดผม ผมก็ตอบตกลงเลยทันที" 

หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะหนึ่ง หยางปินเลยพูดขึ้นว่า "ศาสตราจารย์เสิ่น คุณต้องระมัดระวังตัวให้มากๆ อย่าลืมว่ายังมีฆาตกรหลบซ่อนอยู่ในมุมมืด! อีกอย่างตอนนี้เขาก็มีชีวิตคนอยู่ในกำมือถึงสองคน คนแบบนี้จะทำอะไรก็สามารถทำได้ทั้งนั้นแหละ" 

เสิ่นอี้ฉีกยิ้มอย่างไม่สนใจเลยสักนิด "เป้าหมายของอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงที่อยู่ตัวคนเดียว แต่ผมไม่ใช่ครับ" 

"นั่นก็เผอเรอไม่ได้!" หยางปินคิดว่าไม่ควรปล่อยปะละเลยและประมาทเพราะเหตุผลเช่นนี้ ใครจะรู้ว่าจุดประสงค์แท้จริงที่เขาต้องการทำคืออะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเบื้องหลังยังมีฆาตกรที่ยังไม่ปรากฏตัว ฆาตกรต้องอยากลักพาตัวและสอบถามอะไรบางอย่างกับเสิ่นอี้อย่างแน่นอน

พอได้ยินการวิเคราะห์ของหยางปิน เย่หนิงเคร่งเครียดจนเผลอกำมือของเสิ่นอี้แน่น

เสิ่นอี้ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า "หัวหน้าหยาง พวกเขากล้าทำซะที่ไหนล่ะ ถ้าพวกเขาทำไม่เท่ากับว่าเปิดเผยตัวหรอกเหรอ อย่าลืมสิครับว่าจุดประสงค์ของคนร้ายคือเขาไม่อยากเผยตัวตนออกมาง่ายๆ ผมกลับหวังว่าเขาจะลงมือ แต่ก็กลัวว่าเขาจะไม่กล้า"

“ถ้าเป็นอย่างนั้น พวกเราเองก็ยิ่งต้องระมัดระวัง!” หยางปินพูดจบ ก็พูดเสริมขึ้นมาอีกบ้างว่า “ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ยังต้องติดตามสถานการณ์รอบๆ ตอนที่คุณไปหาอ้ายหลุนก็ยังต้องรักษาระยะระหว่างพวกเราไปด้วย อาวุธก็ต้องพกไป ไม่กลัวก็ต้องกลัว”

เย่หนิงนั่งเงียบ ไม่พูดมาโดยตลอด แต่สายตาเป็นห่วงที่มองเสิ่นอี้กลับไม่จางหายไป

"อย่ากังวลไปเลย" เสิ่นอี้กุมมือของเธออย่างแผ่วเบา สีหน้าของเขายังไร้ความกังวล เขาฉีกยิ้มพลางพูดขึ้นว่า "สองคนนี้ ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม จะจับตัวผมงั้นเหรอ ง่ายขนาดนั้นเลยเชียว ไม่รู้ใครจะจับใครกันแน่" 

ถึงแม้ว่าเสิ่นอี้จะไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้ แต่หยางปินกลับไม่สนใจไม่ได้ ให้เสิ่นอี้เผชิญหน้าเพียงลำพัง สำหรับพวกเขาแล้วไม่ใช่เรื่องอะไรที่ฉลาดเลย ดังนั้นถึงเวลานัด ก่อนหน้าที่เสิ่นอี้จะไปหาอ้ายหลุน หยางปินยังคงจัดเตรียมงานทั้งหมดเอาไว้เป็นอย่างดี แม้แต่ห้องของผู้อาศัยห้องข้างๆ พวกเขาก็ไปยืมใช้ชั่วคราว

สองวันนี้บนโพสต์ยกคงครึกครื้น การถกเถียงระหว่างคดีฆ่าหั่นศพนี้และคดีเมื่อสิบห้าปีก่อนยังไม่จบลง แต่บุคคลทั้งสอง อู๋หมิงซือและนักล่าผีดิบ 007 กลับไม่ปรากฏตัวอีกเลย 

สำหรับเหตุผลของอู๋หมิงซือนั้นไม่พบ แต่เสิ่นอี้พวกเขากลับชัดเจน วันนั้นหลังจากที่เสิ่นอี้โต้แย้งบนอินเตอร์เน็ตแล้ว อีกฝ่ายต้องคิดออกว่าเกิดจุดบกพร่องตรงไหนบ้างอย่างแน่นอน ทำให้ทางตำรวจแน่ใจว่าคดีของเมิ่งซินถง และคดีเมื่อสิบห้าปีก่อนไม่ได้กระทำโดยคนเดียวกัน 

ตามความเห็นของเสิ่นอี้ ถึงแม้ว่าคนร้ายจะน่าสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ต้องหาเจออย่างแน่นอน เพราะเขาเตรียมตัวมาตั้งนาน คิดแผนมาตั้งนาน ทำไมข้อผิดพลาดเช่นนี้ถึงได้เกิดขึ้นล่ะ 

เมื่อถึงเวลานัด เสิ่นอี้มาถึงบ้านของอ้ายหลุนตามเวลา

ตอนสองทุ่มพอดีเป๊ะ

เสิ่นอี้กดกริ่ง

อ้ายหลุนได้ยินเสียงกริ่งเลยเปิดประตู เมื่อเขาเห็นเสิ่นอี้เขาฉีกยิ้มอย่างมีความสุข "ยังคิดว่าศาสตราจารย์เสิ่นจะไม่มีเวลาว่างมาหาผมเสียอีก" 

"ไม่ได้นัดกันตอนสองทุ่มเหรอครับ" เสิ่นอี้มองนาฬิกา "ผมคงไม่ได้มาสายนะครับ" 

"เข้ามาสิครับ" อ้ายหลุนฉีกยิ้ม พลางพูดว่า "ผมค่อนข้างชอบใช้น้ำมันหอมระเหย ไม่รู้ว่ากลิ่นหอมนี้ ศาสตราจารย์เสิ่นจะชอบไหม" 

น้ำมันหอมระเหย เสิ่นอี้ฉีกยิ้มอย่างไม่สนใจ "ยังไงก็ได้ครับ!"

ถึงเขาจะพูดอย่างนั้น แต่เขาก็ยังไม่ได้กลิ่น

กลับกันถ้าเป็นกลิ่นคาวเลือด เขาคงรู้สึกได้ไวกว่านี้ 

แน่นอน ว่าภายในห้องไม่มี 

นี้ไม่ใช่กลิ่นน้ำมันหอมระเหยที่ฉุนเพราะต้องการปิดบังกลิ่น แต่มันไม่มีจริงๆ

"คุณอ้ายหลุน คุณอยู่คนเดียวตลอดเลยเหรอครับ" เสิ่นอี้เอ่ยปากถาม พลางรับเครื่องดื่มที่อ้ายหลุนยื่นมาให้

อ้ายหลุนไม่ตอบ มองเสิ่นอี้โดยไม่กะพริบตา "ศาสตราจารย์เสิ่น คุณไม่กลัวเหรอครับว่าผมจะเอาอะไรใส่เอาไว้ในเครื่องดื่ม" 

ในห้องด้านข้างมีคนคอยสังเกตการณ์อยู่ไม่กี่คน เย่หนิงเป็นคนที่ได้ยินคำพูดนี้ เธอพุ่งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว "เจ้าหมอนี้ ไม่บริสุทธิ์ใจชัดๆ เลย หัวหน้าหยางคะ พวกเรายังจะรออะไรอีก! รีบลงมือเถอะค่ะ!" 

ลู่เว่ยหมดคำพูด "พี่เย่ ไม่ต้องรีบหรอก! อ้ายหลุนแค่พูดล้อเล่นเท่านั้นเอง" 

"เหอะ..." หยางปินกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ที่อยู่ของพวกเรา คนร้ายไม่รู้ พวกเขาคงจะไม่ลงมือโดยพลการหรอก”

ก่อนหน้านี้เสิ่นอี้ก็เคยสงสัยว่าคนร้ายจับตามองการเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ถ้าเป็นเช่นนี้จริงฆาตกรจะไม่รู้เลยเหรอว่าพวกเขาสังเกตการณ์อ้ายหลุนมาโดยตลอด ถ้ารู้ จะไม่ลงมือเลยเหรอ

เย่หนิงใจร้อน ขณะที่คิดอยากจะพูดอะไรต่อ ลู่เว่ยก็หัวเราะเหอะๆ แล้วพูดว่า "ลูกพี่เย่ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะพี่เห็นอ้ายหลุนยืนอยู่ข้างๆ ศาสตราจารย์เสิ่นถึงได้กระวนกระวายอย่างนี้หรอกนะ"

ใบหน้าของเย่หนิงแดงก่ำ ปากพูดไม่ยอมรับ "เหอะ กระวนกระวายบ้าอะไรเล่า!" 

"ฮ่าฮ่า!" ลู่เว่ยหัวเราะออกมา 

"ทำอะไร!" หยางปินหันไปจ้องพวกเขา "จริงจังกันหน่อยสิ!" 

หัวหน้าใหญ่พูดเช่นนี้ ทั้งสองก็เลยไม่กล้าพูดอะไรอีก และกลับไปสังเกตการณ์อีกครั้ง ตั้งใจฟังบทสนทนาของคนทั้งสอง

เสิ่นอี้ดื่มเครื่องดื่มอย่างไม่รีบเร่ง แต่ก็ไม่ได้รีบตอบคำถามของอ้ายหลุน อ้ายหลุนเปิดเครื่องดื่มของตนเองแล้วเดินไปนั่งข้างๆ เสิ่นอี้ เขายังคงไม่พูดอะไร เสิ่นอี้เลยพูดขึ้นว่า "วางยา? ยาอะไรครับ" 

อ้ายหลุนยิ้ม  "ศาสตราจารย์เสิ่น นี่คุณแกล้งไม่รู้เหรอครับ" 

"พูดจริงครับ แต่ผมเป็นตำรวจ หรือว่าคุณจะกล้าลงมือกับตำรวจ อีกอย่างนะครับโทรศัพท์มือถือของผมเครื่องนี้มีตัวบอกตำแหน่ง จะมีสัญญาณส่งกลับไปตลอดเวลา ถ้ามีอะไรผิดปกติทางตำรวจก็จะสังเกตเห็น พูดอีกอย่าง มีใครบ้างไม่รู้ว่าวันนี้ผมมาหาคุณที่นี่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผมจริงๆ คุณก็คงหนีไม่พ้นหรอก"  

รอยยิ้มของอ้ายหลุนนิ่งค้างอยู่บนใบหน้า สักพักหนึ่งจึงพูดตะกุกตะกักออกมาว่า "ล้อเล่นอยู่ใช่ไหม" 

"แน่นอนครับว่าล้อเล่น ทำร้ายตำรวจ โทษไม่น้อยเลย!" เสิ่นอี้วางเครื่องดื่มลง แล้วออกปากถามอีกครั้งว่า "วันนั้นเรื่องที่คุณพูดกับผม เกิดอะไรขึ้น อธิบายให้ฟังอีกครั้งได้ไหมครับ"

อ้ายหลุนกลับไม่พูด เขาจ้องเครื่องดื่มในมือ คล้ายกับว่ากำลังลังเลอยู่

"ทำไมครับ มันยากมากเหรอครับ" น้ำเสียงของเสิ่นอี้อบอุ่น คล้ายกับว่ากำลังหลอกให้หลง "อย่ากังวลไปเลยครับ ผมเป็นหมอจิตแพทย์ ไม่ใช่พวกนักข่าว หมอจิตแพทย์ปกติแล้วจะมีจรรยาบรรณในวิชาชีพของตนเอง ไม่มีทางแพร่งพรายเรื่องส่วนตัวของผู้ป่วยออกไปหรอกครับ" 

อ้ายหลุนถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า "ผมไม่รู้ว่าจะพูดยังไง...ศาสตราจารย์เสิ่น คุณบอกว่าผมต้องไปหาหมอจิตแพทย์ อาการป่วยคงไม่ได้รุนแรงขนาดนั้นใช่ไหมครับ" 

"ไม่รุนแรงเลยครับ" เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "ปัจจุบันมีคนมาพบหมอจิตแพทย์มากมาย รู้ไหมครับว่าเพราะอะไร เพราะคนในปัจจุบันนี้ได้รับแรงกดดันสูง เลยมีคนมากมายอยากพึ่งหมอจิตแพทย์ให้ช่วยลดแรงกดดันของพวกเขา ทำไม คุณได้รับแรงกดดันอะไรมาใช่ไหมครับ"

อ้ายหลุนครุ่นคิด แล้วเอ่ยถามขึ้นกะทันหัน "ศาสตราจารย์เสิ่น เมื่อกี้นี้คำถามที่คุณเพิ่งถามผม ว่าผมอยู่คนเดียวตลอดเลยรึเปล่า"

"ใช่ครับ ทำไมเหรอ" 

จู่ๆ อ้ายหลุนก็ลดเสียงของเขาลง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงลึกลับว่า "เอาจริง ผมมักจะรู้สึกเสมอว่าในห้องนี้ มีคนอื่นอยู่ด้วย!" 

เสิ่นอี้ตกตะลึง