webnovel

ตอนที่ 139

ตอนที่ 139 ยากลำบากมหาศาล 

พออ้ายหลุนไปแล้ว หยางปินเอาศีรษะฟุบลงไปบนโต๊ะอย่างแรง 

เย่หนิงมองเห็นสีหน้าย่ำแย่ของเสิ่นอี้และหยางปิน จึงถามออกมาอย่างระมัดระวังว่า "อ้ายหลุนคนนี้ ไม่มีทางเกี่ยวข้องกับคดีนี้สักนิดเลยเหรอ" 

เสิ่นอี้กล่าวเสียงเรียบว่า "เขาอาจจะคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วก็ได้ว่าพวกเราจะมาสอบสวนเขา! การตรวจสอบเขามีความเป็นไปได้มากที่สุด! เด็กผู้หญิงที่หายไปหลายคนมีสถานที่ที่เหมือนกันหนึ่งแห่ง ก็คือคลาสเรียนของเขา ถึงแม้ว่าเร็วๆ นี้เขาหรือว่าคนในชั้นเรียนของเขาไม่ได้โทรศัพท์ติดต่อกับพวกเธอ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราคงต้องเสียเวลาตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วนเสียหน่อย ยังคงต้องตรวจสอบเหมือนเดิม! ผมคิดว่านี่เป็นสาเหตุแรกที่เขาลักพาตัวและลงมือฆ่า!"

เย่หนิงตกตะลึง "ดังนั้น เขายังไม่หลุดจากคดีพวกนี้ใช่ไหม"

เสิ่นอี้ยิ้มเย็น “ไม่เพียงแต่ไม่หลุดจากคดี เมื่อกี้จากที่เพิ่งเผชิญหน้ากันก็ยังยืนยันได้มากขึ้น เขามีส่วนรู้เห็นกับคดีนี้! ไม่ว่าจะเป็นคนบงการหรือผู้สมรู้ร่วมคิด แต่อย่างน้อยก็ยังยืนได้ว่าเขาต้องมีส่วนรู้เห็นด้วยอย่างแน่นอน!"

หยางปินพยักหน้า เขากล่าวเสียงหนักว่า "คาดว่าก่อนที่จะก่อคดี พวกเขาก็คงจะคาดคะเนและคิดเอาไว้ก่อนแล้ว บางทีถ้าเป็นแค่คดีคนหาย พวกเราตำรวจต้องไม่มีทางให้ความสำคัญ แต่ถ้าเป็นคดีฆาตกรรม สถานการณ์จะไม่เหมือนกันเลย! พวกเราถูกควบคุมโดยเหยื่อรายแรก หลังจากที่พิจารณาเพื่อป้องกันไม่ให้คดีฆาตกรรมเกิดขึ้นอีก พวกเราก็จะต้องรีบตรวจสอบคลาสเรียนของพวกเขาอย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นอย่างนี้จริง พวกเราก็จะค้นหาเป้าหมายในการลงมือได้อย่างยากลำบากมากๆ ดังนั้นก่อนที่พวกเขาจะฆ่าคน แรกเริ่มคือต้องควบคุมเป้าหมายทั้งหมดเสียก่อน!"

"ใช่!" เสิ่นอี้ยืดตัวขึ้น มองคำให้การเมื่อครู่ของอ้ายหลุน ยิ้มเย็นแล้วโยนคำสารภาพกลับไปที่โต๊ะอีกครั้งแล้วพูดว่า “เขาคงจะคิดไม่ถึงว่าคำพูดของตนที่เพิ่งพูดเมื่อครู่นั้นมันมีจุดที่บกพร่องอยู่ เดิมทีแล้วก็สงสัยมากอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องสงสัยเลย! เขาต้องเกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างแน่นอน! เน้นตรวจสอบคนใกล้ตัวของเขา บันทึกการโทร! ในหนึ่งเดือนนี้ทุกๆ คนที่เขาสัมผัสหรือใกล้ชิดล้วนต้องใส่ใจทั้งหมด! ตัดสินได้เลยเบื้องต้นว่าอย่างน้อยต้องมีคนก่อคดีสองคนขึ้นไป!"

"ยังมีอีก ความสัมพันธ์ของเขากับอู๋เหวินคังก็ต้องตรวจสอบด้วย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ! เพราะก่อนหน้านี้ที่อ้ายหลุนพูดถึงอาชีพนี้ เดิมทีแล้วเขาจึงไม่มีทางเข้าถึงไฟล์ภายในของตำรวจได้ เห็นได้ชัดเลยว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิด ตัดสินโดยลักษณะของคดี ถ้าคนลงมือก่อคดีมีสองคน งั้นก็มีหนึ่งคนปรากฏตัวแล้วก็มีอีกคนหลบซ่อน คนปรากฏตัวก็คืออ้ายหลุน เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็เป็นแค่เหยื่อล่อ เป็นเหยื่อล่อที่คอยล่อพวกเหยื่อเหล่านั้น เหมือนกัน ก็เป็นหมากรุกตัวหนึ่ง! เป็นหมากรุกที่ขัดขวางสายตาของตำรวจ!" 

"ส่วนอีกคน คนๆ นั้นที่หลบซ่อนอยู่ เขาเป็นส่วนที่สำคัญ เขาเป็นคนลงมือ เขาเป็นผู้วางแผนและผู้คำเนินการหลักของคดีนี้ อ้ายหลุน ตั้งแต่ต้นจนจบเป็นแค่คนที่ร่วมมือกับเขาเท่านั้น"

เย่หนิงกล่าวออกมาอย่างกังวลเล็กน้อย “ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ คนคนนั้นต้องปิดบังซ่อนตัวได้ลึกลับมากๆ และไม่ง่ายเลยที่จะหาเจอ อีกอย่าง...อีกอย่างเขาต้องมีความสัมพันธ์อะไรกับอ้ายหลุน กลัวว่าจะไม่มีวิธีใดที่พวกเราสามารถหาได้เลย"

เสิ่นอี้กล่าวเสียงเรียบว่า “คุณพูดไม่ผิดเลยสักนิดเดียว เขาต้องไม่มีทางทำให้เกิดการผิดพลาดอย่างง่ายๆ แน่นอน! ถ้าเดาออกว่าพวกเราไปตรวจสอบอ้ายหลุน ทำไมถึงได้ทำให้พวกเราไปตรวจสอบอ้ายหลุนได้ง่ายดายขนาดนี้"

“งั้นยังจำเป็นต้องตรวจสอบบันทึกการโทรของอ้ายหลุนอีกไหม" เย่หนิงอดถามไม่ได้ “คงหาไม่ได้เลย ในเมื่อเรื่องนี้ชัดเจนมากขนาดนี้ ในพวกเขาต้องคิดเอาไว้แล้วอย่างแน่นอน! เริ่มแรกต้องตรวจสอบจากบันทึกการโทร! พวกเขาจะปล่อยให้เอาจุดบกพร่องชิ้นใหญ่หลุดมาให้พวกเราตรวจสอบได้เหรอ"

“คงจะไม่! แต่พวกเรายังต้องตรวจสอบต่อ! เบาะแสใดๆ ก็ห้ามทิ้งเป็นอันขาด!" 

เสิ่นอี้พูดจบ ก็พูดอีกครั้งว่า “ผมกลับรู้สึกว่าคนส่งของหรือว่าคนส่งอาหารที่ไม่ดึงดูดอะไรเลย และอีกอย่างพิจารณาความเกี่ยวข้องของอาชีพคนผู้นั้น คาดว่าต้องแสร้งเป็นคนส่งอะไรบางอย่าง แล้วช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จึงถือโอกาสไปที่คลาสสอนเต้น แต่เป้าหมายนี้ค่อนข้างชัดเจน! อ้ายหลุนวางใจให้พวกเราไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดขนาดนี้! ชัดเจนว่าคนคนนั้นมีทางเป็นไปได้มากว่าจะไม่ปรากฏตัวอยู่ในกล้องวิดีโอ ไม่อย่างนั้นคนๆ เดียวกันมาปรากฏตัวในกล้องวงจรปิดหลายครั้ง พวกเราต้องให้ความสนใจแน่นอน!" 

“ดังนั้น พวกเขาคงจะไปพบกันที่อื่น ยกตัวอย่างเช่นนัดเจอกันเอาไว้ล่วงหน้า ทุกสัปดาห์จะเจอกันอยู่หลายครั้ง ที่ร้านอาหาร หาห้องไปคุยและกินอะไรกัน หรือว่า ที่บาร์ แต่นั้นเป็นสถานที่ที่อ้ายหลุนมักจะไปบ่อยๆ ! หรือว่า ขับรถออกมา แล้วก็เข้าไปคุยกันในรถ! นี่ล้วนเป็นไปได้ทั้งหมด!"

เย่หนิงหายใจเข้า “ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ตอนนี้อ้ายหลุนต้องรู้อย่างแน่นอนว่าพวกเราจับตามองเขาอยู่ เขาไม่มีทางไปหาคนๆ นั้นแน่" 

“ใช่!" คาดไม่ถึงว่าจู่ๆ ใบหน้าของเสิ่นอี้จะปรากฏสีหน้ากังวล " ศัตรูซุกซ่อน พวกเราปรากฏตัว บางทีการเคลื่อนไหวของเรา อาจอยู่ในกำมือของเขาก็เป็นได้" 

เย่หนิงรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก เพราะคู่ปรับคนนี้ ความจริงแล้วกำลังทำให้พวกเขาปวดหัวอย่างรุนแรง! และอีกอย่างตอนนี้ยังไม่ได้มีแค่อย่างเดียว! ยังมีเรื่องคดีเก่าเมื่อสิบห้าปีก่อน ที่กำลังรอให้พวกเขาไปปิดอยู่! 

หยางปินพูดขึ้นมากะทันหันว่า "บางทีอ้ายหลุนคนนี้ คงจะกำลังหลอกล่อพวกเราอยู่!”

"นั่นก็ใช่!" เสิ่นอี้เองก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ “แต่ฆาตกรหวังว่าพวกเราจะไปตรวจสอบคดีเมื่อ 15 ปีก่อน สิ่งที่ทำไม่ใช่เรื่องเล็ก แค่หลอกล่อพวกเรา ทำไมเขาถึงต้องพยายามขนาดนี้ด้วย ไปกันเถอะ ไปถามเหล่าเทียและคนอื่นๆ ว่าสืบหาเบาะแสอะไรจากครอบครัวของอู๋เหวันคังได้บ้าง" 

เหล่าเทียและคนอื่นต่างก็รอคอยข่าวจากข้างนอก ผลจากการสอบสวนนี้ ถึงแม้ว่าจะทำให้ต้องผิดหวัง แต่อย่างน้อยก็ได้เบาะแสบ้าง แค่ต้องค่อยๆ สืบหากันต่อไป พวกเขาไม่มีทางเชื่อหรอกว่าจะจับฆาตกรปลิ้นปล้อนคนนั้นไม่ได้เลย

กลับกันการตรวจสอบสถานการณ์ทางบ้านของอู๋เหวินคังนั้น ยิ่งทำให้ต้องผิดหวังเข้าไปอีก

หลังจากที่อู๋เหวินคังเสีย ตระกูลอู๋ก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนบ้านอีกต่อไป พ่อของเขาโรคหัวใจกำเริบเสียชีวิตฉับพลัน เหลือเพียงคุณอู๋ที่ชราแล้วอยู่เพียงคนเดียว เธอเลยย้ายกลับไปอยู่ชนบท ตอนนี้ก็ในรับการจุนเจือช่วยเหลือจากชาวบ้านเท่านั้น ชีวิตลำบากมากๆ อู๋เหวินคังถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกรฆ่าคน ทำให้ญาติมิตรของเขาแทบจะตัดขาดพวกเขาโดยสมบูรณ์ ถ้าบอกว่ามีคนมาออกหน้าแทนอู๋เหวินคังนะเหรอ ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เข้าไปใหญ่!"

ทุกคนต่างมีหน้าที่การงาน ใครอยากจะไปมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่ทำเรื่องงามหน้ากันล่ะ 

ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นบุคคลที่ถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกรเสียด้วย 

และอีกอย่างจากการตรวจสอบขั้นต้น ญาติเหล่านั้นของอู๋เหวินคังก็แทบจะไม่มีหลักฐานที่อยู่ พวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่ทำงาน ใช้ชีวิตตามเส้นวงจรชีวิตเดิมๆ เมื่อเร็วๆ นี้ก็ไม่มีอะไรแปลก

แน่นอน ว่านี้แค่การตรวจสอบเบื้องต้น ไม่ใช้บทสรุปที่แน่นอนของทั้งหมด บางคนก็มีหลักฐานที่อยู่ไม่เพียงพอ ยังต้องตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมอีก จึงจะ…ตัดผู้ต้องสงสัยออกไปได้