webnovel

ตอนที่ 136

ตอนที่ 136 เหวี่ยงแห

คาดว่านี้จะเป็นเรื่องที่จนปัญญาเอามากๆ! 

คุณรู้แล้วว่าคนร้ายเป็นใคร แต่กลับไม่มีวิธีจัดการกับเขาเลยสักนิดเดียว 

ทำไมน่ะเหรอ เพราะว่าคุณไม่มีหลักฐานไงละ! 

คุณไม่มีหลักฐานใดๆ มายืนยันว่าทั้งหมดนี้เขาเป็นคนทำ! 

ถ้าหากว่าเทียนชี๋จุนถูกทำร้ายในคืนนั้น โจวฉงเองก็ไม่มีหลักฐานที่อยู่ นี่สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้เหรอ

เดิมทีแล้วไม่มีหลักฐานอะไรเลยด้วยซ้ำ!

"เจ้าหมอนี่" กวานอี้เหลียงโกรธจัด "ไม่มีวิธีจัดการเขาเลยสักนิดเหรอ ตอนนี้เขาไม่ได้ลงมือก่อคดีอีกแล้ว และไม่ฆ่าคนแล้วด้วย ข้อมูลของคดีเก่าเมื่อสิบห้าปีก่อนก็ถูกทำลาย! เทียนชี๋จุนและพวกเธอก็ตายกันหมด! ไม่มีหลักฐานการตายเลยด้วย"

"ไม่ต้องรีบร้อน!" เสิ่นอี้กล่าวเสียงเรียบ "แค่เขาเคยลงมือทำก็ต้องทิ้งหลักฐานเอาไว้บ้าง! ไม่ว่าตอนไหน พวกเราก็ไม่ควรสูญเสียความมั่นใจ อันดับแรกต้องตามหาคนที่กำลังตามเขาก่อน ใส่ใจกับการกระทำของเขา และยังต้องตรวจสอบความสัมพันธ์ของเขาด้วย ยังมีเมื่อสิบห้าปีก่อน รวมถึงผู้หญิงที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ด้วย นี่ยิ่งเป็นจุดที่ต้องให้ความสำคัญที่สุด!”

"ได้!" หยางปินรีบพูด "ผมจะรีบให้คนไปตรวจสอบ!" 

เสิ่นอี้เอ่ยกำชับอีกครั้ง "งั้นโจวฉงคนนั้นต้องรีบจับตัวให้ได้โดยไว แต่ต้องระวังอย่าให้เขารู้ เจ้าคนปลิ้นปล้อนคนนี้ ถ้าเขารู้เขาอาจจะหนีไปก็ได้!"

กวานลี่ผิงพูดอย่างอดไม่ได้ว่า "ศาสตราจารย์เสิ่น ผมไปกับพวกคุณนะครับ!"

"ไม่ต้องครับ คุณกวาน" เสิ่นอี้มองเขา แล้วพูดอย่างจริงจังว่า "คุณวางใจได้ พวกเราต้องจับกุมเขา มาเข้าสู่กระบวนการกฎหมายได้อย่างแน่นอน!"

กวานอี้เหลียงเองก็พูดกับเขา "พ่อครับ พ่อวางใจได้ ผมจะไม่ทำให้พ่อต้องผิดหวังอย่างแน่นอนครับ" 

พอออกมาจากบ้าน กวานอี้เหลียงถอนหายใจยาว

หยางปินตบไหล่ของเขา แล้วพูดปลอบใจว่า "เสี่ยวเหลียงจือ ไม่ต้องห่วง พวกเราต้องจับเจ้าหมอนั่นได้อย่างแน่นอน!" 

กวางอี้เหลียงกำหมัดแน่น "ต้องจับเขาให้ได้!" 

เจ้าสุนัขเจ้าเล่ห์! ปีศาจโหดเหี้ยม! คาดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะฆ่าคนบริสุทธิ์ได้มากขนาดนี้ ทั้งยังกลั่นแกล้งและหลอกใช้พวกเราตำรวจแบบนี้อีก! และยังลงมือฆ่าผู้บริสุทธิ์อีกคน! มันน่ารังเกียจมากเกินไปแล้ว! ถ้ายังปล่อยให้เขาลอยนวลอยู่ข้างนอกแบบนี้ สวรรค์จะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ!

ขณะนั้นสถานีตำรวจเองก็โทรศัพท์มา หยางปินให้พวกเขาไปตรวจสอบ IP address [footnoteRef:1]ของอู๋หมิงซือ หาเจอแล้ว ทว่าคาดไม่ถึงว่าจะเป็นร้านอาหารที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แล้วร้านอาหารแห่งนั้นมีบริการ แม้ว่าจะอยู่นอกร้านอาหารก็สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้ นี้เป็นสถานที่ที่ไม่สะดวกเลยสักนิด  [1: IP ADRESS คือ หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ ใช้เป็นหมายเลขกำหนดตำแหน่งของเครื่องในการ รับ-ส่ง ข้อมูลต่างๆ]

ตอนนี้ทุกที่ล้วนมี โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ทุกแห่งที่มีผู้คน ล้วนเปิดให้บริการฟรี ถ้าสัญญาณค่อนข้างดี พอออกไปอยู่ข้างนอกก็ยังสามารถเชื่อมต่อได้ เดิมทีเลยไม่ต้องเข้าไปข้างใน อยากเข้าไปโพสต์ข้อความ อย่างนั้นก็ทุ่นเวลาได้พอแล้ว

สำหรับการลงทะเบียนเองก็หมดคำพูด ข้อมูลเหล่านั้นไม่สามารถรับรองได้เลย

มีแต่ระดับ Vip ของเว็บเท่านั้นที่จะมีข้อมูลมายืนยัน โดยผูกเข้ากับหมายเลขโทรศัพท์ คนธรรมดาไม่มีข้อมูลที่รับรองได้หรอก ไม่มีกำหนดการเรื่องการรับรองเหล่านี้

ถึงแม้จะเคยรับรองได้ว่าในโพสต์ที่มีกระแสและได้รับสิทธิพิเศษมากมาย แต่เหมือนกับไม่มีการรับรองที่เป็นประโยชน์ได้เลย สามารถโพสต์ได้โดยที่ไม่ส่งผลกระทบใดๆ เลยสักนิด

สำหรับผลลัพธ์แบบนี้ เสิ่นอี้กลับคาดไม่ถึง เขาพูดเสียงเรียบว่า "เขาคงไม่มีทางทำให้พวกเราตามหาตัวเขาเจอด้วยวิธีการแบบนี้! อย่างงั้นก็คงโง่เกินไปแล้ว!" 

หยางปินเงียบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า "ส่วนโจวฉง ก่อนหน้านี้ก็แค่จับตาดูเขาก่อน ก่อนหน้าที่ยังไม่เจอหลักฐานใดๆ พวกเราเองก็ห้ามไปทำอะไรกับเขา" 

"วางใจได้" เสิ่นอี้ยิ้มเย็น "ผมก็ไม่เชื่อว่าเขาจะไม่แสดงพิรุธออกมาเลยสักนิดเดียว ก่อนอื่นเรามาจับคนร้ายที่ก่อคดีฆ่าหั่นศพของเมิ่งซินถงก่อนแล้วค่อยว่ากัน โจวฉงคนนี้ เขาก็ไม่มีทางอยู่นิ่งได้นานหรอก"

งานตรวจสอบในวันนี้ พวกเขามีความคืบหน้ามาก อย่างน้อยที่สุดแนวคิดของคดีก็มีความชัดเจนขึ้น ขั้นตอนต่อไปก็คือปิดข้อสงสัยไปทีละอย่าง 

พอกลับมาที่สถานีตำรวจ ทุกคนต่างก็นำข้อมูลที่ได้จากสืบสวนมาแลกเปลี่ยนกันอีกครั้ง ทางด้านของเหลียงปิงและฟางจิ่ง การสืบสวนของเหล่าเทียและพวกเขาเองก็มีความก้าวหน้า สองคนนี้ก็ชอบไปเที่ยวที่บาร์ และอีกอย่างก็ไปทุกๆ วันหยุดสุดสัปดาห์เป็นปกติ จนกระทั่งพอไปตรวจสอบที่บาร์แห่งนั้นก็ค้นหาข้อมูลไม่พบอีก แต่ก็ได้ยินว่าทำสองคนนี้ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมคลาสเต้น กิจกรรมทางวัฒนธรรมที่จัดโดยโรงพยาบาลและโรงเรียน พวกเธอก็เคยไปแสดงมาด้วย 

อ้ายหลุน 

คนคนนี้ เป็นบุคคลที่ต้องตรวจสอบอีกครั้ง!

บังเอิญในบาร์มีนักร้องปรากฏตัว เปิดคลาสสอนเต้นเพิ่มเติม ไม่รู้ว่าเมิ่งซินถงเข้าร่วมคลาสเรียนเต้นหรือไม่ ทว่าเหลียงปิงและฟางจิ่งกลับเข้าร่วม นั่นจะเป็นคลาสเรียนที่อ้ายหลุนเปิดสอนหรือเปล่า

แต่ความเป็นไปได้ก็ยังมีมากๆ อยู่ดี

หลังจากการอภิปรายบทสรุปของคดีแล้ว พวกเขาก็เริ่มวางแผนงานคืนนี้ต่อ

เย่หนิง เสิ่นอี้และคนอื่นๆ ยังคงปลอมตัวเหมือนเดิม แต่คืนนี้เย่หนิงไปกับเสิ่นอี้ สองคนที่เหลือก็ตามเข้าไปเป็นปกติ

บาร์เทนเนอร์เป็นคนเดิมกับเมื่อคืน พอเห็นว่าเย่หนิงมากับเสิ่นอี้ก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ยิ้ม แต่ก็ไม่พูดอะไร 

สถานการณ์เช่นนี้ โดยปกติพวกเขาก็พบเห็นในบาร์อยู่บ่อยครั้ง ไม่มีอะไรต้องตกใจหรือแปลกใจเลยด้วยซ้ำ

เย่หยิงสั่งเหล้าแบบเดียวกับเมื่อคืนก่อน แล้วโพล่งปากถามบาร์เทนเนอร์ว่า "พี่ชาย คุณทำงานมาที่นี่กี่ปีแล้วเหรอคะ" 

"หลายเดือนแล้ว! ก่อนหน้านี้ทำอยู่ที่บาร์อื่น" บาร์เทนเนอร์ยื่นเหล้าให้เย่หนิง ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า "ยังคิดอยู่เลยว่าคืนนี้คุณจะมาหรือเปล่า" 

"มาสิคะ ไม่อย่างงั้นคงเบื่อตายเลย มาเปิดหูเปิดตาบ้าง เขาคนนั้นมาไหมค่ะ" ขณะที่เย่หนิงกำลังคุยกับบาร์เทนเนอร์ เสิ่นอี้ที่อยู่ข้างหลังก็เขยิบตัวเข้ามาแล้วโอบที่เอวของเธอ แล้วพูดเสียงเนิบๆ ว่า "นักร้องอะไร คุณยังอยากจะมาดูให้ได้อีกเหรอ เขาร้องเพลงเพราะขนาดนั้นเลย" 

"ยุ่งอะไรด้วย!" เย่หนิงผลักเสิ่นอี้ แล้วถามบาร์เทนเนอร์อีกครั้งว่า "เขายังไม่มาอีกเหรอ อย่างงั้นฉันก็มาเสียเที่ยวอีกแล้วน่ะสิ!" 

"มาครับ คงนั่งอยู่ข้างบน ทางด้านนั้น" บาร์เทนเนอร์ชี้ขึ้นไปข้างบน "ที่ห้องใหญ่มุมในสุดด้านนั้น พวกเขามักจะมากันปกติ แล้วก็จะนั่งอยู่ตรงนั้นเสมอ เขาดูเตะตามาก ย้อมผมสีบลอนด์ โดดเด่นมาก เขาสูงแล้วก็ขาวมากๆ ผมยืนยันได้เลยว่าแค่คุณมอง เขาก็จะสะดุดตาคุณแล้ว"

“ฉันจะขึ้นไปดู" เย่หนิงไม่สนใจเหล้า แล้ววิ่งตรงขึ้นไปทันที

“รอผมด้วยสิ!" เสิ่นอี้รีบตามขึ้นไปข้างบน 

สองหนุ่มที่ปลอมเป็นเด็กรุ่นที่มาเที่ยวหัวเราะเหอะๆ แล้วก็รีบตามขึ้นไป

บาร์เทนเนอร์ส่ายหน้า แล้วพูดทักทายแขกต่อ

เย่หนิงและเสิ่นอี้เดินขึ้นไปตามทางที่บาร์เทนเนอร์ชี้ กระทั่งเดินมาถึงห้องที่อยู่ในสุด ห้องค่อนข้างอยูในมุมที่ลับตาคน จากข้างนอกมองเห็นคนนั่งอยู่ข้างใน คนราวเจ็ดถึงแปดคนเป็นชายหญิงวัยรุ่น ก็เป็นอย่างที่บาร์เทนเนอร์บอก สะดุดตามาก คนคนนั้นย้อมผมสีบลอนด์ สีผิวขาวซีด เป็นชายหนุ่มอายุน้อยที่มีใบหน้าหล่อเหลาและสะดุดตามาก

อ้ายหลุน! 

ดูแล้วคงเป็นเขา! 

"ครูอ้ายหลุน" เย่หนิงเข้าไปแล้วก็ทักทายเสียงดัง เจตนาดึงดูดความสนใจของอ้ายหลุน 

อ้ายหลุนรู้สึกคาดไม่ถึงเล็กน้อย เขาเงยหน้าขึ้นมอง มองหญิงสาวอายุน้อยใบหน้างดงามที่อยู่ตรงหน้า "คุณคือ?"