webnovel

ตอนที่ 130

ตอนที่ 130 ทางที่โรยด้วยกลีบดอกไม้

"ใช่ ต้องเป็นแบบนี้ ดังนั้นเขาถึงต้องการสร้างหลักฐาน!" เสิ่นอี้พูดอีกครั้ง "ถึงแม้ว่าเขาต้องการใช้ประโยชน์จากความคิดเห็นของประชาชน ก็ต้องมีหลักฐานเพียงพอ แล้วอีกอย่างมีคนร้ายรายใหม่ปรากฏตัว นี่จึงเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!"

หยางปินยิ้มเย็น "ดังนั้นเขาถึงได้ฆ่าเมิ่งซินถง! โดยใช้วิธีการเดียวกัน ทำให้พวกเราตำรวจและทุกๆ คนล้วนคิดว่าเป็นฆาตกรคนเดียวกันกับเมื่อปีนั้น แล้วเผยแพร่ลงบนเว็บไซด์ เอาความคิดเห็นของประชาชน มาสุมเป็นเชื้อเพลิงชั้นเยี่ยม! อยากดึงดูดให้คนเบื้องบนเกิดความสนใจ และสอบสวนคดีนี้ใหม่อีกครั้ง มอบความยุติธรรมให้อู๋เหวินคัง"

"เป็นแบบนี้นี่เอง!" 

การคาดการณ์ของเสิ่นอี้ มีความเป็นไปได้มาก! 

ไม่อย่างนั้นอู๋หมิงซือคนนี้ ทำไมถึงได้เข้าใจสถานการณ์คดีของเมิ่งซินถงได้กระจ่างขนาดนี้

และอีกอย่างถ้าเขาฆ่า ทำไมเขาถึงไม่จัดการอย่างเงียบๆ แต่กลับเอามาเผยแพร่ในออนไลน์

ความจริงเหตุผลทั้งหมดก็เป็นไปตามที่เสิ่นอี้พูด ‘เขาฆ่าเมิ่งซินถง ก็เพื่อทำหลักฐานใหม่ หลักฐานว่าอู๋เหวินคังเป็นผู้บริสุทธิ์! ที่นำมาเผยแพร่ทางออนไลน์ก็เพื่อให้ทุกๆ คนรับรู้ ยิ่งเรื่องนี้ดังเท่าไหร่ก็ยิ่งดี! แบบนี้ก็จะยิ่งดึงดูดความสนใจได้มากยิ่งขึ้น ความเป็นไปได้ของการขุดคดีเก่าขึ้นมาสืบครั้งก็ยิ่งเป็นไปได้เข้าไปอีก!’

และแค่นำคดีนี้มาตรวจสอบ ร้อยละเก้าคดีนี้จะต้องพลิก 

จุดนี้ในใจของเย่หนิงและคนอื่นๆ ต่างก็เข้าใจแจ่มแจ้ง 

แฟ้มคดีพวกเขาเองก็เคยเห็นมาแล้ว แน่นอนอยู่แล้วว่าคำสารภาพของอู๋เหวินคังมีจุดที่บกพร่องมากมาย และมีจุดที่น่าสงสัยมากๆ ถ้าตรวจสอบอีกครั้ง ข้อสงสัยเหล่านี้จะถูกกันออกไป และถูกตรวจสอบใหม่อีกครั้ง

หยางปินขมวดคิ้ว "ไม่ลังเลที่จะฆ่าคนก็เพื่อที่จะพลิกคำตัดสินของอู๋เหวินคังงั้นเหรอ เจ้าหมอนี่ สรุปแล้วเป็นอะไรกับอู๋เหวินคังกันแน่" 

เสิ่นอี้พูดขึ้นมาว่า "ข้อมูลของผู้โพสต์ เราอาจไม่สามารถค้นหาข้อมูลของคนๆ นี้ได้เลย ผมขอแนะนำให้พวกเรามุ่งเน้นไปที่การสอบสวนผู้คนรอบตัวของอู๋เหวินคัง! แค่มีญาติที่สนิทมากๆ ของอู๋เหวอนคัง คนที่มีความสัมพันธ์ดีที่สุดต้องเป็นคนทำแบบนี้!"

"งั้นเหลียงปิงและฟางจิ่งล่ะ" เย่หนิงพูดเสริม "ที่พวกเธอทั้งสองคนหายตัวไป คงไม่ใช่ความบังเอิญใช่ไหม"

"แน่นอนว่าไม่ใช่ครับ!" เสิ่นอี้ยิ้มเย็นพลางพูดว่า "ตอนนี้ พวกเธอเป็นตัวประกัน!" 

"ตัวประกัน!" เย่หนิงตกตะลึง 

"ใช่ครับ" เสิ่นอี้ยิ้มเย็น "เขาในตอนนี้ก็คงกำลังรอความเห็นของพวกเรา! ถ้าพวกเราไม่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้ เขาก็ยังจะฆ่าต่อ! เหลียงปิง! ฟางจิ่ง! บางทีอาจจะมีมากกว่านั้น! ฆ่าจนกว่าพวกเราจะตรวจสอบคดีของอู๋เหวินคังใหม่!"

"เหอะ!" หยางปินโมโหเป็นอย่างมาก "เขามั่นใจในตัวเองเกินไปหน่อยหรือเปล่า เขามั่นใจว่าพวกเราจะจับเขาไม่ได้เลยงั้นเหรอ"

เสิ่นอี้ส่ายหน้า "เขาไม่ได้เป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองเลยครับ แต่แค่รู้สึกว่าตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่าปีนั้นพวกเราจับคนผิด ดังนั้นเมื่อการก่ออาชญากรรมที่คล้ายกันเกิดขึ้นอีกครั้ง พวกเราต้องตรวจสอบคดีเก่าอีกครั้งแน่นอน และมุ่งเน้นไปที่คดีเก่าเมื่อปีนั้น แต่น่าเสียดายเขารีบร้อนเกินไป เลยเผลอยื่นเท้าออกมาเสียแล้ว!" 

กวานอี้เหลียงแค้นเคืองอย่างมาก "เจ้าหมอนี่ ปลิ้นปล้อนจริงๆ เลย!" 

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เสิ่นอี้จึงพูดขึ้นมาว่า “คู่ต่อสู้ของพวกเราไม่ง่ายเลย หลังจากที่ก่อคดี รู้การปกปิดร่องรอย แล้วยังรู้ว่าจะโทษคนอื่นได้อย่างไร แต่น่าเสียดายเขายังอ่อนเกินไป เป็นไปได้ว่าอยากจะรีบพลิกคดีของอู๋เหวินคังเกินไป เลยเผลอเปิดเผยตัวตั้งแต่ทีแรก"

"ดูแล้ว ตอนนี้พวกเรามามุ่งเน้นที่จุดนี้กันก่อน" หยางปินพูดพลางโทรศัพท์กลับไปอีกครั้ง ให้คนไปตรวจคดีเมื่อปีนั้นของอู๋เหวินคัง และคนที่มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับอู๋เหวินคัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งญาติสนิท ยกตัวอย่างเช่น พ่อ แม่ และพี่น้อง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นจุดสำคัญที่ต้องตรวจสอบ

แต่ผลแบบนี้ กลับค่อนข้างตรงกันข้ามกับสิ่งที่พวกเขาคาดหวังไว้ เดิมทีพวกเขาก็ตกอยู่ในสภาวะที่อึดอัดอยู่แล้ว พอโพสต์หลุดออกไป ก่อให้เกิดความกังวลใจเป็นอย่างมาก สำหรับพวกเขาแล้วยิ่งรู้สึกเหมือนถูกซ้ำเติม เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าโพสต์นี้ที่ดึงพวกเขาสู่หนทางลำบาก สุดท้ายกลับให้โอกาสแก่พวกเขา 

เป็นหนทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค แต่กลับโรยกลีบดอกไม้จริงๆ!

เย่หนิงค่อยๆ ดึงเสื้อผ้าของเสิ่นอี้ แล้วถามว่า "งั้นคืนนี้ พวกเรายังต้องไปที่บาร์หาอ่ายหลุนคนนั้นไหมคะ" 

"แน่นอนว่าต้องไป นั่นเป็นจุดสำคัญที่ต้องค้นหา เบาะแสอื่นๆ แน่นอนว่าก็ทิ้งไม่ได้เช่นกัน หลังจากรอให้จัดการเรื่องนี้จบ พวกเราก็ต้องกลับไป คืนนี้ต้องไปที่บาร์อีก ไปพบกับอ่ายหลุนคนนั่น! ก่อนที่ความจริงจะเผยออกมา ทุกคนล้วนเป็นผู้ต้องสงสัย ดังนั้นจุดที่น่าสงสัยเหล่านั้นไม่สามารถปล่อยไปได้"

ประตูเปิดแล้ว! 

กวานลี่ผิงค่อยๆ เดินออกมาจากข้างใน

แค่หนึ่งชั่วโมงสั้นๆ ทว่ากลับเหมือนว่าในเวลาสั้นๆ หนึ่งชั่วโมงนี้ เขายิ่งดูแก่เข้าไปอีก

"ศาสตราจารย์เสิ่น หัวหน้าหยาง!" กวานลี่ผิงค่อยๆ เดินมาที่เถาต้นองุ่นอย่างช้าๆ แล้วมองมือของตนที่จับผลองุ่น ในสายตาปรากฏความว่างเปล่า "ผลองุ่นนี้ ตอนนี้เจริญเติบโตได้ดีมาก"

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม พลางพูดว่า "คุณกวานครับ สวนแห่งนี้จัดได้ไม่เลวเลย" 

กวานลี่ผิงฉีกยิ้มให้อย่างขมขื่น "ไม่อย่างงั้นจะให้ทำอะไร ไม่มีอะไรทำก็ต้องจัดสวน"

กวานลี่ผิงประคองพวงองุ่น สีหน้าคล้ายกับสูญเสีย หลังจากนั้นเป็นเวลานานจึงค่อยๆ พูดขึ้นมาว่า "จากวันแรกที่เกษียณ มือทั้งสองข้างนี้ของผมที่ไม่รู้ว่าผ่าชันสูตรศพมามากเท่าไหร่เคยจัดการคดีมาตั้งมากมาย ผมก็จำได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ความทรงจำที่จำได้แม่นยำที่สุด คือเมื่อเรื่องคดีเมื่อสิบห้าปีก่อนของอู๋เหวินคัง! นั่นเป็นผลกระทบที่เลวร้าย เป็นคดีฆ่าหั่นศพที่ทำให้เกิดความหวาดหวั่นไปทั่วทั้งเมืองตงไห่! ปีนั้นผมเองก็เป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ร่วมตรวจสอบคดีนั้น"

"ถึงแม้ว่าจะผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว แต่มีหลายเรื่องที่พอคิดย้อนกลับไปก็ยังคงปรากฏอย่างเด่นชัด คล้ายกับว่าเกิดขึ้นเมื่อวาน สี่ชีวิตที่ถูกคนร้ายฆ่าและหั่นศพอย่างโหดเหี้ยม แต่ฆาตกรกลับยังห่อชิ้นส่วนร่างกายของพวกเธอจนเหมือนกับของขวัญแล้วส่งออกไป วางไว้ทุกมุมของเมืองตงไห่คล้ายกับว่ากำลังเย้ยหยันพวกเรา!"

"ศพแรกถูกค้นพบในเดือนสิงหาคม กระทั่งเดือนธันวาคม ไม่ถึงครึ่งปีคนร้ายก็สังหารไปแล้วสี่ศพ แล้วยังมีความเป็นไปได้มากว่ายังจะมีเหยื่อมากกว่านี้อีก พวกเรากลับไม่มีวิธีการแก้ไขปัญหา ปลิ้นปล้อนมาก เขาปิดบังตนเองได้ดีมาก อีกอย่างในสถานที่เกิดเหตุ เขาไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดๆ เอาไว้เลย! แม้ว่าพวกเราจะใช้กำลังคนไปเป็นจำนวนมาก ระดมทรัพยากรทั้งหมดที่ระดมได้ แต่กลับไม่สามารถสัมผัสได้แม้แต่เงาของฆาตกร"

“งั้นทำไมเกิดเรื่องกับอู่เหวินคัง" เสิ่นอี้ถาม "สุดท้ายทำไมเป้าหมายของคุณถึงเป็นอู๋เหวินคังได้"

สีหน้าของกวานลี่ผิงดูอึดอัดใจ คล้ายกับว่าขณะที่คิดย้อนกลับไปเรื่องนี้ ในแววตาปรากฏความรู้สึกเจ็บปวดและต่อต้าน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากคิดย้อนกลับไปเรื่องนี้ 

"ฝันร้าย!" 

กวานลี่ผิงถอนลมหายใจยาว "สำหรับเรื่องนี้ถ้าให้ผมพูดมันเป็นฝันร้ายชัดๆ! ถึงจะผ่านมาหลายปี ถึงผมจะเกษียณ แต่คาดไม่ถึงว่าจะลบฝันร้ายนี้ออกไปไม่ได้เลย!" 

"เพราะคนๆ นั้นยังมีชีวิตมาตลอด และยังอยู่ในความฝันของคุณใช่ไหม" เสิ่นอี้มองกวานลี่ผิง แล้วพูดออกมาทีละคำว่า "นอกจากจับคนๆ นั้นด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นฝันร้ายของคุณ ก็คงจะไม่มีทางจบสิ้นอย่างแน่นอน!"