webnovel

ตอนที่ 125

ตอนที่ 125 ปิดบัง

กวานลี่ผิงนิ่งไป มองเสิ่นอี้และคนอื่นๆ พลางพูดอีกครั้งว่า "คดีฆ่าหั่นศพครั้งนี้ผมเองก็ได้ดูรายงานข่าวเหล่านั้นแล้ว เลยรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ที่ศาสตราจารย์เสิ่นและพวกคุณเลือกมาหาผมเวลานี้ มาหากะทันหัน เพราะพบว่าคดีฆ่าหั่นศพตอนนี้และคดีฆ่าหั่นศพเมื่อ 15 ปีก่อนมีความเกี่ยวข้องกัน ผมพูดถูกใช่ไหม" 

เสิ่นอี้ยิ้ม "คุณกวาน ถึงแม้ว่าคุณจะเกษียณแล้ว แต่ไหวพริบไม่ได้ล่วงเลยตามอายุเลยนะครับ"

กวานลี่ผิงเองก็ยิ้ม "ศาสตราจารย์เสิ่น คุณไม่ต้องมาพูดให้คนแก่ยิ้มเลย ไหวพริบไม่ได้ล่วงเลยอะไรกัน แก่แล้ว ไม่ยอมรับว่าแก่ก็คงไม่ได้ ทุกท่าน เชิญไปนั่งข้างในกันเถอะ ต้องขอโทษที่ไม่ได้ให้การต้อนรับอย่างดี เชิญดื่มชาก่อน" 

หยางปินรีบพูดขึ้นว่า "คุณกวาน อย่ายุ่งยากไปเลย พวกเรานั่งสักพักก็จะไปแล้ว" 

พอเข้าประตูมา กวานลี่ผิงเองก็ไม่พูดพร่ำ จึงพูดถามไปตรงๆ ว่า "ค้นหาอะไรเจอบ้าง" 

กวานลี่ผิงพูดออกมาตรงๆ ถึงขนาดนี้ เสิ่นอี้เองก็ไม่เหนียมอาย จึงถามคำถามออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่า "คุณกวาน โปรดยกโทษให้ผมด้วย คดีฆาตกรรมต่อเนื่องเมื่อ 15 ปีก่อน มีคนรับผิดชอบคดีนี้กี่คน พูดตามจริงแล้ว ตอนนั้นคดีปิดได้อย่างรวดเร็ว คนร้ายถูกจับเข้าคุก แล้วก็รับสารภาพอย่างรวดเร็ว และถูกตัดสินประหารชีวิต ตอนนั้นคุณกวานไม่รู้สึกจริงๆ เหรอว่าไม่มีอะไรที่น่าสงสัย คุณไม่รู้สึกว่าคดีนี้มันแปลกประหลาดเหรอครับ”

กวานลี่ผิงมองเสิ่นอี้ แล้วพูดเสียงเรียบว่า "ศาสตราจารย์เสิ่น คุณหมายความว่าอะไร รู้สึกว่าพวกเราจับผิดคนเหรอ ถ้าใช่ ไหนคุณก็ลองพูดมาสิ" 

เย่หนิงแอบแลบลิ้น ‘ตาแก่กวาน นิสัยคุณนี้ เหอะๆ!’

เสี่นอี้พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งว่า "ผมยังยืนยันคำพูดเดิมครับ" 

กวานลี่ผิงตกตะลึง รู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอ

เย่หนิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอเองก็คิดไม่ถึงว่าเสิ่นอี้จะพูดออกมาตรงๆ ขนาดนี้ ไม่คิดจะไว้หน้าเขาหน่อยหรือไง

กวานลี่ผิงร้องเหอะ "ข้อสรุปจากหลักฐาน จะไปมีทางจับผิดคนได้อย่างไรล่ะ! เพราะการลงมือของคดีในครั้งนี้กับคดีในปีนั้นเหมือนกัน พวกคุณก็เลยสงสัยว่าพวกเราจับผิดคนใช่ไหม" 

"ไม่ได้จับผิดคนเหรอครับ" เสิ่นอี้จ้องกวานลี่ผิง แล้วถามเสียงเย็นว่า "กวานลี่ผิง คุณแน่ใจขนาดนี้ได้ยังไงว่าพวกคุณไม่ได้จับผิดคน"

"เหอะ!" กวานลี่ผิงอารมณ์เสีย "ข้อสรุปจากหลักฐาน! พวกเราจะไปจับผิดคนได้อย่างไร! อีกอย่างตอนนั้นคนร้ายก็ยอมรับเอง! เขาฆ่าทุกคน! แรงจูงใจในการฆ่า! เวลาในการก่อคดีก็มีทั้งหมด! จะเป็นเรื่องโกหกได้ยังไง" 

"แรงจูงใจในการฆ่า เวลาก่อคดี" เสิ่นอี้ค่อยๆ พูดอย่างช้าๆ "แรงจูงในการก่อคดีแค่เพราะอยากฆ่าแฟนสาวของตนเองเหรอครับ กระทั่งช่วงเวลาในการก่อคดีมีแค่เขาคนเดียวที่รู้ ก็เลยไปยืนยันเทอะทะไปว่าเขาเป็นผู้ร้ายแบบนี้เหรอครับ" 

กวานลี่ผิงพูดอย่างโมโหว่า "ผมไม่ได้บอกไปแล้วใช่ไหมว่าฆาตกรรับผิดแล้ว คุณยังมีอะไรต้องถามอีก!" 

"คนร้ายยอมรับผิดแล้ว" เสิ่นอี้ถาม "อุปกรณ์ที่ใช้ลงมือล่ะ พวกคุณหาเจอไหม" 

กวานลี่ผิงนิ่งชะงัก หลังจากนั้นก็พูดอย่างรวดเร็วว่า "ถ้าคนร้ายยอมรับผิดแล้ว จะหาอุปกรณ์ที่ใช้หรือไม่นั้นเกี่ยวข้องยังไง เขาจำไม่ได้ว่าเอาอุปกรณ์ที่ใช้ลงมือเอาไปทิ้งที่ไหน แล้วพวกเราจะไปหาจากที่ไหนล่ะ" 

"เป็นแบบนี้จริงๆ เหรอครับ" สำหรับเหตุผลที่กวานลี่ผิงพูด เสิ่นอี้ไม่มีทางเชื่อ 

เหตุผลนี้ ความจริงแล้วไม่น่าเชื่อเลยสักนิดเดียว 

"เหอะ! คดีเมื่อปีนั้น พอคนร้ายยอมรับผิดแล้ว พวกเราอยู่ที่บ้านของเขา แล้วก็หาหลักฐานการลงมือได้ พึ่งสิ่งเหล่านี้ยังไม่สามารถตัดสินได้อีกเหรอ หรือว่ายังต้องหาอุปกรณ์ก่อคดีให้เจอก่อนถึงจะพอ"

เสิ่นอี้มองกวานลี่ผิงครู่หนึ่ง แล้วทันใดนั้นก็ถามต่ออีกครั้งว่า "ฆาตกรได้บอกกับพวกคุณไหมว่าเขารู้จักเหยื่อพวกนั้นได้อย่างไร"

กวานลี่ผิงหลบสายตาของเสิ่นอี้ กล่าวเสียงนิ่งด้วยสีหน้าเย็นชาว่า "ศาสตราจารย์เสิ่น ถ้าคุณอยากถามคำถามเหล่านั้น งั้นฉันผมจะบอกเลยนะ คุณมาหาคนผิดแล้วจริงๆ! ผมเป็นหมอนิติเวช ไม่ใช่ตำรวจ เรื่องที่คุณเป็นห่วงทั้งหมดไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของผม ดังนั้นผมเลยไม่สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องกับคุณได้" 

นี่มันท่าทางอะไรกัน! เย่หนิงรู้สึกไม่สบายใจมากเป็นพิเศษ เจ้าหมอนี่ตั้งใจไม่พูดชัดๆ! แต่พอเขายิ่งเป็นอย่างนี้ก็ยิ่งน่าสงสัย! พิสูจน์ได้เลยว่าเขาต้องรู้อะไรบางอย่าง แค่ไม่ยอมพูดออกมาเท่านั้น

คาดว่าเป็นเพราะเห็นร่องรอยความโกรธของหยางปิน กวานอี้เหลียงตื่นตระหนก "พ่อ! ปกปิดอะไรอยู่ พวกเราก็แค่อยากพยายามค้นหาความจริงเท่านั้น!" 

กวานลี่ผิงจ้องเขา "ค้นหาความจริงเหรอ หมายความว่ายังไง หรือหมายความว่าการสอบสวนปีนั่นของพวกเราไม่ใช่ความจริง ฆาตกรไม่ใช่เจ้าคนแซ่อู๋คนนั้น และยังมีคนอื่นอีก ความหมายของพวกคุณ คือพวกเราจับตัวผิดคนเหรอ พวกคุณมีเหตุผลอะไรที่คิดแบบนี้ ก็เพราะวิธีการลงมือมีความคล้ายคลึงกัน ดังนั้นพวกคุณเลยตัดสินว่าพวกเราจับผิดคนเหรอ การสอบสวนคดีของพวกคุณ ทำได้ลวกๆ ขนาดนี้เลยเหรอ"

พอกวานอี้เหลียงถูกพ่อของตนเองตวาดขนาดนี้ ก็เลยไม่กล้าพูดเลยจริงๆ และกวานลี่ผิงก็ออกคำสั่งให้ส่งแขกออกไปแล้ว "ศาสตราจารย์เสิ่น หัวหน้าหยาง ผมไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เชิญพวกคุณกลับไปได้!"

เสิ่นอี้ไม่ได้หมายจะออกไปเลยสักนิดเดียว เขาพูดอย่างไม่รีบเร่งว่า "หมอกวาน คุณรีบเหรอ" 

สีหน้าของกวานลี่ผิงแปรเปลี่ยนไป "ผมรีบอะไร" 

"ไม่ใช่เหรอครับ" เสิ่นอี้นั่งอยู่บนโซฟา กอดอก แล้วเอ่ยเสียงเรียบพลางมองกวานลี่ผิงด้วยสีหน้าเย็น "งั้นคุณจะรีบทำไม แล้วทำไมพวกเราต้องไป ก็แค่เพราะว่าพวกเราสงสัยว่าคดีเก่าเมื่อปีนั้นตัดสินผิด ถ้าคุณรีบขนาดนั้นพวกเราก็คงต้องรีบไปแล้ว สูญเสียความมั่นใจเหรอครับ"

เสิ่นอี้พูดพลาง ฉีกยิ้มอีกครั้ง "คุณหมอกวาน สิ่งที่คุณพูดนั่นไม่เลวจริงๆ คุณเป็นหมอนิติเวชจริงๆ ดังนั้นเรื่องในด้านอื่นๆ คุณอาจจะเข้าใจได้ไม่ชัดเจนมาก แต่คุณคงลืมไปแล้วว่าผมศึกษาค้นคว้าอะไรอยู่"

"จิตวิทยาอาชญากรรม!" ตอนที่เสิ่นอี้กล่าวคำไม่กี่คำนี้ ดวงตาจ้องมองกวานลี่ผิงตาไม่กะพริบ

สีหน้าของกวานลี่ผิงยิ่งไม่น่ามอง แต่ก็ทำให้ตนเองสงบนิ่งได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง คล้ายกับว่าพยายามควบคุมอารมณ์ของตนเองมากๆ หลังจากผ่านไปนาน ก็พูดว่า "ศาสตราจารย์เสิ่น ผมไม่เข้าใจความหมายของคุณ" 

“ไม่เข้าใจเหรอครับ" เสิ่นอี้กลับไม่รีบ ยังคงพูดอย่างช้าๆ ว่า "ถ้าไม่เข้าใจ ผมยังสามารถพูดอย่างช้าๆ ให้คุณเข้าใจได้ พูดไม่หยุดจนกว่าคุณจะเข้าใจ! คุณไม่รู้สึกหรือว่าคุณเพิ่งแสดงมันออกมา ไม่ใจร้อนเกินไปหน่อยเหรอครับ ที่คุณจะรีบปฏิเสธเรื่องเหล่านั้นขนาดนี้ มั่นใจ หรือสูญเสียความมั่นใจ ในใจของคุณเท่านั้นที่เข้าใจเรื่องนี้ดี!"

"ผมสูญเสียความมั่นใจอะไร" 

"คุณสูญเสียความมั่นใจอะไร งั้นทำไมคุณถึงได้หลีกเลี่ยงปัญหาของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าคุณไม่มั่นใจ งั้นทำไมถึงอยากให้พวกเรารีบไปขนาดนี้ ถ้าคุณไม่มั่นใจ งั้นทำไมถึงไม่อดทนอธิบายความจริงของคดีเมื่อปีก่อนให้พวกเราทราบล่ะ คุณอธิบายได้ไหม" 

กวานลี่ผิงชะงักงันอยู่ตรงนั้น หลายวินาที สุดท้าย สติจึงค่อยๆ มองกลับมาอย่างช้าๆ สีหน้าที่มองเสิ่นอี้แปลกไปเล็กน้อย

เสิ่นอี้ถามย้ำอีกครั้ง "ทำไม คุณหมอกวาน หรือว่าผมพูดผิด" 

กวานลี่ผิงกล่าวด้วยสีหน้าเรียบนิ่งว่า "ผมเพิ่งบอกไปว่าผมเป็นแค่หมอนิติเวช คุณอยากรู้เรื่องพวกนั้น ผมไม่มีทางเข้าใจอยู่แล้ว คุณมาหาคนผิดจริงๆ"