webnovel

ตอนที่ 112

ตอนที่ 112 ชีวิตกลางคืน

"ฉันจะรู้ไหมเล่า!" เมิ่งซินซินเม้มริมฝีปาก "เธอไปเที่ยวที่ไหน ก็ไม่เห็นต้องบอกฉันเลย!" 

เสิ่นอี้มองเธออยู่ครู่หนึ่ง แล้วทันใดนั้นก็เอ๋ยปากถามขึ้นมาว่า " ความสัมพันธ์ของพวกคุณสองพี่น้องเป็นอย่างไรครับ" 

"ปกติ..." เมิ่งซินซินยังพูดไม่ทันจบก็แสดงปฏิกิริยาออกมา สีหน้าของเธอเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พูดออกมาด้วยสีหน้าหงุดหงิดว่า "นี่คุณตำรวจ คุณหมายความว่าอะไร สงสัยฉันเหรอ! นี่ พวกคุณนี่มันจริงๆ เลย ทำไมถึงได้เที่ยวสงสัยคนอื่นไปทั่วนะ! ฉันเป็นน้องสาวของเธอนะ! หลังจากนั้นคุณคงไม่มาสงสัยพ่อแม่ของฉันหรอกนะ" 

เสิ่นอี้กล่าวเสียงนิ่งว่า "พูดยากครับ ร้อยละเก้าสิบของคดีฆาตกรรม ส่วนใหญ่คนก่อคดีมักเป็นคนสนิท ไม่อย่างงั้นทำไมคนแปลกหน้าที่ไม่มีความเคียดแค้นใดๆ กับเหยื่อถึงต้องลงมือฆ่าด้วย คุณน้องสาว คุณว่าใช่ไหมล่ะ”

"พอได้แล้ว!" เมิ่งซินซินไม่เห็นด้วย "ฉันมีเรียนทุกวัน! เลยติดต่อกับพี่น้อยมาก!" 

"มีเรียนหรอ" เสิ่นอี้มองเธอยิ้มๆ "แต่ตอนนี้เป็นวันหยุดภาคฤดูร้อน!" 

"หยุดภาคฤดูร้อน...หยุดภาคฤดูร้อนแล้วไงล่ะ...ถึงหยุดภาคฤดูร้อนฉันก็ยังมีธุระของตนเองที่ต้องทำ...ใครจะไปยุ่งเธอล่ะ...อีกอย่าง เธอเป็นพี่สาวของฉัน ไม่ใช่ลูกสาวของฉันสักหน่อย เธอจะไปทำอะไร ที่ไหน ทำไมฉันต้องถามด้วย ทุกคนต่างโตๆ กันหมดแล้ว...เหตุผลแค่นี้ไม่เข้าใจหรือไง!" 

เสิ่นอี้ไม่สนใจท่าทางก้าวร้าวของเมิ่งซินซิน เขาถามต่อว่า "งั้นปกติแล้วคุณก็ไม่รู้น่ะสิครับว่างานอดิเรกของพี่สาวคุณคืออะไร" 

ครั้งนี้เมิ่งซินซินยังไม่ทันได้ตอบ กลับเป็นจางหยวนที่ทนไม่ได้อีกครั้ง แล้วพูดอย่างใส่อารมณ์ว่า "พวกคุณหมายความว่าอะไร สงสัยผมไม่พอ ยังจะมาสงสัยเมิ่งซินซินอีกเหรอ" 

เสิ่นอี้กล่าวอย่างไม่รีบร้อนว่า “ไม่ได้สงสัย ก็แค่ถามไปเท่านั้น พวกเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเมิ่งซินถงเลย ก็แค่อยากรู้การดำเนินชีวิตของเธอเท่านั้น อยากสัมผัสว่าเธอเป็นคนอย่างไร โดยปกติแล้วก็จะต้องเริ่มสอบสวนจากคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทของเธอก่อน ที่ผมถามอย่างละเอียด ก็เพื่อหวังว่าจะหาเบาะแสอะไรได้บ้าง ตอนนี้พวกเราไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ คุณมองพวกเราแย่ขนาดนี้ พวกเราเป็นตำรวจนะครับ ไม่ใช่เทพเจ้า! จะไปมีความสามารถเก่งกาจขนาดนั้นได้อย่างไร!" 

ขณะที่เสิ่นอี้พูด สายตาของเขาก็มองไปที่จางหยวน แล้วพูดต่ออีกครั้งว่า "ที่ผมถามงานอดิเรกและการดำเนินชีวิตพวกนั้นของเมิ่งซินถง แค่อยากจะรู้ว่าปกติเธอชอบไปทำอะไรที่ไหน ได้สัมผัสกับใครบ้าง สิ่งที่พวกผมพูด ล้วนแต่เป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหา! พวกเราอยากหาฆาตกรให้ได้เร็วๆ ถ้าหากเป็นการแก้แค้นคนที่พวกคุณรัก ก็ต้องยิ่งร่วมมือกัน! พวกเราทางตำรวจถาม นี่ก็ไม่ใช่เป็นการถามเล่นตามใจชอบ! ที่ไม่มีจุดประสงค์และผลลัพธ์ การที่ผมถามคงไม่ได้สิ้นเปลืองเวลาของทุกคนใช่ไหมครับ"

พอเสิ่นอี้พูดแบบนี้ จางหยวนและเมิ่งซินซินอับอายจนไม่พูดอะไรอีก กลับเป็นแม่ของเมิ่งซินถงที่พูดขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า "คุณตำรวจ ฉันจำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์...ฉันโทรไปหาเสี่ยวถง...ฝั่งของเธอเสียงดังมาก...เธอบอกว่าอยู่ที่ร้านอะไรสักอย่าง...ฉันจำได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ก็รู้สึกว่าในที่ๆ เธออยู่นั้นมีเสียงดังมากเป็นพิเศษ...เหมือนกับว่าข้างๆ มีคนจำนวนมากกำลังส่งเสียงดังอึกทึกอยู่… " 

"ร้านอินเตอร์เน็ตหรือเปล่าคะ" เย่หนิงสงสัย

เสิ่นอี้มองเย่หนิงเงียบๆ "ร้านอินเตอร์เน็ตจะอึกทึกขนาดนนั้นได้ยังไง น่าจะเป็นบาร์" 

"อ๋อ!" เย่หนิงเข้าใจแล้ว ‘เธออยากพูดว่าผับ บาร์ต่างหากล่ะ’

"จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร!" จางหยวนพูดอย่างใส่อารมณ์ "เสี่ยวถงจะไปที่แบบนั้นได้อย่างไร"

"คุณยืนยันได้ไหมล่ะว่าเธอจะไม่ไปที่แบบนั้น" เสิ่นอี้ถามกลับ "คุณจางครับ แล้วคิดว่าเป็นที่ไหน คุณก็คงไม่คิดว่าเป็นร้านอินเตอร์เน็ตใช่ไหม" 

จางหยวนพูดด้วยน้ำเสียงโมโหเล็กน้อยว่า "แม่ของผมอายุมากแล้ว จำไม่ได้แปลกตรงไหน! เสี่ยวถงและกลุ่มเพื่อนของเธออาจไปซื้อของข้างนอกก็ได้! เธอเป็นผู้หญิงที่อยู่บ้านคนเดียว จะไปสถานที่อย่างผับบาร์ได้อย่างไร! พูดจาเหลวไหล!" 

เสิ่นอี้ไม่สนใจจางหยวนอีก หันมาพูดกับแม่ของเมิ่งซินถงต่อว่า "คุณป้าครับ คุณป้ายังจำอะไรได้อีกบ้าง นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว ยังมีอะไรอย่างอื่นที่คุณป้าคิดว่าค่อนข้างแปลก หรือว่ามีอะไรที่คุณป้ารู้สึกว่าแปลกมากๆ บ้างไหม มีไหมครับ" 

"นี่..." แม่ของเมิ่งซินถงมองจางหยวนอย่างลังเลเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าคำพูดเมื่อครู่เหล่านั้นของเสิ่นอี้ ทำให้เธอรู้สึกกดดันเล็กน้อย

เสิ่นอี้พูดอีกครั้ง "คุณป้าครับ เมิ่งซินถงหายตัวไปตอนวันหยุดสุดสัปดาห์ ก่อนหน้าที่เธอจะหายไป เธอไปที่ไหน ไปทำอะไรกับใคร พวกเราไม่รู้! ดังนั้นสถานที่ที่เธอมักไปในวันหยุดสุดสัปดาห์ อาจเป็นไปได้มากว่าสถานที่ที่เธออยู่ก่อนหน้านี้เป็นที่ที่เธอหายตัวไป อีกอย่าง เธอก็ถูกพาไปในบริเวณนั่น! จนถึงตอนนี้ พวกคุณไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรจากพวกเราแล้ว" 

เมื่อเห็นสีหน้าแม่ของเมิ่งซินถงที่ยังสับสนอยู่เล็กน้อย เสิ่นอี้จึงพูดโน้มน้าวต่อว่า "พวกคุณปิดบังความจริงจากพวกเรา ก็อาจจะทำให้พวกเราสูญเสียเบาะแสบางอย่างไป นั้นก็เท่ากับกำลังช่วยปิดบังให้ฆาตกรอยู่! นี้เป็นผลลัพธ์ที่พวกคุณต้องการใช่ไหม" 

"พอได้แล้ว พวกคุณเลิกทำให้แม่ของฉันลำบากใจได้แล้ว!" เมิ่งซินซินตัดบทสนทนาของเสิ่นอี้ แล้วพูดว่า " พี่สาวของฉันไปบาร์ตอนวันหยุดสุดสัปดาห์จริงๆ!" 

ตอนที่พูด เธอตั้งใจมองไปที่จางหยวนเป็นพิเศษ เย่หนิงที่มองอยู่ข้างๆ ตลอด โดยที่ไม่พูดอะไร กลับเป็นเวลานี้เอง ที่พบว่าตอนที่เมิ่งซินซินกำลังพูด สายตาของจางหยวนดูแปลกไปเล็กน้อย

หมายความว่าอะไร ภายในใจของเย่หนิงรู้สึกว่าระหว่างสองคนนี้ เหมือนจะมีความลับบางอย่างที่ไม่อาจบอกใครได้!

ทว่าจางหยวนเอง ก็รีบหลบตาของเมิ่งซินซิน แล้วแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

แปลกมากจริงๆ 

ต้องมีปัญหาแน่นอน! เย่หนิงคิดในใจ! เพียงแต่ว่าตอนนี้เมิ่งถิงถิงและคนอื่นๆ อยู่ในบริเวณนี้ คงไม่ดีนักถ้าเธอจะพูดตรงๆ ต่อหน้า

เสิ่นอี้มองเมิ่งซินซิน แล้วถามว่า "เมื่อกี้ ทำไมคุณไม่พูด" 

เมิ่งซินซินส่งเสียงเหอะ แล้วพูดอย่างไม่สนใจเลยสักนิดว่า "ฉันจะไปรู้ว่าต้องพูดได้ยังไงล่ะ!" 

กวานอี้เหลียงทนไม่ไหวแล้ว ก็เลยพูดขึ้นมาว่า "ที่พวกคุณไม่ยอมให้ความร่วมมือกันงานของตำรวจแบบนี้ หมายความว่าอะไร พวกคุณไม่หวังให้จับฆาตกรได้เร็วๆ หรอ หรือว่าพวกคุณกลัวว่าจะพวกเราสืบหาจนไปถึงตัวฆาตกร!"

"นี่!" เมิ่งซินซินสะดุ้งสุดตัว "คุณหมายความว่าอะไร คุณสงสัยฉันหรอ ต้องสงสัยฉัน! สงสัยฉันแน่ๆ ถึงได้เอาแต่พูดแบบนั้น!" 

เสิ่นอี้รั้งตัวของกวานอี้เหลียงเอาไว้ แล้วพูดอย่างไม่เร่งรีบว่า "คุณเมิ่งครับ เมื่อกี้ผมก็พูดเน้นย้ำไปแล้ว! ความร่วมมือของครอบครัว เป็นกุญแจสำคัญในการปิดคดี! เพราะแค่พวกคุณเข้าใจสถานการณ์ พวกเราจึงจะสามารถค้นหาตัวฆาตกรได้โดยเร็ว! ถ้าพวกคุณไม่ยอมให้ความร่วมมือและขัดขวางการตรวจสอบของพวกเราแบบนี้ ผมก็คงต้องสงสัยในวัตถุประสงค์ของพวกคุณแล้ว"

เมิ่งซินซินโกรธจนสีหน้ากลายเป็นสีเขียวแล้วขาวซีด ผลกลายเป็นว่าเธอยังไม่ทันได้พูด แม่ของเธอเองก็บ่นอย่างไม่พอใจว่า " ซินซิน ถ้าลูกรู้ ตอนที่คุณตำรวจท่านนี้ถามเมื่อกี้ ทำไมลูกถึงไม่พูดอะไร!"

เสิ่นอี้มองซินซินโดยแฝงความนัยอีกครั้ง แล้วกล่าวเน้นว่า "ถ้าคุณเล่าสถานการณ์เหล่านี้ให้ตำรวจฟังเร็วกว่านี้ บางทีพวกเราอาจจะหาพี่สาวของคุณเจอ และคงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพเหมือนตอนนี้ ที่เหลือแค่ร่างกายอันเย็นเฉียบ"