webnovel

ตอนที่ 103

ตอนที่ 103 หลายจุดที่คล้ายคลึงกัน

นอกจากนั้นแล้ว ทุกคนต่างก็ไม่พบคนน่าสงสัยอยู่ข้างกายเธอเลย ดังนั้นเหตุการณ์นี้จึงถือว่าเกินความคาดหมาย เลยสรุปได้ว่าผู้หญิงน่าตาดี ออกไปข้างนอกลำพัง แล้วเผลอไปดึงดูดความสนใจจากคนร้ายบางคนเข้า จึงนำไปสู่อาชญากรรม เรื่องประเภทนี้พบเห็นได้บ่อยครั้ง

หลังจากการตรวจสอบของตำรวจ ไม่รวมคนรู้จักที่อาจจะเป็นคนก่อคดี คาดว่าเหลียงปิงน่าจะออกไปข้างนอกในช่วงวันที่ 19 ระหว่างทางเธออาจพบเจอกับเรื่องไม่คาดฝัน แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาเองก็ไม่กล้าด่วนสรุป ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้พบเจอกับเธอ สิ่งแรกจึงทำได้เพียงตรวจสอบร่องรอยการหายไป ทว่ากลับไม่มีเบาะแสใดๆ

คนที่สุดท้ายที่หายตัวไปคือ ฟางจิ่ง

ฟางจิ่ง อายุ 25 ปี เป็นพยาบาลอยู่ในโรงพยาบาลชุมชม 

อยู่คนเดียว ยังไม่แต่งงาน แต่มีแฟนแล้ว ได้ยินจากเพื่อนในมหาวิทยาลัยว่าเป็นรักระยะไกลกันมาหลายปี เร็วๆ นี้ฟางจิ่งมีแผนว่าจะลาออกแล้วไปอยู่กับแฟนหนุ่มของเธอ

เวลาที่หายตัว อยู่ในระหว่างวันที่ 25 - 27 กรกฎาคม

เหตุการณ์การหายตัวไปของเธอก็ไม่ต่างจากเมิ่งซินถงสักเท่าไหร่ เมื่อกลับมาจากการทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์ เธอไม่ได้อยู่เข้าเวรต่อ จนกระทั่งวันที่ต้องมาทำงานวันจันทร์ไม่มีใครเห็นเธอไปทำงาน เพื่อนร่วมงานในโรงพยาบาลชุมชนจึงโทรหาเธอ ทว่าโทรศัพท์กลับปิดเครื่อง 

ปกติแล้วฟางจิ่งเป็นคนที่มาทำงานตรงเวลามาก เธอเป็นพยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมและเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง เธอแทบจะไม่เคยลางานในวันปกติเลย หัวหน้าพยาบาลจึงเป็นห่วงว่าฟางจิ่งจะป่วยจึงไปหาเธอที่บ้านพัก ผลกลายเป็นว่าเมื่อเคาะประตูกลับไม่มีการตอบรับใดๆ หัวหน้าพยาบาลจึงยิ่งเป็นห่วงเข้าไปใหญ่ คิดว่าฟางจิ่งคงไม่ได้สลบอยู่ในบ้านหรอกนะ ก็เลยรีบไปเรียกยามรักษาความปลอดภัยให้มาเปิดประตู 

เมื่อยามรักษาความปลอดภัยได้ยินว่าข้างในอาจมีคนสลบอยู่จึงไม่กล้าเมินเฉย แต่ถึงยังไงก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถเปิดประตูบ้านได้ ท้ายที่สุดหัวหน้าพยาบาลจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจ ตำรวจสองนายที่อยู่ใกล้ๆ จึงรีบมา แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง สุดท้ายประตูก็เปิดออก ทว่าข้างในกลับไม่มีคนอยู่

หัวหน้าพยาบาลบอกว่าฟางจิ่งหายตัวไปเกิน 48 ชั่วโมง สามารถแจ้งความได้แล้ว เธอจึงรีบไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นก็ไปอธิบายสถานการณ์ของเธอที่โรงพยาบาลชุมขน แล้วจึงโทรไปหาแฟนหนุ่มของฟางจิ่งที่อยู่ต่างถิ่น

ช่วงนี้แฟนของเธอยุ่งกับการสอบใบขับขี่ ทำให้ขาดการติดต่อกับฟางจิ่งไปหลายวัน เขาจึงไม่รู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอ

พยายามติดต่อฟางจิ่งหลายวันแต่ก็ยังติดต่อไม่ได้ แล้วก็ไม่มีคนรู้ด้วยว่าเธอไปอยู่ที่ไหน อีกอย่างเธอหายตัวไปอย่างกะทันหัน ดังนั้นขั้นแรกทางตำรวจจึงวินิจฉัยว่านี้เป็นคดีเดียวกัน มีความเป็นไปได้มากว่าฟางจิ่งจะถูกลักพาตัว และมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายยิ่งกว่า แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างแน่ชัด ทางตำรวจจึงก็ไม่สามารถด่วนสรุปได้ ดังนั้นเลยต้องเริ่มการสืบสวน

โรงพยาบาลท้องถิ่นที่ฟางจิ่งทำงานอยู่ คนที่รู้จักล้วนแต่มีความประทับใจที่ดีมากกับเธอ ต่างพูดกันว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยอบอุ่น เมื่อรู้ว่าเธออาจจะกำลังเผชิญหน้ากับอันตราย ทุกคนล้วนเป็นห่วงเธอมาก

การสอบสวนของทางตำรวจ เริ่มต้นที่แฟนหนุ่มของเธอเป็นคนแรก แต่ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็เข้าใจ เมื่อไม่นานมานี้แฟนหนุ่มของฟางจิ่งไปเรียนขับรถทุกวัน จึงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะก่อคดีฆาตกรรม สำหรับเพื่อนร่วมงานของฟางจิ่งนั่นก็ไม่พบบุคคลต้องสงสัย ปกติความสัมพันธ์ของเธอและเพื่อนร่วมงานก็จัดว่าดีมาก ไม่เคยมีคนคิดว่าจะมีใครสามารถมีเรื่องบาดหมางกับฟางจิ่งได้

พอตรวจสอบโทรศัพท์และบันทึกการโทรของฟางจิ่ง เมื่อเร็วๆ นี้ เธอไม่ได้ติดต่อกับคนน่าสงสัย ทว่าผู้หญิงที่ถูกโจมตี ในหลายกรณีอาชญากรมักจะมีเจตนาร้าย การสอบสวนของตำรวจก็ไม่มีอะไรคืบหน้า คดีจึงยังไม่ปิด แฟนของฟางจิ่งยกเลิกการสอบใบขับขี่ เขารีบมาที่นี่ มาที่สถานีตำรวจและรอฟังความคืบหน้าทุกวัน

เขาเคยไปตามหาเองแล้วแต่กลับไม่พบเบาะแสเลยสักนิด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการงมเข็มในมหาสมุทร ทำอย่างไรก็หาไม่เจอ

กระทั่งตอนนี้ คดีนี้ทางตำรวจก็ยังจัดว่าเป็นคดีคนหาย อาจถูกฆ่าตาย อาจถูกนำไปขาย และก็อาจเป็นไปได้ว่าจะถูกกักขังโดยองค์กรค้ามนุษย์ แต่เมื่อหาไม่พบนี่ก็เป็นแค่การหายตัวไปเท่านั้น

เสิ่นอี้ตั้งใจดูเวลา ระยะเวลานี้ใกล้เคียงกับคดีหายตัวอื่นๆ สุดท้ายจนกระทั่งตอนนี้ฟางจิ่งก็หายตัวไปได้ครึ่งเดือนแล้ว

"งั้นเอาแบบนี้!" หลังจากที่หยางปินวางแฟ้มคดีลง จึงถามว่า "ทุกคนมีความเห็นยังไงบ้าง" 

ขณะที่พูด สายตาของเขากลับมองมาที่ร่างของเสิ่นอี้ ทันใดนั้นเสิ่นอี้ก็พูดโพล่งขึ้นมาว่า “ผมคิดว่าควรตรวจสอบคดีเพิ่มเติม คดีพวกนี้มีความคล้ายคลึงกันอยู่ไม่น้อย ข้อแรก ผู้หญิงแรกรุ่นทั้งสามคนนี้ล้วนอยู่ตัวคนเดียว ข้อสอง พวกเธอล้วนมีคุณสมบัติที่คล้ายกัน แม้ว่าจะไม่ได้อยู่เป็นโสด แต่สามีหรือแฟนหนุ่มต่างก็อยู่ต่างถิ่น และข้อสุดท้าย พวกคุณได้สังเกตช่วงเวลาที่พวกเธอหายตัวไปไหม"

"วันหยุด!" เหล่าเทียพูดเป็นคนแรก "พวกเธอทั้งหมดหายตัวไปตอนวันหยุด!" 

"ใช่ครับ" เสิ่นอี้พยักหน้า "ผู้หญิงที่หายตัวไปทุกคน ล้วนหายตัวไปตอนวันหยุด วันที่ 11 ถึงวันที่ 13 วันที่ 18 ถึงวันที่ 19 และ วันที่ 25 ถึงวันที่ 26 ตามข้อสันนิษฐานจากเวลา ถ้าฆาตกรยังอยากจะลงมืออีกครั้ง ช่วงเวลาที่จะก่อคดีครั้งต่อไปจะเป็นช่วงไหน" 

"วันนี้ วันที่ 7..." หยางปินเงียบเสียง "งั้นก็ใกล้แล้วน่ะสิ"

“ใช่ครับ” เสิ่นอี้ถอนหายใจ “ถ้าฆาตกรยังอยากจะก่อคดีอีกครั้ง คาดว่าใกล้ถึงช่วงเวลาที่จะลงมือแล้ว เวลาในการก่อคดีของเขามีกฎเกณฑ์”

ผู้หญิงในช่วงอายุเดียวกันที่อยู่ลำพัง เวลาที่หายตัวของทุกคนคือวันหยุด ถ้าบอกว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ พวกเขาไม่มีทางเชื่อหรอก 

"แปลกจริงๆ" เย่หนิงพลิกรูปของคนที่หายตัวไป แล้วพูดว่า "พวกเธอไม่โสด ถึงยังไม่แต่งงานแต่ก็มีแฟนกันหมดแล้ว กว่าครึ่งก็อยู่ต่างถิ่น นี่คงไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญหรอกนะ" 

เสิ่นอี้ส่ายหน้า "ผมคิดว่าคงไม่ใช่" 

"ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น...ก็ยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่..." เย่หนิงพูดเสียงเบา "ถ้าไม่ใช่ อย่างนั้นเป้าหมายของคนร้ายก็คงไม่ได้เลือกตามใจชอบน่ะสิ ถ้าหากว่าฆาตกรเลือกผู้หญิงโสดตามในชอบ จะบังเอิญเลือกพวกเธอแบบนี้ได้ยังไง"

หยางปินปรากฎสีหน้าหนักใจ พูดเสียงทุ้มต่ำว่า "ใช่ ถ้าแค่เลือกเป้าหมายที่จะลงมือตามใจชอบ คงไม่เลือกได้บังเอิญขนาดนี้ ผู้หญิงที่อยู่คนเดียวข้างนอก ไม่เห็นจำเป็นว่าต้องอยู่คนเดียว สิ่งที่บังเอิญที่สุดคือถึงแม้ว่าพวกเธอไม่โสด แต่สามีหรือแฟนก็ไม่ได้อยู่กับเธอ" 

"อืม..." เสิ่นอี้พูดออกมาอย่างไตร่ตรอง "บางทีนี่ก็คือช่องโหว่"

"งั้นก็แปลก..." กวานอี้เหลียงมองข้อมูลที่อยู่ในมือ แล้วพูดว่า "ถ้าพวกเธอเป็นเป้าหมายที่ฆาตกรเลือกเอาไว้ ถ้าเช่นนั้นฆาตกรก็ต้องเคยสัมผัสตัวพวกเธอ แต่ตามที่ตรวจสอบคนที่อยู่รอบๆ หญิงสาวพวกนี้ ก็ไม่พบบุคคลต้องสงสัยนี่ ในโทรศัพท์มือถือของพวกเธอเอง ก็เหมือนกับว่าไม่มีบันทึกการโทรเข้าออกจากบุคคลต้องสงสัย...แล้วถ้าหากฆาตกรไม่เคยสัมผัสพวกเธอเลยล่ะ ทำไมถึงได้รู้เรื่องพวกนี้"