ตอนบทที่ 2 เอาคืนคู่รักจอมลวงโลก
และด้วยเหตุนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความตกต่ำของนางแบบระดับแนวหน้าจึงเริ่มต้นขึ้น…
แต่นั่นก็ไม่ใช่จุดจบเรื่องราวของถังหนิง
…
บอกตามตรงถังหนิงก็ไม่ได้คาดคิดว่าตัวเธอเองจะกล้าหาญขนาดนี้ นี่เธอแต่งงานกับชายแปลกหน้าแล้วจริงๆ! แต่อะไรที่เกิดขึ้นแล้วก็กลับไปแก้ไขไม่ได้อีก เธอจะไม่มีวันเสียใจกับการตัดสินใจในครั้งนี้
ถังหนิงเดินกลับไปที่รถ แต่ขณะที่สตาร์ทสตาร์ตรถและกำลังจะกลับบ้าน เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากหันอวี่ฝาน
“ถังหนิง… ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”
“หน้าสำนักงานเขต ฉันกำลังจะกลับบ้าน” ถังหนิงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เก็บซ่อนอารมณ์ของเธอไว้
“อวี่โหรวมีงานแสดงที่สำคัญมาก... ผมอยากให้คุณมาทำหน้าที่แทนเธอเดี๋ยวนี้ ผมจะบอกช่างแต่งหน้าให้จัดหาหน้ากากไว้ให้คุณ จะได้ไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นคือคุณ” หันอวี่ฝานสั่งด้วยน้ำเสียงอย่างคนที่เหนือกว่า “เพราะอวี่โหรวได้รับบาดเจ็บ คุณอาจจะต้องลำบากคุณนิดหน่อยนะ…”
“คุณบอกว่าคุณโม่ได้รับบาดเจ็บบนเวทีไม่ใช่เหรือ? ถ้าเป็นแบบนั้นในกรณีแบบนี้ สื่อควรจะต้องรู้เรื่องที่เธออยู่ที่โรงพยาบาลแล้วสิ…”
“แต่ผมเพิ่งจะขอให้ใครบางคนปล่อยข่าวว่าถึงเธอจะบาดเจ็บก็จะยังคงไปที่งาน แม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บอยู่ ผมบอกให้คุณไป ก็ไปเถอะน่าดังนั้นก็ไปซะ!”
เขาช่างไม่ละอายใจเสียเลย เมื่อก่อนถังหนิงก็เคยทำอะไรโง่ๆ แบบนี้ให้โม่อวี่โหรวมาแล้ว
ดูเหมือนว่าเธอกำลังถูกหลอกใช้ แต่เธอจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นแน่!
ถังหนิงสงบอารมณ์และพยักหน้า “ตกลง คุณบอกเวลาและสถานที่มา ฉันจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”
“ถังหนิง เรากำลังจะแต่งงานกัน คุณช่วยอวี่โหรวสักเล็กน้อยเถอะนะ ช่วงนี้หน้าที่อาชีพการงานของเธอกำลังรุ่ง”
“ฉันจะช่วยเธอแน่นอนอยู่แล้ว…” ถังหนิงตอบกลับอย่างมีนัยแอบแฝง
“ฉันจะวางสายแล้ว ไว้เราไปทานมื้อค่ำกันทีหลังนะ”
หันอวี่ฝานไม่ได้รับรู้เลยว่าสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว บางทีตอนนี้เขาอาจจะกำลังนั่งอยู่ข้างเตียงของโม่อวี่โหรว และกำลังดูแลคนรักของเขาอย่างอ่อนโยนเอาอกเอาใจ… ถังหนิงวางสายก่อนที่จะโทรหาผู้จัดการของเธอ ผู้จัดการของเธอตอบกลับมาทันทีด้วยความโมโหว่า
“ท่านประธานหันต้องการให้คุณไปทำหน้าที่แทนนางแบบเกรดบีคนนั้นเหรอคะ? นี่เขาล้อเล่นหรือเปล่า? ถ้าคุณไม่ได้ตัดสินใจที่จะห่างจากวงการ หล่อนไม่มีทางแม้แต่จะอยู่รอดในอุตสาหกรรมนี้หรอก”
“หลงเจี่ย ฉันรับปากเขาไปแล้ว…” ถังหนิงตอบอย่างใจเย็น
“คุณจำเป็นต้องไปจริงๆ หรือ?” ผู้จัดการของเธอแทบจะอาเจียนออกมาเป็นกระอักเลือดด้วยความไม่เชื่อ
ทั้งถังหนิงและโม่อวี่โหรวต่างก็เป็นนางแบบที่เซ็นสัญญาภายใต้เทียนอี้เอ็นเตอร์เทนเมนต์ แต่เป็นเพราะถังหนิงตัดสินใจที่จะถอยจากวงการ ผู้จัดการของเธอจึงพลอยโดนทำให้ตกต่ำและถูกเยาะเย้ยไปด้วย
ถังหนิงรู้ว่าผู้จัดการของเธอต้องการที่จะต่อต้านความไม่ยุติธรรมนี้ เธอจึงตอบกลับไปเพื่อให้คลายความกังวล “ฉันจะไม่ยอมเป็นคนโง่แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว ฉันจะไม่มีทางยอมให้พวกนั้นมาหลอกใช้!”
หลังจากได้ยินที่ถังหนิงพูด สีหน้าของผู้จัดการก็มีความสุขขึ้นทันที “ถ้าอย่างนั้นงั้นคุณจะบอกว่าคุณมีแผนหรือคะ?”
“หลงเจี่ย นับแต่นี้ไปฉันจะเชื่อใจเธอคุณได้แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น คุณช่วยฉันทำอะไรสักอย่างจะได้ไหม?”
“พูดมาเลย” ผู้จัดการนั้นจงรักภักดีต่อเธอ เพราะสุดท้ายแล้วพวกเขาก็มีเป้าหมายเดียวกัน
“โม่อวี่โหรวหมดหนทางแล้วจริงๆ ที่จะทำให้หว่านล้อมสื่อให้สื่อเชื่อแน่ใจว่าหล่อนจะไปปรากฏตัวที่งานแม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ เพราะหล่อนไม่ต้องการให้มันไปมีผลกระทบกับคุณสมบัติใน ‘งานประกาศรางวัลท็อปเทน โมเดล’ เธอคุณช่วยไปที่โรงพยาบาลเทียนเหอทีสิ”
“ฉันเข้าใจว่าคุณจะสื่ออะไร หาหลักฐานว่าหล่อนยังอยู่ที่โรงพยาบาลระหว่างที่มีงานแสดง และเปิดเผยมันออกสู่สาธารณะ!” ผู้จัดการยิ้มอย่างตื่นเต้น
“ไม่ ฉันมีข่าวใหญ่กว่านั้น หล่อนท้อง! และเด็กก็เป็นลูกของหันอวี่ฝาน เอาล่ะ ช่วยฉันเตรียมคำแถลงการณ์ที่จะเปิดเผยว่าหันอวี่ฝานใช้ฉันแทนที่โม่อวี่โหรวระหว่างงานแสดงมาหลายครั้งแล้ว ว่าแต่งานไหนบ้างล่ะ ? ฉันอยากให้คุณช่วยหาหลักฐานสำหรับเรื่องนี้”
ผู้จัดการรู้สึกประหลาดใจในทีแรก แต่แล้วก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าเหตุใดความคิดของถังหนิงจึงเปลี่ยนไป ช่างเป็นคู่รักลวงโลกที่ไม่มีความละลายเลยจริงๆ! พวกเขาไม่ได้เพียงแค่หลอกลวงเท่านั้น แต่ยังหลอกใช้ถังหนิง ออกคำสั่งราวกับว่าเธอเป็นหุ่นเชิด
“ไม่ต้องห่วงค่ะถังหนิง ฉันจะช่วยคุณทำเรื่องทั้งหมดนั้นเองนี้เอง”
ถังหนิงไม่ได้ตอบอะไร เธอรู้สึกใจเย็นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เธอกำลังจะทำกับพวกเขาเหมือนที่พวกเขาเคยทำกับเธอ!
หลังจากจัดการกับความคิดของตัวเอง ถังหนิงก็รีบเก็บข้าวของและขับรถไปยังสถานที่จัดงานแสดงเพื่อไปพบกับผู้ช่วยของโม่อวี่โหรว
เขาเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว มีรูปร่างใหญ่โตแข็งแรงและบุคลิกเจ้าเล่ห์
เขายังคงความสุภาพต่อถังหนิง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยมีชื่อเสียงแล้วก็ตาม แต่ตระกูลถังก็ยังคงเป็นตระกูลที่ใครก็ดูหมิ่นไม่ได้
“ทำไมถึงมาช้าได้ขนาดนี้? มาเร็ว… มานี่และมาแต่งหน้าของคุณให้เสร็จ…”
“งานแสดงวันนี้เป็นแบบไหนคะกัน?” ถังหนิงเอ่ยถามขณะที่เดินลงมาที่โถงทางเดิน
“ไม่มีอะไรพิเศษเลย!” ผู้ช่วยตอบ ซึ่งในความจริงแล้ว มันเป็นงานแสดงเครื่องเพชรของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสอย่างอัชแอ็ฟเฮชเอฟ…
หลังจบงานแสดงนี้ โม่อวี่โหรวอาจจะมีโอกาสได้เซ็นสัญญาในฐานะพรีเซ็นเตอร์ของอัชแอ็ฟ เฮชเอฟ ซึ่งแต่เดิมนั้น โม่อวี่โหรวสูญเสียโอกาสของเธอไปแล้วเนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่ด้วยคำแนะนำของหันอวี่ฝานที่ให้ใช้ถังหนิงแทน โม่อวี่โหรวก็ไม่มีอุปสรรคอะไรอีก
ความจริงตอนที่กำลังเดินทางมาที่งานนี้ ถังหนิงได้หาข้อมูลของงานแสดงมาเรียบร้อยแล้ว และพบว่ามันเป็นงานแสดงเครื่องเพชรชื่อว่ามงกุฎดาราคราวน์ส์ สตาร์
ผู้ช่วยของโม่อวี่โหรวตั้งใจโกหกเธอ นี่เธอดูโดนเป็นคนหลอกง่ายแบบนี้มาตลอดเลยหรือ?
“ต้องขอบคุณสถานะของคุณอวี่โหรวในตอนนี้ทำให้ คุณถึงได้มีห้องแต่งตัวเป็นของตนเอง คุณจะปรากฏตัวในรอบฟีนาเล่สุดท้ายของโชว์ และนี่เป็นเครื่องเพชรที่คุณจะต้องนำเสนอในวันนี้ นี่คือตารางงานตารางเวลา…” ผู้ช่วยอธิบายขณะชี้ไปยังเครื่องเพชรที่อยู่บนเวที หลังจากนั้นเขาก็สั่งให้ช่างแต่งหน้าเริ่มแต่งหน้าของถังหนิง
นี่หันอวี่ฝานคิดจริงๆ หรือว่า การให้เธอใส่หน้ากากจะทำให้ไม่มีใครจำได้ว่านี่เป็นเคือเธอ?
ถึงอย่างไรก็ตามความคิดในหัวของเธอกำลังคิดการใหญ่ก็ค่อนข้างที่จะร้ายแรง เธอกำลังจะทำให้คู่รักจอมลวงโลกต้องประหลาดใจไปอีกนาน
ในขณะที่ผู้ช่วยของโม่ถิงสะกดรอยตามถังหนิงทุกฝีก้าว เขาก็บังเอิญได้ยินว่าเธอจะมาแทนที่โม่อวี่โหรวในงานแสดง เขาจึงรีบรายงานทุกอย่างให้โม่ถิงทราบ ทันทีที่โม่ถิงรู้เรื่อง เขาก็สั่งผู้ช่วยของเขาว่า “ฉันผมกำลังจะไปที่งานแสดงเครื่องเพชรของเฮชเอฟอัชแอ็ฟ รีบจัดการด้วยรซะ!”
“ครับท่านประธาน!”
นี่ไม่ใช่งานแสดงที่พิเศษสักเท่าไหร่ เท่าไร แต่เขาอยากเห็นถังหนิงในเวลาทำงาน
…
ณ เวลาสิบเอ็ดโมง เสียงดนตรีคลาสสิกคดังก้องไปทั่วไห่เยียอี้เซ็นเตอร์ งานแสดงเริ่มขึ้นแล้ว
ภายในห้องแต่งตัว ถังหนิงแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังยืนคอยอยู่หน้ากระจก รอคอยอย่างคาดหวัง เธอสวมใส่ชุดเดรสยาวสีขาวเข้ารูป เรียบง่ายแต่มีระดับ การตกแต่งอย่างสวยงามของหน้ากากสีทองช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ดูลึกลับ ผมถูกมัดรวบไว้ข้างหลังด้วยดอกกุหลาบสีขาว เธอช่างงดงามจนแทบหยุดหายใจ…
ผู้ช่วยไม่มีคำใดจะเอื้อนเอ่ย เขากำลังคิดว่า ถึงแม้ว่าถังหนิงแค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็แต่เธอจะสามารถดึงดูดความสนใจของทุกคนรอบข้างได้อย่างแน่นอนไม่ยาก และโม่อวี่โหรวก็จะได้เซ็นสัญญาแน่นอน!
“คุณจะลงมาที่เวทีด้วยเก้าอี้ที่เลื่อนลงมาจากข้างบน สร้อยข้อมือนี้คือมงกุฎดาราคราวน์ส์ สตาร์ ให้ผมใส่ให้คุณนะ” ผู้ช่วยปลดสร้อยข้อมือออกและใส่ให้ถังหนิงอย่างระมัดระวัง แต่ถึงอย่างนั้นทว่าถังหนิงก็ผอมเพรียวกว่า
โม่อวี่โหรว จึงทำให้สร้อยข้อมือนี้ใหญ่เกินไป แค่เธอยกแขนของเธอขึ้น สร้อยข้อมือก็คงคงหลุดเคลื่อนไปมาแล้ว…
สร้อยข้อมือนี้ถูกออกแบบโดยผู้ก่อตั้งบริษัทเฮชเอฟอัชแอ็ฟ เพื่อมอบให้แก่ลูกสาวผู้เป็นที่รักของเขา ตรงกลางของสร้อยข้อมือสีทองคือมงกุฎที่ประดับด้วยเพชรสีขาว ทั้งสองข้างของมงกุฎประดับด้วยดวงดาวที่ทำจาก
อัญมณีสีขาวบริสุทธิ์ ราวกับบิดามารดาบุพการีที่กำลังปกป้องบุตรอันเป็นที่รักแก้วตาดวงใจ
“ไม่มีทางไหนเลยที่คุณจะใส่พอดีได้… ผมควรทำยังไงอย่างไรดีล่ะคราวนี้?”
“คุณเชื่อใจฉันไหมล่ะคะ?” ถังหนิงถามผู้ช่วยของโม่อวี่โหรวทันที
“ณ ตอนนี้ผมก็เชื่อใจคุณได้แค่คนเดียวในเวลาแบบนี้ผมก็ได้แต่ต้องเชื่อใจคุณนั่นแหละ” ผู้ช่วยพยักหน้า และโดยปราศจากทางออกเมื่ออับจนหมดหนทาง เขาจึงทำได้แค่เชื่อใจนางแบบคนนี้เท่านั้น นี่เป็นโอกาสที่อวี่โหรวจะได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ถ้าหากเขาทำผิดพลาดขึ้นมา ท่านประธานหันจะต้องไล่เขาออกแน่
“ถ้าถ้าอย่างนั้นงั้นก็ ให้เป็นหน้าที่ฉันส่งมันมาให้ฉัน…” ถังหนิงทำให้ผู้ช่วยมั่นใจขึ้นไปอีกกล่าวเสริมความมั่นใจ
“เร็วเข้า เตรียมตัวให้พร้อม… คุณจะขึ้นเวทีในอีกไม่ช้านี้แล้ว!”
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ผู้ช่วยไม่ได้สังเกตเห็นแววตาของถังหนิงเลย