ตั้งแต่มีของเล่นอันใหม่พวกเด็ก ๆ ก็ติดเล่นกันสนุกสนาน การสืบคดีของนักสืบตัวน้อยตั้งแต่ม.ต้น อนุบาล และเนอร์สเซอรี่ กลายเป็นการเล่นสนุกกันเสียงเจี๊ยวจ๊าว
หลินยังห่วงเรื่องงานอยู่บ้าง แต่หลังจากโดนป๊ากล่อมให้ใช้ช่วงเวลานี้พักผ่อนแล้วก็ไปเล่นกับน้องติดลม ป๊าไม่ค่อยคิดมากเรื่องปาฏิหาริย์เท่าไร การกลายเป็นเด็กทั้งบ้านผิดคาดและชวนตกใจในช่วงแรก แต่นอกนั้นก็ไม่มีอันตรายอะไรอีก เขายังได้ใช้เวลาช่วงหยุดยาวดูแลลูกทั้งวันด้วย
เล่นไปคงเหนื่อย เด็ก ๆ คงอยากดื่มอะไรเย็น ๆ กัน ป๊าเตรียมกระติกน้ำลอยดอกมะลิไปให้ลูกดื่มดับกระหาย แต่สามีที่ควรมายกไปยังหายหัว เขาอยากเอาไปเองแต่ติดที่มือยังวุ่นทำอาหารว่างให้ลูก ปอกผลอกร่องสีทองชวนทานอยู่ในห้องครัว มีความสุขในทุกนาทีที่ได้หาเลี้ยงลูกหลาน
ตอนป๊ากำลังคร่ำเคร่งหั่นชิ้นผลไม้ลงกล่องพลาสติก แด๊ดเข้ามากอดหมับจากข้างหลังโดยไม่ให้รู้ตัว
"มาหยอกอะไรคนกำลังทำกับข้าว" ถึงโดนรวบแต่ป๊าสามารถทำงานและบ่นสามีไปได้ในเวลาเดียวกัน
"หิวแล้ว"
"กับข้าวอยู่ในสำรับ"
"อกร่องกับคนปอกอะไรหวานกว่ากันหว่า" แด๊ดก้มลงงับแก้มเขาครึ่งแรง ความรู้สึกเจ็บมีไม่ถึงหนึ่งในสิบของความตกใจ ป๊ารีบปกป้องกล่องใส่ผลไม้มือเป็นพัลวัน
"อย่าให้มะม่วงหกนะ! ถ้าทำกล่องคว่ำเดี๋ยวโดนสันมีดทุบหัวแตก"
"เฮ้อ ป๊าไม่หวานเลย อุตส่าห์ได้มีโอกาสสวีทกันสองคน"
"ว่างนักก็มาช่วยกันทำ"
"หืออ ช่วยทำไร ป๊าทะลึ่งง"
"ไถนามั้ง เอามะม่วงไปปอกเลย!" คนใช้งานเก่งยัดอุปกรณ์ทำครัวให้โดยไม่เปิดโอกาสให้เถียง
ชายหนุ่มอารมณ์ดีรับไปทั้งรอยยิ้ม วางทั้งสองอย่างบนโต๊ะทานข้าวอย่างเรียบร้อย ว่าง่ายจนป๊าสังหรณ์ร้าย
"ไม่เล่น—"
ดุยังไม่ทันขาดคำ แด๊ดก็อุ้มเขาขึ้นนั่งบนโต๊ะครัว
สามีมอบสายตาหวานเชื่อมให้ในระยะใกล้ แค่มองเฉย ๆ เท่านั้น ราวกับอยากรำลึกว่าคนตรงหน้าทำให้เขามีความสุขแค่ไหน ทำให้หลงใหลอย่างไร เคยเห็นมาสี่สิบปีกว่าก็ไม่เคยพอ ให้มองต่อไปอีกสักร้อยปีก็ยังไม่พอ
"อยากอยู่ตรงนี้นาน ๆ"
ได้ยินคำหวานซ้ำซากมาไม่รู้กี่คำ ยังสามารถทำให้คนฟังละลายไปกับทุกคำได้อยู่ดี
"คิดดูสิ เราไม่ได้ทำตรงนี้มานานแค่ไหนแล้ว"
"…"
ป๊ายื่นมือไปดึงหูยืด ไม่หวั่นต่อเสียงร้องโอดโอยของผู้ถูกประทุษร้าย
"โอ๊ยยย"
"มันน่าขว้างด้วยเม็ดมะม่วงจริง ๆ" สามีเขาพักนี้ละหยอดได้หยอดดี ไม่รู้ไปกระเหี้ยนกระหือรือมาจากไหน "ปล่อยมือแล้วไปแบกกระติกน้ำให้ลูก ว่างงานเหรอถึงมาเล่นเนี่ย"
"ใช้งานเก่งเหลือเกินนน" ชายหนุ่มลากเสียงยาวเชิงเสียดสี "อุตส่าห์ได้กล้ามคืนมา ให้อุ้มเถอะนะ นะ ๆๆ ไม่ได้อุ้มป๊ามานานแค่ไหนแล้ว"
"เล่นอะไรเป็นเด็ก" ป๊าบ่น มือผลักอกสามีออกแต่เขาสู้แรงกลับ ยืนนิ่งเป็นหุ่นไม่ขยับเขยื้อน รอยยิ้มอันตรายระบายบนใบหน้า
"หึม หึมม ไม่รู้ซะแล้วว เดี๋ยวจะโชว์พลังของวัยหนุ่มให้ดู"
แขนแข็งแรงยกคนรักขึ้นบ่าเป็นกระสอบข้าวสาร
"จะพาไปไหน— ไอ้-ไอ้แด๊ด!"
แด๊ดพาป๊าเดินออกจากครัวโดยเฉยเมยต่อการต่อต้าน เป้าหมายคืออ่างลมกลางสวน พอลูกได้ยินเสียงดังลั่นต่างก็มองมาทางนี้เป็นตาเดียว ขนาดหลินที่ดูเคร่งเครียดเป็นปกติยังฉีกยิ้มกว้าง หัวเราะเสียงใส เฝ้ามองชะตากรรมโชคร้ายของผู้ปกครอง
เกิดเสียงดังตูมใหญ่ ร่างป๊าลงไปอยู่กลางลูกบอลและเป็ดลอยน้ำ เสียงหัวเราะสนุกสนานของหม่อนตามมาเป็นอันดับแรก พยายามจะคลานมาหาป๊าจนใกล้ตกโต๊ะแคมป์ปิ้งแต่โรมอุ้มจับเอาไว้ก่อน
เหมือนสามียังเห็นเขาเปียกไม่พอ น้ำโครมใหญ่ถูกสาดใส่ศีรษะต่อ
"โอ๊ยย อะไรเนี่ย"
"รดน้ำดำหัวไง" เสียงคนช่างแกล้งร่าเริงอย่างอันตราย แถมยังเลื่อนระดับไปอีกขั้นด้วยการเรียกสมุนมาช่วย "ตวันมาเร็ว! หลินไปดึงสายยางมา!"
เด็กอนุบาลรีบปีนข้ามกำแพงปราสาทลม เด็กม.ต้นวิ่งออกไปทำตามคำสั่งว่องไว เป้าหมายของการถูกลากมาจากครัวไม่ใช่เพื่อประเพณีหรือแสดงความเคารพบิดา แต่เพื่อให้เด็กน้อยเทน้ำใส่โครมจนเปียกโชก
"มันรดน้ำตรงไห—!"
สายตาป๊ายังพร่ามัวจากน้ำจำนวนมาก เมื่อลืมขึ้นมาอีกที ภาพตรงหน้ากลายเป็นสามีพร้อมอาวุธครบมือ
"เอ้าา ประแป้ง"
แด๊ดมาพร้อมถังแป้งแคร์ มือใหญ่ลากตั้งแต่หน้าผากลงไปถึงคาง ป๊าลุกขึ้นปาดแป้งเปียกเหนอะ ๆ นี้ใส่หน้าสามีเพื่อเอาคืน ยังยั้งมืออยู่เพื่อเห็นแก่ทารกน้อยในอ้อมกอดเขา
สามเด็กซนเริ่มไปหยิบถังแป้งของตัวเองมาบ้าง หลินมองหน้าขาววอกของป๊าอย่างลังเล ก่อนโจมตีแขนแทนด้วยความเห็นใจ
หม่อนเอื้อมมือมาละเลงหน้าผู้เป็นพ่อให้เละขึ้นไปอีก แต่ดีที่เขาไม่ใช่คนเดียวที่โดนรังแก แด๊ดผู้อยู่ใกล้มือกว่าก็โดนเช่นกัน แถมหนักกว่า เจ้าตัวหัวเราะดังไปถึงยอดมะพร้าวเมื่อโดนป้ายบ้าง ยอมให้ทุกคนแกล้งกลับแต่โดยดี
โรมเป็นเด็กดีที่สุดด้วยการแจกผ้าเช็ดหน้าให้ผู้อาวุโส แต่หลังจากนั้นเขาเติมถังอาวุธให้เพื่อนวัยอนุบาลมาทำร้ายพ่อต่อ บอกไม่ถูกเลยว่าอยากได้ใจหรืออยากได้กำปั้น
"ป๊า ประแป้ง ๆ" ตวันส่งสายตาอ้อนวอน ป๊าที่แทบจะขาวโพลนไปทั้งตัวต้องย่อเข่าให้เด็กชายเอามือเล็ก ๆ แปะแก้ม
"สนุกกันใหญ่เลยนะ"
โดนประแป้ง โดนน้ำ เข้าปากบ้างจนเฝื่อนลิ้นและเปื้อนไปหมด แต่ถ้าถามว่าเขาเกลียดความไม่สบายตัวตอนนี้ไหม รอยยิ้มที่กว้างเต็มใบหน้าตอบแทนหมดแล้ว
เด็ก ๆ เปลี่ยนกิจกรรมไปเรื่อยตั้งแต่สงครามแป้งแคร์ ป้ายคน ป้ายหมา ต่อด้วยโยนบอลให้พวกสุนัขคาบเล่น วิ่งไล่กันสนุกสนานไม่ต่างจากมนุษย์ ลูกหมากับลูกคนหัวหูเปียกปอนไปหมด ใบหน้าเปื้อนแป้งสีขาว กลิ่นน้ำอบกระจายฟุ้ง
ป๊าอยู่เล่นสนุกเป็นเพื่อนลูกไม่นานนัก เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เด็ก ๆ หันไปเล่นกันเองเขาก็ค่อย ๆ ถอยออกมาแล้วกลายเป็นผู้เฝ้ามอง ก่อนหันหลังกลับเข้าครัวด้วยรอยยิ้ม ความสุขของวันนี้ได้รับการเติมเต็มแล้ว
"ป๊าจะไปไหนมาเล่นกันก่อน" สามีสังเกตเห็นรวดเร็วจึงรีบมาตาม
"ปอกมะม่วงทิ้งไว้ยังไม่เสร็จเลย ไหนเดี๋ยวต้องไปทำข้าวเย็นอีก"
"ไม่ต้องทำแล้ว เดี๋ยวตอนเย็นเราไปกินข้าวในเมืองก็ได้"
"แต่ทำกับข้าว…"
"เอาน่าป๊า ลูกเราไม่ได้เป็นเด็กแบบนี้ทุกวันนะ"
เมื่อเห็นว่าคนรักยังคงสีหน้าลังเล แด๊ดถึงเข้ามากระซิบใกล้ ๆ เบา ๆ ให้ผู้ฟังซึมซับใจความตั้งแต่คำแรกถึงคำสุดท้าย
"ไปเถอะ ครอบครัวจะได้พร้อมหน้า ความสุขของป๊าสำคัญกว่าข้าวเย็นเยอะ"
ป๊ายืนนิ่งหลังโดนบอกรัก มัวเผลอจนโดนรวบตัวลอยบังคับกลาย ๆ ให้ไปด้วยกัน แต่คราวนี้ความรู้สึกผิดที่ทิ้งงานทำกับข้าวจางน้อยลงแล้ว
____