webnovel

ลิขิตรักข้ามภพ

เสี่ยวซือ สายลับมือหนึ่งจากหน่วยรักษาความมั่นคงแห่งชาติที่เก้า ไม่ว่าจะเป็นสืบราชการลับ ลอบสังหาร หรือทำภารกิจเสี่ยงอันตรายต่างๆ เธอทำได้อย่างไร้ที่ติ เธอทำงานรับใช้ประเทศด้วยความภักดี กลับถูกหักหลัง ต้องตายอย่างอนาถ แต่แล้วดวงวิญญาณของเธอกลับย้อนเวลามาเข้าร่างของจวงชิงเซี่ยชายาผู้ถูกทอดทิ้ง ทำให้เธอได้พบกับฉู่หลีองค์รัชทายาทผู้โหดร้าย เลือดเย็น และไร้หัวใจ และเพราะความลับบางประการของเจ้าของร่างคนก่อน ทำให้เธอต้องการหลีกหนีจากเขา แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาจะไม่ยอมให้นางหนีไปได้ ต่อให้ต้องกักขังนางไว้ เขาก็จะทำ!

เซียวเซียงตงเอ๋อร์ · 歴史
レビュー数が足りません
418 Chs

บทที่ 002 รหัสแมวภูเขา

บทที่ 2 รหัสแมวภูเขา

รถบีเอ็มดับเบิลยู 760 สีขาวที่เคยส่งเสียงกระหึ่มก่อนหน้านี้ ค่อยๆ จอดลงที่หน้าบาร์ที่มีแสงสลัวแห่งหนึ่ง  แม้จะห่างออกมาไกล แต่ก็ยังสามารถได้ยินเสียงเพลงและเสียงร้องอย่างบ้าคลั่งของดีเจดังลอดออกมา หญิงสาวที่สวมใส่โค้ทสีกากีเปิดประตูรถ พร้อมกับขยิบให้เด็กรับรถด้านข้าง แล้วเดินเข้าไปที่ประตูหน้าของบาร์

เมื่อเข้าไปยังไนต์คลับ เดินผ่านทางเดินที่ตกแต่งด้วยโลหะ ทันทีที่เปิดประตูห้องโถงตรงหน้าออก ในห้องโถงนั้นก็ได้เต็มไปด้วยผู้คน เสียงดนตรีข้างหูดังจนแทบบ้า เมื่อมองไปรอบๆ ก็เห็นแสงเลเซอร์กระพริบไปมาและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลุ่มควันขมุกขมัว ด้านข้างห้องโถงนั้นมีเคาน์เตอร์บาร์ทรงกลมตั้งอยู่ รอบๆ มีชายหญิงจำนวนไม่น้อยที่นั่งห้อมล้อมอยู่ ด้านในบาร์มีสาวเพื่อนดื่มสุดเซ็กซี่นั่งเป็นเพื่อนแขกที่มาดื่ม

บนโต๊ะที่อยู่กลางบาร์นั้นมีเสาแท่งหนึ่งตั้งอยู่ด้านบน สาวสวยเซ็กซี่คนหนึ่งกำลังเต้นอยู่ตรงเสานั้น เธอโยกย้ายส่ายสะโพกด้วยท่าทางที่เร่าร้อน ชายกลุ่มหนึ่งซึ่งอยู่รอบๆ หญิงคนนั้นต่างส่งเสียงตะโกนร้องอย่างบ้าคลั่ง บางครั้งก็ยื่นมือออกไปสัมผัสกับร่างกายของหญิงสาวที่กำลังเต้นอยู่ด้านบน

หญิงสาวในเสื้อโค้ทนั้นดูจะไม่มีอะไรที่เข้ากับที่นี่อย่างเห็นได้ชัด แต่เธอก็ยังคงยิ้มและเดินเข้าไป ส่งยิ้มให้กับบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อและสั่งเครื่องดื่มอย่างคล่องแคล่ว “ฉันขอสาเกครึ่งโหลค่ะ”

ในไนต์คลับของประเทศ R นอกจากจะให้บริการไวน์แดงของต่างประเทศ วิสกี้และเบียร์ชนิดต่างๆ มากมายแล้ว ยังมีเหล้าท้องถิ่นที่มีความโดดเด่นอย่างสาเกด้วย แน่นอนว่าสาเกระดับสูงของที่นี่นั้นราคาก็ไม่ถูกเลย

หญิงสาวอายุน้อยตัวคนเดียวที่สั่งสาเกมาครึ่งโหล ได้รับความสนใจจากชายหนุ่มรอบข้างในทันที รอยยิ้มเฝื่อนถูกส่งไปให้เหล่าบรรดาชายหนุ่มทั้งหลาย เธอยกข้อมือขึ้นมา ตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งยี่สิบห้า เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว หลังจากลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน เธอก็กวาดสายตาไปรอบๆ แล้วก็สามารถล็อกเป้าหมายได้ในทันที แล้วเดินผ่านกลุ่มผู้ชายที่ให้ความสนใจเธอออกไป

“คุณคะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอ่อนหวาน พร้อมกับส่งสายตาเจ้าชู้ไป ราวกับคนที่ดื่มมากจนเมามาย เธอเอื้อมมือออกไปจับที่ไหล่ของหนุ่มหล่อคนนั้น ก่อนที่กระซิบเสียงเบาว่า “ฉันดื่มเข้าไปเยอะมากเลย ยืนไม่ไหว คุณช่วยไปส่งฉันที่ห้องน้ำหน่อยได้ไหมคะ?”

สายตาของชายหนุ่มคนนั้นมีประกายขึ้นมาในทันที ท่ามกลางสายตาอิจฉาจากเพื่อนๆ ที่ล้อมอยู่ เขาลุกขึ้นและโอบไปที่เอวของหญิงสาว

ในห้องน้ำที่เงียบเชียบไม่มีคนนั้น หญิงสาวมองไปรอบๆ เธอเปิดประตู แล้วดึงเนคไทของชายหนุ่มเบาๆ พลางส่งสายตาให้แล้วดึงเขาเข้าไปใกล้ ชายหนุ่มเองก็รู้แล้วว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ระหว่างทางก็เลยหยิบเอาป้ายสีเหลืองขึ้นมาแขวนไว้ที่หน้าประตู เป็นเครื่องหมายเตือนกับคนอื่นๆ ว่า ที่นี่ไม่ควรเข้ามา

ประตูเพิ่งปิดลง ชายหนุ่มก็ไม่เหลือคราบของสุภาพบุรุษเมื่อครู่ไว้เลย เขากอดหญิงสาว แล้วดันเธอเข้าไปติดกับกำแพง ฝ่ามือลูบไล้ไปมาบนร่างของเธออย่างคล่องแคล่ว ส่วนล่างเองก็เริ่มขึงขังขึ้นมาแล้ว

กลับกันใบหน้าของหญิงสาวไม่ได้ดูมึนเมาเหมือนเมื่อครู่นี้อีกต่อไป ดวงตาทั้งสองข้างสดใส จับจ้องไปยังชายที่กำลังปีนป่ายอยู่บนร่างของตน คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น แล้วจู่ๆ ก็ใช้สันมือทุบเข้าไปที่ลำคอของชายหนุ่มทันที

ร่างที่หมดเรี่ยวแรงของเขา ค่อยๆ ล้มกองลงไปที่พื้น

หญิงสาวยื่นมือไปเลิกเปลือกตาของชายหนุ่มขึ้น ดีมาก อาการไม่หนัก ภายในครึ่งชั่วโมงนี้เขาน่าจะยังไม่ตื่น เธอมองนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งครึ่งแล้ว เวลากำลังดี

เธอถอดเสื้อโค้ทและรองเท้าออก จากนั้นจึงสวมรองเท้าบูท หันหน้าไปรับลมที่พัดเข้ามาในห้องน้ำ แล้วมุมปากยกยิ้มขึ้น พลันมีความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่ง

ไม่ถึงหนึ่งนาที หญิงสาวก็ออกมาจากช่องพัดลม เสียงร้องอย่างสนุกสุดเหวี่ยงดังออกมาจากในบาร์ เธอรู้ดีว่าตอนนี้มีวงดนตรีที่มีชื่อเสียงวงหนึ่งมาแสดงที่บาร์แห่งนี้ เวลาปฏิบัติการณ์กำลังดี เธอรีบวิ่งไปที่ลานจอดรถ แล้วเปิดท้ายรถบีเอ็มดับเบิลยู 760 ของตัวเองอย่างระมัดระวัง แล้วดึงกระเป๋าเป้ใบใหญ่ออกมา จากนั้นก็เดินไปที่รถแฮมเมอร์สีดำที่จอดอยู่ด้านข้าง

สำหรับสายลับแล้ว การขโมยรถหนึ่งคันต้องใช้เวลาไม่เกินห้าวินาที เป็นความเร็วที่เร็วมากๆ จากนั้นแฮมเมอร์สีดำก็ส่งเสียงคำรามและแล่นออกไป มุ่งตรงไปยังคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูง

ตอนที่เธอออกจากคฤหาสน์ตรงไปยังบาร์ใช้เวลาทั้งสิ้นสี่สิบนาที ในช่วงเวลานั้นการทำงานที่รวดเร็วของตำรวจญี่ปุ่นเองก็ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว หญิงสาวที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ ดวงตาทั้งสองจับจ้องทุกความเคลื่อนไหวในคฤหาสน์

ในเวลานั้น โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าก็สั่น เธอขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมากดรับสาย

“003 จองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้แปดโมงเช้า จัดการให้เรียบร้อย น่าจะยังทันไปดินเนอร์ด้วยกัน”

อยู่ๆ เสียงของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา สีหน้าของสายลับหญิง 003 จึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอเบาเสียงลงแล้วตอบว่า “ถ้านายต้องการจะพูดแค่เรื่องนี้ ตอนนี้ก็เตรียมหาคนมาเก็บศพนายได้เลย”

“ไม่เอาสิ ไม่ได้เจอกันเดือนหนึ่งแล้ว เธอยังมีท่าทีแบบนี้กับฉันอีกเหรอ?”

ชายหนุ่มยังคงหัวเราะล้อเล่นไม่สนใจ

สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปเป็นเย็นชา แล้วตอบด้วยเสียงต่ำว่า “ถ้านายไม่เชื่อ ก็ลองดูสิ!”

“เอาล่ะๆ...” เมื่อรู้ว่าเธอไม่เหมือนคนที่จะเล่นด้วย ชายหนุ่มก็รีบร้อนตอบมา “เปลี่ยนแผน เธอมีเวลาหนึ่งชั่วโมงสี่สิบห้านาทีในการปฏิบัติการ  หน่วยข่าวกรองที่เชื่อถือได้บอกว่า ตีสาม FBI ของประเทศ M จะมีปฏิบัติการ ดังนั้นเธอต้องหนีออกมาก่อนตีสามครึ่ง”

“เข้าใจแล้ว”

“แล้วก็หลังจากได้ของมาแล้วเธอรู้นะว่าต้องทำอย่างไร เอามันกลับมาที่สำนักงานอย่างปลอดภัย แล้วฉันจะให้วันหยุดเธอ ฮาวายคงเป็นที่ที่ดีที่เธอจะได้พักผ่อนสักหน่อย”

“ขอบคุณในความหวังดี”

“โชคดีนะ!”

“You too!” หญิงสาวตอบกลับอย่างดุดัน ก่อนที่จะปิดโทรศัพท์ เมื่อมองไปที่ด้านหน้าของคฤหาสน์ที่ดูเหมือนจะไม่จบง่ายๆ เธอก็ลังเลอยู่เล็กน้อย ก่อนที่จะกดหมายเลขโทรศัพท์ที่คุ้นเคย

“ฮัลโหล?” เสียงของชายคนนั้นแหบเล็กน้อย ราวกับเพิ่งตื่นนอนอย่างไรอย่างนั้น

รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาว เธอพูดเสียงเบากลับไปว่า “ขอโทษที่รบกวน คุณนอนแล้วเหรอ?”

“เสี่ยวซือ?” ชายหนุ่มเหมือนจะตื่นขึ้นมาเต็มตา ถามกลับด้วยเสียงดังว่า “เสี่ยวซือ ผมตามหาคุณทุกที่จนเกือบจะเป็นบ้าแล้ว! คุณอยู่ที่ไหน? ทำไมเพิ่งโทรมาหาผมตอนนี้ล่ะ? คุณรู้ไหมว่าผมกังวลแค่ไหน?”

หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวซือรีบยื่นมือขึ้นมาประคองโทรศัพท์ มองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีคนก็กระซิบตอบกลับไปว่า “ถังอวี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่บอร์กโดซ์ประเทศฝรั่งเศส ก่อนหน้านี้ฉันบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าบริษัทต้องการติดต่อกับทางนี้เรื่องไวน์ชนิดใหม่ ก็เลยให้ฉันมาตรวจสอบดู งานฉันยุ่งมากจนลืมติดต่อคุณไปน่ะ”

ชายหนุ่มที่ยังคงข้องใจบ่นพึมพำว่า “ผมตามหาคุณทุกที่ บริษัทของคุณก็ลึกลับซับซ้อน ผมไปกี่ทีก็ไม่มีคนอยู่ เจ้านายของพวกคุณ ผมก็โทรหาจนสายแทบระเบิดแต่เขาก็ไม่รับ เสี่ยวซือ ผมคิดว่าคุณจะไม่ยอมบอกลาผมแล้วเสียอีก เหมือนกับคราวที่แล้ว ปีครึ่งไม่แม้แต่จะมีข้อความส่งมา”

นี่เขารับสายเธอเพื่อตำหนิสินะ เสี่ยวซือบ่นในใจ แต่ปากกลับตอบเขาไปว่า “เป็นไปได้อย่างไร ครั้งที่แล้วฉันไปต่างประเทศก็เพื่อเรียนไม่ใช่เหรอ? มันตรงกับช่วงที่คุณสอบเข้าปริญญาเอกพอดี ฉันเลยไม่อยากรบกวนคุณ คราวหลังจะไม่มีอีกแล้ว”

“เสี่ยวซือ” ดูเหมือนว่าเวลานี้เขาจะตื่นเต็มตา ไม่ง่วงอีกต่อไปแล้ว เขาตอบกลับมาอย่างจริงจังว่า “พอจบเทอมนี้ ผมก็เรียนจบปริญญาเอกแล้ว บริษัทหนึ่งในเซี่ยงไฮ้จองตัวผมไว้แล้ว ตอนที่สัมภาษณ์ก็ไม่เลวเลย ตอนนี้ผมได้เรียนรู้ทุกอย่าง สามารถทำให้คุณมีชีวิตที่สะดวกสบายได้ คุณดูสิทีนี้คุณก็จะออกจากงานได้แล้ว หลายปีมานี้เพื่อให้ผมได้เรียน คุณต้องวิ่งไปนู่นมานี่ คุณเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ต้องออกไปหัวหกก้นขวิดข้างนอก ผมรู้สึกผิดกับคุณจริงๆ นะ ตอนนี้ให้ผมได้ทำอะไรเพื่อคุณบ้างได้ไหม ให้ผมได้สบายใจบ้าง”

เสียงของชายหนุ่มฟังดูจริงใจมาก จากนั้นดวงตาของหญิงสาวที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ก็แดงเรื่อๆ ขึ้นอย่างอดไม่ได้ แม้จะรู้ดีว่าอีกฝ่ายมองไม่เห็น แต่เธอก็ยังพยักหน้าเล็กน้อย เอ่ยตอบไปเบาๆ ว่า “ถังอวี่ ฉันเชื่อคุณนะ ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว จากนี้ไปฉันจะอยู่ข้างๆ คุณ ไม่ไปไหนทั้งนั้น”

“จริงนะ?” ถังอวี่ร้องออกมาด้วยความดีใจ “เสี่ยวซือ คุณวางใจได้เลย ผมจะต้องทำให้คุณมีชีวิตที่ดีที่สุด ผมจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นให้คุณ”

“เอาล่ะ! ไปกัน!” อยู่ๆ เสียงของตำรวจนายหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ ทำให้หญิงสาวต้องออกมาจากบรรยากาศที่อบอุ่นหวานหอมนั้นทันที สายตาที่อ่อนโยนของเธอเปลี่ยนไปเป็นสายตาที่มองออกไปยังที่ห่างไกลราวกับดวงตาของเสือดาว เธอตอบปลายสายด้วยเสียงหวานว่า “ถังอวี่ ตอนนี้ฉันต้องไปทำงานแล้ว กลับไปค่อยคุยกันนะ บาย” พูดจบไม่รอให้ถังอวี่ตอบ เธอก็วางสายเสียแล้ว

รถตำรวจส่งเสียงผ่านไป แต่เสี่ยวซือกลับไม่ได้สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ถ้าเดาไม่ผิด การตายของเจสันจะต้องทำให้กลุ่ม X เกิดความระแวดระวังมากขึ้นอย่างแน่นอน เจ้าหน้าที่ประสานงานเอเชีย ไม่ควรตายอย่างไม่มีที่มาที่ไปในโรงแรมแบบนี้ กลุ่ม X จะต้องไม่ปล่อยไว้แน่

เป็นไปดังคาด หลังจากรถตำรวจออกไปได้สามนาที รถยนต์โตโยต้าสภาพดีสองคันก็แล่นออกมาจากที่จอดรถใต้ดินของโรงแรม เนื่องจากเสี่ยวซือสวมแว่นตาอินฟาเรดจึงทำให้เธอสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ในความมืด