บทที่ 17 งานเลี้ยงต้อนรับ (2)
การที่ครอบครัวถังก้าวมาอยู่จุดนี้ได้ แท้จริงก็เป็นเพราะความดีความชอบของหลี่ซีหลินไม่น้อยเลย แต่พอตระกูลหลี่ประสบเคราะห์ล้มละลาย หมดประโยชน์จะมอบให้อีกต่อไป ถังซูหนี่ย์ก็หมดความเกรงใจเปิดเผยธาตุแท้ตัวเองออกมาทันที
ดูคำพูดคำจาที่พูดถึงคนที่เธอเคยบอกว่าเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทสิ แต่ก่อนเคยปากหวานพูดจาดีขนาดไหน วันนี้ก็พูดว่าร้ายอดีตเพื่อนสนิทได้ไม่คิดจะเก็บงำแม้แต่น้อยเลย
เหล่าคุณหนูมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของถังซูหนี่ย์ก็รีบพากันถอยห่างออกมา คนแบบนี้ใครจะอยากคบค้าสมาคมด้วยกันล่ะ
ถังซูหนี่ย์รู้ว่าตัวเองเผลอพูดสิ่งที่อยู่ในใจ ด่าหลี่ซีหลินออกมา ทำให้ภาพพจน์ที่สร้างมาเสียหาย อยากแก้ตัวแต่ก็ไม่รู้จะแก้ยังไง ยัยคุณหนูพวกนี้ก็เอาแต่ซุบซิบนินทามองเธอด้วยสายตาแปลกๆ ถังซูหนี่ย์โมโหมาก แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรแล้วเดินห่างออกจากจุดนั้นมา
วันนี้ต้องเสียเงินให้นังซีหลินตั้งเกือบสี่หมื่น เสียโอกาสได้ทำความรู้จักกับคุณชายซ่งเว่ยหนาน แล้วยังต้องมาเสียภาพลักษณ์! นังหลี่ซีหลินแกมันเป็นตัวซวยของฉันจริงๆ!!
ถังซูหนี่ย์เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันทบความแค้นเอาไว้ในใจ
สักวันฉันจะต้องทวงทุกอย่างคืนจากแกทั้งต้นทั้งดอก!!
ปลายหางตาของซ่งเว่ยหนาน เหลือบมองอะไรบางอย่างเหนือศีรษะของถังซูหนี่ย์ที่หลบเลี่ยงฝูงชนเดินออกจากจุดเมื่อครู่ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร
"เดี๋ยวผมจะอธิบายเรื่องนี้ให้คุณปู่ฟัง แต่ว่าเราไปหาที่นั่งพูดคุยกันดีๆดีกว่านะครับ" เขาหันกลับมาหาคุณปู่ พูดปลอบท่านอีกครู่หนึ่งก็พาท่านเดินเลี่ยงกลุ่มคน ไปนั่งพักในพื้นที่ ที่ค่อนข้างส่วนตัวและห่างไกลผู้คนพอให้พูดคุยกันได้สะดวก
เมื่อนั่งลงแล้วคุณปู่ซ่งก็เอ่ยถามออกมา "สรุปว่าคุณหนูคนนั้นคือใคร คือหนูหลี่ซีหลินลูกสาวหลี่ห้าวเหยียนเหรอ"
"ใช่ครับ คุณหนูหลี่ลูกสาวท่านประธานหลี่ห้าวเหยียน" ซ่งเว่ยหนานตอบกลับ
"แล้วพวกหลานไปเจอกันยังไง คบกันเมื่อไหร่ แล้ววางแผนจะแต่งงานวันไหน ชื่อหลานสาวหลานสาวที่จะคลอดตั้งว่าไง ถ้าปู่จะตั้งให้จะว่าอะไรหรือเปล่า ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะให้ชื่อ…"
"คุณปู่ ผมกับคุณหนูซีหลินไม่ได้คบกันครับ เราไม่ได้มีอะไรกัน" ซ่งเว่ยหนานพยายามยับยั้งจินตนาการของคุณปู่ พูดย้ำอีกหลายคำว่าเขากับหลี่ซีหลินเป็นแค่คนรู้จักกัน แล้วก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้คุณปู่ฟังคร่าวๆ
"….เธอโดดลงไปในน้ำเพื่อช่วยชีวิตเด็กจนตัวเปียก ผมกลัวเธอจะไม่สบาย ก็เลยพาเธอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงแรมใกล้ๆเท่านั้น ผมกับเธอไม่ได้มีอะไรกันจริงๆครับ"
"เด็กดี เด็กคนนี้เป็นเด็กดี!!"
คุณปู่ตบเข่าฉาดด้วยความพอใจ "ยอมเสี่ยงชีวิตช่วยเด็กเอาไว้ด้วย จะหาคนจิตใจดีขนาดนี้ไม่ใช่ง่ายๆ เว่ยหนานหลานอย่าปล่อยให้เธอหลุดมือเชียวนะ" คำบอกย้ำหลายครั้งของหลานชายว่าเขากับหลี่ซีหลินไม่ได้มีอะไรกันเหมือนลอยหายไปในอากาศ คุณปู่ซ่งไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น พอได้ยินว่าหญิงสาวคนนั้นจิตใจดีเสี่ยงชีวิตช่วยเด็กจมน้ำโดยไม่คำนึงถึงตัวเอง คะแนนตำแหน่งหลานสะใภ้ที่ท่านมอบให้หลี่ซีหลินก็เพิ่มพรวดพราดขึ้นมาอีกเท่าตัวทีเดียว
คุณปู่อายุเจ็ดสิบห้าปีแล้ว แม้ในการทำงานบริหารธุรกิจ สติปัญญาของท่านยังฉลาดเฉียบแหลม แต่หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับคู่ครองและการแต่งงานของหลานชายคนที่สามคนนี้เมื่อไหร่ ความเฉียบแหลมทั้งหมดก็เหมือนจะสลายไปกับอากาศ เหลือเพียงคุณปู่ชราที่อยากเห็นลูกหลานเป็นฝั่งเป็นฝาเท่านั้น
"ปู่รู้จักหลี่ห้าวเหยียนกับลูกชายของเขา คนบ้านนี้เป็นคนดีซื่อสัตย์ และหนูซีหลินนี่ก็ยอมลำบากช่วยชีวิตคนอื่น เห็นได้ชัดว่าพื้นฐานจิตใจของเธอเป็นคนดีและกล้าหาญ หลานของปู่ตาถึงดีมาก!!" คุณปู่ยิ้มปลื้มใจ
"ถึงตระกูลเธอจะล้มละลายไปแล้ว อาจจะไม่มีเงินทองมากนักก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องเงินสำหรับครอบครัวเรามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอยู่แล้ว เราแต่งเธอเข้าบ้านก็ยินดีเลี้ยงดูเธอ ไม่ได้มีจุดประสงค์จะแต่งเพื่อเอาสมบัติของเธอสักหน่อย จะรวยหรือจน ขอแค่คนที่หลานชอบ เป็นผู้หญิงที่มีจิตใจดีงาม ก็พอแล้วล่ะ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก็จะได้มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองผาสุก เหมือนปู่กับย่าของหลานยังไงล่ะ สมัยก่อนพวกเรายากจนแทบไม่มีอะไรกิน แต่เพราะเราขยันทำงานอย่างซื่อสัตย์ ตอนนี้บ้านเราก็ดีวันดีคืน
ที่ปู่เจริญรุ่งเรืองมาได้ขนาดนี้ก็เป็นเพราะย่าของหลานที่มีจิตใจบริสุทธิ์ดีงามคอยดึงปู่เอาไว้ให้อยู่ในที่ในทาง หลานรู้มั้ยสมัยที่เปิดประเทศใหม่ๆช่องทางหาเงินแบบผิดกฎหมายมีมากมายแค่ไหน ได้เงินก็เร็วแถมวิธีการก็แสนง่าย ปู่เองก็เกือบจะหลงไปในหนทางเหล่านั้น โชคดีที่ได้ย่าของหลาน…."
แล้วคุณปู่ก็เริ่มเล่าประวัติความรักและเส้นทางชีวิตของท่านกับคุณย่าให้หลานชายฟังอีกรอบ
ซ่งเว่ยหนานยิ้มรับฟังคำพูดของท่านอย่างอดทน คิดว่าถ้าปล่อยให้ท่านพูดเรื่องอื่นไปเรื่อยๆ ประเด็นเรื่องของเขากับหลี่ซีหลินอาจจะถูกท่านลืมเลือนไปได้ในที่สุด