webnovel

ข้ามมิติรักแท้ทะลุออนไลน์

เรื่่องราวของสาวโสดมนุษย์แม่ลูกสามอายุห้าสิบสองปีที่เธอได้รับพรจากพระโพธิสัตว์กวนอิมเมื่อเพียรบำเพ็ญศีลและธรรมจนบรรลุตอนอายุสามสิบห้าปี พรคือยิ่งแก่เธอจะยิ่งสาวขึ้น กับพระเอกละครไทยชื่อดังอายุสี่สิบสี่ปีที่ยังโสดเพราะรอคอยรักแท้ หลังจากแม่ของเธอตายเมื่อสองปีก่อนทั้งสองมักฝันว่าอยู่ด้วยกันแบบคู่รักเสมอๆทั้งที่ไม่เคยพบกันพวกเขาจึงไม่สามารถติดตามหากันได้ จนกระทั่งเขาประกาศผ่านสื่อออนไลน์ให้หญิงสาวที่ชอบเขาจีบเขาก่อนได้เขาอยากสร้างครอบครัวแล้ว เธอถูกดวงวิญญาณของแม่ชักนำให้พิมพ์ใบสมัครส่งไปถึงDMส่วนตัวของเขาในคืนฮาโลวีนซึ่งสะดุดตาเขาให้กดอ่านจนจบแล้วตามหาเธอเจอเพจของเธอ โดยเขาคิดว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุน้อยกว่าเขามีเสน่ห์น่าสนใจมากเขาจึงเฝ้าติดตามดูเธอเงียบๆ ส่วนเธอก็สนทนากับเขาทุกวันโดยการเล่าและบ่นเรื่องต่างๆให้เขาฟังทำให้เขามีความสุขและชอบเธอมากจึงสร้างเพจปลอมเป็นผู้หญิงเพื่อขอเป็นเพื่อนและสนทนาเรื่องเป็นแฟนคลับของเขากับเธอเสมอ เรื่องราวของคนทั้งคู่ที่อยู่คนละมิติสังคมแต่เชื่อมโยงกันได้จริงในเวลานอนหลับลึก แต่กว่าจะได้พบกันผ่านการพิสูจน์รักแท้ที่เชื่อมต่อมาจากอดีตชาติเรื่องชุลมุนวุ่นวายสุดที่จะคาดเดาได้จึงเกิดขึ้นมากมาย พวกเขาใช่คู่แท้ทางจิตวิญญาณที่เฝ้ารอคอยกันจริงหรือไม่โปรดติดตาม,,,,,,

DaoistD7FIet · ファンタジー
レビュー数が足りません
53 Chs

ข้ามมิติรักแท้ทะลุออนไลน์ : ตอนที่ 50 ใครคือเขาคนนั้น?

" แยมอายุ 31 ปีค่ะพี่นิมนิม โสดด้วยค่ะแต่มีคนคุยและคบกันอยู่ แยมทำงานในบริษัท

เอเจนซี่ที่รับทำงานอีเว๊นท์และประชาสัมพันธ์ค่ะ "

" โห! ห่างพี่นิมนิมตั้ง 20 ปีเลยนะคะ ถ้าพี่แต่งงานไวถือว่าเป็นรุ่นลูกของพี่ได้เลยนะคะเนี่ย

55 น่าสนุกดีนะคะงานที่แยมทำอยู่ พี่เองก็เคยทำงานแนวนี้มาก่อนค่ะสมัยเรียนจบใหม่ๆ

ลุยงานมานับสิบกว่าตำแหน่งค่ะ คือเป็นพวกบ้าทำงาน 55 คนคุยที่คบกันอยู่...

ใช่คุณนนท์ หรือเปล่าคะน้องแยม? "

นิมนิม โยนหินถามทางลูกที่สองออกไป ด้วยอุปนิสัยที่เป็นคนชอบความตรงไปตรงมา

อีกทั้งเธอต้องการไล่ต้อนผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นสตรีสาวรุ่นน้องชื่อแยม ให้ออกอาการผิด

สังเกตุหรือจนมุมแก่เธอต่อสิ่งผิดสังเกตุที่เธอพึ่งเจอเมื่อวานนี้

ณนนท์ ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่คนเดียวเมื่อกำลังอ่านข้อความจากนิมนิมถึงแยม เขารู้สึก

ถึงการจ้องจับผิดของนิมนิมต่อความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแยม.....???? แต่เขาเดา

สาเหตุไม่ออกจริงๆ ว่า : ทำไมนิมนิมจึงคิดว่าแยมเป็นผู้หญิงที่เขากำลังคุยหรือคบอยู่..?

" โอ๊ยตายแล้ว!! ไม่ใช่เลยค่ะ ไม่ใช่!! พี่สาวคนสวยของแยมกำลังคิดอะไรอยู่คะเนี๊ย?

แยมยังไม่เคยเจอตัวจริงของพี่นนท์เลยซักครั้งค่ะ ดังนั้นไม่ต้องไปคิดว่าแยมจะเป็นสาว

คนพิเศษของพี่นนท์ไปได้เลยนะคะ 555 อีกอย่างแยมคงไม่ใช่สเป๊คของแกด้วยอ่ะค่ะ "

" พี่ก็ถามไปอย่างนั้นเองหละค่ะเผื่อมีจุดใต้ตำตอ!! เพราะนิสัยของพี่ไม่ชอบเป็นมือ

ที่สามในชีวิตรักของใครๆ ค่ะ เพราะในอดีตนั้นพี่เคยถูกแย่งชิงหรือสูญเสียคนรักที่สุด

ไปกับผู้หญิงคนอื่น พี่จึงตั้งปณิธานว่า : ชาตินี้พี่จะไม่ขอมีเรื่องยุ่งๆ แนวโลกหลายใบ

แบบนี้เลย!!! เพราะมันเป็นพฤติกรรมของคนมักมาก,เห็นแก่ตัว,ใจโลเล และสร้างเวร

สร้างกรรมแบบไม่รู้จบด้วยค่ะ "

ณนนท์ รับรู้ได้ถึงความเป็นคนเด็ดเดี่ยว,ชัดเจนในตนเองและตรงไปตรงมา(จนน่าเกรงขาม!)

ของหญิงสาววัยกลางคน ผู้ซึ่งดึงดูดความสนใจใส่ใจของพระเอกคนดังอย่างเขาได้อย่างมากมายจนทำให้เขาต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อหาหนทางเข้าไปทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้

จริงของเธอ

" แล้วตอนนี้พี่นิมนิมคบหากับหนุ่มคนไหนอยู่หรือเปล่าคะ? แหม! พี่นิมนิมสวยดูดี

และเก่งขนาดนี้แยมว่าจะต้องมีคนมาตกหลุมรักพี่นิมนิมแน่นอนค่ะ ยิ่งสมัยนี้เค้า

ไม่แคร์เรื่องการหย่าร้างหรือการมีลูกติดแล้วด้วย "

ณนนท์ ได้จังหวะในการสอบถามถึงความเป็นจริงเรื่องสถานะการคบหาของนิมนิม

" เคยมีค่ะ ช่วงที่พี่พึ่งหย่ากับคุณพ่อของลูกๆมาใหม่ๆ คนจีบเยอะเลยทั้งชาวไทย

และชาวต่างชาติ แต่สุดท้ายแล้ว..พี่ก็เลือกลูกๆ เป็นอันดับหนึ่ง ส่วนผู้ชายเป็น

อันดับรอง อีกทั้งพี่เองมีสเป๊คผู้ชายที่พี่จะชอบตั้งเอาไว้เป็นข้อๆ อยู่แล้วถ้าไม่ได้

ตามที่พี่อยากเจอ พี่ก็ไม่ขอคบให้เสียเวลา เพราะการคบกันก็คือการเกี่ยวพันกัน

ซึ่งย่อมมีการสร้างเวรสร้างกรรมต่อกันและกันได้ทุกขณะ ยิ่งถ้าคนไหนหน้ามืด

ตามัวเพราะความหลงรัก,ความหึงหวง,ความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ต่ออีกคนหนึ่ง

แล้วหละก็... สมัยนี้อันตรายแถมน่ากลัวด้วยค่ะ เห็นข่าวไม๊คะ? ฆ่ากันตายรายวัน

เพราะรักเพราะหึงหวง!!หลายปีมานี้พี่จึงปล่อยวางเรื่องความรัก และการมองหา

คนรักออกไปค่ะ พี่ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับลูกๆ ของพี่ดีกว่า "

ณนนท์ เผลอยิ้มอย่างดีใจเมื่อทราบจากข้อความของนิมนิมว่า ปัจจุบันนี้เธอยังโสดและ

ไม่ได้คบหากับบุรุษเพศคนใดเป็นพิเศษอีกต่างหาก ข้อความทั้งหมดของนิมนิมถึงแยม

นั้น ได้ช่วยทำให้พระเอกคนดังรับรู้ถึงนิสัยใจคอ รวมทั้งสิ่งที่ชอบ,ไม่ชอบของนิมนิมได้

เป็นอย่างดียิ่ง มิเสียแรงเปล่า!! สำหรับการลงทุนปลอมตัวเป็น *แยม* เพื่อเข้าหานิมนิม

" วันนี้เป็นวันหยุดของแยมค่ะพี่สาว เดี๋ยวแยมขอออกไปซื้อของกินหน้าปากซอย

มาตุนไว้ก่อน แล้วเราค่อยคุยกันต่อเม๊าท์เรื่องพี่นนท์กันให้สนุกไปเลย นะคะ "

ณนนท์ ชักชวนเพื่อเปิดทางให้นิมนิมได้แสดงออกถึงอารมณ์,ความรู้สึก,ความคิด

และจิตใจที่แท้จริงของเธอที่มีต่อเขาในฐานะพระเอกละครทีวีชื่อดัง รวมทั้งได้เคย

พบเจอกันแล้วทั้งในความเป็นจริงบนเกาะเต่า และ.. ในความฝันเสมือนจริงที่สุด!!

ทางด้านของนิมนิม เธอตั้งใจที่จะบอกเล่าเรื่องสำคัญ! เรื่องหนึ่ง ให้ณนนท์ได้ทราบ

จากตัวของเธอเอง เพื่อให้ณนนท์เข้าใจเหตุและผลของการที่เธอเขียนจดหมายสมัคร

เข้ามาเป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ณนนท์มีสิทธิ์เลือกชอบ,ทำความรู้จัก และอาจพัฒนา

ความสัมพันธ์ไปจนกลายเป็น "ความรักที่แท้จริงของคนทั้งคู่" ในอนาคตได้

นอกจากนั้นยังมีเหตุผลอีกอย่างหนึ่ง ที่นิมนิมไม่ต้องการให้ณนนท์เข้าใจผิด

ต่อการกระทำของเธอ ด้วยการคิดเอาเองว่า : เพราะเขานั้นเป็นพระเอกละครทีวีชื่อดัง

ผู้ซึ่งมีพร้อมทุกๆสิ่ง จึงทำให้เธอ(ผู้ซึ่งมาทราบในภายหลัง) เป็นฝ่ายเขียนจดหมาย

แนะนำตัวเองเพื่อสมัครเป็นผู้หญิงคนที่ใช่ สำหรับความรักที่แท้จริงของเขา

บ่ายแก่ ๆ ของวันนั้น เมื่อนิมนิมทำงานบ้านต่างๆจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว แทนที่หญิงสาว

โสดแม่ลูกสามจะเขียนข้อความไปสนทนาแนวสนุกสนานกับแยม(ในวันหยุดงานของแยม)

เธอกลับเลือกที่จะเขียนจดหมาย **ฉบับที่สอง** ที่ซึ่งมีใจความสำคัญมาก โดยเธอปรารถนา ให้ณนนท์ได้อ่านและรับรู้ตามความเป็นจริง!! ในทุกๆ สิ่งที่ได้เคยเกิดขึ้นต่อชีวิตของเธอ

"*" สวัสดีค่ะ คุณนนท์ ที่รักและชื่นชมยิ่ง..

ฉันมีเรื่องสำคัญมากที่สุดที่ตั้งใจจะให้คุณรับรู้จากตัวของฉันเอง เพราะมันคือสาเหตุทั้งหมด(ก็ว่าได้) ที่ทำให้ฉันตัดสินใจเขียนจดหมายแนะนำตัวเข้ามาหาคุณค่ะ ย้อนไป

ในช่วงหลังจากที่ฉันเดินทางกลับมาจากเกาะเต่า(ที่ฉันได้พบคุณแต่ไม่รู้จักว่าคุณคือใคร?) ครอบครัวเราได้เผชิญกับมรสุมลูกใหญ่ติดๆ กันถึงสองลูก!! จากการ

ที่คุณพ่อและคุณแม่ของเราซึ่งมีโรคประจำตัวอยู่แล้วได้ล้มป่วยลงอีกครั้ง จากการติดเชื้อซ้ำแล้วซ้ำอีกจนท่านทั้งสองต้องหมุนเวียนเข้าไปนอนรักษาตัวในห้องปลอดเชื้อที่โรงพยาบาลที่

ดีที่สุดในภาคอีสาน ทว่า! สุดท้าย..เราทุกคนก็ไม่สามารถยื้อชีวิตและเวลาของคุณพ่อได้อีกต่อไป ครอบครัวของฉันจึงสูญเสียคุณพ่อไปในช่วงเดือนเกิดของท่านพอดี.... ต่อมาอีกไม่นานนัก คุณแม่ก็ติดเชื้อและมีอาการทรุดลงไปอีก ทำให้พวกเราต้องคอยอุ้มท่านเข้าๆ ออกๆ

ในโรงพยาบาล จนกระทั่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ประชุมลงความเห็นแก่พวกเราซึ่งเป็นลูกๆ ว่า

...ต้องการให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในโรงพยาบาลหรือที่บ้าน ?...

แน่นอนว่าพวกเราตัดสินใจนำร่างกายที่ผ่ายผอมในช่วงเวลาสุดท้ายของคุณแม่ กลับมา

อยู่ที่บ้านตามความปรารถนาของท่านที่ได้เคยสั่งเสียลูกๆ หลานๆ มาโดยตลอดว่า :

* หากวันหนึ่งแม่จะต้องตาย ขอให้แม่ได้ตายอยู่ที่บ้าน และขอให้ลูกๆ

หลานๆ ทุกคน มาอยู่เป็นเพื่อนของแม่โดยพร้อมหน้ากันนะ! ! *

หลังจากนั้นพวกเราก็ผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าดูแลคอยอยู่เป็นเพื่อนของท่านตลอดเวลา

ในวันก่อนที่คุณแม่จะจากพวกเราไปอย่างไม่มีวันกลับนั้น ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นแก่ฉัน

(ซึ่งเป็นลูกสาวคนกลาง คือ ฉันมีพี่สาวและน้องชาย) โดยในเวลาประมาณเที่ยงวันฉันพึ่ง

สวดมนตร์ใหญ่เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชาสังฆบูชา แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จบลงแล้ว ฉันจึงกราบนอบน้อมต่อพระรัตนตรัย 3 ครั้งกราบ กราบนอบน้อมต่อ

คุณบิดามารดาและคุณครูอุปัชฌาอาจารย์อีก 2 ครั้ง จากนั้นฉันรู้สึกเหนื่อยล้ามากจึงลุก

ขึ้นยืนเพื่อเดินไปเอนกายนอนลงบนเตียงนอน โดยการนอนหงาย แล้วทำสมาธิภาวนา

ด้วยการดูอาการพอง (ของลมหายใจ)... ดูอาการยุบ(ของลมหายใจ)..................... ................................ฉันทำเช่นนั้นไปเรื่อย ๆ พร้อมกับจิตอีกส่วนหนึ่งของฉัน

ก็ผล๋อยหลับพักจิตไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลีย ที่สะสมมานานนับตั้งแต่คุณพ่อ

คุณแม่ได้ล้มเจ็บลง

ฉันมารู้สึกตัวอีกครั้ง!! เพราะคุณแม่ลุกขึ้นมาจากเตียงพยาบาล แล้วเดินมาหาฉันโดยตัวของท่านนั้นเหมือนคนปกติที่ไม่ได้เจ็บป่วย รูปร่างหน้าตาของท่านเหมือนช่วงที่ท่านอยู่ในวัย 40 ปี เพราะในช่วงนั้นฉันจำได้ว่าคุณแม่จะมีรูปร่างอวบนิด ๆ ท่านตัดผมสั้นแค่ไหล่แล้วดัดผมหยิกเป็นทรงสวอนตามแบบที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่ของผู้หญิงวัยกลางคนในยุคนั้น

คุณแม่ผู้บังเกิดเกล้าของฉัน ท่านสวมเสื้อผ้าลูกไม้เกรดเอ สีขาวละเลื่อม ตัดเย็บเป็น

แขนสามส่วนตรงคอมีปกแบบใหญ่ กับผ้าถุงผ้าไหมแท้ของชาวอีสานสีน้ำตาลผสมลายทอหูกสีเขียวเข้มเป็นมันระยิบระยับงดงาม ท่านเดินมาหาพร้อมยิ้มให้กับฉันโดยมายืนอยู่

ที่ด้านข้างขวามือของฉัน ผู้ซึ่งกำลังลืมตาตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับ ท่านพูดว่า.....

" ลูกหล่า ไปวัดกับแม่ป๊ะ แม่สิพาไปเฮ็ดบุญ "

( แปลจากภาษาอีสาน: " ลูกรักไปวัดด้วยกันกับแม่นะ แม่จะพาไปสร้างบุญ " )

แล้วฉันก็มาอยู่ในวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของชนบทภาคอีสาน มีลักษณะของการทำบุญกุศล

เนื่องในโอกาสพิเศษคือทั่ววัดมีการประดับประดาด้วยตุงผ้าทอมือ สลับกับสายรุ้งหลาย

หลากสีซึ่งทำจากกระดาษแก้วแต่ละสี มีไม้เป็นหลักปักและพันไปรอบ ๆ อุโบสถ

และเต็มทั่วพื้นที่ของบริเวณวัด ฉันเห็นตัวเองกำลังยืนอยู่มุมด้านในของรั้ววัดซึ่งทำเป็นปูนซีเมนต์สีเก่าคร่ำคร่า ที่อยู่ห่างออกมาจากพระอุโสสถหลังเล็กๆ และดูเก่าแก่ประมาณ

5-7 เมตร โดยมีแม่ของฉันยืนอยู่ใกล้ๆ และท่านกำลังยกโทรศัพท์มือถือของท่านแนบหู

เพื่อพูดสนทนากับใครสักคนที่ปลายสายอีกเครื่อง

ทันใดนั้น!! ท่ามกลางบรรยากาศของงานบุญประเพณีของชาวไทยพุทธภาคอีสาน

ซึ่งมีชาวบ้านหญิงชายจำนวนมากต่างเดินกันขวักไขว่ไปมาอยู่ในบริเวณวัดเล็กๆ แห่งนี้

มีเสียงประกาศดังก้องออกมาทางเครื่องขยายเสียง ซึ่งมีลำโพงของวัดติดเอาไว้บนต้นไม้

ทั้ง 4 ทิศของวัด ใจความว่า......

" ประกาศ! ประกาศจากทางวัดบ้านเฮาเด้อ!! แม่สวาท ชื่นสกุลจิต อยู่ที่ไหนน้อ?

คุณแม่สวาท ชื่นสกุลจิต อยู่หม่องได๋น้อบาดนี่? ได้เวลาของการถวายปัจจัยเพื่อชำระหนี้

สงฆ์ในการก่อสร้างวัดบ้านเฮาแล้วเด้อ ขอเรียนเซิญทางคุณแม่สวาท ชื่นสกุลจิต ผู้เป็น

ประธานอุปถัมภ์ในการสร้างวัดให้กับบ้านเฮา ได้ฟ้าวเข้ามายังภายในอุโบสถของเฮาด้วย

เด้อ ตอนนี้หลวงพ่อฯ กับนายช่างผู้ก่อสร้างวัดกำลังนั่งรอประธานใหญ่มายกถวายปัจจัย

ไทยทานในการทอดกฐินปีนี้ของบ้านเฮาให้เรียบร้อย ญาติโยมซุผู้ซุคนกะขอเรียนเซิญ

ให้ย่างเข้ามาที่ด้านในของพระอุโบสถของเฮา เพื่อร่วมพิธีทอดกฐินสร้างวัดปีนี้ของหมู่เฮา

โดยพร้อมเพรียงกันเด้อขอรับ เรียนเซิญ ๆ ๆ เด้อขอรับ ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย "

( แปลจากภาษาอีสาน : " ประกาศ! ประกาศจากทางวัดบ้านเรา!! แม่สวาท ชื่นสกุลจิต

อยู่ที่ไหนน้อ? คุณแม่สวาท ชื่นสกุลจิต อยู่ตรงไหนน้อตอนนี้? ได้เวลาของการถวายปัจจัยเพื่อชำระหนี้สงฆ์ในการก่อสร้างวัดบ้านเราแล้ว ขอเรียนเชิญทางคุณแม่สวาท ชื่นสกุลจิต

ผู้เป็นประธานอุปถัมภ์ในการสร้างวัดให้กับบ้านเรา ได้รีบเข้ามายังภายในอุโบสถของเรา

ด้วย ตอนนี้หลวงพ่อฯ กับนายช่างผู้ก่อสร้างวัดกำลังนั่งรอประธานใหญ่มายกถวายปัจจัย

ไทยทานในการทอดกฐินปีนี้ของบ้านเราให้เรียบร้อย ญาติโยมทุกผู้ทุกคนก็ขอเรียนเชิญ

ให้เดินเข้ามาที่ด้านในของพระอุโบสถของเรา เพื่อร่วมพิธีทอดกฐินสร้างวัดปีนี้ของกลุ่ม

เราโดยพร้อมเพรียงกัน ขอรับ เรียนเชิญ ๆ ๆ ขอรับ ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย " )

ฉันและคุณแม่ได้ยินเสียงประกาศจากมัคทายกของวัดพร้อมกันอย่างชัดเจน!! ฉันจึงหัน

หน้าไปมองคุณแม่ซึ่งยังคงสนทนากับใครบางคนด้วยโทรศัพท์มือถือของท่านอยู่นั้น

" เสี่ยคะ เสี่ยอยู่ที่ไหนเหรอคะตอนนี้? ชั้นอยู่ในวัดกับนิมนิมแล้วค่ะ

เสี่ยได้ยินประกาศไม๊คะ? ทางวัดเรียกให้ชั้นไปมอบเงินถวายสร้างวัดในส่วนที่หลวงพ่อฯ

ท่านยังติดค้างค่าก่อสร้างอุโบสถกับทางนายช่างเขาอยู่ค่ะ แต่ตอนนี้ชั้นติดต่อลูกหนี้ไม่ได้เลยค่ะ ทำยังไงดีคะ? ชั้นต้องช่วยหลวงพ่อฯ เคลียร์หนี้วัดให้หมดในวันนี้ให้ได้ค่ะเสี่ย

เสี่ยพอจะช่วยชั้นสักครั้งได้ไม๊คะ ? อ๋อ! น้องนิมนิมหนะเหรอคะ..? อยู่กับแม่ที่วัด

ตอนนี้เลยค่ะเสี่ย แหม!....อะไร ๆ ก็น้องนิมนิมคนเดียวเลยนะคะ เอายังไงนะคะ....?

เสี่ยจะให้ชั้นพาน้องนิมนิมออกไปหาเสี่ยตอนนี้ที่รีสอร์ท ใช่ไม๊คะ?

หา!! หมายความว่า!! เสี่ยจะเป็นคนออกเงินทั้งหมดที่หลวงพ่อฯท่านค้างค่าก่อสร้าง

เสี่ยจะมอบเงินก้อนนี้ให้กับชั้นเอามามอบให้วัดเลย!! แต่ชั้นต้องออกไปพบเสี่ยตอนนี้

พร้อมน้องนิมนิม? แล้วให้ชั้นรับเงินมามอบถวายวัดเองเลยจริงเหรอคะ?!?!?

อ๋อ! ไม่มีค่ะ น้องนิมนิมเค้าเลือกมากค่ะเสี่ย ไม่มีแฟนแน่นอนค่ะ แหม! เสี่ยก็รู้จักนิสัยใจคอ

อันเด็ดเดี่ยวเหมือนแม่ของน้องนิมนิมดีอยู่แล้วนี่คะ ไม่งั้น... เสี่ยจะหลงรักน้องมาตั้งนานนมเพียงฝ่ายเดียวหรอกหรือคะ? ....จนป่านนี้นี่! ลูกสาวของชั้นเค้าก็ยังไม่รู้ตัวเลยนะคะว่าเสี่ย.....

แอบรักแอบหลงเค้ามาตั้งนานแสนนาน.... เฮ้อ! ถ้าชั้นสามารถทำให้เสี่ยกับลูกสาวที่ฉันหวง

และห่วงมากที่สุดลงเอยกันได้ และยังได้ช่วยหลวงพ่อฯ เคลียร์หนี้สินในการก่อสร้างวัดบ้านเราให้จบลงได้ ชั้นคงตายตาหลับแล้วหละค่ะ

อะไรนะคะ!?? ไม่ให้บังคับจิตใจของน้องนิมนิม? ให้ถามความสมัครใจของน้องก่อน?

โอ๊ยยยย!!! ทำไมเสี่ยเป็นคนน่ารักมากขนาดนี้ค่ะเนี่ย!! ตั้งแต่ชั้นรู้จักกับเสี่ยมานานชั้นไม่คิด

มาก่อนเลยจริงๆ นะคะ ว่าเสี่ยจะรักและรอคอยลูกสาวของชั้นมาได้นานมากขนาดนี้....

ขอบคุณเสี่ยมากนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ ที่จะเป็นเจ้าภาพช่วยฉันสร้างวัดถวายหลวงพ่อฯ

ให้แล้วเสร็จ ค่ะ ค่ะชั้นจะรีบออกไปพบกับเสี่ยตอนนี้เลยค่ะ เดี๋ยวนิมนิมเป็นคนขับรถค่ะ "