webnovel

กักขัง Lock you

“มึงจำฟ้าได้ไหม” ภีมเบิกตากว้าง ชื่อนี้ทำเขาแทบสติหลุด พี่ฟ้า พี่ที่คณะ เขาเจอตอนมารับน้องครั้งแรก ภีมถูกใจพี่ฟ้ามาก จนวันที่รับน้องวันสุดท้ายเขากับเพื่อนวางแผนมอมเหล้าพี่ฟ้า และมีอะไรกันหลังจากนั้น เขาคิดว่ามันจะจบ แต่พี่ฟ้ากลับไม่จบ หลังจากนั้นไม่นาน เขาจึงได้รู้ข่าวว่าพี่ฟ้าฆ่าตัวตาย ภีมตกใจและเสียใจ การฆ่าตัวตายของพี่ฟ้า จึงเหมือนเป็นตราบาปมาให้เขาจนถึงทุกวันนี้ “มึงกล้ามากนะที่สวมเขาให้กู มึงกล้ามากที่ทำฟ้าตาย” ภีมตกใจที่ได้ยินเสือพูด เขาจับมือเสือที่จิกหัวเขาไว้แน่นเพราะความเจ็บปวด “มึง…กับพี่ฟ้า?!” “เอากับแฟนเขา แต่ไม่รู้จักผัวเขา ไอ้เลวระยำ” เสือจับหัวของภีมกระแทกไปกับกำแพงจนเลือดไหลลงมาข้างขมับ “โอ้ย! เหี้ยเอ้ย” ภีมทั้งเจ็บทั้งจุก เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป ต้องขอโทษ ต้องปฏิเสธ หรืออะไร สมองตีรวนไปหมด “กูอยากจะรู้ว่ามึงเอามันแค่ไหน ทำไมฟ้าถึงได้ติดใจมึงนัก” “มึง…อย่านะ!” คำเตือน  นิยายเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องสมมุติ มีเนื้อหาและความรุนแรงไม่เหมาะสมกับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน กรุณาอ่านเพื่อความบัันเทิงห้ามลอกเลียนแบบ ถ้าใครชอบ ช่วยอุดหนุนกันด้วยนะคะ คนเขียนจะพยายามปรับปรุงเลยเขียนให้ดีีที่สุดค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตาม และสนับสนุน

Saralyman27 · 都市
レビュー数が足りません
22 Chs

บทที่ 11 เจ็บปวด

"มึง!"

เสือรีบคว้าคอเสื้อของน้องชายเข้ามาใกล้ ก่อนหมัดหนักจะต่อยลงไปข้างเเก้มจนเลือดไหลซิบข้างมุมปาก

"หึ…กูก็แค่มาทักทายเด็กมึง ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย"

"สัด มึงไม่ต้องมายุ่ง ถ้ายังสวมเขาให้กูอีก ครั้งนี้กูจะไม่ปล่อยมึงไปแน่"

สิงห์ยักไหล่ แกล้งทำเป็นไม่สนใจ ก่อนจะเดินออกจากห้อง ทิ้งความสับสนและมึนงงให้กับคนที่ยังยืนอึ้งอยู่ที่เดิม

"มึงกับมันเป็นพี่น้องกัน?"

"อืม น้องชายแท้ๆ ที่กูไม่อยากมี"

"แล้ว…เรื่องเมื่อคืน…มึงเป็นคนพากูมาที่นี้ใช่ไหม"

เสือยังคงยืนนิ่ง คนที่รอคำตอบเริ่มหน้าเสีย ใบหน้าขาวซีดเริ่มมีน้ำตาล้นเอ่อคลอเบ้า เสือขยับเข้ามาใกล้ดึงอีกคนเข้ามากอดไว้ ปลอบประโลมลูบหัวเบาๆ

"กูขอโทษ ที่กูทำให้มึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้"

"มึง…หมายความว่ายังไง!?"

"กูขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา และขอโทษกับเรื่องที่มึงเจอเมื่อคืน"

"ละ แล้วคนที่กูนอนด้วยเมื่อคืน…"

"ภีม…นี่มึงจำผัวตัวเองไม่ได้เลยรึไง"

ภีมชะงักไปเล็กน้อย ก่อนสมองจะประมวลคำตอบและถอนหายใจออกมาอย่างโลงอก

"สัด เล่นเอากูหัวใจจะวาย ทีหลังมึงก็พูดเร็วๆสิ มัวแต่ลีลาอยู่ได้"

"หึ…กูไม่ยอมให้ใครทำอะไรมึงหรอก"

คำพูดแปลกๆของคนหน้าดุ กลับทำให้คนฟังเลือดสูบฉีด หัวใจเต้นแรง จนร้อนไปทั้งตัว

"ไข้ขึ้นรึเปล่าภีม ทำไมหน้าแดง"

"อะ เออน่าจะใช่ งั้นกูไปนอนพักก่อนดีกว่า"

ภีมรีบกลับเข้ามาในห้อง หัวใจเต้นแรงจนต้องเอามือมากุมไว้ เขานอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเบาะนุ่มใช้เวลาอยู่นานกว่าจะข่มตาหลับลงได้ จนเวลาผ่านมาถึงช่วงเย็น กลิ่นหอมของกับข้าวลอยอบอวลไปทั่วห้อง ภีมที่ได้กลิ่นหอมนั้นรีบเดินออกมาจากห้องนอนทันที เขาเห็นคนตัวโตกำลังง่วนกับการผัดบางอย่างอยู่บนกระทะ

"มึงทำเป็นด้วยเหรอ?"

"หึ…กูไม่ได้เป็นง่อยเหมือนมึง ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง"

"แม่ง กูไม่พูดก็ได้"

คนหน้าบูดเดินมานั่งดูทีวีที่โซฟา ปล่อยให้อีกคนทำอาหารจนเสร็จ เสือนำอาหารมาวางไว้บนโต๊ะทานข้าว จัดเตรียมทุกอย่างไว้พร้อม

"จะให้กูตักข้าวยัดปากด้วยไหม…มากินข้าว"

คนพูดถึงกับส่ายหัวให้กับความดื้อด้าน เอาแต่ใจของอีกคน

"จิ…ไอ้เผด็จการ"

ภีมเดินมาตามคำสั่ง นั่งลงกินข้าวอย่างว่าง่าย รสชาติของอาหารถือว่าอร่อยไม่น้อย จนทำให้อาหารหมดลงโดยใช้เวลาไม่นาน

"มึงล้างจานด้วย"

"ไม่ เรื่องอะไร"

"กูอุตส่าห์ทำข้าวให้มึงกิน ยังไม่ตอบแทนบุญคุณกูอีกนะ"

"เออๆ ก็ได้"

จานชามทุกอย่างบนโต๊ะถูกกวาดลงซิงค์ล้างจานจนหมด ภีมหยิบจานขึ้นมาล้างทีละใบ ท่าทางเงอะงะทำคนมองขัดใจไม่น้อย แต่เขาก็ปล่อยให้อีกคนล้างจานต่อไป

"ขอบใจ"

เสียงเบาเปล่งออกมาจากคนที่ยืนหันหลังล้างจานจนใบสุดท้ายถูกล้างจนเสร็จ

"เฮ้ย! ไอ้เสือ"

แรงกอดจากด้านหลังทำคนตัวขาวสะดุ้งแทบทำจานตก ก่อนจะสัมผัสอุ่นนุ่มจะประทับลงมาบนศีรษะ

"กูขอโทษ"

"งั้นกูขอถามเรื่องไอ้สิงห์ได้ไหม กูอยากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน"

"มันก็แค่เกลียดกู เลยมาลงที่มึง"

"ทำไมว่ะ กูไม่เข้าใจ"

"มันตั้งใจจะทำลายคนสำคัญของกูทุกคน"

"คนสำคัญ"

ภีมแอบอมยิ้มไปกับคำว่า คนสำคัญ แต่ก็ต้องกลับมาตีหน้านิ่งฟังอีกต่อ

"เมื่อวานมันแค่ทำรอยไว้ แต่มันยังไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น กูเข้าไปเจอมึงนั่งหลับอยู่กับพื้นแล้วก็พามาที่ห้อง"

"แล้วทำไมกูถึงได้ยินคนที่อยู่กับไอ้สิงห์เรียกมันเป็นชื่อมึงว่ะ"

"หึ…มันชอบใช้ชื่อกูไปทำเรื่องเหี้ยๆไง เพราะหน้าตาคล้ายกัน มันเลยจงใจใช้ชื่อกู ทำให้กูโดนคนอื่นเกลียด"

"โห สรุปพวกมึงเป็นพี่น้องกันจริงปะเนี่ย"

เสือไม่ได้ตอบคำถามนั้นกลับไป แต่สังเกตจากสีหน้าและแววตาก็พอจะรับรู้ได้ว่าคงมีแต่เรื่องเลวร้ายระหว่างเขากับน้องชายที่ทำให้เสือไม่อยากพูดมันออกมา

เอี๊ยด!

"เฮ้ย!ระวัง!"

รถมอเตอร์ไซค์เบรกกระทันหัน เมื่อลูกแมวขนปุยสีขาววิ่งตัดหน้า เข้าไปยังพุ่มหญ้าที่อยู่หน้าตึกวิศวะ

"เป็นไรไหมภีม"

คนที่นั่งซ้อนท้ายตัวเกร็ง ก่อนจะส่ายหัวไปมา เสือจึงจอดรถแล้วถอดหมวกกันน็อกออกให้

"ขะ ขอบใจ มึงก็ไปเรียนได้แล้ว"

"อืม เลิกเรียนแล้วโทรมา"

"เออๆ"

เสือมองคนที่เดินห่างไปจนลับตา สมองครุ่นคิดบางเรื่องอยู่นานสองนาน ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะสายเกินไป

ช่วงเวลาเรียนผ่านไปจนถึงพักเที่ยง ภีมแยกตัวออกมาจากเพื่อนเพื่อมาเข้าห้องน้ำ

"เดี๋ยว หยุดนะพี่สิงห์ อะ! อย่าทำรอย พอเลย"

ปัง!

ประตูถูกเปิดออกอย่างแรง คนที่อยู่ด้านในเดินออกมาหน้าตาเฉย ไม่ได้มีท่าทีตกใจที่เห็นคนด้านนอกเลย ผู้ชายที่ดูอายุอ่อนกว่าเดินหน้างอออกไปจากห้องน้ำ ส่วนอีกคนก็ยืนพิงกำแพง กอดอกมองคนที่กำลังแสร้งล้างมืออยู่

"บังเอิญจังนะครับ"

ภีมไม่ได้ตอบกลับไป เพียงแค่เหลือบมองผ่านกระจกเท่านั้น

"คืนก่อน ผมไม่น่าปล่อยไปเลย"

"นี่นาย!…"

"แค่จะมาเตือน ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลัง ก็เลิกกับมันซะ"

"พูดเรื่องอะไร นายหมายถึงอะไร แล้ว…เดี๋ยว!...ไอ้สิงห์…"

ภีมกัดฟันกรอดๆ รู้สึกโมโหที่ไม่สามารถตอบโต้อะไรอีกฝ่ายได้ แถมยังต้องมีเรื่องคาใจเพิ่มมาอีก วันนี้ทั้งวันเขาเอาแต่นั่งคิดถึงเรื่องที่สิงห์พูดทิ้งไว้ จนเมื่อได้รับข้อความจากเสือ ว่าอีก 5 นาทีให้ไปรอหน้าตึก เขาจึงไม่รอช้ารีบเก็บของลงมายืนรอตามนัดเนื่องจากเลิกคาบพอดี

มอไซค์คู่ใจวิ่งขับตรงไปบนถนนเรื่อยๆ แต่วันนี้จุดหมายกลับเปลี่ยนไปอีกทาง รถวิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้านหรู แถบจะเรียกว่าคฤหาสน์เลยก็ว่าได้ ซึ่งตอนนี้เหมือนจะมีงานเลี้ยงเล็กๆกำลังจัดขึ้นภายในบ้าน

"เสือ…มึง…?"

"อ้าวเสือ มาพอดีเลยลูกทุกคนรออยู่นะ…แล้วนี่ใครจ๊ะ"

"ภีม เพื่อนผมเองครับแม่"

"ดีเลย งั้นเข้ามาก่อนเร็วลูก เดี๋ยวแม่หาชุดหล่อๆใส่ให้นะ เสือเองก็น่าจะไปเปลี่ยนชุดก่อนนะลูก"

"ไม่ต้องหรอกแม่ แค่งานวันเกิดสิงห์ จะทำให้ยุ่งยากทำไม"

"แหม เราเนี่ย…ก็ได้ งั้นพาเพื่อนเข้ามานั่งพักในบ้านก่อนนะ"

ภีมโค้งคำนับให้ผู้ที่อายุมากกว่า ก่อนจะถูกคนหน้าดุลากเข้ามานั่งในห้องส่วนตัวของเขา

"ทำไมมึงไม่บอกกูก่อนว่ะ กูจะไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยเนี่ย"

"มึงอยากมาหาไอ้สิงห์?"

"เปล่า ก็มาบ้านมึงครั้งแรก ก็น่าจะแต่งตัวให้ดีกว่านี้หน่อย ของฝากก็ไม่มีติดมา"

"หึ…นั่งเฉยๆไปเถอะมึง ไม่ต้องหาเรื่อง"

คนที่เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรกดูท่าจะกระวนกระวายไม่น้อย ถึงกับนั่งกระสับกระส่ายไม่ติดเก้าอี้ เสือเหลือบมองอยู่นานก่อนจะเรียกให้อีกคนรู้สึกตัว

"ภีม"

"ห๊ะ อะไร?"

"มานี่ดิ"

"อะไรว่ะ"

"มานี่"

ภีมเดินหน้าหงิกเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่อีกฝั่ง ก่อนจะถูกดึงให้ลงไปนั่งคร่อมคนที่นั่งอยู่บนโซฟา

"เฮ้ย ไอ้เสือ ปล่อย! อื้อ เจ็บๆ"

ภีมพยายามตุบตี ผลักไสปากหนาที่กำลังดูดทำรอยไว้บนต้นคอ ก่อนริมฝีปากจะย้ายมาหยุดอยู่ที่หน้าอกแบนดูดเม้มจนขึ้นสีเป็นจุดๆ

"อืออ เดี๋ยว…ไอ้…"

"ต่อไปนี้ห้ามเรียกว่า ไอ้ นำหน้าชื่อกู"

"อะ อะไรของมึง"

"กูให้มึงเลือกว่าจะเรียก เสือ หรือ พี่เสือ"

"สัด…อ๊ะ เจ็บ"

ฟันคมกัดลงบนหน้าอกอีกครั้ง จนคนถูกกัดสะดุ้งอยากจะลุกหนี แต่ก็ถูกแขนหนารัดแน่นเข้าไปอีก

"ว่าไง…ตอบ…ภีม"

"…เสือ พอใจยัง"

คนเผด็จการผุดยิ้มขึ้นมา ก่อนจะเลื่อนหน้าขึ้นไปประชิดกับริมฝีปากบาง แต่…

"แสดงหนังสดกันไม่เกรงใจเจ้าของวันเกิดเลยนะ พี่เสือ"

"สัด เข้ามาทำไมไม่เคาะประตู"

"เอ้า ปกติก็ไม่เคยเคาะ…พ่อกับแม่ให้มาตามออกไปข้างนอก เร็วๆด้วย ทุกคนรออยู่"

สิงห์เดินนิ่งออกไป ภีมจึงรีบลุกพรวดขึ้นมาพร้อมพ่นคำด่าใส่เสือสารพัด ก่อนทั้งคู่จะเดินมายังพื้นที่ของงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อลูกชายคนเล็กของบ้าน เมื่อทุกคนมาครบ เค้กก้อนโตจึงถูกนำมาวาง พร้อมเสียงเพลงอวยพรวันเกิดที่ดังขึ้นและจบลงเพื่อให้เจ้าของวันเกิดเป่าเทียนพอเป็นพิธี พ่อกับแม่ของเจ้าของงานจึงบอกให้ลูกชายทั้งสองเข้ามานั่งคุยกันในห้องส่วนตัวด้านในของบ้าน ภีมที่ไม่ได้รู้เรื่องใดๆ กลับถูกดึงให้มาร่วมด้วย โดยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ

"งั้นพ่อเริ่มเลยนะ เสือ…อีกไม่นานลูกก็จะเรียนจบแล้ว ธุรกิจของครอบครัวเรา ลูกต้องเป็นคนบริหารต่อหลังจากเรียนจบ พ่อเลยอยากให้ลูกหมั้นกับลูกสาวของคุณบดินทร์ เขาเป็นลูกสาวนักการเมืองที่อิทธิผลมาก พอจะทำให้ธุรกิจก่อสร้างของเราต่อยอดไปได้ ลูกว่าไง"

"ผมแล้วแต่พ่อครับ"

"ดีมาก ขอบใจมากนะลูก"

"ส่วนสิงห์ เราก็เหมือนกันหลังจากเรียนจบพ่อก็จะให้มาช่วยบริหารงานด้วย"

"ครับพ่อ"

ผู้เป็นพ่อยิ้มหน้าบานที่วันนี้ลูกชายคนโตกลับว่านอนสอนง่าย ผิดจากที่ผ่านมา ส่วนคนเป็นแม่ถึงกับโล่งอกที่ลูกยินยอมโดยไม่โต้เถียงสักคำเดียว แต่น้องชายที่คลานตามกันออกมา กลับรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างที่แอบซ่อนไว้ของพี่ชาย เมื่อการพูดคุยได้จบลง เสือจึงขอตัวกลับคอนโดพร้อมคนที่มาพาด้วย ระหว่างทางไม่มีการพูดจาใดๆแม้แต่คำเดียว จนมาถึงห้อง

"ภีม…"

เสือจับแขนอีกคนไว้ไม่ให้เดินหนี ภีมก็ยังคงเอาแต่เบี่ยงหน้าลบ ไม่ยอมสบตา

"ฟังกู"

มือหนาจับใบหน้าอีกคนยึดไว้ให้หันมามอง

"อยากถามอะไรกูไหม"

"…"

"มึงแน่ใจว่าไม่มี"

ไร้เสียงตอบรับ ใบหน้าที่ถูกยึดจับ ถูกปล่อยออก พร้อมกับคลายมือที่จับแขน ปล่อยให้อีกคนเดินหายไปในห้องนอนตามลำพัง เสียงน้ำไหลจากฟักบัวดังลอดออกมาจากห้องน้ำ ภีมยังอยู่ในนั้นเกือบชั่วโมง นานจนคนรอเริ่มรอไม่ไหว

แกร๊ก

ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก เสือเดินตรงเข้าไปหาคนที่กำลังยื่นถูกตัวไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาระดมจูบปากบาง บดเบียดดึงดูดจนบวมเจ่อ แผ่นหลังเนียนขาวถูกดันจนแนบติดไปกับผนัง ร่างขาวถูกโลมเลีย ดูดเม้ม ขบกัดหลายต่อหลายครั้งจนขึ้นสีเป็นจุด

"อึก ฮือ…พอสักทีเถอะ จะทำแบบนี้กับกูทำไม…กูเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์ของมึงใช่ไหม"

ร่างที่กำลังสั่นเทานั่งพับลงไปกับพื้น ภีมสะอื้นร้องไห้จนตัวโยก ตอนนี้ความเข้มแข็งที่เคยมีพังทลายลงจนหมดสิ้น แต่เมื่ออีกคนนั่งลงกระชับเขาเข้ามาในอ้อมกอด คนอ่อนแอก็ดันใจอ่อนฮวบให้กับความอ่อนโยนนี้ทุกครั้ง ถึงแม้ต่อไปจะรู้ว่าต้องเจ็บมากกว่านี้ก็ตาม

"ร้องไห้ทำไมภีม"

"ฮึก ฮืออ"

"ตอบกู อย่าร้อง"

"ฮึก กู กูไม่รู้"

"ภีม ถ้ามึงไม่พูดกูก็ไปต่อไม่ได้นะ กูอยากรู้ว่าตอนนี้มึงคิดอะไร รู้สึกยังไง…กับกู"

ภีมมองหน้าอีกฝ่ายอย่างลังเล ก่อนจะพูดสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจออกไปจนหมด

"กูชอบมึง ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอกูไม่ยินเรื่องหมั่นของมึง มันทำให้กูรู้สึกแย่ มันเจ็บจนพูดไม่ออก หายใจก็ไม่ออก ฮือออ กูไม่อยากเป็นแบบนี้ ไม่อยากอยู่แบบนี้"

"ภีม ฟังกู…จะไม่มีงานหมั้นอะไรทั้งนั้น กูสัญญา ตอนนี้มึงอาจจะยังไม่เชื่อ แต่กูจะทำให้มึงเห็นเอง"

"ทำไม…"

"กูชอบมึง"

"ชอบ…ตอนไหน!?"

"คำตอบก็คงเหมือนที่มึงตอบกู กูก็ไม่รู้ว่าชอบตอนไหน รู้แค่ว่าถ้ามึงหายไปกูคงแทบบ้า…อยู่ข้างๆกูต่อไปได้ไหม อย่าทิ้งกูไปไหน…ได้ไหม?"

คำพูดจริงจังพร้อมแววตาหนักแน่นที่จ้องมองมา ทำเอาภีมใจชื่นขึ้นมาได้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นความไม่แน่นอนบางอย่างก็ยังทำให้เขาคิดมากอยู่ดี ถึงจะรักกัน แต่ความรักมันคงไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน และมันยังมีอีกหลายปัจจัยที่อาจจะทำให้มันเปลี่ยนแปลงไป ถ้าเหตุผลมันไม่มากพอ

"เสือ…พรุ่งนี้พากูกลับบ้านได้ไหม"