ตอนที่ 588 ประจักษ์พยาน
กู่ฉิงซานยิ้ม
“จักรพรรดินีหลี่อัน ก่อนที่พวกเราจะทำตามข้อตกลงกัน เจ้าจะต้องนำใครบางคนมาช่วยข้าสู้เสียก่อน แล้วข้าจะมอบโลกเป็นรางวัลแก่เจ้า”
เขาย่ำลงบนพื้นใต้ฝ่าเท้าตน และกล่าว “และนับจากนั้นไป โลกใบนี้จะเป็นของเจ้า”
หลี่อันมองเขา แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เธอก็ถูกแม่มารสวรรค์ดึงไปไว้ข้างหลังเสียก่อน
เจ้าบอกว่าจะมอบโลกใบนี้ให้กับบุตรสาวแห่งข้าสินะ?“ แม่มารเอ่ยถาม
“ใช่ โลกใบนี้มีไว้เพื่อนาง”
“เจ้าพูดจริงหรือ? เจ้าจะสามารถรับผิดชอบในคำพูดของเจ้าได้หรือไม่?”
“สิ่งใดที่เอ่ยปากออกไปแล้ว ข้าย่อมสามารถรับผิดชอบ ไม่บิดพลิ้วมันอย่างแน่นอน” กู่ฉิงซานกล่าว
แม่มารสวรรค์พยักหน้าอย่างเงียบงัน ขณะเดียวกันบนใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะหยัน
“บุตรสาวข้า วันนี้ข้าจะมอบบทเรียนให้แก่เจ้า เพื่อแสดงให้เจ้าได้เห็นว่าเจ้าพวกมนุษย์น่ะฉ้อฉลมากเพียงใด” แม่มารหันไปกล่าวกับหลี่อัน
เธอก้าวออกมาข้างหน้า และชี้ไปยังวิหารที่อยู่เบื้องหลังกู่ฉิงซาน หันหน้ากลับมามองเหล่ามารสวรรค์หญิง “จงฟังให้ดี ข้าได้ทำการตรวจสอบโลกเบื้องล่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งปลูกสร้างนั่นเป็นวิหารของเหล่าทวยเทพโบราณ ดังนั้นที่นี่จึงไม่ใช่โลกของมนุษย์ผู้นี้ แต่เป็นโลกที่เทพวิญญาณได้เหลือทิ้งเอาไว้”
แม่มารชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าและกล่าว “และเหนือขึ้นไปก็มีกฎเกณฑ์ของเทพบรรพกาลที่เรียกกันว่าอำนาจเทวะ...นั่นคือกำแพงอุปสรรคที่ช่วยปกป้องโลกใบนี้ เป็นกฎเกณฑ์ที่เหล่าทวยเทพได้บัญญัติขึ้น”
“ใครก็ได้ ลองบินขึ้นไปบนท้องฟ้า และแสดงให้ทุกคนได้เห็นสักหน่อยซิ” เธอสั่ง
ทันใดนั้นมารสวรรค์หญิงหลายตนก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกัน
อย่างรวดเร็ว บนท้องฟ้าก็เริ่มกะพริบไหวด้วยรังสีแสงสีทอง
มารสวรรค์หญิงบินกลับมาและกล่าวด้วยความตื่นเต้น “รายงานท่านแม่ เมื่อครู่เหล่าพี่น้องได้บินขึ้นไป ข้างบนมีกำแพงอุปสรรคของเทพบรรพกาลอยู่จริงๆ พวกเราไม่สามารถผ่านมันไปได้เลย”
“และเหนือขึ้นไปบนมันคือทะเล จากนั้นจะเป็นก็เป็นชั้นน้ำแข็ง”
แม่มารยิ้ม เธอหันไปมองหลี่อันและกล่าว “บุตรสาวข้า เจ้าพอจะคาดเดาได้หรือไม่ว่ามีสิ่งใดอยู่เบื้องบนนั่น”
“ข้าไม่ทราบ” หลี่อันตอบกลับไปอย่างไร้หนทาง
แม่มารประกาศลั่น “เหนือขึ้นไปเบื้องบน มันถูกครอบครองโดย หนึ่งแสนสัตว์ประหลาดผี และสองร้อยล้านผู้เข้าสู่วิถีมาร!”
“พวกเขาได้ยึดครองโลกใบนี้เอาไว้แล้ว!”
ปรากฏเสียงฮือฮาขึ้นในหมู่มารสวรรค์หญิง
ชายผู้นี้ เมื่อครู่เพิ่งกล่าวว่าจะมอบโลกใบนี้เพื่อชำระหนี้ แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้ นี่มันเหนือความคาดหมายไปมาก
แม่มารมองหลี่อัน ปากเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หรือในอีกความหมายหนึ่งก็คือ โลกใบนี้เป็นของเทพบรรพกาลหรือไม่ก็ของราชามาร มิใช่ชายที่อยู่ตรงกันข้ามผู้นี้เป็นคนครอบครองมัน”
“เขาได้ให้คำมั่นว่าจะมอบโลกให้แก่เจ้าเป็นการตอบแทน แต่ดูสิ...ตอนนี้เขาไม่มีแม้กระทั่งโลกไว้ในครอบครองด้วยซ้ำ”
“เขาโกหก”
“หลี่อัน ตอนนี้เจ้าเข้าใจหรือยัง?”
หลี่อันก้าวออกมาจากกลุ่มมารสวรรค์หญิง คุกเข่าของเธอลงบนพื้น กล่าวเสียงต่ำ “ลูกเข้าใจแล้ว”
แม่มารมองเธอ ถอนหายใจและส่ายหัว “ช่างไร้เดียงสา…”
แต่ในเวลานั้นเอง อีกเสียงหนึ่งก็ดังมาจากจุดที่ไกลออกไป
“นั่น...ข้าเกรงว่าคงจำเป็นต้องขัดจังหวะพวกท่านเสียแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าว
มารสวรรค์หันกลับมามองเขาอีกครั้ง
แต่คราวนี้ นอกเหนือไปจากหลี่อัน สีหน้าของมารสวรรค์แต่ละตน ได้แสดงชัดถึงความโหดร้ายและกระหายเลือด
“คนฉ้อฉล”
“กล้าดีอย่างไรมาปั่นหัวพวกเรามารสวรรค์”
ตนแล้วตนเล่าเริ่มสาดคำก่นด่า ตามร่างกายของพวกเธอเริ่มบังเกิดคลื่นพลังกระเพื่อมไหว
กู่ฉิงซานยิ้ม เขาเริ่มขับเคลื่อนพลังวิญญาณจากภายในร่างกายเล็กน้อย
ด้วยพลังวิญญาณที่เต็มเปี่ยมผสานไปกับกระบวนการตัดผ่าน ทันใดนั้นการกระทำของเขาก็ถูกตรวจพบโดยกฎเกณฑ์ของสวรรค์และโลกทันที
บนท้องฟ้า เสียงคำรามอึกทึกระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มังกรสายฟ้าที่มีขนาดตัวยาวกว่าร้อยหลายลี้โผล่หัวออกมาจากเมฆทะมึน จับจ้องลงมายังฝูงชนเบื้องล่าง
ด้วยมังกรแห่งทัณฑ์สายฟ้าอันทรงพลานุภาพที่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้เหล่ามารสวรรค์หุบปากลง พูดสิ่งใดไม่ออก
กู่ฉิงซานกุมดาบพิภพไว้ในมือของเขาอีกครั้ง และเริ่มถ่ายเทพลังวิญญาณลงไป
ดาบพิภพส่งเสียงหึ่งๆ ทันที มันระเบิดพลังเหนือธรรมชาติที่มองไม่เห็นออกมา
กู่ฉิงซานวาดดาบพิภพ ปากเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “พวกเจ้าไม่คิดจะรอให้คนอื่นพูดจนจบสักหน่อยหรือ? คิดว่าตัวเองตายไม่เป็นหรืออย่างไร?”
มารสวรรค์เลื่อนสายตามองลงมาที่ดาบ และสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวในจิตใจตน
“นั่น...”
“ไม่ผิดแน่ เขาสามารถสังหารเราด้วยดาบเล่มนั้นได้”
“แล้วพวกเราสมควรทำอย่างไรดี”
“รอก่อน รอฟังคำสั่งจากท่านแม่”
พวกเธอชักฝีเท้าถอยกลับมา
แม่มารก้าวออกมาเบื้องหน้ามารสวรรค์ทั้งหมด เอ่ยปากด้วยรอยยิ้มหยัน “ทำไม? หลังจากที่ถูกเปิดโปงโดยข้า เจ้าก็รู้สึกอับอายจนระงับความโกรธไว้ไม่อยู่หรือ? มนุษย์เช่นเจ้าน่ะ ข้าเคยพบพานมานักต่อนักแล้ว”
กู่ฉิงซาน “ข้าบอกว่าข้าจะจ่ายหนี้ ส่วนพวกเจ้า ถ้าอยากคิดว่านี่เป็นโลกของคนอื่นก็คิดไป มันไม่เกี่ยวข้องกับข้า เพราะข้าแค่ต้องการให้หลี่อันคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจ ว่าแท้จริงแล้วโลกใบนี้เป็นของนาง”
หลี่อันเงยหน้าขึ้นมองเขาทันใด
เขาจะสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ไหมนะ? เธอลอบอธิษฐาน
มารสวรรค์หญิงทั้งหมดมองไปที่เขา
แม่มารส่ายหัวและกล่าวว่า “อำนาจเทวะของเทพบรรพกาลยังคงอยู่ บนชั้นน้ำแข็งก็เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดผีและผู้เข้าสู่วิถีมาร แล้วเจ้าจะมีวิธีอะไรมาพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าโลกใบนี้เป็นของเจ้า?”
กู่ฉิงซานยิ้มและกล่าว “ดูเหมือนว่าท่านจะทราบเกี่ยวกับโลกใบนี้มากทีเดียว แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าเมืองที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของท่านนี้มีชื่อว่าอะไร?”
“เรื่องน่าเบื่อแบบนั้นข้าจะไปรู้ได้อย่างไร...เจ้าคิดจะย้อนข้าอย่างนั้นหรือ?” แม่มารกล่าว
“ไม่ใช่ ข้าเพียงจะพิสูจน์ให้ท่านเห็น ว่าข้าน่ะรู้จักโลกใบนี้มากยิ่งกว่าท่าน”
กู่ฉิงซานถอนหายใจ “เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นบนภูเขาสูง อยู่ใกล้กับทะเล ดังนั้นมันจึงถูกเรียกว่าเมืองไห่เช่า”
แม่มารกล่าว “ก็แล้วมันทำไม? เมืองแห่งนี้มันถูกสร้างขึ้นโดยเหล่าทวยเทพ แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า?”
กู่ฉิงซานส่ายหัวและกล่าว “โลกใบนี้จะพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นเอง ว่ามันเป็นของข้า”
หลังจากพูดจบ เบื้องหลังเขาในความว่างเปล่า ดาบบินเล่มหนึ่งก็พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที
เช่าหยิน...
ดาบจากสมัยโบราณ นามว่าเช่าหยิน!
ดาบบินกลายเป็นกระแสแสงทะยานขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดบนท้องฟ้าแล้วจึงค่อยหยุดลง
มันแขวนเด่นอยู่ตรงนั้น ราวกับกำลังเฝ้ารออะไรบางอย่างอยู่
“จงเปิดออก!”
กู่ฉิงซานเอ่ยปากอย่างแผ่วเบา
เมื่อเช่าหยินได้ยินคำสั่งนี้ มันก็ยื่นปลายดาบออกไป เพื่อเจาะลงบนกำแพงอุปสรรคของทวยเทพ
เช่าหยินน่ะถูกสร้างขึ้นมาโดยเหล่าทวยเทพ มันได้นำพากู่ฉิงซานข้ามผ่านกำแพงอุปสรรคที่เกิดจากอำนาจเทวะอยู่หลายครั้ง และตอนนี้ ก็เป็นอีกครั้งที่มันจักสำแดงพลังที่ว่าออกมา!
เห็นแค่เพียงแสงสีทองเรืองรองบนท้องฟ้าที่ค่อยๆ ขยายตัวขึ้นอย่างเชื่องช้า
และฉากนี้ยังมิได้หยุดลง
ทันใดนั้นแสงสีทองเรืองรองเริ่มขยายจนเป็นโดมทรงกลม แพร่กระจายออกไปตลอดทั้งน่านฟ้า
มันแพร่กระจาย ขยับขยายตัวอีกครั้ง และอีกครั้ง เผยให้เห็นถึงฉากหลังของมหาสมุทรที่เป็นสีน้ำเงินเข้ม
ณ ตอนนี้ อำนาจเทวะทั้งหมดที่เคยครอบคลุมทั่วผืนฟ้า ได้ถูกเปิดออกแล้วโดยดาบเช่าหยิน!
กู่ฉิงซานเพิกเฉยต่อแต้มพลังวิญญาณที่กำลังลดอย่างรวดเร็วบนหน้าต่างเทพสงคราม และตะคอกออกมาคำหนึ่ง
“จงร่วงหล่น!”
ด้วยคำสั่งของเขา เช่าหยินก็ส่งเสียงร้องฉวัดเฉวียนอย่างรวดเร็ว!
มันกำลังเรียกขานมหาสมุทร!
ในสมัยโบราณ เทพบรรพกาลได้สร้างดาบเล่มนี้ขึ้น และโยนมันลงสู่ท้องทะเลเพื่อให้ปกปักสี่ห้วงสมุทร
และผู้ใดก็ตามที่ถือครองดาบเล่มนี้ ก็จะกลายเป็นราชาแห่งท้องทะเล!
ปรากฏให้เห็นถึงภาพที่ไม่อาจจะเชื่อสายตา
เหนือท้องฟ้า มหาสมุทรทั้งมวลได้พังทลายลงมา
มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ไร้ที่สิ้นสุดร่วงตกลงมา ฉากนี้คล้ายกับน้ำท่วมใหญ่ในครั้งก่อนประวัติศาสตร์ ที่ทำให้โลกทั้งใบจมอยู่ใต้ท้องทะเลโดยสมบูรณ์
แม้กระทั่งเมืองไห่เช่าที่อยู่บนยอดเขาสูง ก็ยังถูกท่วมทับ จมอยู่ใต้น้ำทะเลอย่างสิ้นเชิง
โลกทั้งใบถูกเปลี่ยนเป็นห้วงทะเลลึก
หลงเหลือเฉพาะเพียงจัตุรัสเบื้องหน้าวิหารเท่านั้นที่ยังมีพื้นให้เหยียบย่าง
มารสวรรค์ รวมไปถึงผู้คนแห่งอาณาจักรหนามต่างมองมายังกู่ฉิงซาน
พวกเขายังคงยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม
ปัจจุบันนี้ กระแสน้ำได้โถมเข้าปกคลุมทุกสิ่งอย่าง ไม่นาน หลากหลายสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลก็เริ่มแหวกว่ายผ่านลานจัตุรัสไป
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ทัณฑ์สวรรค์ยังมิได้กระจายตัวหรือเหือดหายไป มังกรสายฟ้าที่มีความยาวกว่าหลายร้อยลี้ยังคงแหวกว่ายอยู่ในเมฆและน้ำ ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าเริ่มแพร่กระจาย มหาสมุทรในปัจจุบันสาดชั้นแสงสายฟ้าเรืองรองอย่างต่อเนื่อง
นี่คือฉากที่นับว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง!
ทุกคนที่เห็นภาพนี้ ต่างอึ้งทึ่งจนไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา
กู่ฉิงซานยื่นมือออกไป
‘ฮู้ม!’
ดาบบินร่อนลงมาจากฟากฟ้า และตกลงในมือของเขา
“กำแพงอุปสรรคมิใช่ปัญหา”
เขากล่าว
“มหาสมุทรก็เป็นของข้า”
เขายังคงกล่าวต่อ
“ส่วนเรื่องกองทัพสัตว์ประหลาดผี...”
พลังวิญญาณจากภายในร่างกายเขาขับเคลื่อนเล็กน้อย
มังกรสายฟ้าพลันตระหนักถึงกลิ่นอายของเขาทันที
‘โฮก!’
มันระเบิดเสียงคำรามสั่นสะเทือนสวรรค์และโลก
ร่างสายฟ้าขนาดมหึมาร่วงตกลงจากท้องฟ้า โฉบลงมาเวียนว่ายรอบลานจัตุรัส
ตลอดทั้งจัตุรัสพลันถูกปกคลุมไปด้วยสีน้ำเงินขาวโดยสมบูรณ์
กู่ฉิงซานมองไปยังแม่มารสวรรค์ ปากเอ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ ท่านยังมีคำถามอะไรอีกหรือไม่?”
................................................................