endless space

ที่ทอร์เอ่ยคำพูดมานั้นมันก็เป็นความจริง ความจริงที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจลบล้างให้หายไปบนอวกาศนั้นมีสปีชีส์นับร้อยอาศัย ปรากฏตัวมาเพื่อเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ไม่อาจพันธนาการไปชั่วกาล ปรากฏตัวมาไม่อาจอ่อนแอตลอดไป ชายผมสีเงินที่มีดวงตาสีเขียว กำลังอ่านสูตรเคมี พลางหยิบผงถ่านคาร์บอนขึ้นมา ดวงตานั้นมันจ้องมองไปเหมือนกับว่าไร้วิญญา ปรากฏตัวมาจากความมืดที่เหมือนภาพมายาไม่เปลี่ยนแปลง ใครคนหนึ่งจะทำลายภาพมายา จะต่อสู้กัับเพลิงปีศาจอันร้อนแรง ปรากฏตัวมาจากเงามืดไม่เปลี่ยนแปลง เดินทางไปจากโชคชะตาที่ไม่เคลื่อบแคลงไปชั่วกาล คาร์บอนเมื่อรวมกับแคลเซียม จะกลายเป็นสารประกออบที่ประหลาด อย่างแคลเซียมคาร์บอนเนติ หรือหินปูนแคลเซียมที่มีความแข็งราวกับหินผา แววตานั้นมันเหมือนจะจ้องมองมาจากดินแดนอันมืดมิด ใครคนหนึ่งจะไปให้เหนือกว่าโชคชะตา คำทำนายไดไม่สามารถทำลายตัวตนของผู้ที่มา เจ้าของดวงตานั้นมันบอกมาว่าเขาจะไม่หวนคืนมาสู่ความอ่อนแอ เอนไซน์หลายอย่างมีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ เพียงแค่ดึงแคลเซียมออกมา ก่อนทำให้เซลล์ของเป้าหมายแตกสลาย ส่วนฟอสฟอรัสก็ใช้ประโยช์นได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจุดไฟสร้างระเบิดเมื่อสัมผัสกับอากาศ ควบคุมสีสันในธรรมชาติด้วยการ์ควบคุม สภาพของฟอสฟอสรัสในอัลโลโทรปที่ต่างออกไป รวมฟอสฟอรัสเข้ากับธาตุคลอรีนที่เตรียมใว้ จะสร้างสารฆ่าวัชพืช ฆ่าแมลง ปรับสภาพพลาสติก และจัดการกับน้ำมัน

เขายังต้องพัฒนาตัวเองอีกมาก เพราะถึงตอนนี้จะครอบครององค์ความรู้ที่มีคุณค่า แต่การจะไปให้ถึงจุดสูงสุดของโลกนั้นมันต้องใช้มากกว่านั้น สายตานั้นมันบอกมาว่าปรากฏตัวมาเป็นหนึ่งไม่มีสอง เดินทางมาจากดินแดนที่เหมือนกับว่าเลือดจะไม่ไหลนอง อวกาศยังคงร่ำร้องด้วยสำเนียงแปลกประหลาด เหมือนกับว่าใครคนหนึ่งไม่ใช่ทั้งเทพและปีศาจเดินทางมาจากความมืดบอกมาว่าผู้ที่ไม่อาฆาติจะหวนคืนมาปรากฏตัวมาจากดินแดนที่เขาคนนั้นจะท้าทายแม้โชคชะตา เดินทางมาจะอยู่เหนือกาลเวลาและโชคร้ายที่เหมือนภาพมายาที่กัดกินผู้คน ปรากฏตัวมาจากดินแดนที่สาปแช่ง เขาคนนั้นมันบอกมาว่าจะแช่งให้ความร้ายกาจกลืนกินผู้คน ปรากฏตัวมาเป็น

เหมือนกับวีรชน ที่โผล่มาตัวมานั้นมันเหมือนกับว่าคนเช่นนั้นจะไม่ถอยหลังกลับไป หมอนั่นมันเป็นผู้อยู่เหนือกลางเวลา เดินทางมาเหมือนกับว่าสิ่งมีชีวิตนั้นมันจะวิวัฒนานาการจากโลกมืด ปรากฏตัวมาสาบานว่าจะไม่ขมขืน ปรากฏตัวมาจากความมืดจะผ่านพ้นกาลเวลา ขอสาบานมาว่าจะไม่ถอยกลับไปสู่ความสิ้นหวัง จะไม่จางหายไปไม่ใช่ว่าจะหวนกลับ เอเลี่ยนจากอวกาศมืดไม่ลาลับไม่คืนมา สายตานั้นมันบอกมาว่าจะเดินทางผ่านพ้นความมืดมิด แววตานั้นมันบอกมาว่าใครคนหนึ่งไม่มีจิตและวิญญาน ปรากฏตัวมาจากเงาปีศาจ ความอาฆาตินั้นมันบอกมาว่าจะไม่หวนกลับคืน ใครคนหนึ่งสาบานว่าจะไม่ลุกกลับมาตื่น ทำลายความมืดเพื่อเดินทางไปข้างหน้า

พวกมันวิวัฒนาการไปข้างหน้าไม่หวนกลับ ปรับตัวด้วยความหิวโหยเพื่อจะกลืนกินทุกอย่าง ปรากฏตัวมาจากความมืดนั้นมันแท้จริงไร้วิญญาน ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ไม่อ่อนแอ ปรากฏตัวมาเป็นหนึ่งไม่มีสอง เดินทางผ่านพ้นหยดเลือดนองไม่คืนมา ขอสาบานว่าคนอย่างข้าจะไม่หลบต่อสายตา จะกลืนกินและตามล่าไปชั่วกาล ไม่ใช่ผู้เป็นศัตรูจะยืนหยั่ง สายตานั้นมันบอกมาว่าปรากฏตัวมาไม่กลัวตั้งแต่ครั้งงูยักษ์จอร์มุนแกนด์"ปล่อยตัวผมไปได้แล้วมั้ง ทอร์ คุณจะขังผมหรือไม่ขังมันก็ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ของดาวดวงนี้หรอกนะ" สายตาของชายร่างใหญ่จ้องมองมาอย่างรวดเร็ว ดวงตานั้นมันบอกมาว่าไม่ใช่ว่าจะถูกทำลายด้วยความมืด " ก็จริงที่ว่าในจักรวาลนี่มี

กองกำลังต่างดาวจำนวนมหาศาล แม้แต่นายหรือหรือชั้นเอง ในเวลานี้ก็ถูกพวกนั้นจับตามองอยู่" ทอร์พูด พลางใช้มือควงมโยเนียร์ ถ้าพวกนั้นทำสำเร็จ อนาคตของมนุษย์ชาติจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป สายตานั้นมันยังคงบอกมาว่าเขาคนนั้นจะไม่กลัวใคร วีรชนของแอสการ์ดคนนั้นมันไม่ใช่ว่าจะหวนคืนมา สายตานั้นมันบอกมาว่าผู้ปรากฏตัวมาจะไม่อ่อนแอ " พวกไวเวิร์นอวกาศให้พลังกับพวกเรา ให้องค์ความรู้ในการทำเรื่องต่างๆ มันก็จริงอยู่ แต่พวกนั้นคงไม่ได้ให้ของดีอย่างนั้นฟรีๆแน่" โจ็กเกอร์ทำลายพันธนาการได้ในที่สุด ด้วยการควบคุมเข็มสีเงินและสีทอง ให้ปลดตัวเองออกมา" เอาละ จะวัดกันอีกรอบมั้ย" ทอร์ส่ายหัว" ระดับพลังงานปลดปล่อยที่มีมันต่างกันนะ"

"ต่อให้มนุษย์ที่เป็นนักกีฬา ยังมีพละกำลังแค่ 1/5 ของผมแค่นั้นเอง แถมตัวผมยังครอบครองค้อนมโยเนียร์อีก" สายตานั้นมันบอกมาว่าเป็นหนึ่งไม่มีสอง เขาคนนั้นจะพ้นดินแดนของการเปลี่ยนแปลงที่ครอบครอแง ประกาศิตที่รำร้องหาอวกาศ ปรากฏตัวมาจากดินแดนที่ไม่สามารถถูกขยี้ให้แหลก ปรากฏตัวมาจากความมืดนั้นมันไม่อาจถูกทำลาย เขาคนนั้นมันปรากฏตัวมาเหมือนภูติพราย แววตาที่อันตรายไม่หวนคืน สายตานั้นมันบอกมาว่าพ้นไปจากแดนต้องสาป" อีกอย่างแร่เงินและทองคำนะนำไฟฟ้าได้ดี แค่ผมเรียกสายฟ้าสักที่ก็รู้เรื่องแล้ว" ชายผมแดงร่างสูงเอ่ยวาจา เขาคนนั้นมันเป็นหนึ่งไม่มีสอง ปรากฏตัวมาในเวลานี้ไม่อ่อนแอต่อภาพมายา เดินทางมาจากความ

มืดไม่คืนมา ปรากฏตัวมามันใช่ว่าจะซ่องพรางความอ่อนแอใว้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังคงเป็นชาวแอสการ์ด เผาพันธ์ที่เข้มแข็งและร้ายกาจเหมือนกับว่าเป็นเพลิงสวรรค์ ปรากฏตัวมาจากความมืดจะท้าทายแม้เงาของดวงจันทร์ กำเนิดใหม่มาโดยพลันจะเดินทางไปพ้นท้องฟ้า" ระบบสั่งให้มนุษย์ฆ่ากันเอง แต่นั่นมันแค่จุดเริ่มต้น" โจ็กเกอร์พูดออกมา หลังประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ ทอร์เพียงแค่พยักหน้าเบาๆ" พวกที่อยู่บนอวกาศคงไม่คิดจะออมมืออีกแล้ว พวกนั้นน่าจะทุ่มเทเต็มกำลังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป" จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสถานการณ์สุกงอม นักมายากลผู้ร้ายกาจครุ่นคิดในใจ พร้อมกับที่วีรชนชาวแอสการ์ดเพียงแค่หัวเราะ เขาหัวเราะออกมา อย่างไม่เครียดไม่ซีเรียสกับอะไรทั้งนั้น" ก็อย่างที่บอก มนุษย์จำนวนมหาศาลได้โดนพิพากษาแน่"

ไม่โดนพวกเห็ดอวกาศกลืนกิน ก็โดนพวกพืชโครงสร้างง่ายๆ ดีฟอร์มจนสลย ถ้าพืชโครงสร้างง่ายไม่ดีฟอร์ม ก็คงโดนพวกร็อคอวกาศจับกินหรือไม่ก็โดนพวกสเปซไวเวิร์นจับทดลองอยู่ดี เอเลี่ยนพวกนั้นมันไม่ได้มาจากเทพนิยายนะ แต่จะบอกว่าพวกนั้นเป็นตัวตนที่ใกล้เคียงเทพเจ้าในตำนานก็ไม่ผิดไปนัก" ใกล้เคียงเทพงั้นรึ" รู้ใช่มั้ยว่าชาวแอสการ์ดเราก็เคยถูกบูชาเป็นเทพ ชายร่างสูง แขนขายาว ผมสีแดงเพลิง และมีดวงตาเรืองแสงเอ่ยขึ้น" ทั้งที่มีส่วนสูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยของมนุษย์โลก ทั้งที่มีความยาวของแขนขาที่ออกแบบมาเพื่อเอึ้อมคว้าและจับวัตถุในระยะใกลได้ ทั้งดวงตาที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่มนุษย์ปกติควรจะมี ลักษนะทั้งหมดนี่มันบอกมาว่าชาวดาวเราเป็นอะไรที่พิเศษ ทอร์เอ่ยพลางใช้มือกระชับค้อนขนาดใหญ่ในมือ"พิเศษเป็นอย่างยิ่ง" โจ็กเกอร์ที่เงียบมานาน

เอ่ยคำพูดขึ้นมาในที่สุด ต้องการมาเพื่อกลืนกินมนุษย์ชาติทั้งหมดรึ" ทอร์ยิ้มๆ" ไม่ใช่การกลืนกิน แต่เป็นการยกระดับ ชาวแอสการ์ดเรามีองค์ความรู้หลายอย่าง ที่อยากจะถ่ายทอดให้กับมนุษย์ชาติ แต่ประชากรบนดาวดวงนี้มันมากไปหน่อย เราจะคัดเลือกประชากรส่วนเกินไปโยนทำพลังงานซะ" โจ็กเกอร์คิดในใจ เอาสิ่งมีชีวิตไปแปลงเป็นพลังงาน หรือว่าแกนของดาวแอสการ์ดคือปฏิสสาร" ร่างของเจ้าชายแห่งแอสการ์ดหัวเราะร่วน พลังที่เขามีความจริงก็นับว่ามหาศาล ใครคนหนึ่งจะผ่านพ้นดินแดนอันไร้วิญญาน ปรากฏตัวมาจากอวกาศจะเทพหรือมารก็ไม่อาจจะหยุดยั้ง" การมาถึงของพวกเรานั้นมันถือว่าเป็นความเมตตานะ ทรัพยากรบนดาวจะถูกทำให้เพียงพอกับทุกคนใช้ ปรากฏตัวมาจากดินแดนนั้นมันเกินกว่าว่าจะถูกย่อยสลาย ปรากฏตัวมาด้วยความร้ายกาจจากนอกดาว

เขาคนนั้นมันจะเปลี่ยนแปลวทุกสิ่งไป เดินทางมาจากดินแดนที่ไม่สามารถถูกทำลาย เขาคนนั้นมันบอกมาว่าเหมือนกับภูติพรายไร้วิญญาน ปรากฏตัวมาจากความมืดนั้นมันเกินกว่าว่าจะย่อยสลาย จะเปลี่ยนแปลงทำลายโชคชะตาให้จางหายไปวีรชนคนหนึ่งเขายังคงกล้าหาญ ปรากฏตัวมาจากเงาปีศาจนั้นมันเกินกว่าความฝัน " บางคนอาจบอกว่าชาวแอสการ์ดเราไม่มีสิทธิตัดสิน ว่าใครควรอยู่หรือใครควรตาย ความจริงพวกเรามีสิทธิตัดสินเสมอ จะไม่ยอมให้ใครที่โผล่มานั้นมันจะทำลายทุกอย่าง แววตานั้นมันบอกมาว่าไร้วิญญาน สายตานั้นมันบอกมาว่าจะทำลายความสิ้นหวังของปีศาจด้วยตัวเอง พวกเขาเคยโดนบูชาเป็นเทพ และพวกเขาจะทวงคืนมันมา...