ยามเทพแห่งความตายโอบกอดนาง หัวใจสิ้นสลายราวกับว่ามีชีวิตขึ้นมา
ไยนางเกิดหลงใหลในกลิ่นหอมอบอวลของดอกปี่อั้น นางอุปโลกน์ว่าอ้อมกอดของนีเทียนต้าเซินช่างอบอุ่นปลอดภัย ไม่มีใครทำอันตรายนางได้ นางดีใจที่เขาไม่ใจดำจนเกินไป อย่างน้อยเขาก็มารับดวงวิญญาณนาง
"ข้า... ตายแล้วหรือ?"
"ข้าไม่ให้เจ้าตาย เจ้าก็ตายไม่ได้ เจ้าจะตายได้ยังไง"
ถิงถิงระลึกขึ้นได้ แม้ดวงตาทั้งสองมองไม่ชัดเจน ดินแดนแห่งพรรณไม้งดงามไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต ท้องนภามืดสงบปรากฏจันทราโลหิตจาง ๆ
'ปีศาจน้อยคงไม่ได้บอกพวกเจ้า ข้าเป็นเทพมารผู้อยู่เหนือความตาย ดังนั้นก็อย่าเสียเวลาข้า ราตรีนี้ข้าจะสร้างขุมนรกแห่งใหม่ ใครจะอยู่เป็นผู้ทดลองเครื่องทรมาน ข้ายินดีส่งพวกเจ้าลงนรกลงทัณฑ์ด้วยมือข้าเอง...'
เทพปีศาจผู้เย็นชายังแก้ต่างให้นาง ไม่ใช่ความผิดนางแต่อย่างใด เป็นเพราะพวกเขาไม่ส่งนางให้จิ้งจอกเงิน มอบชีวิตที่เป็นสุขให้นาง กลับเลือกที่จะทรมานนาง เทพมรณาจึงมาเยี่ยมเยียนก่อนถึงเวลาอันควร
ปีศาจไม่คิดสู้ ใครเล่าจะต่อกรกับผู้ถือครองร่างอมตะ ท้ายที่สุดแล้วปีศาจดื้อรั้นเฝ้ามองเงื้อมมือมัจจุราชพลิกดินแดนอันสวยงามเป็นนรกภูมิ
นีเทียนต้าเซินเผาผลาญบ้านนางไม่เหลือแม้เศษหญ้า สาแก่ใจนางนัก!
ถิงถิงยิ้มร่าเริงด้วยใบหน้าซีดขาว พักพิงศีรษะบนอกกว้าง นางใช้อาภรณ์สีนิลบรรเทาความหนาวบนฟูกในเรือนไม้หลังเดิม ด้วยความรู้สึกเป็นสุขระคนทุกข์
"ข้าเหลือเวลาไม่มากแล้ว... ได้โปรด... ไว้ชีวิตทารกปีศาจ สวนพฤกษชาติหลังบ้านข้าสักเสี้ยวส่วนหนึ่ง ต้นไม้ใบหญ้าที่มีชีวิตเป็นผู้บริสุทธิ์ ท่านไม่ใช่เทพผู้เข่นฆ่า นีเทียนต้าเซิน ท่านเป็นเทพผู้เมตตาเสียสละ"
"ผิดแล้วถิงถิง... ข้าว่าจะเป็นจอมมารดูสักวัน ปีศาจเลวทรามต่ำช้า สมควรตกสู่ห้วงนรกลงทัณฑ์"
"แม้กระทั่งผู้ชั่วช้ายังหวงแหนบ้าน ท่านปู่ยอมตายเพื่อบุปผาพรรณไม้ ไม่รักษาชีวิต ข้าขอร้องท่าน... ข้าพาท่านลุงมาคืนท่าน... ตั้งสิบสอง"
"ใครใช้ให้เจ้าไป!"
นีเทียนต้าเซินตะคอกนางด้วยหน้าตาเกรี้ยวกราด นัยน์ตาสีชาดเอ่อคลอน้ำหยดใส นางรีบเทลูกแก้วในชายเสื้อขาวขาดวิ่นคืนให้เทพมรณา นางร้องขอให้เขาคืนป่าพรรณพฤกษาให้ปีศาจน้อยเช่นนางด้วย
บนฟูกขาวเต็มไปด้วยโลหิตจากริมฝีปากแห้งแตก นางกระอักโลหิตจนฟุบหน้าลงบนฟูกอีก นีเทียนต้าเซินดึงนางเข้าหาอ้อมแขน ทำลายตาข่ายประหลาดที่คลุมลูกแก้ว ปรากฏเป็นยมทูตหนุ่มสาวและหญิงสูงวัย
ท่านลุงจากอีกสองนครมรณาไม่รังเกียจโลหิตแปดเปื้อนจากปีศาจ พวกเขายกมือคำนับ ขอบคุณนางแล้วหายไป
"...เจ้าทำความดีความชอบไว้มาก แต่เรื่องเล็กน้อยพวกนั้น ไม่ใช่ธุระอะไรของข้า เจ้าลุกขึ้นมาจัดการด้วยของตัวของเจ้าเอง เมื่อเจ้าหายดีแล้วข้าจะพาเจ้าไป เจ้าอดทนถิงถิง"
ด้วยสายตาเคียดแค้นออกคำสั่ง ราวกับว่าเขาจะแช่แข็งนาง
ถิงถิงกัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บปวดจากเรือนกายบอบช้ำ เบ้าตาของนางแสบร้อน เมื่อเขากล่าวว่าใครกล้ามาทำร้ายนางได้ ปีศาจจิ้งจอกนั่นก็ไม่ได้เรื่อง ไม่มีปัญญาดูแลนาง เห็นอำนาจในตระกูลสำคัญกว่า เสียดายลูกแก้ววิญญาณที่เขามอบให้ ช่างไร้ประโยชน์
นีเทียนต้าเซินไม่ได้บอกนาง ตอนมุ่งตรงไปพบนาง ตราประทับจากตำราสีชาดปรากฏเหนือศีรษะครั้งหนึ่ง
ตำราบ้าคลั่งยัดเยียดความทรงจำระหว่างการเป็นผู้ต้องขังในคุกใต้ดินปีศาจ ทันทีที่สบนัยน์ตาสีอำพัน ภาพนางถูกทรมานสารพัดแล่นเข้ามาในหัว ไม่ต่างจากว่าเขากำลังยืนอยู่ในคุกใต้ดินกับนาง แต่ไม่สามารถช่วยนางได้
กระนั้นในอกซ้ายเกิดความรู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก เจ็บปวดเกินอธิบาย มือกระดูกยื่นผ่านบานหน้าต่างถัดจากหัวเตียงไป เหมันต์หล่นลงบนมือสั่นเทา
"ในตำรามีชื่อเจ้า เป็นเวลาที่... เหมันต์โปรยปรายในนครอันไร้ห้วงเวลา"
กระทั่งคำว่าตาย เขาไม่ได้เอ่ยมัน ขณะขมวดคิ้วครุ่นคิดหาทางแก้ไข เรียกท่านลุงอาวุโสมาเพื่อปรึกษา นำยาวิเศษในคลังสมบัติออกมาทั้งหมด
เงื้อมมือมัจจุราชวาดตำราสีทอง สีขาวและสีชาดออกมาโดยไม่นิ่งนอนใจ เขาทบทวนตำราทั้งสามเล่มเพื่อหาทางโกงความตาย หันไปมองสภาพนางนอนซมบนฟูก ดูอย่างไรก็ไม่น่าไหว น่าโมโหเสียจนเขาต้องเอาเรื่องนางอีก
"ลูกแก้วยมทูตอยู่ใต้อาภรณ์เทพมรณาเท่านั้น เจ้าปีศาจโอหังอวดดี เจ้าลักลอบฝึกวิชายมทูต เจ้า ๆ..." ปลายเสียงสั่นเทาเงียบไป พอได้ยินเสียงหัวเราะจากนาง
"ข้าคงติดนิสัยท่านมา... ก็น่าเสียดาย ข้ากำลังจะตาย"
"ข้าหาวิธีรักษาเจ้าได้แน่ เจ้าจะไม่ตาย"
"ท่านอย่าเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์... มิสู้ท่านนั่งเป็นเพื่อนข้า เตรียมการให้ท่านลุงไปส่งดวงวิญญาณข้า นำทางข้าไปปรภูมิ นับเป็นเกียรติของข้าแล้ว"
"ไม่... ข้าจะรักษาเจ้า หยุดพูดมาก เจ้าอยู่เฉย ๆ รอข้า"
นีเทียนต้าเซินผยองตน จับนางนั่งพิงแผ่นหลัง วางหมอนรองให้นาง เอนไปทางซ้ายทีขวาที นางเลยล้มตัวลงนอนลงบนฟูก เขาก็ว่านางอ่อนแออีก
'เทพผู้กุมชะตาชีวิต ไยจะช่วยปีศาจน้อย... อายุขัยเพียงห้าพันปีสักตนไม่ได้'
ด้วยความคิดแน่วแน่กลับแอบแฝงความหวาดกลัว นีเทียนต้าเซินอ่านตำราครบทั้งสามเล่มในชั่วพริบตา มันเปิดและปิดลง กลุ่มควันหยินหยางลอยไปมา ยมทูตในร่างเทพสตรีเข้ามาวางยาและอาหารบนโต๊ะ
ท่านลุงผู้เป็นแพทย์ปีศาจเข้ามาดูนางเป็นคนแรก อีกท่านเคยแพทย์หลวงบนเมืองมนุษย์ แม้กระทั่งท่านลุงผู้มีความรู้ในเรื่องการแพทย์ในเมืองเทพ ล้วนให้ความช่วยเหลือเทพมรณาอย่างเต็มกำลัง แต่แล้วก็สั่นศีรษะ
ปีศาจน้อยลอบยิ้ม มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยแววตาเลื่อนลอย ชื่อของนางบนท้องนภาปรากฏขึ้น ยมทูตผู้รับดวงวิญญาณนางเป็นลุงสาม ร่างชายชราหัวเราะดีใจ ลูบหนวดเครา สักพักหนึ่งก็ร้องไห้
"เจ้าปีศาจน้อยที่น่าสงสาร ไม่น่ารีบตาย... ไม่เป็นไร... ท่านลุงจะไปส่งเจ้า ฮือ..."
"ท่านจะร้องไห้ทำไมเล่าลุงสาม!" เทพมรณาหันไปเอ็ด ท่านลุงเลยหัวเราะ ปีศาจน้อยส่งเสียงหัวเราะตามลุงสาม ยมทูตหัวเราะทั้งน้ำตา