webnovel

แม่สื่อกำมะลอ

ในฐานะที่ได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่ตัวเองชื่นชอบ เฉินเจียหลิงคิดว่าเธอคงนับได้ว่าเป็นนางเอกคนหนึ่งเหมือนกัน นางเอกทะลุมิติหลายคนไม่มีพลังวิเศษก็เกิดมาในตระกูลสูงส่ง ไม่เป็นหมอหญิงที่เก่งกาจเกิดปลูกผักค้าขายจนร่ำรวย แต่เฉินเจียหลิงเป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ มีความสามารถธรรมดา ๆ เธอจึงต้องลงเอยด้วยอาชีพที่อาศัยฝีปากและคารมคมคายที่พอจะมีอยู่บ้าง...แม่สื่อ! เฉินเจียหลิงไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอจะมีพรสวรรค์ด้านนี้อยู่เหมือนกัน ว่าแต่ว่า...จับคู่ให้คนอื่นไปก็มาก แล้วเธอจะมีโอกาสเจอพระเอกของตัวเองกับเขาบ้างไหมนะ? โอวหยางฮ่าวหรานเคยคิดว่าชีวิตของตนปราศจากสิ้นแล้วซึ่งความสดใสและสีสันอันงดงาม เสมือนละครฉากหนึ่งที่เริ่มต้นด้วยความเจ็บปวด ดำเนินเรื่องด้วยความรวดร้าว และจบลงด้วยความชืดชา เขาตั้งใจจะใช้ชีวิตเช่นนี้ไปจวบจนวันสุดท้าย เพียงเฝ้ามองโลกอันสวยงามของผู้อื่นจากที่ห่างไกล ดุจเมฆาที่เคลื่อนคล้อยผ่านไปตามกาลเวลา วันที่โอวหยางฮ่านหรานได้พบเฉินเจียหลิงเป็นวันท้องฟ้าสดใส ปราศจากหมู่เมฆ และเป็นวันที่เปลี่ยนแปลงตอนจบของละครฉากนี้ไปตลอดกาล

ChenNa · Sejarah
Peringkat tidak cukup
4 Chs

3 แม่สื่อทะลุมิติ (3)

ดวงอาทิตย์ลอยเด่นอยู่กลางฟ้าทอแสงสว่างเจิดจ้าจนเหงื่อของเฉินเจียหลิงหยดติ๋ง ๆ

ในมือของเฉินเจียหลิงมีกะละมังที่ทำจากไม้ดูเก่าคร่ำคร่าหนึ่งใบ ภายในมีผ้าเนื้อหยาบสีตุ่นกองพะเนินสุมเอาไว้ เธอก้มมองกะละมังหน้าโง่หนึ่งที พลางหันไปมองแท่นไม้หน้าโง่ที่อยู่ด้านข้างอีกหนึ่งที อยากจะกรีดร้องออกมาดัง ๆ

เฉินเจียหลิงสรุปได้แล้วว่าเธอน่าจะทะลุมิติข้ามมาอยู่ในยุคโบราณ

หลังจากนอนสลบเหมือดไปตื่นหนึ่ง เฉินเจียหลิงก็ตื่นขึ้นมายามที่พระอาทิตย์ขึ้นตรงอยู่เหนือศีรษะ เพราะไม่มีนาฬิกาเธอจึงไม่อาจรู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาอะไรแต่ก็พอจะเดาได้ว่าสายมากแล้ว

เฉินเจียหลิงใช้เวลาครู่หนึ่งสำรวจบ้านแปลกหน้าที่ดูทั้งโบราณและเก่าคร่ำคร่าราวผ่านการใช้งานอย่างสมบุกสมบันมากว่าสามสิบปี ที่ใช้เวลาไม่นานเพราะบ้านหลังนี้มีขนาดเล็กมาก นอกจากพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้เป็นทั้งห้องครัวและห้องกินข้าวก็มีห้องอีกเพียงสองห้องเท่านั้น ดูเหมือนจะเป็นห้องนอนทั้งคู่ ห้องหนึ่งคงเป็นของสามีภรรยาป้านรกนั่น ส่วนอีกห้องหนึ่งก็คงเป็นของคู่เด็กชายหญิงที่ไม่น่ารักเอาเสียเลย

ส่วนห้องที่เธอตื่นขึ้นมาไม่ได้อยู่ในตัวบ้านด้วยซ้ำ

มันคือห้องเก็บฟืนขนาดเล็กเท่าแมวหายใจตาย

ทุกตารางเซนติเมตรในบ้านหลังนี้ไม่มีสิ่งของที่ดูเหมือนจะมาจากโลกยุคปัจจุบันได้เลย ดังนั้นนี่ไม่ใช่รายการเกมโชว์หรือแกล้งแอบถ่ายใด ๆ แน่นอน จะบอกว่าจับมาเรียกค่าไถ่ก็ไม่น่าใช่ เฉินเจียหลิงไม่มีญาติ เพื่อนที่มหาวิทยาลัยหรือคนรู้จักที่ทำงานก็ไม่มีใครมีฐานะพอเหมาะสมจะให้เรียกค่าไถ่ได้

อีกอย่าง ถ้าเป็นรายการแกล้งกันเล่น ๆ คงไม่มีการทำร้ายร่างกายดุเดือดอย่างยายป้ามหาภัยคนนั้นแน่นอน

เมื่อชะโงกหน้าออกไป เฉินเจียหลิงก็พบบ้านอีกหลายหลังที่ถูกก่อสร้างในลักษณะเดียวกัน ผู้คนที่เดินขวักไขว่อยู่ประปรายล้วนแต่สวมชุดโบราณ มีวัวเทียมเกวียนประมาณสองสามคนวิ่งผ่านไป

ถ้าไม่ใช่ทะลุมิติมายุคโบราณ เฉินเจียหลิงก็คงฝันอยู่

ตัดตัวเลือกข้อสองออกไปได้เลย โดนไม้กวาดตีในความฝันไม่มีทางเจ็บขนาดนี้ ตอนนี้เธอยังปวดตัวไม่หาย

เท่าที่เฉินเจียหลิงได้ทำการวิจัยนิยายหลาย ๆ เรื่อง เมื่อนางเอกทะลุมิติเข้ามาก็มักจะเข้ามาอยู่ในนิยาย ละคร หรือประวัติศาสตร์ยุคสำคัญ โดยมาพร้อมความทรงจำของร่างในยุคโบราณรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสังคมในยุคนั้นเสร็จสรรพ

ทว่าเฉินเจียหลิงคงไม่ใช่นางเอก เธอไม่มีความทรงจำหรือความรู้อะไรอย่างที่ว่ามาเลย

ยังดีที่ร่างนี้น่าจะชื่อเฉินเจียหลิงเหมือนเธอ และหลังจากที่ได้ส่องหน้าตัวเองที่บ่อน้ำด้านหลัง เงาที่เห็นอยู่ราง ๆ ก็มีเค้าคล้ายเธอ พอถูไถไปได้ว่ายังหน้าตาเหมือนเดิม ถึงจะอดได้ใบหน้าสวยงามวิจิตรอลังการแต่ก็รู้สึกเป็นตัวเองดี

ชายแก่คนเมื่อเช้าเป็นพ่อ ส่วนป้ามหาภัยเป็นแม่เลี้ยง เด็กสองคนนั้นน่าจะเป็นน้อง ไม่รู้คนไหนโถวเอ๋อร์คนไหนจวงเอ๋อร์แต่เธอก็ไม่ชอบทั้งสองคนนั่นแหละ

ไม่นานครอบครัวทั้งสี่ก็กลับมา ทันทีที่เห็นเฉินเจียหลิงยืนอยู่ที่ห้องกลาง เนี่ยนซื่อก็ตะโกนด่าเธอเสียงดังยิ่งกว่ามีโทรโข่งพลางคว้าเก้าอี้ไม้ขึ้นมาเหมือนจะทุ่มลงมาอีกรอบ แผลเมื่อเช้ายังเจ็บไม่หายเธอจึงได้แต่วิ่งปรู๊ดออกมาด้านหลัง

"อยู่บ้านผู้เดียวตั้งนานกระทั่งยามอู่ งานบ้านไม่เสร็จสักอย่าง คิดจะหยิบจับทำอะไรบ้างหรือไม่ หรือคิดแต่จะเป็นตัวล้างผลาญไม่ทำงานการใด ๆ เสื้อผ้าของโถวเอ๋อร์จวงเอ๋อร์ซักให้สะอาดภายในยามเว่ยเล่า หากมีคราบเหงื่อแม้แต่น้อยเราได้เห็นดีกันแน่"

เสียงตะคอกของเนี่ยนซื่อดังไล่หลัง ตามด้วยกะละมังกองผ้าและแท่นไม้ที่ถูกเขวี้ยงออกมาอย่างไม่ไยดี ทำให้เฉินเจียหลิงหน้ามุ่ยอยากกรีดร้องจนถึงตอนนี้

เธอถอนหายใจพรืดใหญ่ ปกติเธอจะอารมณ์ดีในวันที่ท้องฟ้าสดใสและแดดจ้า แต่วันนี้มันทำให้เธอร้อนตับแตกจนรู้สึกเวียนหัว เฉินเจียหลิงลากสังขารของตัวเองพร้อมกะละมังหน้าโง่ไปที่ริมบ่อน้ำ

จะให้เธอซักผ้ายังไงก็ไม่รู้ สบู่ผงซักฟอกก็ไม่มี เจ้าไม้มีตะไคร่เคลือบนี่ตีอีกกี่ล้านรอบก็ไม่สะอาดหรอก การต้องซักผ้าเนื้อหนาหกเจ็ดชิ้นในยุคที่ไม่มีเทคโนโลยีแบบนี้ทำให้เธออยากร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา

เฉินเจียหลิงถอนหายใจอีกเฮือก โยนท่อนไม้แปลกหน้าไปไว้ด้านข้างก่อนจะไล่ขยำไปตามผ้าแต่ละชิ้น เริ่มจากชุดที่ดูใหญ่ที่สุดและน่าจะเป็นของเธอก่อน

ขยำผ้าชิ้นละสองทีก็น่าจะใช้ได้ ผ้าสีตุ่นขนาดนี้ถ้าซักให้ออกมาขาวได้ก็แปลกแล้ว

แล้วผ้านี่ก็ผืนใหญ่เหลือเกิน ใส่เสื้อหนาไปทำไมกันอากาศร้อนขนาดนี้

การนั่งยอง ๆ เป็นเวลานานกลางแดดจัดทำให้เธอหัวใจเต้นแรงใบหน้าร้อนผ่าว รู้สึกคล้ายความดันขึ้น แม้ว่าเธอจะไม่เคยตรวจพบว่าเป็นโรคความดันสูงก็ตาม เฉินเจียหลิงเงยหน้ามองท้องฟ้ายุคโบราณ หน้าตาเหมือนท้องฟ้าแปลกหน้าเพราะมีจุดสีดำลอยไปมาอยู่ด้วย

เธอกะพริบตาถี่รัว ขณะที่ร่างเล็กโงนเงนไปมาเกือบหัวคะมำหน้าคว่ำลงไปในกะละมังก็มีมือข้างยึดแขนของเธอไว้อย่างมั่นคง เฉินเจียหลิงหลับตาปี๋ เรียกสติที่กำลังบินว่อนให้ลอยกลับมา

นี่สินะ ช่วงเวลานางเอก โมเม้นต์รักแรกพบในตำนาน

ทุกคนคิดว่าได้เวลาที่เฉินเจียหลิงจะเจอกับโอวหยางฮ่าวหรานรึยังคะ? คอมเมนต์มาได้เลยน้าา รออ่านคอมเมนต์ของทุกคนเลย

ChenNacreators' thoughts