"อร่อยขนาดนี้ไม่เปิดร้านขายไปเลยล่ะ ต้องรวยแน่ ๆ "
จินหมิงหัวเราะอีกครา "แขกที่มาเยี่ยมเยียนจวนท่านมหาเสนาบดีต่างติดใจในรสชาติของขนมนี้ จนต้องส่งเครื่องบรรณาการของมีค่าเพื่อมาแลกกับขนมฉีฟางเจียวฮวา เพียงเท่านี้ก็ยิ่งกว่าเปิดร้านขายเสียอีกเจ้าค่ะ"
"ขนาดนั้นเชียว…แหม ถ้างั้นต่อไปเธอก็เอามาให้ฉันกินบ่อย ๆ ด้วยสิ มันอร่อยมากเลย" จินหมิงใจกระตุกวาบใบหน้าซีดเผือด เอ่ยด้วยเสียงหวาดหวั่นเพราะกลัวจะทำให้คุณหนูของตนต้องเสียใจ
"ขออภัยเจ้าค่ะคุณหนู อันที่จริงข้าไม่รู้ว่าของข้างในตะกร้าจะเป็นฉีฟางเจียวฮวา ขนมนี่น่าจะเป็นของที่จะนำไปให้แขกวันนี้เจ้าค่ะ"
ขนมฉีฟางเจียวฮวาสีชมพูที่เหลือเพียงชิ้นสุดท้ายกำลังจะถูกส่งเข้าปากหยุดชะงัก
เฮ่อซินหมิงที่กำลังอ้าปากค้างสะดุดกึกค่อย ๆ วางขนมนั้นกลับลงในตะกร้าแล้วเอ่ยถามจินหมิงอย่างมีความหวัง "ขนมนี่เขาทำได้ตลอดเวลาใช่ไหม?"
"ถูกจัดใส่ตะกร้าเช่นนี้ เขาคงจะนำไปให้แขกเร็ว ๆ นี้แล้วเจ้าค่ะ" ไม่รู้ว่าหากฮูหยินทราบเข้าจะเกิดเรื่องอะไรหรือไม่ เพราะแขกที่จะนำขนมฉีฟางเจียวฮวาไปมอบให้คงเป็นคุณชายไป๋เฟิงเป็นแน่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูจากด้านนอกทำเอาใจของทั้งนายบ่าวโลดขึ้นสูง
.........…
"เมื่อไหร่ฉีฟางเจียวฮวาจะมาเสียที!" พ่อบ้านของจวนมหาเสนาบดีที่กำลังรับรองแขกอยู่หันไปเอ่ยถามเสียงเข้มกับบ่าวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
"อันที่จริงก็น่าจะส่งมาตั้งนานแล้วนะขอรับ แต่ไม่ทราบว่า…"
"เจ้าก็รีบไปตามสิ มัวยืนบื้อทำอันใด!" ชายวัยกลางคนเอ็ดใส่ชายหนุ่มหน้าตาธรรมดา เขาตกใจรีบวิ่งข้ามสะพานไปอีกฝั่งทันที
พ่อบ้านเหวินจางหันมาส่งยิ้มนอบน้อมให้กับคุณชายที่มองมาด้วยท่าทางนอบน้อม หากคุณชายไม่เอ่ยถามถึงขนมฉีฟางเจียวฮวาก็รอดไป...
"มีหลายครั้งที่ท่านพ่อของข้านำเครื่องเคลือบล้ำค่ามากมายมาแลกกับขนมของที่นี่ โชคดีที่วันหนึ่งข้ากลับบ้านพอดีกับที่ทางจวนมหาเสนาบดีส่งขนมนั่นไปพอดีทำให้ข้ามีโอกาสได้ชิมอยู่คราหนึ่ง รสชาติมันช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก แต่ข้าจำชื่อของขนมนั้นไม่ได้เสียแล้ว พ่อบ้านเหวินรู้หรือไม่ว่าขนมนั้นมีชื่อว่าอะไร?"
คุณชายไป๋เฟิงเอ่ยถามอย่างครุ่นคิดทว่าเหวินจางกลับรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมากะทันหัน "อันที่จริงในวันนี้..."
"พ่อบ้านเหวิน! พ่อบ้านเหวินแย่แล้ว! ฉีฟางเจียวฮวาหายไปขอรับ!" บ่าวคนเมื่อครู่วิ่งกลับมาตะโกนเสียงดังด้วยความตื่นตระหนก พ่อบ้านเหวินสีหน้ามืดครึ้มลง
"ฉีฟางเจียวฮวา? ใครรึ?" คุณชายไป๋เฟิงถามอย่างใคร่รู้ พ่อบ้านจวนมหาเสนาบดีถึงกับเข่าแทบทรุด
"ขออภัยคุณชายรองไป๋ ฉีฟางเจียวฮวาคือชื่อของขนมที่ท่านถามข้าน้อยเมื่อครู่ขอรับ"
ฉีฟางเจียวฮวาขึ้นชื่อว่าเป็นขนมล้ำค่า แต่ละขั้นตอนต้องทำอย่างประณีตพิถีพิถันไม่ต่างจากการดูแลดอกไม้ที่บอบบาง ใช้เวลาในการทำไม่ต่ำกว่าชั่วยามกว่า หากทำตอนนี้คาดว่าคุณชายคงได้ทานพร้อมอาหารเย็นเป็นแน่ ตอนนี้เขารู้สึกเดือดดาลยิ่งนัก หากเป็นเยี่ยงนี้แล้วคุณชายไป๋เฟิงเกิดมีโทสะขึ้นมาเขาจักทำเยี่ยงไร
"บังอาจนัก! กล้ามาขโมยขนมฉีฟางเจียวฮวา ต้องเป็นคนในจวนแน่ เจ้าจงไปตามจับมาว่าใครมันช่างกล้านัก!"
บ่าวโค้งตัวให้ก่อนจะวิ่งกลับไปในทางเดิมเพื่อไปเรียกทหารช่วยกันตามจับเจ้าหัวขโมย พ่อบ้านเหวินหันกลับมาโค้งตัวลงต่ำเพื่อจะเอ่ยขอโทษคุณชาย
"คุณชายรองไป๋ ข้าน้อยต้องขอ...อ้าว! คุณชายขอรับ!!" คุณชายหายตัวไปไหนเสียแล้ว เขาเพียงหันไปพูดกับเจ้าจิวจื่อเพียงครู่เดียวหันกลับมาก็ไร้ร่องรอยของคุณชายไป๋เฟิงเสียแล้ว นี่สินะวิชาตัวเบาแสนร้ายกาจของคุณชายรองไป๋เฟิงแห่งตระกูลไป๋
แต่ตอนนี้เขาคงต้องไปตามหาคุณชายไป๋เฟิงเสียก่อน...
เพียงไม่ถึงหนึ่งถ้วยชาศาลากลางน้ำก็ไร้ร่องรอยของผู้คน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นอีกครั้งทำให้จินหมิงสะดุ้งรีบพุ่งตรงไปยังประตูหน้าเรือนทันที ยามนี้ใจนางเต้นตูมตามด้วยความตื่นตระหนก
หากใครคิดจะทำอันใดคุณหนูละก็...ข้ามศพนางไปก่อนเถิด!
จินหมิงเปิดประตูด้วยท่าทางราวกับเตรียมพร้อมจะสู้ ทว่าเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าห้องก็ถึงกับหน้าเหวอเกือบจะงับประตูเข้าหากัน ทว่ากลับมีพัดยาวสีขาวเงินมากั้นไว้อย่างรวดเร็ว
"อะไรกัน…ปิดประตูใส่หน้าแขกเช่นข้า เจ้าทำเช่นนี้ไม่กลัวจะโดนโบยหรือ?" เสียงทุ้มรื่นหูนั้นทำให้จินหมิงยิ่งตกใจหน้าซีดยิ่งกว่าเก่า รีบก้มหมอบลงกับพื้นทันที
"ขออภัยคุณชายรองไป๋เฟิงที่ข้าน้อยเสียมารยาท ขอท่านโปรดอภัยให้แก่ข้าน้อยด้วยเถิด" ท่านผู้นี้คงเป็นคุณชายไป๋เฟิงเป็นแน่ แล้วเหตุใดถึงมาที่เรือนแห่งนี้ได้? แล้วมาที่นี่ด้วยเหตุผลใดอีกต่างหาก?
หรือเป็นเพราะฉีฟางเจียวฮวา?!?...คงจะไม่ใช่อย่างแน่นอน!?!
"เอาเถอะ ๆ ข้าไม่ถือโทษบ่าวตัวน้อยเช่นเจ้าหรอก ว่าแต่เจ้าอยู่กับใครที่นี่รึ?" จินหมิงสะดุ้งเงยหน้าขึ้นเห็นคุณชายกำลังจ้องมองเข้าไปด้านในห้องราวกับสามารถมองผ่านทะลุกำแพงและฉากกั้นเข้าไปได้
"อะ…เปล่านะเจ้าคะ! เอ่อ…ไม่สิ! ที่นี่เป็นเรือนของคนสติฟั่นเฟือนที่ข้าต้องมารับหน้าที่คอยดูแลไม่ให้ออกไปก่อเรื่องน่ะเจ้าค่ะ คุณชาย…ข้าว่าท่านรีบออกไปก่อนเถิดเจ้าค่ะ หากเกิดอันตรายขึ้นมาข้า…"
"ที่จวนมหาเสนาบดีมีคนสติฟั่นเฟือนซ่อนไว้ด้วยรึ? น่าสนใจดีนี่ ข้าต้องไปดูให้เห็นกับตาเสียหน่อย" ชายหนุ่มเอ่ยจบก็ยิ้มแล้วสาวเท้าเข้าไปด้านในทันที
จินหมิงผวารีบลุกพรวดไปกางแขนขวางกั้นคุณชายรองแห่งตระกูลไป๋ทันที "ไม่ได้นะเจ้าคะ! ท่านเป็นถึงแขกคนสำคัญของจวนมหาเสนาบดี หากท่านเป็นอันตรายขึ้นมาข้าจะทำอย่างไร อีกอย่าง…"
"ข้าจะรับผิดชอบชีวิตของข้าเอง เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง อีกอย่าง…แค่คนสติไม่ดีคนเดียวจะทำอันใดข้าได้เชียวหรือ?"