webnovel

ตอนที่ 1 คลื่นสู่สาธารณะ

"วันนี้มีการแจ้งรายงานเฮลิคอปเตอร์ตกเหนือคาบมหาสมุทรแปซิฟิกและมีการรายงานว่าเป็นการโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย ASO ได้เข้าโจมตีเฮลิคอปเตอร์สำรวจในขณะปฏิบัติภารกิจ เบื้องต้นยังไม่พบผู้รอดชีวิตค่ะ ส่วนข่าวต่อไปเป็นข่าวรายงานสภาพอากาศค่ะ ... "

โทรทัศน์ที่กำลังรายงานข่าว ในห้องสี่เหลี่ยมหน้าต่างที่มีผ้าม่านสีน้ำตาลบดบังแสงแดดยามเช้าที่ส่องมายังในห้องได้แค่เศษหนึ่งส่วนสี่ และภายในห้องเต็มไปด้วยถ้วยชามที่ใช้แล้ว มีชายหนุ่มร่างบางใส่เสื้อกล้ามสีขาวกำลังนอนและมือซ้ายที่ยื้นออกมาสวมแหวนเงินที่มีตัวหนังสือแปลกๆ

กริ๊งๆ !! ชายหนุ่มสดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น เขารับสายโทรศัพท์ด้วยสภาพสะลึมสะลือ

"ฮัลโหล 'นิค' พูดสาย"

"เฮ้! นิคนายเห็นคลิปที่ฉันส่งไปให้หรือยังฉันรู้ว่านายต้องชอบแน่ๆ" เสียงจากปลายสาย

"ยังอ่ะ!! ฉันเพิ่งตื่น"

นิคค่อยๆลุกเดินไปที่โซฟาเก่าๆของเขาอย่างช้าๆ แล้วนั่งลงพร้อมกับเปิดแล็ปท็อปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ เขาหยิบรีโมทโทรทัศน์ที่อยู่ตรงซอกโซฟาข้างๆเขาเพื่อปิด รายการข่าวที่รายงานข่าวบันเทิงที่แสนจะน่าเบื่อแล้วเช็คอีเมลส่งมาจาก จอน เพื่อนของเขาเป็นอีเมลที่ถูกแนบมาพร้อมคลิปเสียงความยาวหนึ่งนาทีที่มีแต่เสียงซ่าๆขาดๆหายๆเท่านั้น

« พว_เราค้นพบแล้_การมีอยู่ของเ_กภพที่เรียกว่าพาราเรลเวิลด์ !! โ__ก_รทำ__ไ__โ________ที่ส_______ ?? »

นิคนิ่งไปสักพักก่อนที่จะก้มหน้ายักไหล่เบาๆแล้วหัวเราะออกมา

"ของพวกนี้มันเชื่อกันได้ซะที่ไหนเล่า" นิคพูดด้วยอารมณ์ขัน "คงเป็นคลิปที่ไอบ้าที่ไหนก็ทำได้"

จอนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น "แต่เฮ้ !! มันอาจจะมีจริงๆก็ได้นะเพราะเจ้าของลงคลิปที่สองด้วยเป็นคลิปคลื่นความถี่เพียวๆเลยแหละฉันลองถอดรหัสดูแล้วมันเป็นเหมือนในคลิปแรกเลยเดี๋ยวฉันจะส่งให้แกลองไปถอดรหัสเอาเองนะ"

จอนส่งอีเมลมาอีกหนึ่งฉบับทันทีหลังวางสายจากนิคและเขียนกำกับไว้ (ไม่ต้องกลัวหูแตกหรอกนะเพราะไม่ได้ยินด้วยหู)พร้อมกับแนบคลิปความยาวหนึ่งนาทีมาด้วย ทันทีที่เปิดคลิปนิคปวดหัวฉับพลันด้วยความเจ็บปวดเขาดิ้นและคว้าทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขาจนมือของเขาปัดไปโดนโมลเดลจรวดที่แม่ของเขาซื้อให้เขาเมื่อเขายังเป็นเด็ก เมื่อนิคสามารถตั้งสติได้จึงโน้มตัวมาปิดคลิปพร้อมกับหายใจเข้าถี่ๆราวกับเขาวิ่งขึ้นลงบันไดยี่สิบชั้น 'ไอบ้าจอนส่งอะไรมาฉันเนี้ย' นิคงึมงำอยู่คนเดียวชั่วครู่หนึ่ง เมื่อนิคหายเหนื่อยจากการวิ่งขึ้นบันไดแล้วเขาลุกเดินไปเปิดผ้าม่านเพื่อรับแสงอาทิตย์ยามเช้า ชำเลืองมองหญิงแก่ที่กำลังรดน้ำดอกไม้ที่เธอเลี้ยงอยู่ตรงระเบียงจากตึกตรงข้ามเธอชะงักและมองกลับมา นิคยิ้มอ่อนๆโบกมือให้ 'คุณยายคนนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย สงสัยเพิ่งจะย้ายมาอยู่ใหม่กระมัง' เขาจิบกาแฟและมองไปรอบห้องสายตาของเขาเหลือบไปเห็นนาฬิกาตั้งโต๊ะที่วางอยู่ตรงข้างที่นอนของเขาทำให้เขาสะดุ้งจนจิบถ้วยกาแฟที่ร้อนและพร้อมจะลวกปากเขาได้ตลอดเวลาไปคำใหญ่ๆ 'ตายแล้วฉันมีสัมภาษณ์งานแปดโมง' เขาเร่งรีบแต่งตัวผูกเนคไทอย่างกระฉับกระเฉงลุกลี้ลุกลนจนเขาเกือบลืมใบสัมภาษณ์งาน

นิคเดินอย่างเร่งรีบอยู่บนฟุตบาทพร้อมกับดูเวลาที่นาฬิกาที่ข้อมือ เป็นช่วงเวลาเร่งรีบของใครหลายๆคนเสียงแตรรถจากบนท้องถนนทำให้วอกแวก เขาเดินชนกับผู้ชายกลางคนคนหนึ่งท่าทางจะเร่งรีบเช่นกัน

"โอ้ !! ขอโทษครับ" นิคเอ่ยคำขอโทษอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ชายกลางคนตอบกลับทันที "ไม่เป็นไรๆ"

นิคยังคงเดินอย่างเร่งรีบต่อไป เมื่อเขาไปถึงป้ายรถเมล์เขาได้วิ่งตามอย่างกระชั้นชิด

"รอฉันด้วยสิ๊" นิคตะโกนสุดเสียงแต่โชคยังดีที่รถเมล์จอดรับผู้โดยสารป้ายถัดไป นิคยืนพักเหนือยหืดขึ้นคออยู่ตรงทางขึ้นประตูรถเมล์

ตุบ ตุบ !!

นิคล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อจ่ายค่าโดยสารเขาตบกระเป๋ากางเกงไปมาหลายทีอย่างร้อนรนและล้วงดูที่กระเป๋าเสื้อทันใดนั้นเขาก็รู้ทันที 'กระเป๋าตังหาย!!' เขาทำสีหน้าตกใจและดูประหม่า แต่แล้วก็มีหญิงสาวสวยร่างบางผิวขาวผมลอนตาสีดำผิวเปล่งประกายเดินขึ้นมารั้งท้าย เธอสังเกตพฤติกรรมของนิคทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่านิคกำลังมีปัญหา

"คุณคะ ใช้บัตรจ่ายโดยสารของฉันจ่ายก่อนก็ได้ค่ะ"

"ขะ..ขอบคุณครับ!!"

นิคพูดตะกุกตะกักแล้วถอดหายใจ กล่าวคำขอบคุณด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ แต่อย่างน้อยเขาก็ไปทันสัมภาษณ์งาน นิคแอบชำเลืองมองไปที่ผู้หญิงร่างบาง 'ผมเธอสวยจังเลย' นิคแอบชมเธอในใจทั้งๆอารมณ์กรุ่นๆจากกระเป๋าตังหาย

"ผมต้องลงแล้ว ขอบคุณมากนะครับ ถ้าไม่มีคุณช่วยไว้ผมคงไปสัมภาษณ์งานไม่ทัน"

เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนพร้อมกับอมยิ้มอ่อนๆ "ด้วยความยินค่ะ"

เมื่อนิคลงจากรถเมล์พวกเขาทั้งสองได้สบตากันผ่านกระจกริมหน้าต่างจากบนรถเมล์ก่อนที่รถเมล์จะแล่นออกไปนิคยืนมองท้ายรถเมล์ครู่หนึ่งก่อนที่จะหลุดจากภวังค์ราวกับกระโดดมาอีกมิติ เขาสะดุ้งอีกทีเมื่อมองไปที่นาฬิกาข้อมือ 'นี่ฉันกำลังจะไปสัมภาษณ์งานสายเหรอเนี้ย'

นิครีบวิ่งราวกับไปวิ่งราวทรัพย์ใครมา เมื่อถึงหน้าบริษัทเขาหอบพักเหนื่อย.. ก่อนที่เขาจะถอนให้ใจแรงๆพร้อมกับยืนตัวตรงยึดอกดูสง่าและดูเป็นคนที่มีความมั่นใจ มือทั้งสองข้างขยับเนคไทให้ดูตรงและค่อยๆเดินอย่างองอาจ

ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ !!

เสียงเครื่องตรวจจับโลหะชนิดพิเศษเขาดังขึ้น ทันทีหลังจากเขาเดินเข้ามาทางประตู

"หยุดก่อนครับ" ชายท้วมผิวดำใส่ชุดรักษาความปลอดภัยพูดขึ้นด้วยเสียงที่น่าเกรงขาม "ขออนุญาตตรวจสิ่งแปลกปลอมนะครับ"

ว่าแล้วชายท้วมหยิบเครื่องตรวจโลหะเขาตวัดขึ้นลงไปทั่วร่างกายของนิคก่อนจะไม่พบอะไรเป็นสิ่งผิดปกติ 'วันนี้มันวันอะไรของฉันวะเนี้ยย!! ดวงซวยตั้งแต่เช้า' นิคนึกในใจด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวแต่เขาก็เก็บอาการอยู่เบื้องหลังใบหน้าที่เคร่งขึมและแววตาดูมีความมั่นใจและไม่นานเขาก็ได้รับเข้าไปสัมภาษณ์

"นิค โคลอส อายุ 25 ปีกับอีก 4 เดือน เกิดวันที่ 20 กรกฎาคม คศ.2XXX สูง 175 น้ำหนัก 52 มาสมัคร แผนกโปรแกรมและช่างซ่อมอิเล็กทรอนิกส์ สินะ !! วันนี้คุณมาสัมภาษณ์งานสายนะครับรู้ตัวไหมทางบริษัทของเราไม่มีนโยบายรับคนที่ไม่ตรงต่อเวลางานนะครับ แต่ถ้าหากว่าเราสนใจคุณแล้วล่ะก็เราจะติดต่อกลับไปนะครับ"

การสัมภาษณ์งานของนิคดูไม่จืดเลยนะ !!

เมื่อนิคสัมภาษณ์งานเสร็จแล้วเขาเดินลงมาที่ล๊อบบี้ด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดีนักและกำลังจะเดินไปทางออกของบริษัท

กริ๊งๆ !! โซอี้กำลังโทรเข้า 'ดูเหมือนเธอจะตรงเวลานะเพราะวันนี้เรานัดกันกินข้าวมื้อเที่ยง แต่เธอก็โทรมาก่อนเที่ยงพอดีเลย'

"ที่รักวันนี้สัมภาษณ์งานเป็นไงบ้าง" เสียงโซอี้จากปลายสาย

"ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ .. ผมหมายถึง มันแย่สุดๆเลยแหละ" นิคพูดด้วยน้ำเสียงที่สูงขึ้นและกระวนกระวาย "คลื่นบ้าๆที่จอนมันส่งมา.. กระเป๋าตังหาย.. ไปสัมภาษณ์งานอีก.." เขาลนลานจนแทบคุมตัวเองไม่อยู่

"ใจเย็นๆก่อนนะนิค" โซอี้พูดด้วยเสียงปลอบโยน "ตอนนี้คุณอยู่ไหนเดี๋ยวฉันขับรถไปรับ"